[CR] ~ รีวิว เกาะเจจู ประเทศเกาหลีใต้ ~ เกาะแห่ง ลม หิน ผู้หญิง

กระทู้รีวิว
สวัสดีค่ะ ทุกท่าน เราไปเที่ยวเกาะเจจู ประเทศเกาหลีใต้ มา เลยเก็บภาพความประทับใจมาฝาก รีวิว นี้ เป็นรีวิวแรก ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ ค่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า.... การเดินทางไปเกาะเจจู มีหลายวิธีด้วยกัน เราเลือกที่จะบินไปลงที่ ปูซาน แล้วต่อเครื่องบินภายในประเทศ ซึ่งเราเลือกใช้บริการสายการบิน เจจู แอร์ (JEJU AIR) เพราะแอบชอบ Brand Ambassador ค่ะ อิอิ เราเลือก ไฟล์ทต่อ แบบเผื่อเวลา 2-3 ชั่วโมง เลยพอหายใจหายคอได้ พอถึงสนามบินปูซาน เลยมีเวลาไปเช่า Pocket Wifi ซึ่งจองมาทางอินเตอร์เน็ต เรียบร้อยแล้ว และได้ทดลองซื้อ ซิมการ์ด ด้วย จริงๆแล้วซื้อซิมใส่ก็ง่ายดีนะ ไม่ต้องพก Pocket Wifi และสายชาร์จต่างๆ

จัดการธุระเสร็จก็นั่งรถ shuttle bus ไป อาคารผู้โดยสายภายในประเทศ หรือจะเดินไปก็ได้นะคะ อยู่ติดกันเลย (เช็คอิน)

แล้วก็ไป เช็คอินที่ ชั้น 2

ได้เวลาเดินทางต่อล้าวววว

ถึงแล้ว เกาะเจจู เกาะที่ได้ขนานนามว่า ลม หิน และผู้หญิง ด้วยภูมิประเทศเป็นที่ราบเชิงเขาล้อมรอบด้วยทะเล เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟและลาวาที่ทับถมกัน จนได้รับการขึ้นทะเบียนจาก ยูเนสโก้ ว่าเป็น มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของประเทศ และด้วยการทับถมของลาวานั่นเอง ที่นี่จึงเต็มไปด้วยหินลาวาจากภูเขาไฟ หินจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของชาวเจจู มีการนำหินมาทำเป็นรูปปั้น เหมือนชายแก่ดูใจดี ซึ่งเชื่อว่าเป็นเสมือนเทพผู้พิทักษ์เกาะ เรียกว่า โทลฮารูปัง

การเดินทางบนเกาะเจจู นั้นไม่ได้ง่ายเหมือนในโซล หรือปูซาน ไม่มีรถไฟใต้ดิน รถประจำทางก็ไม่มาก (ไม่กล้าขึ้นด้วยแหละ) ชาวเจจูจึงใช้รถยนต์เป็นส่วนมาก เราเดินทางมาโรงแรม ด้วย Airport Limousine สาย 600 (ข้อมูลของเกาะเจจูมีน้อยมาก เลือกโรงแรมใกล้สนามบินไว้ก่อน ปลอดภัยดี)  

หลังจากเช็คอิน เรียบร้อย พี่ฝนก็ตกลงมาปรอยๆ รับพวกเรา แต่จะนอนอยู่ห้องก็ใช่ที่ เราวางแผนมาแล้ว ลุย!! เริ่มจาก Jungang Underground Market เราลงมาจากทางออกที่ 12 เดินไปเรื่อยๆจนถึงทางออกสุดท้าย ขึ้นไปทางออกหมายเลข 2 ก็จะเจอ Dongmun Traditional Market และ  Dongmun Public Market ชมรูปรัวๆไปเลย








เดินวนครบ 1 รอบ เราก็มุ่งสู่ที่หมายต่อไป ข้ามถนน แล้วเดินไปทางซ้าย ก็จะเจอ แหล่ง Shopping อีกแห่ง วันนี้ฝนตกคนเลยไม่เยอะเดินสบายมาก


เราเดินไปสุดถนน แล้วเลยไปริมทะเล เพื่อไปหาร้านอาหารเย็น บรรยากาศ ดี๊ดี สดชื่น  
รัฐบาลเค้าจัดการดีมาก ทำทางเดินเลียบทะเลให้ แถมมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตติดตั้งเป็นจุดๆ พอเดินไปทางขวา เรื่อยๆเราก็มาสุดที่ร้านอาหาร จากนั้นก็ สุ่มโลด
ดดดด หน้าตาเลยได้มาแบบนี้




อิ่มล้าววววว กลับไปนอนได้ ใครมาเที่ยวเองอย่าลืมพก นามบัตรหรือที่อยู่โรงแรม มานะคะ ป้องกันความผิดพลาดในการสื่อสาร
วันที่ 2 ของการเดินทาง เราเลือกการเที่ยวแบบตามใจตัวเอง เนื่องจากมีเวลาน้อย เราหาข้อมูลอยู่หลายวัน จนไปเจอ คุณคิม ใน Tripadvisor คุณคิม รับจ้างนำเที่ยว แบบกลุ่มเล็กๆ ด้วยแท๊กซี่ สนนราคาก็ประมาณ 4500  บาท ต่อวัน เราเลือกที่จะไปอยู่ 4 แห่ง หลักๆ คือ ไร่ชา Osulloc

