[CR] Happy Together my autumn in Seoul ไปกับทัวร์...เที่ยวยกแก๊งค์

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขออภัยล่วงหน้านะคะว่าเป็นมือใหม่หัดรีวิว ซึ่งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ที่มีรีวิวเป็นของตัวเอง ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
    ปกติ จขกท. เคยไปต่างประเทศมักจะชอบ backpack ไปเองมากกว่า มันสนุกได้ feeling ในการหลง มีเวลาถ่ายรูปดี แต่คราวนี้จะพาผู้สูงวัย555555 ไปด้วยเลยต้องจองไปกับทัวร์แทน ซึ่งเป็นการไปเกาหลีครั้งแรกและไปกับทัวร์ด้วย ซึ่งทัวร์ที่ไป จขกท. ไม่ได้เป็นคนเลือกเองแต่เป็นญาติที่ไปด้วยเป็นคนหา เป้าหมายของผู้สูงวัยก็คือ ต้องนอนใน Seoul และต้องมี Buffet ขาปูยักษ์ สรุปแล้วพวกท่านทั้งหลายก็จัดการทำการจองไปกับ Centertour  ไปกันทั้งหมด 8 ชีวิต เดินทางวันที่ 11-15 ตุลาคม 2560 (ขอออกตัวก่อนเลยนะคะไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆทั้งสิ้น)


อันนี้เป็นไกด์ผู้ดูแลเรานะคะ คนถือธงคือพี่จิง (เป็นไกด์คนไทย), ถัดมาคือไกด์โอปป้าเกาหลี ชื่อคุณชาญ (พูดไทย ฟังไทยได้นะเออ คล่องเชียว), ส่วนอีกคนคือคุณหลุยส์ (ช่างกล้อง คนช่วยทุกอย่างนั่นเอง) ดูแลดีมากกันทุกคนเลยคะ

    Day 1 ในที่สุดวันเริ่มเดินทางก็มาถึง ทางทัวร์นัดเจอทุกคนกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 21.00 น. โดยเครื่องจะออกเวลา 01.00 น. ไปโดยสายการบิน JINAIR แล้วไปถึงสนามบินที่อินชอนประมาณ 8.00 น. เมื่อถึงสนามบิน อย่างที่เราทราบๆกันนะคะว่ามีคนไทยแอบหนีไปทำงานที่เกาหลีกันเยอะ ทำให้หลายๆท่านเป็นกังวลในเรื่องของการผ่านด่าน ต.ม. ที่เกาหลี แต่เราขอบอกเลยนะคะเรื่องการผ่านด่านนี่ตามที่เราสังเกตเราคิดว่าทาง ต.ม. เขาดูออกคะว่าใครมาทำงานใครมาท่องเที่ยว จริงๆตอนเราต่อแถวคนไม่ผ่านเยอะมากเลยซึ่งทำให้แม่เรา น้องเรา หลายๆคนในแก๊งค์ที่พาสขาวก็เป็นกังวลกัน แต่แล้วสุดท้ายก็ผ่านไปได้แบบไม่ถามอะไรเลย (แต่เราเตรียมหนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทไปเผื่อกันเหนียวไว้ แต่เราไม่ได้พาสขาว) ซึ่งคนที่โดนกักตัวนี่เรายังดูออกเลย เช่น ลักษณะการแต่งตัวใส่สูท แต่งตัวเนี๊ยบเกิน ใส่ทองเส้นเบอเร่อเอาออกมาโชว์นอกเสื้อ เป็นต้น ดังนั้นเพื่อนๆที่ไปเที่ยวจริงๆไม่ต้องกังวลไปคะ

รูประหว่างรอรถบัสมารับที่สนามบิน

    Day 2 ร่ายมาซะเยอะเลย แหะๆๆ สถานที่แรกที่จะไปหลังที่เราได้เหยียบแผ่นดินเกาหลี คือ อินชอนไชน่าทาวน์ (Incheon Chaina Town) และถนนเทพนิยายซองวุลดง (Songwol-dong Fairly Tale Village) ซึ่งสองที่นี้สามารถเดินเชื่อมเที่ยวเล่นติดต่อกันได้ ทางไกด์ก็ได้ให้เวลาเรากันสิงสถิตอยู่ที่นี่ราวๆ 2 ชม.
นี่เป็นส่วนเริ่มต้นของถนนเทพนิยาย ซึ่งจะมีร้านค้าตั้งอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านขนม ขายของ giftshop ต่างๆ

พอเดินเข้าไปตามถนนก็จะตกแต่งกำแพงอย่างน่ารัก



ที่ถนนเทพนิยายแห่งนี้เป็นย่านน่ารักๆ เป็นถนนเล็กๆ โดยบริเวณรอบๆออกแบบและตกแต่งกำแพงต่างๆให้เป็นไปตามเทพนิยายหรือการ์ตูนของ Disney

