รีวิวเบาๆแบบไม่สปอยล์ | Gone Girl (2014) .... เพราะทุกครอบครัวย่อมมีความลับ
"ส่วนตัวมองว่ามันคือ American Beauty ในเวอร์ชั่นที่ดาร์คขึ้น ยอดเยี่ยม ขนลุก และเป็นผลงานที่ชอบที่สุดของปีในขณะนี้!!!"
ในช่วงที่หนังยังเข้าฉายในแบบ Sneak Preview จึงยังไม่ขอเปิดเผยเรื่องราวอะไรมาก เพราะอาจส่งผลต่ออรรถรสในการรับชมได้ ... พูดแบบนี้แล้ว คงต้องบอกว่า ก่อนที่เพื่อนๆจะตีตั๋วไปชม และไม่ได้เป็นแฟนนิยายของ Gillian Flynn ก็ขอให้ระวังจะเผลอไปฟังสปอยล์เข้านะครับ
และหลังจากที่ได้ไปชมมา นี่คือความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อผลงานล่าสุดของ David Fincher ชิ้นล่าสุดนี้ครับ ...
- เรื่องราวของการหายตัวไปของเอมี่ ในวันครบรอบแต่งงานปีที่ห้า ซึ่งนำไปสู่ความสนใจของสื่อมวลชน และผู้คนมากมาย ... ดูเหมือนว่า นิก ดันน์ สามีอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการหายไปของเธอ หนังไม่รีรอที่จะยืนยันความคิดของเราในจุดนั้น ก่อนจะค่อยๆ เผยความลับของครอบครัวแสนสุข ... ที่ฉากหลังอาจไม่ได้งดงามอย่างที่มองเห็น ที่สำคัญ ... มันทั้งชวนช๊อค และสุดสะพรึง
- หนังเล่าเรื่องราวออกเป็น 3 องก์ ซึ่งแต่ละองก์ก็ค่อยๆเพิ่มระดับความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ และที่ล้ำเหลือไปกว่านั้น คือ เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ ราวกับว่า เรากำลังนั่งชมหนังถึงสามเรื่อง ที่ตัดต่อรวมเข้าในเรื่องเดียวกันอย่างกลมกลืน
- หนังมาพร้อมส่วนผสมและวัตถุดิบชั้นยอด แน่นอนว่า เมื่อนำมาปรุงรวมกัน ยังไงมันก็ต้องออกมาอร่อยเลิศ ไม่ว่าจะเป็นบทภาพยนตร์ที่ผ่านการครุ่นคิดมาเป็นอย่างดี ทั้งประเด็นการตีแผ่ครอบครัวสังคมชนชั้นกลางของอเมริกา, การวิพากษ์อิทธิพลของสื่อมวลชน, เสียดสีความเชื่อและการรับรู้ของมนุษย์ รวมไปถึงวิเคราะห์เจาะลึกลงในก้นบึ้งของจิตวิญญาณ ... ในขณะที่ฟินเชอร์เอง ก็เล่าเรื่องด้วยความมั่นใจ มีสไตล์ และคุมโทนให้ออกมาน่าติดตามได้ตลอดทั้งเรื่อง
- ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ เพราะทีมนักแสดงทุกๆคน ฟาดฟันกันแบบถวายตัวมาก .. โดยเฉพาะ Ben Affleck ในบทนิก ดันน์ ชายที่ดูไร้พิษภัย แต่ก็ไม่สามารถไว้ใจเขาได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับ Rosamund Pike กับบทบาทท้าทาย และยอดเยี่ยมในทุกๆวินาทีของการปรากฏตัว ซึ่งน่าจะแจ้งเกิดได้จริงๆจังๆสักทีสำหรับอดีตสาวบอนด์คนนี้ และอีกรายที่อยากพูดถึง คือ Carrie Coon รับบทเป็นฝาแฝดของนิก ตัวละครที่เหมือนเป็นผู้สังเกตการณ์ และแทนความรู้สึกของผู้ชมได้เป็นอย่างดี
- ทางด้านความบันเทิง หนังมีมอบให้เต็มเปี่ยม ไม่มีช่วงเวลาไหนที่น่าเบื่อ และทันทีที่หนังจบลง กับภาพและคำพูดสุดท้ายที่ใช้ปิดเรื่อง .. ต้องบอกว่า "ขนลุก แบบหนาวถึงกระดูก" ลุกออกจากโรง นี่ขาสั่นเบาๆกันเลยทีเดียว
- ท้ายที่สุด ... หนังก็ช่วยตอกย้ำความจริงอีกครั้งว่า " การแต่งงาน มันไม่ใช่ตอนจบที่สวยงามเหมือนราวเทพนิยาย แต่มันคือการเริ่มต้นของบทพิสูจน์ทางความรัก พรหมลิขิต และสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์อย่างแท้จริง"
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ^^
https://www.facebook.com/CinemaParadiso.by.Golffy
[CR] ชวนดู Gone Girl แบบไม่สปอยล์ ... เพราะทุกครอบครัว ย่อมมีความลับ
"ส่วนตัวมองว่ามันคือ American Beauty ในเวอร์ชั่นที่ดาร์คขึ้น ยอดเยี่ยม ขนลุก และเป็นผลงานที่ชอบที่สุดของปีในขณะนี้!!!"
