[CR] 2017 : อยากโดนหิมะสักครั้งให้ชื่นใจ .. รีวิวโซล-เจจูไปกับทัวร์

ช่วงเวลาเดินทาง : 16 - 20 กุมภาพันธ์ 2560



คำโปรย
    หลังจากรอคอยตารางทัวร์มานานแสนนาน สุดท้ายโปรแกรมนี้ของเดือนกุมภาพันธ์ก็ออกสักที ทริปนี้คือฉลองวันเกิดของจขกท.เอง(แค่ข้ออ้างแหละเราแค่อยากเที่ยว) คราวนี้ตั้งใจจะไปเกาหลีแบบทัวร์เลย เพราะหนึ่งเราขี้เกียจทำการบ้านและสองอยากไปเมืองอื่นด้วยที่ไม่ใช่โซล เพราะเสียงลือบอกว่าโซลเหรอเที่ยวเองก็ได้ง่ายๆ แต่เราอยากไปเมืองอื่นด้วย โซลไว้มาทีหลังก่อได้ เราจึงตัดสินใจซื้อทัวร์นะจ๊ะ



วิธีเตรียมตัว
A: การเลือกทัวร์ : จัดการงมเข็มในมหาสมุทรถามทัวร์ทุกเจ้าที่เราทัวร์นี้มาขาย จะมีอยู่ในเฟสบุ๊คอยู่ประมาณ 3-4 เจ้า สอบถามราคา ต่อรองราคา เจ้าไหนให้ถูกเอาเจ้านั้นเลย หลังจากนั้นจัดการคุยข้อตกลงกับทัวร์ให้เรียบร้อยก่อนการเดินทาง ทั้งโปรแกรมต่างๆ การโอนเงิน(โปรแกรมนี้โอนเงิน100%1วันหลังจอง) การเตรียมตัวก่อนไป (ส่วนใหญ่บริษัททัวร์จะโทรมาแจ้งก่อนวันเดินทาง1-2วัน) เอาจริงๆ ไปกับทัวร์ไม่ต้องคิดไรมากทั้งการเดินทางไฟล์บิน ที่พัก อาหารการกิน การเดินทางภายในประเทศ บริษัททัวร์จะจัดการไว้หมดแล้วเราแค่ไปตามโปรแกรมของเค้า

**ปัญหาที่พบในทัวร์นี้บริษัทเอเจนซี่จริงๆดีมาก แต่!!! ตอนแรกเราจองก่อนบินไว้ประมาณ 2 เดือนว่าจะไปช่วงวันที่ 18-22 กพ. 60 แต่หลังจากนั้นประมาณวันที่ 11 กพ. ทัวร์โทรมาบอกว่าจำเป็นต้องเลื่อนวันเดินทางมาเป็น 16-20 กพ. 60 เราสะดวกไหม? ส่วนตัวเรานั้นสะดวกไปได้ แต่เพื่อนๆที่จองไว้ก่อนหน้าที่ด้วยกัน ลาไม่ได้บ้าง จองตั๋วเครื่องซึ่งเดินทางจากตจว.เข้ามาให้กทม.ไว้วันที่ 18 กพ. แล้วเลื่อนไม่ได้บ้าง ก็เอาเป็นว่าทางทัวร์รับผิดชอบโอนเงินคืนให้หมดเลย ถึงกระนั้นก็เหลือเรากับโอปป้าของเราแค่ 2 คนที่สามารถไปทัวร์นี้ได้

B: พาสปอร์ต
เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อม ถ่ายภาพพาสปอร์ตส่งไปทัวร์ให้เรียบร้อยเพราะเค้าจะได้เตรียมใบตม.ทั้งขาออกและขาเข้าให้เรา จะได้ไม่ต้องเขียนเองอิอิ เช็ค passport ว่าหมดอายุหรือยัง

C: อื่นๆ
-ขอใบรับรองการทำงาน : หากคนไหนทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง ขอใบรับรองการทำงานฉบับภาษาอังกฤษติดไปด้วยก็จะดีมากๆค่ะ เผื่อไว้ยืนยันกับตม.
- การแลกเงิน : ร้านไหนให้เรตถูกสุดไปคว้าเลย เราได้มา 29 บาท ได้ 1000 วอนค่ะ (เชียงใหม่เด้อ) แลกไปตามกำลังทรัพย์ได้เลยฮ่ะ
- ซิมโทรศัพท์ : ซื้อ AIS Sim2Fly ไปเลยฮ่ะ 399 บาทไม่ยุ่งยาก ไปถึงเกาหลีใช้ได้เลย
- กระแสไฟฟ้า : อย่าลืมหัวแปลงไฟฟ้าด้วย หาซื้อได้ตาม 7-11 และร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าเลย สำคัญ!! อย่าลืมปลั๊กพ่วง
-ยา : ควรพกยาPara และยาแก้แพ้แบบไม่ง่วงไปด้วย เนื่องจากอากาศหนาวมากน้ำมูกไหลเป็นน้ำตกเลย
-สมัครบัตร Kingpower : สมัครฟรีค่ะ เวลาเราเดินทางต่างประเทศไฟล์ดึกๆ เข้าไปพักใน Louge ของเค้าได้ไม่เกินคนละ 2 ชม. มีผู้ติดตามได้ไม่เกิน 3 คน  มีปลั๊กไฟ ขนม น้ำ ฟรี แค่แสดงบัตร สมัครออนไลน์ได้เลย

