วันนี้ผมจะบอกเล่าเก้าสิบเรื่องเกี่ยว "ภาษีท่องเที่ยว" ซึ่งเป็นเรื่องใหม่แกะกล่องในสังคมไทย คนไทยทุกคนยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับมันเท่าไรนัก แต่เป็นไม่เป็นไรครับ วันนี้ ตอนนี้ ผมจะมาเล่าให้ทุกๆคนฟังเองว่ามันคืออะไรกันแน่ และมันมีความหมายอะไรในการท่องเที่ยว ไม่ใช่พอว่าได้ยินคำว่าภาษีหรือตัวเลขอะไรแบบนี้แล้วเบนหน้าหนีกันหมดนะครับ
"ภาษีท่องเที่ยว" ชื่อก็บอกอยู่ชัดเจน แต่ความหมายชวนให้เราเข้าใจผิดไปซักเล็กน้อย ถ้าเราเข้าใจกันว่าเวลาไปเที่ยวแล้วต้องจ่ายเงินมากขึ้น (หมายถึงจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น) แสดงว่าอันนี้เราเข้าใจกันผิดแบบกลับหัวกลับหางเลยนะครับ จริงๆแล้วคือ
"ภาษีท่องเที่ยว" คือภาษีที่รัฐบาลออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวกันมากขึ้น ใช้จ่ายเงินกันมากขึ้น เงินจะได้หมุนเวียนไปสู่ส่วนๆต่างในภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น ทีนี้เมื่อจ่ายเงินกันมากขึ้นก็หมายความว่ารัฐบาลก็เก็บภาษีได้มากขึ้นไงครับ มีเงินไปพัฒนาประเทศต่อได้
แล้วทีนี้มันมาเกี่ยวกับบุคคลเดินดินกินบะหมี่เกี๊ยวหน้าเซเว่นได้อย่างไร
ไม่มีอะไรให้เข้าใจยาก ก็แค่ว่าเงินทุกบาท ทุกสตางค์ ที่เราเริ่มจ่ายเข้าไปในระบบการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นค่ารถ ค่าเรือ ค่าเครื่องบิน ค่าที่พัก หรืออะไรก็ตาม เมื่อเราจ่ายไปแล้วรัฐบาลจะคืนเงินบางส่วนให้เรานั่นเองครับ โดยจะมาในรูปของการลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีนั่นเอง (ไม่ได้คืนเงินสดให้เรานะครับ)
แต่ทั้งทีนี้ทั้งนั้น เพดานของการใช้จ่ายในการเที่ยวอยู่ที่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อคนต่อปี เท่านั้นครับ และทุกการใช้จ่ายต้องมีใบกำกับภาษีที่เป็นทางการ (มีเลขคนทำการค้าและเลขผู้เสียภาษีนั่นเอง) พูดง่ายๆคนบ้านๆที่ขายของให้เราแบบยื่นหมูยื่นแมวอันนี้ไม่น่าจะใช้ได้นะครับ ต้องเป็นการใช้จ่ายในธุรกิจท่องเที่ยวที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกระเบียบนิ้วครับ
สรุปให้เห็นภาพกันดีกว่า ลองมาดูกันครับ สมมติถ้าปีนี้เรามีใบเสร็จที่เก็บได้ 15,000 บาทพอดี
ถ้าฐานภาษีเรา 5% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 750 บาท
ถ้าฐานภาษีเรา 10% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 1,500 บาท
ถ้าฐานภาษีเรา 15% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 2,250 บาท
ถ้าฐานภาษีเรา 20% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 3,000 บาท
ถ้าฐานภาษีเรา 25% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 3,750 บาท
ถ้าฐานภาษีเรา 30% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 4,500 บาท