พอเดินจนครบ เราก็เดินย้อนลงมาไปหาของกินรองเท้าต่อในย่านไชน่าทาวน์ มันจะอยู่ติดๆกันสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ ย่านนี้บรรยากาศก็สไตล์จีนๆ

แต่ว่าทางคณะทัวร์เรามาแต่เช้า ร้านค้าจึงไม่ค่อยเปิดกันมาก ยังไม่ค่อยคึกคักนัก ที่หากินได้ก็มีร้านปลาหมึกย่างนี่แหละท่านผู้ชม555555
ปลาหมึกย่าง เราซื้อมา 1 ไม้ ราคา 5000 วอน คิดเป็นเงินไทยราวๆ 150 บ. OMG ...แต่ก็ลองมา จริงๆมันมีน้ำจิ้มขวดที่ให้ใส่อยู่ข้างๆ มีทั้งเผ็ดและหวาน แต่เราใส่เผ็ดมา ซึ่งมันเผ็ดมากกกกกกกกกกก แต่อร่อยนะ ถ้าไม่จิ้มก็ได้รสชาติปลาหมึกหวานๆเค็มๆ ไม่เหนียว กรุบๆดี อร่อยๆๆๆๆ (+1 จ้า)

     ต่อมาก็ถึงคิวอาหารกลางวันซะที หลังจาที่เราหิ้วท้องมาตั้งแต่เมื่อคืน ได้กินเพียงแค่ขนมปังกับโยเกิร์ตบนเครื่องมาตอนรุ่งสาง ทางไกด์ก็พาเรานั่งรถบัสชิวมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่ร้านอาหาร

อันนี้เป็นบรรยากาศรอบๆใกล้ๆบริเวณร้านอาหาร ใกล้แม่น้ำ เย็นสบายดีคะ

เมนูอาหารกลางวันของเราก็คือ SHABUSHABU ทั้งหมู เส้น เครื่องเคียงทุกอย่างเติมไม่อั้นเลยครับท่ายผู้ชม ซึ่งทางไกด์เราก็ได้อัญเชิญน้ำจิ้มพันท้ายมาจากที่ไทย ไม่งั้นอาจจะไม่แซ่บและไม่ถูกปากคนไทยนะคะ555555555555555555555


พอกินอิ่มหนำสำราญเสร้จแล้ว ก็ขึ้นรถเตรียมไป landmark ที่ต่อไป ก็คือ เกาะนามิ นั่นเอง

การที่เราจะไปเกาะนามิ เราต้องขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามฝากไป หรือ บางคนจะไป Zipline ก็ได้ (แต่คงแพง--")
ขึ้นเรือไปใช้เวลาแปบเดียวเอง ประมาณ 5 นาที ช่วงบ่ายๆเย็นๆนี่อากาศกำลังดี ลมเย็นๆโชยมา

พอมาถึงบนเกาะ ไกด์ก็นัดแนะเวลาให้กลับมาเจอกันกี่โมง (ให้เดินเที่ยวเล่นอยู่ราวๆเกือบ 3 ชม.) จากนั้นไกด์ก็จะพาให้ลูกทัวร์ทุกคนเดินตามไปที่จุดไฮไลท์ก่อนแล้วค่อยให้อิสระ

นี่เป็นมุมมหาชน ทิวแปะก๋วย ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสีมาก มีเหลืองๆปนเขียวๆ ถ้าช่วงปลายตุลาจะพีคมากๆ (กว่าจะได้รูป...รอคนน้อยถึงจะสวย5555)



ส่วนตรงนี้ก็เป็นมุมมหาชนอีก ทิวต้นสน ใครๆก็ต้องถ่าย (ถ้ามีเวลาคงฟินกว่านี้ ฮี่ฮี่ฮี่)

คนส่วนใหญ่มาต้องถ่ายรูปกับรูปปั้นพี่แบ แต่เราไม่ได้ถ่าย555555 (คนเยอะจัด!!!)

ซึ่งเรามีเวลาไม่เยอะต้องทำเวลา ตามล่า...ของกิน ในเกาะนามิ5555
มาถึงเกาหลี เขาบอกกันว่ากาแฟดี ต้องลองซักหน่อย... เจอแก้วนี้ไป 4800 วอน แต่อร่อยใช้ได้อยู่ (ให้+1)

อันนี้เป็น hotto bun มันเป็นแป้งนุ่มๆมีไส้ข้างใน เรียกง่ายๆแพนเค้กนั่นแระ ค่าเสียหายอันนี้ 1500 วอน ซื้อร้านเดียวกันกับกาแฟเบย

อากาศหนาวๆก็ต้องกินไอติมให้มันสะท้านไป อันนี้จำค่าเสียหายไม่ได้ แม่เรากินไป น่าจะราวๆ 1500-2000 วอนมั้ง (ถ้าจำไม่ผิด)

