ก่อนอื่นการตั้งกระทู้ อันนี้ มีสาเหตุจากกระท็นี้ครับ
http://ppantip.com/topic/32658038 ขอแท็ก ศาลาประชาคมด้วยนะ เพราะ ถ้าไม่มีกระทู้นั้น ก็จะไม่มีกระท็นี้ครับ
เริ่มกันเลยนะ ผมเดินทางถึงสนามบิน ตอน 21.30 ซึ่งที่ว่าเป็นคนสุดท้าย ของกรุ๊ปนี้ ที่เดินทางไปด้วยไม่รวม คนที่ไม่ยอมไปนะ หลังจากผ่าน ตม.ไทยเข้ามาได้ก็เหลือเวลาอีก1 ชม.ก่อนออกเดินทาง ไป ดินแดนโสม โดยสายการบิน asiana airline เที่ยวบิน OZ 742 เวลาบินประมาณ 23.20
ตั๋วเครื่องบิน
รองเท้าใหม่เพื่อตะลุยแดน กิมจิ
หลังจากขึ้นเครื่องมา ขอระบายความรู้สึก เกี่ยวกับ สายการบินนี้ หน่อยนะครับ
-ที่นั่ง ค่อนข้างเล็ก เพราะ ผมสูง 185 ซม. นน. 120 กิโล คือมันเล็ก จรึงๆนะสำหรับผม
-พนักงานต้อนรับ ขอบอกครับ น่ารัก สวย สไตล์เกาหลี แต่ ไม่รู้เป็นอะไร ชอบเดินชนผมจัง (ผมนั่งติดทางเดิน )
-บริการอาหาร บนเครื่องบิน คือ แบบว่า ผมเข้าใจ นะ ว่าเป็นการบริการที่ดีมาก แต่ ผมเดินทางตอนกลางคืนนะครับ กว่า อาหารจะเสริฟได้ คือ เกือบๆตี1 ง่วง ก็ง่วง จะไม่กิน ก็ เดี๋ยว ไม่คุ้ม
-ด้วยภาษาเกาลี ที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง และภาษา อังกฤษที่งูๆปลาๆ ตอนน้องพนักงานต้อนรับถามเว่าจะรับอาหารอะไร ด้วยคำพูดว่า “น็อตโตะ”กับ “$#@&***” คือผมฟังไม่รู้เรื่องเองนะ เลย สั่ง น็อตโตะ ไป ผมก็คิดว่าเป็น ถั่วอะไรสักอย่าง แต่พอเปิดมา อ้าว เป็นบะหมี่ผัด นี่น่า เพิ่งมารู้จากไกด์ภายหลัง ว่าคนเกาหลีเนี่ย มัก จะมีลงท้ายด้วย สระ โอะ กับ สระเดอ
-แล้วการเดินทาง ในคืนนั้น ผมได้นั่งข้างๆกับหนุ่มเกาหลีหน้าตา โรคจิต คือ อาการของเขาเนี่ย มักจะบ่นๆอะไรไม่รู้คนเดียว แล้ว ก็ชอบพยักหน้าคนเดียว กำลังจะเคลิ้มๆหลับ ก็ชอบพลิกตัว สะกิดผม ขอทางไปเข้าห้องน้ำ สรุป คืนนั้น ทั้งคืน แทบไม่ได้นอน เจอสะกิดไปเข้าห้องน้ำ 3ครั้ง
วันที่ 7 ต.ค.