ยกตัวอย่าง ถ้าผมมีฐานเงินเดือนที่ 5% ปีนี้ผมไปเที่ยวทั้งปี จ่ายไปทั้งหมด 15,000 พอดี ตอนปลายปี ผมก็สามารถที่จะลดภาษีของตัวผมเองได้อีก 750 บาทนั่นเองครับ (คิดซะว่าได้กาแฟสตาร์บั๊คฟรีสักครึ่งโหลก็ได้ครับ อิอิ)
หรือถ้าคนที่มีฐานภาษีที่ 10% แล้วได้ไปพักรีสอร์ทหรูคืนละ 15,000 บาท ก็เสมือนกับว่ารีสอร์ทนั้นเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษเหลือราคาคืนละ 13,500 บาทนั่นเองครับ (หักลดหย่อนภาษีไป 1,500 บาท)
นโยบายของรัฐบาลรอบนี้เราไม่เสียอะไรเลย มีแต่ได้ เพราะฉะนั้นน้ำขึ้นให้รีบตักนะค้าบบ
สรุปสุดท้ายไม่มีอะไรมากกว่าว่า ให้เราเริ่มต้นเก็บใบเสร็จกันได้แล้ว ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปครับ
ที่นี้มาช่วงคำถามที่พบบ่อย
1.)เริ่มใช้ได้เมื่อไร
ตอบ 1.) เริ่มใช้ได้ตั้งแต่ปัจจุบันจนเดือนธันวาคมนี้ เพื่อลดหย่อนในปีภาษี 2558
2.) และยังใช้ได้ต่อเนื่องใน เดือนมกราคมถึงธันวาคมปีหน้า เพื่อลดหย่อนในปีภาษี 2559
3.) และใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงินที่มีผลใช้ได้คือ กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นหลังมีการประกาศใช้กฎหมาย ซึ่งก็จะเป็นราวๆเดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไปครับ
เสริม : จริงๆโดยหลักการแล้วใบกำกับภาษีจะเป็นหลักฐานที่ใช้ได้แน่นอน เนื่องจากมีการส่งภาษีนำเข้ารัฐชัดเจน แต่ในทางตรงกันข้ามกับ "ใบเสร็จรับเงิน" อาจจะถูกออกโดยโรงแรมที่ (อาจ) หลบเลี่ยงภาษีอยู่ จึงอาจจะใช้ไม่ได้ในทางกฎหมายนะครับ
แต่ทั้งนี้ คนทำการค้า (นิติบุคคล) อาจจะไม่ได้จด VAT ทุกคนนะครับ เพราะที่กฎหมาย
บังคับคือ
เฉพาะผู้ประกอบการที่มีรายได้มากกว่า 1,800,000 บาทต่อปี จึงทำให้เขาออกใบกำกับภาษีให้เราไม่ได้
(ใบกำกับภาษี คือ ใบเสร็จรับเงินที่มีหลักฐานการจ่ายภาษีให้กับรัฐ)
http://ppantip.com/topic/30679528 > เมื่อ Agoda ไม่ยอมออกใบกำกับภาษีให้ (เนื่องจาก Agoda บอกว่าตัวเองเป็นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทยครับ)
***ดังนั้นต้องติดตามข่าวคราวอย่างใกล้ชิดนะครับ***
2.) ค่าเดินทาง เช่น น้ำมันรถ ค่าตั๋วรถทัวร์ ค่าตั๋วเครื่องบิน ใช้ได้ไหม
ตอบ จากการสอบถามกับ Call center ของกรมสรรพากรแล้ว รายจ่ายบางอย่างที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าใช้สำหรับไปเที่ยวหรือธุระส่วนตัวกันแน่ เช่น ค่าน้ำมันแบบนี้อาจจะใช้ไม่ได้ครับ ค่าเครื่องบินก็เช่นกันไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าเราใช้บินไปเที่ยวหรือธุระส่วนตัว ในส่วนนี้จึงอาจจะใช้ไม่ได้ครับ อย่างไรก็ตามคงต้องรายละเอียดที่แน่ชัดคงต้องรอประกาศกันอีกครั้ง
แต่ถ้าเป็นในกรณีที่เราซื้อเป็น package ทัวร์มาซึ่งมีค่าเช่ารถ ค่าโรงแรม ค่าอาหารอยู่ อันนี้คิดว่าค่อนข้างจะใช้ได้แน่นอน เพราะถูกยืนยันด้วยบริษัททัวร์ที่เราจ่ายไปแล้วไงครับ
3.) ค่าทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศแต่ใช้บริษัททัวร์คนไทย อันนี้หักได้ไหม