ระหว่างทางเดินกลับเจอซาลาเปาถั่วแดง เห็นควันขโมงแลดูน่ากิน เลยจัดซักอันเสียไป 1000 วอน รสชาติก้คล้ายๆซาลาเปาบ้านเราแต่ถั่วแดงเขาจะหวานๆอร่อยดีนะ

ท้องมีให้ยัดก็ยัดไป จัดไส้กรอกไปอีก อันนี้ราคา 2500 วอน รสชาติอร่อยมาก มีซอสราดมาอยู่แล้ว (ให้+1)

หลังจากที่ตัวแตกกันไปที่เกาะนามิ เราก็ลากันไปในช่วงเย็นๆ ราวๆ 5 โมงเย็นที่นู่น นั่งรถบัสต่อไปกินอาหารเย็นมื้อที่ 2 นั่งไปหลับไป5555

และแล้วเราก็มาถึงร้านอาหารเย็น...ที่นี่มีแต่ทัวร์มาลงเป็นส่วนใหญ่ที่ร้านนี้


เมนูอาหารเย็นของเราวันนี้คือ...ทัคคาลบี หรือที่เรียกไก่บาร์บิคิวผัดซอสเกาหลี ที่โต๊ะทางไกด์ให้นั่งโต๊ะละ 4 คน บนโต๊ะก็จะมีเครื่องเคียงพวกกิมจิ ผักทั้งหลาย เวลากินก็จะเอาผักห่อใส่เครื่องเคียงต่างๆแล้วก็ใส่ไก่ที่ผัดแล้วก็กินได้เลย อร่อยๆๆๆ รสชาติคล้ายๆทัคคาลบีที่ไทยเลย

หมดเวลาสำหรับวันแรก ไกด์ก็พาเราเข้าที่พักที่ Seoul ซึ่งทั้ง 3 คืนเราพักที่ Benikea Premier Hotel สำหรับเรามันหรูหรามาก เพราะปกติเราไป backpack นอนแต่ Hostel ถูกๆห้องน้ำรวม55555555555 (แต่เราลืมถ่ายห้องพักมา--") สำหรับโรงแรมใกล้รถไฟสถานี Jeungmi ประมาณ 200-300 เมตร เดินไปนิดเดียวเอง ตอนแรกเราว่าจะนั่งไปย่านฮงแด แต่เราลืมถามไกด์มาว่าไปยังไง5555555 แล้วมันก็ดึกแล้วประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ เราเลยไปเดินเล่นแถวๆโรงแรมเรื่อยเปื่อยกัน

บรรยากาศยามค่ำคืนแถวๆนั้น ไม่คึกคักมากเท่าไหร่ แต่ก็พอมีร้านที่เปิดเยอะอยู่ แต่ส่วนใหญ่ก็คนชอบมักไปหากินเซจูกัน

และแล้วพวกเราผู้รอดชีวิตออกมาตะลอนยามค่ำคืนก็ได้ร้านนั่งกินกัน กว่าจะสั่งกับป้ารู้เรื่อง เกือบเย่55555

นี่เป็นคล้ายๆปลาหมึกผัดซอสบ้านเขา รสชาติเผ็ดๆ เผ็ดแบบมากๆๆ แถมร้อนด้วย แต่อร่อยมากๆเลยซอสที่ต้มมา ตอนแรกเราคิดว่าถ้วยเล็กๆตามรูป ที่ไหนได้มาหม้อเบอเร่อเลย55555

อันนี้เป็นเหมือนลักษณะอารมณ์กินขาหมูแช่เย็น กินคู่กับพริกกระเทียมแกล้มกัน ใช้ได้ๆๆๆๆ ฮี่ฮี่ฮี่

อย่างสุดท้ายที่สั่งมา อารมณ์ประมาณกินขาหมูติดกระดูก5555555555555555 ไม่ค่อยมีเนื้อซักเท่าไหร่

อันนี้เหมือนเป็นน้ำจิ้ม เค็มมากเหมือนน้ำปลาพริกบ้านเรา เอาไว้จิ้มขาหมู

ที่ขาดไม่ได้ในทุกๆมื้อ คือผักแกล้มเครื่องเคียงทั้งหลาย (มีทุกมื้อจริงๆ)

สรุปค่าเสียหายที่โดนไปรอบดึกนี้คนละ 7000 วอน (ทั้งหมด 35000 วอน) อิ่มหลับสบาย เดินถึงโรงแรมราวๆเที่ยงคืน พรุ่งนี้ตอนเช้าเขานัดตื่น 6 โมงเช้า 7 โมง กินข้าว 8 โมงล้อหมุน (เรียกทัวร์ 6 7 8 )
ชื่อสินค้า:   TOUR KOREA
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่