และแล้วผมก็มาถึง สาธารณรัฐเกาหลี มาถึงประมาณ 6.30 กว่าจะผ่าน ตม.เกาหลี แล้วออกมาเหยีบแผ่นดินเกาหลีได้ก็ ประมาณ 8 โมงเช้า วันนั้น สภาพอากาศไม่หนาว มาก อารมณ์ประมาณว่า เปิดแอร์สบาย
บรรยากาศนอกสนามบินอินชอน ตอนนี้อุณหภูมิน่าจะประมาณ 15-18 องศา
บรรยากาศระหว่างทาง
ก็เริ่มเดินทาง ไปเลยครับ สำหรับ อาหารมื้อแรก คือ อูด้ง ครับรสชาติก็งั้นๆๆ ครับ
สถานที่กินข้าวมือแรก ในโซล และสถานที่เชือด ละลายเงินวอล ในวันสุดท้าย
เกาะนามิ
เดินทางจาก สนามบิน ถึงเกาะนามิ ประมาณ 10 โมงกว่า ๆมาถึงก็ เตรียมขึ้นเรือครับ ก่อนขึ้นเรือ ก็แวะซื้อ น้ำดื่ม มีแอลกอฮอล์ นิดหน่อยก่อน บรรยากาศ บนเกาะ ภาพรวมโอเคนะครับ เหมาะกับการมาเป็นคู่ มากกว่า แต่ผม เฮ่อ ...... ช่างมัน เกาะนามิเนี่ยประวัติผมไม่ได้จำหรอกครับ หรือ ซีรีส์เรื่องไหนมาถ่ายผมก็ไม่รู้ เพราะผมไม่ใช่ติ่งเกาหลี นะครับ ถ้าอยากรู้ประวัติ อะไรต่างผมว่า ลองหาใน กูเกิ้ล น่าจะมีคำตอบทั้งหมดครับ
ทางเข้าแรกเลยนะครับ
วันนี้ มีคณะนักเรียนเกาหลีมาเที่ยวด้วย ดู จากหน้าตาและ อายุ น่าจะไม่เกิน 15 ครับ ดูน้องๆเขาก็หน้าตาสดใสนะ แต่ไม่รู้ว่าโตขึ้นหน้าตาจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน
บรรยากาศระหว่างทางขึ้นเรือไปเกาะครับ
ในที่สุด ก็ ถึงแล้วครับ เกาะนามิ
รูปนี้ เขา บอกว่าเป็นแนวทิวสน ซีรีส์เรื่องดัง ครับ บรรยากาศดีมาก ผมไม่ได้จำจรึงๆนะครับว่าเรื่องไหน ส่วนเรื่องบรรยากาศดีมาก ตอนนั้นอุณหภูมิ ประมาณ 21-23 องศา ได้ อากาศสดชื่นมากกกกกกก
พี่แบร์ กับ นางเอก ครับ ผมว่าแกคงเหนื่อยและหิวน้ำครับ ยืนตากแดด ตากลม มานาน เลยให้น้ ำ พี่หมี ซะหน่อย
นี่ก็เคยเป็นที่ถ่ายซีรีส์เกาหลี อีกเรื่องครับ จำได้ว่า music อะไรสักอย่างแหละ
อยู่บนเกาะนามิได้ประมา๊ณ 1 ชม. ครับ หลังจาก กลับเข้าฝั่ง ก็ไปกินข้าวครับ เขาเรียก ว่า ไก่ผัดซอส หรือ ทัคคาลบี้ รสชาติ ผมชอบนะ ไม่รู้ว่าที่ชอบเพราะหิวหรือเปล่า แล้วก็ไปต่อกันที่ อุทยานแห่งชาติโซรัคซาน ซึ่งกว่าจะไปถึงได้ก็เกือบๆ ห้าโมงเย็น แล้วครับ ทำให้เวลาเที่ยว ที่นี่มีไม่มากนัก
มื้อเย็น เป็น ชาบูเห็ด ครับ อร่อย ครับ หิวด้วย แล้วผมก็ได้ผม โซลจูเป็นครั้งแรก ที่นี่
เข้าโรงแรม sorak daemyung resort ที่พัก เป็นแนวคอนโดนะครับกว้างมากกกกก คือ มีห้องนอน ที่มีเตียง ห้องนอนแบบปูนอน ห้องนั่งเล่น คือ มาแบบครอบครัวสบายๆๆ แต่นี่คืนนี้ นอนคนเดียวครับ เลยเลือก นอนแบบมีเตียง
อันนี้คือ พี่หมี อุทยานแห่งชาติโซรัคซาน ต้องได้ถ่ายกันทุกคนเชื่อผมสิ