ตอบ ไม่ได้แน่นอนครับ เพราะค่าใช้จ่ายในการเที่ยวไม่ได้เกิดที่ประเทศไทย
4.) การจองที่พักผ่าน Agoda, Booking, Hostelworld สำหรับที่พักในประเทศไทย สามารถใช้ได้หรือไม่
ตอบ ต้องบอกก่อนว่า ทุกโรงแรมที่เราไปพักต้องเป็นโรงแรมที่ถูกต้องตามกฎหมายคือจดทะเบียนถูกต้อง มีเลขผู้เสียภาษีที่ถูกต้อง และได้รับการรับรอง ถึงจะใช้ได้ครับ ทีนี้คือเราต้องขอใบเสร็จรับเงินของ Agoda หรือบริษัทอื่นๆมาด้วยครับ
(ข้อมูลอันนี้ได้มาจาก Call center ซึ่งอาจจะมีความผิดพลาดได้ จึงต้องรอการประกาศจากกรมสรรพากรแบบเป็นทางการอีกครั้งครับ)
เสริม : จริงๆโดยหลักการแล้วใบกำกับภาษีจะเป็นหลักฐานที่ใช้ได้แน่นอน เนื่องจากมีการส่งภาษีนำเข้ารัฐชัดเจน แต่ในทางตรงกันข้ามกับ "ใบเสร็จรับเงิน" อาจจะถูกออกโดยโรงแรมที่ (อาจ) หลบเลี่ยงภาษีอยู่ จึงอาจจะใช้ไม่ได้ในทางกฎหมายนะครับ
แต่ทั้งนี้ คนทำการค้า (นิติบุคคล) อาจจะไม่ได้จด VAT ทุกคนนะครับ เพราะที่กฎหมาย
บังคับคือ
เฉพาะผู้ประกอบการที่มีรายได้มากกว่า 1,800,000 บาทต่อปี จึงทำให้เขาออกใบกำกับภาษีให้เราไม่ได้
(ใบกำกับภาษี คือ ใบเสร็จรับเงินที่มีหลักฐานการจ่ายภาษีให้กับรัฐ)
http://ppantip.com/topic/30679528 > เมื่อ Agoda ไม่ยอมออกใบกำกับภาษีให้ (เนื่องจาก Agoda บอกว่าตัวเองเป็นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทยครับ)
***ดังนั้นต้องติดตามข่าวคราวอย่างใกล้ชิดนะครับ***
5.)ในกรณีที่
ไม่ได้ใบกำกับภาษีมา
ได้มาแต่ใบเสร็จรับเงิน อันนี้จะใช้ได้หรือไม่?
ตอบ ขออนุญาตตอบแบบนี้ดีกว่าครับ เนื่องจาก คนทำการค้า (นิติบุคคล) อาจจะไม่ได้จด VAT ทุกคนนะครับ เพราะที่กฎหมาย
บังคับคือ
เฉพาะผู้ประกอบการที่มีรายได้มากกว่า 1,800,000 บาทต่อปี
และการลดหย่อนครั้งนี้ รัฐคาดว่า "จะได้กำไรจากภาษีมูลค่าเพิ่ม" ทั้งจากค่าที่พัก และการจับจ่ายใช้สอยทั่วไป จนรวมแล้ว
มากกว่าภาษีที่ลดหย่อนให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
ดังนั้นใบเสร็จรับเงิน (ซึ่งไม่มี VAT) จึงไม่น่าจะใช้ได้ครับ
(ขอบคุณคุณ น้ำค้างในยามเช้า จากความเห็นที่ 59 นะครับ)
5.) สุดท้ายนี้ให้เราเก็บใบเสร็จในทุกๆอย่างเท่าที่เราใช้ไปก่อนนะครับ ได้ไม่ได้เอาไว้ก่อน เพราะยังไงก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว แล้วปีหน้าที่เราจะต้องยื่นกัน ทางกรมสรรพากรน่าจะมีรายละเอียดที่แน่ชัดเกี่ยวกับการเอาไปหักลดหย่อนแบบชัดแจ้งนะครับ
Tag Blueplanet เพราะว่าเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวโดยตรง
และขออนุญาติ tag สินธร เพราะเป็นเรื่องของทางภาษี เผื่อที่อาจจะมีผู้เชี่ยวชาญมาให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมนะครับ
อ่านจบแล้วไปคุยกันต่อได้นะครับ "หมอๆตะลุยโลก"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/Worldwantswandering
ขอบคุณทุกคนที่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ
PS. แก้ไขครั้งที่ 4 วันที่ 23/10/57 18.45 ครับ
