อีกไม่นานอิตาลีจะเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ประกาศใช้ข้อกฎหมายบังคับใช้เชื้อเพลิงชีวภาพชั้นสูงสำหรับรถยนต์และรถบรรทุก ภายในปี 2561 ผู้จัดจำหน่ายเชื้อเพลิงทั้งหมดในประเทศจะต้องใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในสัดส่วนร้อยละ 0.6 ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลทั้งหมด
ปีที่แล้วอิตาลีเปิดใช้โรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่เครสเซนติโน่ใกล้เมืองตูริน โดยตั้งเป้าการผลิตเอทธานอลชีวภาพจากฟางและต้นอ้อไว้ที่ 75 ล้านลิตรต่อปี และยังประกาศจะเปิดโรงงานเพิ่มอีก 3 แห่งทางตอนใต้ของประเทศอีกด้วย เซบาสเตียน ซือเดเบร์จากโนโวไซม์ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ร่วมในโครงการโรงงานที่เครสเซนติโน่บอกว่าเขารู้สึกยินดีมากที่รัฐบาลอิตาลีตัดสินใจบัญญัติข้อกฎหมายเพื่อบังคับใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในระดับชาติ อีกทั้งเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ผลักดันเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
กฎระเบียบพลังงานทดแทนของสหภาพยุโรปปี 2552 ระบุว่า 10% ของพลังงานที่ใช้ในภาคขนส่งต้องมาจากแหล่งพลังงานทดแทน ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่าผืนดินที่เคยใช้สำหรับเพาะปลูกอาหารจะถูกเปลี่ยนไปใช้ปลูกพืชเพื่อผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเสียหมด อียูได้ประกาศปรับลดข้อบังคับเหลือเพียง 5.75% ในขณะที่สภายุโรปยื่นเสนอมติให้ตั้งเป้ากำหนดการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในสัดส่วนร้อยละ 2.5 ภายในปี 2563 แต่คณะมนตรีสหภาพยุโรปปรับเหลือร้อยละ 0.5 และไม่จำเป็นต้องเป็นข้อบังคับทางกฎหมาย เพื่อไม่ให้อุตสาหกรรมการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพต้องตื่นตระหนกกับข้อบังคับเหล่านี้จนเกินไป
ในขณะเดียวกัน สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐได้ผ่อนคลายข้อบังคับการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพสำหรับการขนส่ง หลังจากมีข้อกังวลว่าอัตรานำเข้าเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตจากต้นอ้อยจากบราซิลนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่กระนั้นก็ยังมีโรงงานเชื้อเพลิงชีวภาพใหม่ๆเปิดตัวอยู่เนืองๆ นายคริส มาลินส์จาก International Council on Clean Transportation กล่าวชื่นชมอิตาลีว่าเป็นตัวอย่างของการสร้างบทบาทในการเป็นผู้นำ อีกทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นการส่งสัญญาณให้ประเทศอื่นๆที่มีความสนใจในเรื่องนี้ได้ตื่นตัว
อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามในเรื่องของการใช้ทรัพยากรที่ดินและเรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว เพราะถึงแม้จะมีการใช้เทคโนโลยีผลิตพลังงานจากเซลลูโลส แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังจำเป็นต้องใช้ที่ดินเพื่อเพาะปลูกวัตถุดิบ ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลตามมาว่าชาวนาจะหันไปปลูกพืชเพื่อเป็น “ของเสีย” แต่ประเด็นนี้ก็ยังเทียบไม่ได้กับความกังวลเรื่องผลกระทบจากการใช้พลังงานรุ่นปัจจุบัน
Ref:
Gulaha.com - อิตาลี เตรียมประกาศกฎหมายบังคับใช้เชื้อเพลิงชีวภาพชั้นสูง
อิตาลี เตรียมประกาศกฎหมายบังคับใช้เชื้อเพลิงชีวภาพชั้นสูง
อีกไม่นานอิตาลีจะเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ประกาศใช้ข้อกฎหมายบังคับใช้เชื้อเพลิงชีวภาพชั้นสูงสำหรับรถยนต์และรถบรรทุก ภายในปี 2561 ผู้จัดจำหน่ายเชื้อเพลิงทั้งหมดในประเทศจะต้องใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในสัดส่วนร้อยละ 0.6 ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลทั้งหมด
ปีที่แล้วอิตาลีเปิดใช้โรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่เครสเซนติโน่ใกล้เมืองตูริน โดยตั้งเป้าการผลิตเอทธานอลชีวภาพจากฟางและต้นอ้อไว้ที่ 75 ล้านลิตรต่อปี และยังประกาศจะเปิดโรงงานเพิ่มอีก 3 แห่งทางตอนใต้ของประเทศอีกด้วย เซบาสเตียน ซือเดเบร์จากโนโวไซม์ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ร่วมในโครงการโรงงานที่เครสเซนติโน่บอกว่าเขารู้สึกยินดีมากที่รัฐบาลอิตาลีตัดสินใจบัญญัติข้อกฎหมายเพื่อบังคับใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในระดับชาติ อีกทั้งเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ผลักดันเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
กฎระเบียบพลังงานทดแทนของสหภาพยุโรปปี 2552 ระบุว่า 10% ของพลังงานที่ใช้ในภาคขนส่งต้องมาจากแหล่งพลังงานทดแทน ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่าผืนดินที่เคยใช้สำหรับเพาะปลูกอาหารจะถูกเปลี่ยนไปใช้ปลูกพืชเพื่อผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเสียหมด อียูได้ประกาศปรับลดข้อบังคับเหลือเพียง 5.75% ในขณะที่สภายุโรปยื่นเสนอมติให้ตั้งเป้ากำหนดการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในสัดส่วนร้อยละ 2.5 ภายในปี 2563 แต่คณะมนตรีสหภาพยุโรปปรับเหลือร้อยละ 0.5 และไม่จำเป็นต้องเป็นข้อบังคับทางกฎหมาย เพื่อไม่ให้อุตสาหกรรมการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพต้องตื่นตระหนกกับข้อบังคับเหล่านี้จนเกินไป
ในขณะเดียวกัน สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐได้ผ่อนคลายข้อบังคับการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพสำหรับการขนส่ง หลังจากมีข้อกังวลว่าอัตรานำเข้าเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตจากต้นอ้อยจากบราซิลนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่กระนั้นก็ยังมีโรงงานเชื้อเพลิงชีวภาพใหม่ๆเปิดตัวอยู่เนืองๆ นายคริส มาลินส์จาก International Council on Clean Transportation กล่าวชื่นชมอิตาลีว่าเป็นตัวอย่างของการสร้างบทบาทในการเป็นผู้นำ อีกทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นการส่งสัญญาณให้ประเทศอื่นๆที่มีความสนใจในเรื่องนี้ได้ตื่นตัว
อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามในเรื่องของการใช้ทรัพยากรที่ดินและเรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว เพราะถึงแม้จะมีการใช้เทคโนโลยีผลิตพลังงานจากเซลลูโลส แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังจำเป็นต้องใช้ที่ดินเพื่อเพาะปลูกวัตถุดิบ ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลตามมาว่าชาวนาจะหันไปปลูกพืชเพื่อเป็น “ของเสีย” แต่ประเด็นนี้ก็ยังเทียบไม่ได้กับความกังวลเรื่องผลกระทบจากการใช้พลังงานรุ่นปัจจุบัน
Ref: Gulaha.com - อิตาลี เตรียมประกาศกฎหมายบังคับใช้เชื้อเพลิงชีวภาพชั้นสูง