เป็นภาพจากข้างบนถ่ายลงมาข้างล่างนะครับ ทางขึ้นจะมีเคเบิล ขึ้นไป ซึ่งคนเกาหลี เนี่ย หลายคนเดินขึ้นไปนะครับ ไกด์เล่าว่า เกาหลีเนี่ย ชอบปีนเขากัน ในวันที่ผมไปเนี่ย ก็มีทั้ง คนหนุ่มสาว และ สูงอายุ ทยอยเดินลงมา จากภูเขา หลายคนมาก
ช่วงเดือนที่ไป เขาเรียกว่าช่วงใบไม้เปลี่ยนสีครับ ถ้าไปช่วงสิ้นเดือน คงจะสวยกว่านี้แน่นอน เพราะจะเริ่มหนาวมากขึ้น
มาถึงโรงแรมแล้ว ผมว่าโรงแรม ที่นี่ เหมาะกับการพาครอบครัวมาพักนะครับ เพราะ มีกว้างมาก ข้างล้าง ก็มี มินิมาร์ท รวมทั้ง สระน้ำแร่ เยอะครับ ลองหาข้อมูล ในกูเกิ้ลเถอะ
รูปห้อง นั่งเล่น
ห้องนอนมีเตียง
ห้องนอนกับพื้น ซึ่งทางไกด์บอกว่า ถ้ามาหน้าหนาว ควรนอนพื้นครับ เพราะ พิ้นจะอุ่น ทำให้นอนสบาย
สำหรับกิจกรรม ยามค่ำคืน ของผม คือ กินโซลแมก ครับ อ้าว งงงงงงงงงง อะดิ คือแบบนี้ ครับ หลังจาก ที่เข้าที่พัก เสร็จแล้ว ก็ มีนัดแนะกับสมาชิกที่ไปด้วย กับไกด์ เพื่อไปละลายพฤติกรรม กัน ให้สนิทกัน มากขึ้น ซึ่ง สถานที่ ก็เป็นห้องนอน ของ ไกด์ เองแหละ ซึ่ง โซลแมก = โซลจู+เบียร์ วิธีการทำ ง่ายๆครับ รินโซลจู 1 ช็อต แล้วก็ เบียร์ อีก1ช็อต เทรวมลงไปในแก้ว กาแฟ จะได้ โซลแม็ก 1 ชุด ข้อแนะนำ สำหรับ การกิน ชุดนี้ คือคนคออ่อน ไม่ควรกิน เกิน 3 ชุด พวกกินบ้างตามงานสังคม ไม่ควรเกิน 5 ชุด ส่วนพวกคอทองแดง แล้วแต่ครับ ผมมั่นใจอย่างนึง อาจไม่เมา มาก แต่ไม่เหมือนเดิมแน่นอน
สรุปการกิน คืนนั้น ไกด์คนไทย เมาครับ ออกจากห้องน้ำไม่ได้ นั่งกอดชักโครกอยู่ สมาชิก ที่เหลือ สามารถยืนฉี่ ริมระเบียงได้ทุกคนครับ เพราะเมากันแล้ว ไม่อายกันแล้ว แล้วก็กลับมานอน ได้อย่าง สบาย หัวถึงหมอนปุ๊บหลับปั้บ
วันที่ 8 ต.ค.
บรรยากาศตอนเช้าของโรงแรมครับ
อาหารเช้าโรงแรม ทั่วไปครับ
ตื่นเช้ามา รู้สึก ดีมาก สดชื่น ไม่ปวดหัว ทั้งๆที่เมื่อคิน เมาปลิ้น ตามสไตล์ทัวร์นะครับ เวลานัดตอนเช้าคือ 6 7 8
ก็กินอาหารเช้า ที่โรงแรม เป็นแบบบุฟเฟต์ ครับ กินประทังชีวิตไป หลังจากนั้น ก็เดินทางกันต่อครับ ไปที่แรกเลย ทำกิมจิ กับ แต่ตัวเกาหลี
ต้องขอโทษด้วยครับ 2รูปนี้ เป็นรูปสแกนมา
ฮันบก แบบ คับติ๋ว
ทำกิมจิ
เดินทางต่อไป สวนสนุกเอเวอร์แลนด์
วันนั้น ที่สวนสนุก คนเยอะครับ กว่าจะไปถึงก็บ่ายสอง แล้ว แล้วเครื่องเล่น ที่เป็นไฮไลท์ หนีไม่พ้น T express
คือ ของเล่น ฮิตๆที่นี่ เนี่ย ใช้เวลารอนานมาก อย่างน้อย มี 2 ชม.แน่นอน ซึ่ง การรอคอย 2 ชม.นั้น แลกกับความเสียว สนุกแค่ 3 นาที สำหรับผม คุ้มมาก
คือผมไม่ได้ถ่ายรูปเครื่องเล่นมานะครับ จะมีวิวไกลอย่างเดียวเพราะแบตหมด
น้องเกาหลีคอยต้อนรับด้านหน้า แหล่มนะ
รูปรถไฟเหาะ เครื่องเล่นที่รอ2 ชม.เพื่อเล่น 3 นาที ครับ แต่สุดติ่งมากกกกกก