เรื่องที่ “ห้ามไม่รู้” สำหรับคนชอบเที่ยว “ภาษีท่องเที่ยว”
วันนี้ผมจะบอกเล่าเก้าสิบเรื่องเกี่ยว "ภาษีท่องเที่ยว" ซึ่งเป็นเรื่องใหม่แกะกล่องในสังคมไทย คนไทยทุกคนยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับมันเท่าไรนัก แต่เป็นไม่เป็นไรครับ วันนี้ ตอนนี้ ผมจะมาเล่าให้ทุกๆคนฟังเองว่ามันคืออะไรกันแน่ และมันมีความหมายอะไรในการท่องเที่ยว ไม่ใช่พอว่าได้ยินคำว่าภาษีหรือตัวเลขอะไรแบบนี้แล้วเบนหน้าหนีกันหมดนะครับ
"ภาษีท่องเที่ยว" ชื่อก็บอกอยู่ชัดเจน แต่ความหมายชวนให้เราเข้าใจผิดไปซักเล็กน้อย ถ้าเราเข้าใจกันว่าเวลาไปเที่ยวแล้วต้องจ่ายเงินมากขึ้น (หมายถึงจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น) แสดงว่าอันนี้เราเข้าใจกันผิดแบบกลับหัวกลับหางเลยนะครับ จริงๆแล้วคือ
"ภาษีท่องเที่ยว" คือภาษีที่รัฐบาลออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวกันมากขึ้น ใช้จ่ายเงินกันมากขึ้น เงินจะได้หมุนเวียนไปสู่ส่วนๆต่างในภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น ทีนี้เมื่อจ่ายเงินกันมากขึ้นก็หมายความว่ารัฐบาลก็เก็บภาษีได้มากขึ้นไงครับ มีเงินไปพัฒนาประเทศต่อได้
แล้วทีนี้มันมาเกี่ยวกับบุคคลเดินดินกินบะหมี่เกี๊ยวหน้าเซเว่นได้อย่างไร
ไม่มีอะไรให้เข้าใจยาก ก็แค่ว่าเงินทุกบาท ทุกสตางค์ ที่เราเริ่มจ่ายเข้าไปในระบบการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นค่ารถ ค่าเรือ ค่าเครื่องบิน ค่าที่พัก หรืออะไรก็ตาม เมื่อเราจ่ายไปแล้วรัฐบาลจะคืนเงินบางส่วนให้เรานั่นเองครับ โดยจะมาในรูปของการลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีนั่นเอง (ไม่ได้คืนเงินสดให้เรานะครับ)
แต่ทั้งทีนี้ทั้งนั้น เพดานของการใช้จ่ายในการเที่ยวอยู่ที่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อคนต่อปี เท่านั้นครับ และทุกการใช้จ่ายต้องมีใบกำกับภาษีที่เป็นทางการ (มีเลขคนทำการค้าและเลขผู้เสียภาษีนั่นเอง) พูดง่ายๆคนบ้านๆที่ขายของให้เราแบบยื่นหมูยื่นแมวอันนี้ไม่น่าจะใช้ได้นะครับ ต้องเป็นการใช้จ่ายในธุรกิจท่องเที่ยวที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกระเบียบนิ้วครับ
สรุปให้เห็นภาพกันดีกว่า ลองมาดูกันครับ สมมติถ้าปีนี้เรามีใบเสร็จที่เก็บได้ 15,000 บาทพอดี
ถ้าฐานภาษีเรา 5% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 750 บาท
ถ้าฐานภาษีเรา 10% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 1,500 บาท
ถ้าฐานภาษีเรา 15% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 2,250 บาท
ถ้าฐานภาษีเรา 20% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 3,000 บาท
ถ้าฐานภาษีเรา 25% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 3,750 บาท
ถ้าฐานภาษีเรา 30% ก็ได้เงินภาษีกลับมา 4,500 บาท