ในช่วงที่หนังยังเข้าฉายในแบบ Sneak Preview จึงยังไม่ขอเปิดเผยเรื่องราวอะไรมาก เพราะอาจส่งผลต่ออรรถรสในการรับชมได้ ... พูดแบบนี้แล้ว คงต้องบอกว่า ก่อนที่เพื่อนๆจะตีตั๋วไปชม และไม่ได้เป็นแฟนนิยายของ Gillian Flynn ก็ขอให้ระวังจะเผลอไปฟังสปอยล์เข้านะครับ
และหลังจากที่ได้ไปชมมา นี่คือความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อผลงานล่าสุดของ David Fincher ชิ้นล่าสุดนี้ครับ ...
- เรื่องราวของการหายตัวไปของเอมี่ ในวันครบรอบแต่งงานปีที่ห้า ซึ่งนำไปสู่ความสนใจของสื่อมวลชน และผู้คนมากมาย ... ดูเหมือนว่า นิก ดันน์ สามีอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการหายไปของเธอ หนังไม่รีรอที่จะยืนยันความคิดของเราในจุดนั้น ก่อนจะค่อยๆ เผยความลับของครอบครัวแสนสุข ... ที่ฉากหลังอาจไม่ได้งดงามอย่างที่มองเห็น ที่สำคัญ ... มันทั้งชวนช๊อค และสุดสะพรึง
- หนังเล่าเรื่องราวออกเป็น 3 องก์ ซึ่งแต่ละองก์ก็ค่อยๆเพิ่มระดับความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ และที่ล้ำเหลือไปกว่านั้น คือ เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ ราวกับว่า เรากำลังนั่งชมหนังถึงสามเรื่อง ที่ตัดต่อรวมเข้าในเรื่องเดียวกันอย่างกลมกลืน
- หนังมาพร้อมส่วนผสมและวัตถุดิบชั้นยอด แน่นอนว่า เมื่อนำมาปรุงรวมกัน ยังไงมันก็ต้องออกมาอร่อยเลิศ ไม่ว่าจะเป็นบทภาพยนตร์ที่ผ่านการครุ่นคิดมาเป็นอย่างดี ทั้งประเด็นการตีแผ่ครอบครัวสังคมชนชั้นกลางของอเมริกา, การวิพากษ์อิทธิพลของสื่อมวลชน, เสียดสีความเชื่อและการรับรู้ของมนุษย์ รวมไปถึงวิเคราะห์เจาะลึกลงในก้นบึ้งของจิตวิญญาณ ... ในขณะที่ฟินเชอร์เอง ก็เล่าเรื่องด้วยความมั่นใจ มีสไตล์ และคุมโทนให้ออกมาน่าติดตามได้ตลอดทั้งเรื่อง
- ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ เพราะทีมนักแสดงทุกๆคน ฟาดฟันกันแบบถวายตัวมาก .. โดยเฉพาะ Ben Affleck ในบทนิก ดันน์ ชายที่ดูไร้พิษภัย แต่ก็ไม่สามารถไว้ใจเขาได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับ Rosamund Pike กับบทบาทท้าทาย และยอดเยี่ยมในทุกๆวินาทีของการปรากฏตัว ซึ่งน่าจะแจ้งเกิดได้จริงๆจังๆสักทีสำหรับอดีตสาวบอนด์คนนี้ และอีกรายที่อยากพูดถึง คือ Carrie Coon รับบทเป็นฝาแฝดของนิก ตัวละครที่เหมือนเป็นผู้สังเกตการณ์ และแทนความรู้สึกของผู้ชมได้เป็นอย่างดี
- ทางด้านความบันเทิง หนังมีมอบให้เต็มเปี่ยม ไม่มีช่วงเวลาไหนที่น่าเบื่อ และทันทีที่หนังจบลง กับภาพและคำพูดสุดท้ายที่ใช้ปิดเรื่อง .. ต้องบอกว่า "ขนลุก แบบหนาวถึงกระดูก" ลุกออกจากโรง นี่ขาสั่นเบาๆกันเลยทีเดียว
- ท้ายที่สุด ... หนังก็ช่วยตอกย้ำความจริงอีกครั้งว่า " การแต่งงาน มันไม่ใช่ตอนจบที่สวยงามเหมือนราวเทพนิยาย แต่มันคือการเริ่มต้นของบทพิสูจน์ทางความรัก พรหมลิขิต และสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์อย่างแท้จริง"
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ^^
https://www.facebook.com/CinemaParadiso.by.Golffy