หลังจากเที่ยวเสร็จ ก็ไปกินข้าวแบบบุฟเฟ่ต์ ขาปูยักครับ ไม่มีรูปนะ หลายทัวร์ คงมี แล้วก็ไปเดินตลาด ทงแดมุน
ตลาดที่นี่ คือห้างครับ มีหลายตึก ให้เลือกช็อป สำหรับความตั้งใจแรกที่จะซื้อ คือ รองเท้าเตะครับ เพราะรองเท้าที่ใส่มา เป็นรองเท้าใหม่ ค่อนข้างคับ เดินมากแล้วเจ็บ แต่เชื่อ ไหมครับ ว่าผมเดิน วนทั้งห้าง แล้ว ไม่มีร้านไหนขายรองเท้าเตะ ผู้ชายเลย แล้วก็ลองสังเกตดูว่า คนเกาหลี เกือบทั้งหมดที่มาเดิน ที่นี่ ไม่มีใครสวใรองเท้าเตะเลยสักคน แล้วก็สำหรับผู้ชายตัวใหญ่ ที่คิดว่าจะไปหาซื้อเสื้อผ้านะครับ ขอบอกไว้อีกย่างหา หาซื้อไม่ได้จากที่นี่ เพราะมีแต่ตัวเล็กๆ ไม่ใช่ว่าคนเกาหลีไม่มีคนตัวใหญ่ นะครับ มีนะ แต่ก็ใส่เสื้อเข้ารูปกัน สรุป มาตลาดที่นี่ ไม่ได้ของอะไรเลย นอกจาก เบียร์ 2 ป๋อง
แล้วก็เข้าที่พักครับ คืนนั้น นอนโรงแรม golden seoul
ตึกdoota หรือ ดูแต่ตา
ที่นอน สำหรับคืนนี้
มีต่อนะครับ ขอพรุ่งนี้นะ
เที่ยวเกาหลี กับกรุ๊ปทัวร์ ก็สนุกไปอีกแบบ เนอะ
เริ่มกันเลยนะ ผมเดินทางถึงสนามบิน ตอน 21.30 ซึ่งที่ว่าเป็นคนสุดท้าย ของกรุ๊ปนี้ ที่เดินทางไปด้วยไม่รวม คนที่ไม่ยอมไปนะ หลังจากผ่าน ตม.ไทยเข้ามาได้ก็เหลือเวลาอีก1 ชม.ก่อนออกเดินทาง ไป ดินแดนโสม โดยสายการบิน asiana airline เที่ยวบิน OZ 742 เวลาบินประมาณ 23.20
ตั๋วเครื่องบิน
รองเท้าใหม่เพื่อตะลุยแดน กิมจิ
หลังจากขึ้นเครื่องมา ขอระบายความรู้สึก เกี่ยวกับ สายการบินนี้ หน่อยนะครับ
-ที่นั่ง ค่อนข้างเล็ก เพราะ ผมสูง 185 ซม. นน. 120 กิโล คือมันเล็ก จรึงๆนะสำหรับผม
-พนักงานต้อนรับ ขอบอกครับ น่ารัก สวย สไตล์เกาหลี แต่ ไม่รู้เป็นอะไร ชอบเดินชนผมจัง (ผมนั่งติดทางเดิน )
-บริการอาหาร บนเครื่องบิน คือ แบบว่า ผมเข้าใจ นะ ว่าเป็นการบริการที่ดีมาก แต่ ผมเดินทางตอนกลางคืนนะครับ กว่า อาหารจะเสริฟได้ คือ เกือบๆตี1 ง่วง ก็ง่วง จะไม่กิน ก็ เดี๋ยว ไม่คุ้ม
-ด้วยภาษาเกาลี ที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง และภาษา อังกฤษที่งูๆปลาๆ ตอนน้องพนักงานต้อนรับถามเว่าจะรับอาหารอะไร ด้วยคำพูดว่า “น็อตโตะ”กับ “$#@&***” คือผมฟังไม่รู้เรื่องเองนะ เลย สั่ง น็อตโตะ ไป ผมก็คิดว่าเป็น ถั่วอะไรสักอย่าง แต่พอเปิดมา อ้าว เป็นบะหมี่ผัด นี่น่า เพิ่งมารู้จากไกด์ภายหลัง ว่าคนเกาหลีเนี่ย มัก จะมีลงท้ายด้วย สระ โอะ กับ สระเดอ
-แล้วการเดินทาง ในคืนนั้น ผมได้นั่งข้างๆกับหนุ่มเกาหลีหน้าตา โรคจิต คือ อาการของเขาเนี่ย มักจะบ่นๆอะไรไม่รู้คนเดียว แล้ว ก็ชอบพยักหน้าคนเดียว กำลังจะเคลิ้มๆหลับ ก็ชอบพลิกตัว สะกิดผม ขอทางไปเข้าห้องน้ำ สรุป คืนนั้น ทั้งคืน แทบไม่ได้นอน เจอสะกิดไปเข้าห้องน้ำ 3ครั้ง
วันที่ 7 ต.ค.