ยกตัวอย่าง ถ้าผมมีฐานเงินเดือนที่ 5% ปีนี้ผมไปเที่ยวทั้งปี จ่ายไปทั้งหมด 15,000 พอดี ตอนปลายปี ผมก็สามารถที่จะลดภาษีของตัวผมเองได้อีก 750 บาทนั่นเองครับ (คิดซะว่าได้กาแฟสตาร์บั๊คฟรีสักครึ่งโหลก็ได้ครับ อิอิ)
หรือถ้าคนที่มีฐานภาษีที่ 10% แล้วได้ไปพักรีสอร์ทหรูคืนละ 15,000 บาท ก็เสมือนกับว่ารีสอร์ทนั้นเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษเหลือราคาคืนละ 13,500 บาทนั่นเองครับ (หักลดหย่อนภาษีไป 1,500 บาท)
นโยบายของรัฐบาลรอบนี้เราไม่เสียอะไรเลย มีแต่ได้ เพราะฉะนั้นน้ำขึ้นให้รีบตักนะค้าบบ
สรุปสุดท้ายไม่มีอะไรมากกว่าว่า ให้เราเริ่มต้นเก็บใบเสร็จกันได้แล้ว ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปครับ
ที่นี้มาช่วงคำถามที่พบบ่อย
1.)เริ่มใช้ได้เมื่อไร
ตอบ 1.) เริ่มใช้ได้ตั้งแต่ปัจจุบันจนเดือนธันวาคมนี้ เพื่อลดหย่อนในปีภาษี 2558
2.) และยังใช้ได้ต่อเนื่องใน เดือนมกราคมถึงธันวาคมปีหน้า เพื่อลดหย่อนในปีภาษี 2559
3.) และใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงินที่มีผลใช้ได้คือ กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นหลังมีการประกาศใช้กฎหมาย ซึ่งก็จะเป็นราวๆเดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไปครับ
เสริม : จริงๆโดยหลักการแล้วใบกำกับภาษีจะเป็นหลักฐานที่ใช้ได้แน่นอน เนื่องจากมีการส่งภาษีนำเข้ารัฐชัดเจน แต่ในทางตรงกันข้ามกับ "ใบเสร็จรับเงิน" อาจจะถูกออกโดยโรงแรมที่ (อาจ) หลบเลี่ยงภาษีอยู่ จึงอาจจะใช้ไม่ได้ในทางกฎหมายนะครับ
แต่ทั้งนี้ คนทำการค้า (นิติบุคคล) อาจจะไม่ได้จด VAT ทุกคนนะครับ เพราะที่กฎหมายบังคับคือเฉพาะผู้ประกอบการที่มีรายได้มากกว่า 1,800,000 บาทต่อปี จึงทำให้เขาออกใบกำกับภาษีให้เราไม่ได้
(ใบกำกับภาษี คือ ใบเสร็จรับเงินที่มีหลักฐานการจ่ายภาษีให้กับรัฐ)
http://ppantip.com/topic/30679528 > เมื่อ Agoda ไม่ยอมออกใบกำกับภาษีให้ (เนื่องจาก Agoda บอกว่าตัวเองเป็นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทยครับ)
***ดังนั้นต้องติดตามข่าวคราวอย่างใกล้ชิดนะครับ***
2.) ค่าเดินทาง เช่น น้ำมันรถ ค่าตั๋วรถทัวร์ ค่าตั๋วเครื่องบิน ใช้ได้ไหม
ตอบ จากการสอบถามกับ Call center ของกรมสรรพากรแล้ว รายจ่ายบางอย่างที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าใช้สำหรับไปเที่ยวหรือธุระส่วนตัวกันแน่ เช่น ค่าน้ำมันแบบนี้อาจจะใช้ไม่ได้ครับ ค่าเครื่องบินก็เช่นกันไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าเราใช้บินไปเที่ยวหรือธุระส่วนตัว ในส่วนนี้จึงอาจจะใช้ไม่ได้ครับ อย่างไรก็ตามคงต้องรายละเอียดที่แน่ชัดคงต้องรอประกาศกันอีกครั้ง
แต่ถ้าเป็นในกรณีที่เราซื้อเป็น package ทัวร์มาซึ่งมีค่าเช่ารถ ค่าโรงแรม ค่าอาหารอยู่ อันนี้คิดว่าค่อนข้างจะใช้ได้แน่นอน เพราะถูกยืนยันด้วยบริษัททัวร์ที่เราจ่ายไปแล้วไงครับ
3.) ค่าทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศแต่ใช้บริษัททัวร์คนไทย อันนี้หักได้ไหม