**ขอเสริมเรื่อง ตม. เกาหลี ส่วนตัวแล้วเป็นคนหนึ่งที่ไปเที่ยวผ่านมาแล้วหลายประเทศ จากการยืนอยู่ที่ตม.เกาหลีจะเห็นว่าหญิงไทยที่พาสปอร์ตขาวประมาณ 80%จะติดตม. ไม่ว่าจะมากับทัวร์หรือส่วนตัวโดนหมด 10%แล้วแต่ดวง อีก10%พาสปอร์ตลายแล้ว ก็วัดดวงเอาล่ะกันโน๊ะ


ลุย
วันที่ 1 : 16 กุมภาพันธ์ 2560
แผน : พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ

   วันแรกทางทัวร์จะโทรมาเตือนตั้งแต่ตอนกลางวัน ให้พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิก่อน 21.00 เพื่อกรอกใบImmigration (แต่สำหรับเอเจนซี่เราเค้ามารับเราและพิมพ์เอกสารให้เราหมดเลย) เจ้าของทัวร์ใหญ่ให้กรอกเองนะค่ะ อิอิ หลังจากนั้นก็ไปเดินช้อป นั่งง่วง นอนง่วง ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนซิมAISSim2flyให้เสร็จใน Louge Kingpower แล้วก็ไปที่ Gate ได้เลย เครื่องของเราเป็น Asiana Airline ไฟล์ 02.10 น. บินตรงไป Seoul




บรรยากาศใน Louge



วันที่ 2 : 17 กุมภาพันธ์ 2560
แผน : เดินทางถึงสนามบิน INCHEON >> หมู่บ้านฝรั่งเศส >> หอสังเกตุการณ์โอดูซาน >> เกาะเจจู >> ฮัลโหลคิตตี้ >> พิพิธภัณฑ์ชาโอซุลลอค >> วัดซันบังซา
แผนจริง : เดินทางถึงสนามบิน INCHEON >> เกาะเจจู >> ฮัลโหลคิตตี้ >> พิพิธภัณฑ์ชาโอซุลลอค >> วัดซันบังซา

  เนื่องจากกว่าจะผ่านตม. กว่าทุกคนจะได้ของก็ปาไป 11.00น. ล่ะ จากกรุ๊ปของเรา 22 คน ติดตม.ไม่ได้ไปต่อ 2 คน ทั้งกรุ๊ปเหลือสมาชิกเพียง 20 คน หลังจากนั้นก็เดินทางไป Gimpo Airport ต่อเลยเนื่องจากต้องต่อเครื่องไปเกาะเจจูต่อเลย จึงต้องตัดหมู่บ้านฝรั่งเศส(คล้ายๆเอวีนิวบ้านเรา)และหอสังเกตุการณ์โอดูซาน(ไปส่องดูทุ่งนาเขตเกาหลีเหนือ)ออก อย่าลืมปรับนาฬิกาให้เร็วกว่าไทย เปิดประตูสนามบินออกไป ผ่าง!!!!! หนาวค๊อดๆ






ถึงสนามบิน Gimpo ไกด์ไปซื้อเบอร์เกอร์ปลามาแจกคนละอัน นั่งรออีก 1 ชม.++ จะช้าอยู่ไย 7-11 ก่อมีไปเก็บ item กัน ใช้เวลาบินไปเกาะเจจู 1 ชม.



กว่าจะถึงสนามบินJeju รับสัมภาระ ก็เกือบจะ 16.30น. แล้วทีนี้ล่ะต้องรีบบึ้งไปเก็บที่เหลือกันล่ะเริ่มที่ Hello Kitty ใช้เวลาเดินทางไปประมาณ 40 นาทีเนื่องจากเย็นแล้วในตัวเมืองเจจู รถติดมาก ไกด์มีเวลาให้ที่นี่ 30 นาที ไม่มากไม่น้อย ที่นี่มี 3 ชั้น ชั้น 2 เป็นคาเฟ่ขนมกาแฟ มีชั้นดาดฟ้าด้วย