และแล้วผมก็มาถึง สาธารณรัฐเกาหลี มาถึงประมาณ 6.30 กว่าจะผ่าน ตม.เกาหลี แล้วออกมาเหยีบแผ่นดินเกาหลีได้ก็ ประมาณ 8 โมงเช้า วันนั้น สภาพอากาศไม่หนาว มาก อารมณ์ประมาณว่า เปิดแอร์สบาย
บรรยากาศนอกสนามบินอินชอน ตอนนี้อุณหภูมิน่าจะประมาณ 15-18 องศา
บรรยากาศระหว่างทาง
ก็เริ่มเดินทาง ไปเลยครับ สำหรับ อาหารมื้อแรก คือ อูด้ง ครับรสชาติก็งั้นๆๆ ครับ
สถานที่กินข้าวมือแรก ในโซล และสถานที่เชือด ละลายเงินวอล ในวันสุดท้าย
เกาะนามิ
เดินทางจาก สนามบิน ถึงเกาะนามิ ประมาณ 10 โมงกว่า ๆมาถึงก็ เตรียมขึ้นเรือครับ ก่อนขึ้นเรือ ก็แวะซื้อ น้ำดื่ม มีแอลกอฮอล์ นิดหน่อยก่อน บรรยากาศ บนเกาะ ภาพรวมโอเคนะครับ เหมาะกับการมาเป็นคู่ มากกว่า แต่ผม เฮ่อ ...... ช่างมัน เกาะนามิเนี่ยประวัติผมไม่ได้จำหรอกครับ หรือ ซีรีส์เรื่องไหนมาถ่ายผมก็ไม่รู้ เพราะผมไม่ใช่ติ่งเกาหลี นะครับ ถ้าอยากรู้ประวัติ อะไรต่างผมว่า ลองหาใน กูเกิ้ล น่าจะมีคำตอบทั้งหมดครับ
ทางเข้าแรกเลยนะครับ
วันนี้ มีคณะนักเรียนเกาหลีมาเที่ยวด้วย ดู จากหน้าตาและ อายุ น่าจะไม่เกิน 15 ครับ ดูน้องๆเขาก็หน้าตาสดใสนะ แต่ไม่รู้ว่าโตขึ้นหน้าตาจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน
บรรยากาศระหว่างทางขึ้นเรือไปเกาะครับ
ในที่สุด ก็ ถึงแล้วครับ เกาะนามิ
รูปนี้ เขา บอกว่าเป็นแนวทิวสน ซีรีส์เรื่องดัง ครับ บรรยากาศดีมาก ผมไม่ได้จำจรึงๆนะครับว่าเรื่องไหน ส่วนเรื่องบรรยากาศดีมาก ตอนนั้นอุณหภูมิ ประมาณ 21-23 องศา ได้ อากาศสดชื่นมากกกกกกก
พี่แบร์ กับ นางเอก ครับ ผมว่าแกคงเหนื่อยและหิวน้ำครับ ยืนตากแดด ตากลม มานาน เลยให้น้ ำ พี่หมี ซะหน่อย
นี่ก็เคยเป็นที่ถ่ายซีรีส์เกาหลี อีกเรื่องครับ จำได้ว่า music อะไรสักอย่างแหละ
อยู่บนเกาะนามิได้ประมา๊ณ 1 ชม. ครับ หลังจาก กลับเข้าฝั่ง ก็ไปกินข้าวครับ เขาเรียก ว่า ไก่ผัดซอส หรือ ทัคคาลบี้ รสชาติ ผมชอบนะ ไม่รู้ว่าที่ชอบเพราะหิวหรือเปล่า แล้วก็ไปต่อกันที่ อุทยานแห่งชาติโซรัคซาน ซึ่งกว่าจะไปถึงได้ก็เกือบๆ ห้าโมงเย็น แล้วครับ ทำให้เวลาเที่ยว ที่นี่มีไม่มากนัก