ที่นี่มี พิพิธภัณฑ์ และร้านขายผลิตภัณฑ์จากชา และ Cafe แต่ Cafe ที่นี่เหมือนมีขนมน้อยกว่าสาขาที่เมียงดงเลย




จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ Mt.Sanbang ไปไหว้พระกันค่ะ ขึ้นไปข้างบนคงไม่ไหว ไหว้พระขอพรแทนดีกว่า วัดแห่งนี้ มีความสัมพันธ์กับวัดในประเทศไทยด้วยนะคะ แถมมีป้ายต่างๆเป็นภาษาไทยอีกด้วย






ไหว้พระเสร็จก็เกือบเที่ยง เราต้องเดินทางไปอีกฝั่งของเกาะเจจู ซึ่งใช้เวลาชั่วโมงกว่า นั่งหลับไปบ้าง ชมวิวไปบ้าง จนถึงร้านอาหารที่ คุณคิมแนะนำ ร้านข้าวหอยเป๋าฮื้อหม้อหิน คุณคิมแจ้งไว้แต่แรกแล้วว่า คิวจะยาว เราก็เฉยๆเพราะกว่าจะถึงร้านคงเกือบบ่าย 2 คนคงน้อยลง แต่คิดผิดครัช คนยังต่อคิวอยู่ 99%  เป็นคนเกาหลีทั้งหมด อีก 1% คือบ้านเรา คุณคิมจัดการจิงคิวและสั่งหารไว้ให้ แล้วพาราไปดู อาจุมม่าดำน้ำหาอาหารทะเล ซึ่งเป็นอีก 1 สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงเจจู ได้ข่าวว่า อาจุมม่า ที่ยังดำน้ำหาอาหารทะเลอายุมากสุด ถึง 90 ปี แข็งแรงเฟร่ออ่ะ


อิ่มแล้วก็ไปต่อกันที่ จุดชมวิว Sun Rise Peak




แหล่งท่องเที่ยวสุดท้ายของทริปนี้ Seopjikoji  อากาศดี๊ดี ทัวร์จีนมากหลาย ไม้เซลฟี่ แทบตีหัว




ก่อนกลับคุณคิม พาเราไปแวะบ้านโบราณ เหมือนจะเป็นคนรู้จักกัน เราคิดไว้แล้วว่าต้องมีขายของ แต่แบบนี้ยอมซื้อเลยนะ เจ้าของบ้าน เล่าประวัติของเกาะทั้งหมดอย่างละเอียดฟังออกบ้างไปออกบ้าง พอจับใจความได้ว่า บ้านโบราณที่คลุมด้วยหญาคา(Silver Grass) จะเอาหญ้ามาซ้อนกันไปเรื่อยจนครบ 10 ปี ถึงจะรื้อ แล้วเปลี่ยนใหม่ โดยบ้าน 1 หลังจะมี 3 ห้อง คือห้องนอน ห้องรับแขก และห้องนอนสำหรับแขก ถ้าบ้านไหนม๊ลูกหลานแต่งงานก็จะปลูกบ้านใหม่ในบริเวณเดียวกัน โดยมีห้องครัวกลางสำหรับใช้ด้วยกัน สมัยก่อนที่นี่ผู้ชายเปรียบเหมือนกษัตริย์ ไม่ต้องทำงาน หน้าที่ทุกอย่างเป็นของภรรยา ซึ่งเป็นคำตอบที่ว่า ทำไมอาจุมม่าจึงดำน้ำหาอาหารทะเล ซึ่งดำน้ำกันวันละ 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนเคล็ดลับความแข็งแรงของบรรดาอาจุมม่าก็คือ ซุปกระดูกม้า!!!เพิ่งเคยได้ยิน สตั๊นไป 3 วิ รีบกลับดีกว่า กลัวโดนให้ชิมซุปกระดูกม้า อิอิ
วันสุดท้าย เราออกจากโรงแรม มุ่งตรงสนามบินโดย Limousine Bus เช่นเคย หลังจากเช็คอิน เลยไปหาอาหารทานกัน ที่สนามบินเค้าอาหารราคาไม่ได้แพงไปกว่าข้างนอกเท่าไหร่ และในเมนูมีซุปกระดูกม้า จริงๆด้วย แต่ไม่กล้าลองอยู่ดี รอบหน้าละกันเนอะ
เรานั้ง JEJU AIR กลับมาที่ปูซาน นอนที่ปูซาน 1 คืน เช้าวันรุ่งขึ้น ก็บินกลับกรุงเทพฯ
เย่ๆๆๆ ในที่สุดก็ทำรีวิว สำเร็จ ตั้งท่ามาหลายวันมาก ตื่นเต้นฝุดๆ  ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ ม้วนเดียวจบ เตรียม ทริปต่อไปก่อนน๋า บั๊บบายยยย...
ชื่อสินค้า:   เกาะเจจู, Jeju-do
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่