ตอบ ไม่ได้แน่นอนครับ เพราะค่าใช้จ่ายในการเที่ยวไม่ได้เกิดที่ประเทศไทย
4.) การจองที่พักผ่าน Agoda, Booking, Hostelworld สำหรับที่พักในประเทศไทย สามารถใช้ได้หรือไม่
ตอบ ต้องบอกก่อนว่า ทุกโรงแรมที่เราไปพักต้องเป็นโรงแรมที่ถูกต้องตามกฎหมายคือจดทะเบียนถูกต้อง มีเลขผู้เสียภาษีที่ถูกต้อง และได้รับการรับรอง ถึงจะใช้ได้ครับ ทีนี้คือเราต้องขอใบเสร็จรับเงินของ Agoda หรือบริษัทอื่นๆมาด้วยครับ
(ข้อมูลอันนี้ได้มาจาก Call center ซึ่งอาจจะมีความผิดพลาดได้ จึงต้องรอการประกาศจากกรมสรรพากรแบบเป็นทางการอีกครั้งครับ)
เสริม : จริงๆโดยหลักการแล้วใบกำกับภาษีจะเป็นหลักฐานที่ใช้ได้แน่นอน เนื่องจากมีการส่งภาษีนำเข้ารัฐชัดเจน แต่ในทางตรงกันข้ามกับ "ใบเสร็จรับเงิน" อาจจะถูกออกโดยโรงแรมที่ (อาจ) หลบเลี่ยงภาษีอยู่ จึงอาจจะใช้ไม่ได้ในทางกฎหมายนะครับ
แต่ทั้งนี้ คนทำการค้า (นิติบุคคล) อาจจะไม่ได้จด VAT ทุกคนนะครับ เพราะที่กฎหมายบังคับคือเฉพาะผู้ประกอบการที่มีรายได้มากกว่า 1,800,000 บาทต่อปี จึงทำให้เขาออกใบกำกับภาษีให้เราไม่ได้
(ใบกำกับภาษี คือ ใบเสร็จรับเงินที่มีหลักฐานการจ่ายภาษีให้กับรัฐ)
http://ppantip.com/topic/30679528 > เมื่อ Agoda ไม่ยอมออกใบกำกับภาษีให้ (เนื่องจาก Agoda บอกว่าตัวเองเป็นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทยครับ)
***ดังนั้นต้องติดตามข่าวคราวอย่างใกล้ชิดนะครับ***
5.)ในกรณีที่ไม่ได้ใบกำกับภาษีมา ได้มาแต่ใบเสร็จรับเงิน อันนี้จะใช้ได้หรือไม่?
ตอบ ขออนุญาตตอบแบบนี้ดีกว่าครับ เนื่องจาก คนทำการค้า (นิติบุคคล) อาจจะไม่ได้จด VAT ทุกคนนะครับ เพราะที่กฎหมายบังคับคือเฉพาะผู้ประกอบการที่มีรายได้มากกว่า 1,800,000 บาทต่อปี
และการลดหย่อนครั้งนี้ รัฐคาดว่า "จะได้กำไรจากภาษีมูลค่าเพิ่ม" ทั้งจากค่าที่พัก และการจับจ่ายใช้สอยทั่วไป จนรวมแล้วมากกว่าภาษีที่ลดหย่อนให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ดังนั้นใบเสร็จรับเงิน (ซึ่งไม่มี VAT) จึงไม่น่าจะใช้ได้ครับ
(ขอบคุณคุณ น้ำค้างในยามเช้า จากความเห็นที่ 59 นะครับ)
5.) สุดท้ายนี้ให้เราเก็บใบเสร็จในทุกๆอย่างเท่าที่เราใช้ไปก่อนนะครับ ได้ไม่ได้เอาไว้ก่อน เพราะยังไงก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว แล้วปีหน้าที่เราจะต้องยื่นกัน ทางกรมสรรพากรน่าจะมีรายละเอียดที่แน่ชัดเกี่ยวกับการเอาไปหักลดหย่อนแบบชัดแจ้งนะครับ
Tag Blueplanet เพราะว่าเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวโดยตรง
และขออนุญาติ tag สินธร เพราะเป็นเรื่องของทางภาษี เผื่อที่อาจจะมีผู้เชี่ยวชาญมาให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมนะครับ
อ่านจบแล้วไปคุยกันต่อได้นะครับ "หมอๆตะลุยโลก"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณทุกคนที่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ
PS. แก้ไขครั้งที่ 4 วันที่ 23/10/57 18.45 ครับ