มื้อเย็น เป็น ชาบูเห็ด ครับ อร่อย ครับ หิวด้วย แล้วผมก็ได้ผม โซลจูเป็นครั้งแรก ที่นี่
เข้าโรงแรม sorak daemyung resort ที่พัก เป็นแนวคอนโดนะครับกว้างมากกกกก คือ มีห้องนอน ที่มีเตียง ห้องนอนแบบปูนอน ห้องนั่งเล่น คือ มาแบบครอบครัวสบายๆๆ แต่นี่คืนนี้ นอนคนเดียวครับ เลยเลือก นอนแบบมีเตียง
อันนี้คือ พี่หมี อุทยานแห่งชาติโซรัคซาน ต้องได้ถ่ายกันทุกคนเชื่อผมสิ
เป็นภาพจากข้างบนถ่ายลงมาข้างล่างนะครับ ทางขึ้นจะมีเคเบิล ขึ้นไป ซึ่งคนเกาหลี เนี่ย หลายคนเดินขึ้นไปนะครับ ไกด์เล่าว่า เกาหลีเนี่ย ชอบปีนเขากัน ในวันที่ผมไปเนี่ย ก็มีทั้ง คนหนุ่มสาว และ สูงอายุ ทยอยเดินลงมา จากภูเขา หลายคนมาก
ช่วงเดือนที่ไป เขาเรียกว่าช่วงใบไม้เปลี่ยนสีครับ ถ้าไปช่วงสิ้นเดือน คงจะสวยกว่านี้แน่นอน เพราะจะเริ่มหนาวมากขึ้น
มาถึงโรงแรมแล้ว ผมว่าโรงแรม ที่นี่ เหมาะกับการพาครอบครัวมาพักนะครับ เพราะ มีกว้างมาก ข้างล้าง ก็มี มินิมาร์ท รวมทั้ง สระน้ำแร่ เยอะครับ ลองหาข้อมูล ในกูเกิ้ลเถอะ
รูปห้อง นั่งเล่น
ห้องนอนมีเตียง
ห้องนอนกับพื้น ซึ่งทางไกด์บอกว่า ถ้ามาหน้าหนาว ควรนอนพื้นครับ เพราะ พิ้นจะอุ่น ทำให้นอนสบาย
สำหรับกิจกรรม ยามค่ำคืน ของผม คือ กินโซลแมก ครับ อ้าว งงงงงงงงงง อะดิ คือแบบนี้ ครับ หลังจาก ที่เข้าที่พัก เสร็จแล้ว ก็ มีนัดแนะกับสมาชิกที่ไปด้วย กับไกด์ เพื่อไปละลายพฤติกรรม กัน ให้สนิทกัน มากขึ้น ซึ่ง สถานที่ ก็เป็นห้องนอน ของ ไกด์ เองแหละ ซึ่ง โซลแมก = โซลจู+เบียร์ วิธีการทำ ง่ายๆครับ รินโซลจู 1 ช็อต แล้วก็ เบียร์ อีก1ช็อต เทรวมลงไปในแก้ว กาแฟ จะได้ โซลแม็ก 1 ชุด ข้อแนะนำ สำหรับ การกิน ชุดนี้ คือคนคออ่อน ไม่ควรกิน เกิน 3 ชุด พวกกินบ้างตามงานสังคม ไม่ควรเกิน 5 ชุด ส่วนพวกคอทองแดง แล้วแต่ครับ ผมมั่นใจอย่างนึง อาจไม่เมา มาก แต่ไม่เหมือนเดิมแน่นอน
สรุปการกิน คืนนั้น ไกด์คนไทย เมาครับ ออกจากห้องน้ำไม่ได้ นั่งกอดชักโครกอยู่ สมาชิก ที่เหลือ สามารถยืนฉี่ ริมระเบียงได้ทุกคนครับ เพราะเมากันแล้ว ไม่อายกันแล้ว แล้วก็กลับมานอน ได้อย่าง สบาย หัวถึงหมอนปุ๊บหลับปั้บ
วันที่ 8 ต.ค.