สถานีต่อไป ไร่ชา Osulloc แต่เนื่องจากกว่าเราจะมาถึงก่อ 18.00 แล้วทางพิพิธภัณฑ์ไร่ชาเค้าก็ปิดแล้ว ที่เหลือก่อเที่ยวเอาบรรยากาศหนาวๆ ไร่ชาที่นี่ถือเป็นอันดับ 1 ของเกาหลี ผลิตภัณฑ์ที่คนไทยมาเหมากันส่วนใหญ่จะเป็นแยมชาเขียวราคา 400++ บาท มีขายทีนี่และที่ร้านละลายเงินวอนฝั่งโซลแค่ 2 ร้านเท่านั้น






สุดท้ายไปต่อที่วัดซันบังซา Sanbangsa Temple ที่นี่จะเป็นวัดนิยมของชาวพุทธบนเกาะเจจู พระสงฆ์ที่นี่จะไม่บิณฑบาต การทำบุญส่วนใหญ่จะให้ทำบุญข้าวสาร เรามาดูพระอาทิตย์ตกพร้อมอากาศ 1 องศาที่นี่ ลมแรงมากกกกกก







สุดท้ายไปกินอาหารเย็น จำเมนูไม่ได้ เสร็จแล้วก็กลับโรงแรม เรานอนกันที่โรงแรม Sea Hotel ไม่รู้กี่ดาว สำหรับทัวร์เราไกด์น่าจะคิดว่าน่าจะไม่มีใครโดดทัวร์ละ เพราะเท่าที่หาข้อมูลมาปกติไกด์จะเก็บพาสปอร์ตเพื่อแลกกับคีย์การ์ดห้องแต่สำหรับกรุ๊ปเราไม่เก็บเลย ห้องพักสะอาด กว้างขวาง ถึงโรงแรมไกด์บอกว่าถ้าใครมีแรงจะเรียกรถแท๊กซี่ไปเที่ยวในเมืองก็ได้นะ แต่คงไม่มีใครไปอ่ะเพราะลมแรงและหนาวมากกกก







วันที่ 3 : 18 กุมภาพันธ์ 2560
แผน : ยอดเขาซองซานอิลจุลบง หรือ Songsan Sunrise Paek >> ทุ่งดอกเรป >>  ซอพจิโกจิ >> หมู่บ้านวัฒนะโรรมซองอึบ >> Pony Valley >> อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน

ตื่น 6.00 ทานข้าวเช้า 7.00 ล้อหมุน 8.00น. ไลน์อาหารเช้าจะเป็นอาหารบุฟเฟ่เกาหลี มีไม่มาก รสชาติพอทานได้ค่ะ หลังจากนั้นที่แรกที่เราจะไปคือ ยอดเขาซองซานอิลจุลบง หรือ Songsan Sunrise Paek  เป็นภูเขาไฟที่ระเบิดขึ้นกลางทะเลและลาวาไหลรวมตัวกับเกาะเชจู  ปากปล่องภูเขาไฟที่มีลักษณะเหมือนมงกุฎ ถ้ามาฤดูฝนก็จะเขียวเหมือนรูปในอินเตอร์เนตค่ะ แต่ถ้ามาฤดูหนาวก็จะแห้งๆแบบนี้

ภาพในอินเตอร์เนตเป็นแบบนี้


ลงจากรถลมแรงมากกกกกกก หนาวค๊อดๆ อารมณ์ประมาณกิ่วแม่ปานที่เชียงใหม่










ลงมาข้างล่างจะมี ยอดิโด' คือผู้หญิงวัย 60 ปีอัพที่ทำงานเป็นนักดำน้ำเพื่อเป็นอาชีพ ต้องขึ้นทะเบียนด้วยนะ ใครเดินลงมาแล้วพอมีเวลาไปหาอาหารทะเลสดกินที่บ้านข้างล่างนั้นได้


ข้างล่างก็ร้านค้าเพียบเลย



ระหว่างทางจะไปสถานีต่อไปจะผ่าน ทุ่งดอกเรป ไกด์แวะให้ถ่ายรูป 10 นาทีค่ะ





สถานีซอพจิโกจิ' ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเจจู อารมณ์คล้ายๆแหลมพรหมเทพบ้านเรา ต่างกันที่อุณหภูมิ ลมพัดแรงมากกกบวกกับอากาศที่หนาว 3 องศา จุดนี้โดนทิ้งให้เดินคนเดียวเนื่องจากโอปป้าของเราต้องการฝากของให้ชาวเจจู 5555 บริเวณโดยรอบมีโบสถ์ ประภาคาร อาคาร และจากชายฝั่งจะสามารถมองเห็นความงามของโขดหิน บริเวณลานจอดรถจะมีขายอาหารทะเลแบบสดๆ เค้าบอกที่นี่เป็นที่ถ่ายทำซีรี่ย์หลายเรื่อง







ชื่อสินค้า:   Seoul&Jeju
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่