บรรยากาศตอนเช้าของโรงแรมครับ
อาหารเช้าโรงแรม ทั่วไปครับ
ตื่นเช้ามา รู้สึก ดีมาก สดชื่น ไม่ปวดหัว ทั้งๆที่เมื่อคิน เมาปลิ้น ตามสไตล์ทัวร์นะครับ เวลานัดตอนเช้าคือ 6 7 8
ก็กินอาหารเช้า ที่โรงแรม เป็นแบบบุฟเฟต์ ครับ กินประทังชีวิตไป หลังจากนั้น ก็เดินทางกันต่อครับ ไปที่แรกเลย ทำกิมจิ กับ แต่ตัวเกาหลี
ต้องขอโทษด้วยครับ 2รูปนี้ เป็นรูปสแกนมา
ฮันบก แบบ คับติ๋ว
ทำกิมจิ
เดินทางต่อไป สวนสนุกเอเวอร์แลนด์
วันนั้น ที่สวนสนุก คนเยอะครับ กว่าจะไปถึงก็บ่ายสอง แล้ว แล้วเครื่องเล่น ที่เป็นไฮไลท์ หนีไม่พ้น T express
คือ ของเล่น ฮิตๆที่นี่ เนี่ย ใช้เวลารอนานมาก อย่างน้อย มี 2 ชม.แน่นอน ซึ่ง การรอคอย 2 ชม.นั้น แลกกับความเสียว สนุกแค่ 3 นาที สำหรับผม คุ้มมาก
คือผมไม่ได้ถ่ายรูปเครื่องเล่นมานะครับ จะมีวิวไกลอย่างเดียวเพราะแบตหมด
น้องเกาหลีคอยต้อนรับด้านหน้า แหล่มนะ
รูปรถไฟเหาะ เครื่องเล่นที่รอ2 ชม.เพื่อเล่น 3 นาที ครับ แต่สุดติ่งมากกกกกก
หลังจากเที่ยวเสร็จ ก็ไปกินข้าวแบบบุฟเฟ่ต์ ขาปูยักครับ ไม่มีรูปนะ หลายทัวร์ คงมี แล้วก็ไปเดินตลาด ทงแดมุน
ตลาดที่นี่ คือห้างครับ มีหลายตึก ให้เลือกช็อป สำหรับความตั้งใจแรกที่จะซื้อ คือ รองเท้าเตะครับ เพราะรองเท้าที่ใส่มา เป็นรองเท้าใหม่ ค่อนข้างคับ เดินมากแล้วเจ็บ แต่เชื่อ ไหมครับ ว่าผมเดิน วนทั้งห้าง แล้ว ไม่มีร้านไหนขายรองเท้าเตะ ผู้ชายเลย แล้วก็ลองสังเกตดูว่า คนเกาหลี เกือบทั้งหมดที่มาเดิน ที่นี่ ไม่มีใครสวใรองเท้าเตะเลยสักคน แล้วก็สำหรับผู้ชายตัวใหญ่ ที่คิดว่าจะไปหาซื้อเสื้อผ้านะครับ ขอบอกไว้อีกย่างหา หาซื้อไม่ได้จากที่นี่ เพราะมีแต่ตัวเล็กๆ ไม่ใช่ว่าคนเกาหลีไม่มีคนตัวใหญ่ นะครับ มีนะ แต่ก็ใส่เสื้อเข้ารูปกัน สรุป มาตลาดที่นี่ ไม่ได้ของอะไรเลย นอกจาก เบียร์ 2 ป๋อง
แล้วก็เข้าที่พักครับ คืนนั้น นอนโรงแรม golden seoul
ตึกdoota หรือ ดูแต่ตา
ที่นอน สำหรับคืนนี้
มีต่อนะครับ ขอพรุ่งนี้นะ