[CR] 안녕하세요 ~ เกาหลีหนีร้อน 3 - 7 เมษายน 2013 ~*

สวัสดีค้าบ ~ วันนี้จะพาทุกคนหนีร้อนไปเกาหลีกัน เป็นรีวิวแรก ยังไงก็ฝากตัวด้วยน้าค้าบ : )

*คำเตือน รีวิวนี้รูปน้อยเพราะตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะรีวิว (บางรูปอาจไม่สวยเพราะใช้กล้องไอโฟนสี่ถ่าย) แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เลยเอาซักหน่อย รีวิวออกจะเถลไถลไปทางไดอารี่ เหมาะสำหรับคนชอบอ่าน ลองมาอ่านกระทู้เด็กชอบเขียนกันดูนะ* อมยิ้ม17




ทริปนี้เกิดมาจากความตั้งใจของอาม่าว่าอยากไปเที่ยวเกาหลีกับลูกหลาน ตอนแรกก็ยังหาวันได้ไม่ลงตัวซักที เพราะติดเชงเม้ง ติดสงกรานต์ ติดโน่นนี่นั่นเต็มไปหมด แต่สุดท้ายก็ได้แผนการมาแน่ชัด โดยบริษัททัวร์ Chill out leisure เป็นทริป 5 วัน 3 คืน ในราคา 32900 บาท ซึ่งน่าจะเรียกว่า 4 วัน 3 คืนมากกว่า เพราะเราไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิกันตอนสี่ทุ่มของวันที่ 3 กว่าจะได้ขึ้นเครื่องก็เที่ยงคืนกว่า ซึ่งถือเป็นวันที่ 4 เข้าไปแล้ว

เราไปกันทั้งหมด 12 คน เป็นไพรเวททัวร์หญิงล้วน แบกรถเข็นไปด้วยหนึ่งคันไว้ให้อาม่านั่งเวลาเดินไม่ไหว มีเฮียแอบตั้งชื่อทริปไว้ให้ว่านางสิบสองทัวร์ ฮ่าๆ

ก่อนไป เห็นข่าวสถานการณ์เกาหลีเหนือจะถล่มเกาหลีใต้ก็ตุ๊มๆต่อมๆอยู่เหมือนกัน พอลองอ่านทวิตเตอร์ของสถานทูตไทยในเกาหลี เขาก็บอกว่าที่นั่นยังปกติดีทุกอย่าง แล้วไหนๆก็จองทัวร์และเตรียมตัวกันทุกอย่างแล้ว อีกอย่าง สงครามก็คงไม่เกิดง่ายๆ ก็ตัดสินใออกเดินทางไปเกาหลังที่เกาหลี




วันที่ 4 เมษายน 2013

ออกเดินทางด้วยสายการบิน Jeju air ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆในคืนวันที่ 3 (เช้ามืดวันที่ 4) จากสุวรรณภูมิ ไปลงที่ท่าอากาศยานอินชอน เป็นสายการบินของเกาหลีก็จริง แต่คนไทยแทบทั้งลำ ! มีคนเกาหลีอีกนิดหน่อย ประเทศอื่นแทบไม่มีเลย สงสัยเขาไปใช้บริการสายการบินอื่นกันหมด

เครื่องออกได้ซักพัก แอร์ฮอสเตสหน้านิ่งก็เสิร์ฟเครื่องดื่มให้ แล้วเราก็หลับไปคาเบาะ ตื่นมาอีกทีตอนใกล้ถึง มีอาหารเช้าเป็นขนมปังสองอย่าง โยเกิร์ตหนึ่งถ้วย และน้ำส้ม ใส่มาในกล่องสีส้มๆ ลองชิมขนมปังดูอย่างนึง รสชาติธรรมดา กินรองท้องไปก่อน

มาถึงสนามบินอินชอนตอนใกล้ๆแปดโมงตามเวลาเกาหลี ตม.ผ่านได้ไม่ถามอะไรเลย ได้เวลาล้างหน้าล้างตาหาเสื้อแขนยาวใส่เพิ่มเพราะอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ แล้วหาไวร์เลสเล่นระหว่างรอพี่ไกด์คนไทยไปจัดการเรื่องรถเข็นอาม่า ไวร์เลสที่นั่นดีมาก เดินไปไหนก็มีให้ใช้ ส่วนใหญ่เป็นของ Olleh ความเร็วก็ใช้ได้เลย (แต่ของฟรี เราชอบอยู่แล้ว กิกิ)

พอออกมาจากเกท ก็มีไกด์เกาหลีชื่อคุณโซฟี กับตากล้องอปป้าชื่อซันมารอรับ แล้วพาไปขึ้นรถ แว่บแรกที่เดินออกมาข้างนอกนี่สะดุ้งกันทั้งกรุ๊ป มันหนาวมากกกกกกกกกกจริงๆค่ะทุกคน แล้วเราไปจาก 37 - 38 องศา มาเจออุณหภูมิสิบต้นๆนี่ถึงกับปรับตัวไม่ถูกเลยทีเดียว TT"




ที่เที่ยวที่แรกที่ไกด์พาเราไปคือหมู่บ้านโพรวองซ์ ห่างจากสนามบินอินชอนประมาณหนึ่งชั่วโมง (รถไม่ติดเลย) เป็นหมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศส อากาศดีมาก บรรยากาศก็ดีมากๆ ส่วนใหญ่เป็นร้านกาแฟ + ร้านขายเสื้อผ้าเครื่องประดับ ขนมปังกระเทียมอร่อยมาก สีสันออกแนวลูกกวาดเลย (เจอกรุ๊ปคนไทยอีกแล้ว กรุ๊ปเดียวกับที่บินมาพร้อมกันจากสุวรรณภูมิเลย)


รูปซ้ายเป็นแผนที่ของหมู่บ้าน ส่วนรูปขวา...ชัดเจนว่าคนไทยมาเที่ยวที่นี่เยอะแค่ไหน หัวเราะ


ป้ายหมู่บ้านโพรวองซ์ มุมบังคับที่ทุกคนต้องมาถ่าย ฮี่ฮี่


เสร็จจากหมู่บ้านโพรวองซ์ เราก็ไปทานข้าวเที่ยงกันที่เมืองชุนชอน อาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองนี้ก็คือ ทักคาลบี้ เป็นเนื้อไก่ผัดซอส ใส่กะหล่ำปลี แป้งต๊อก แล้วก็มันหวาน กระทะใหญ่มากกกก ผัดกันสดๆเลย อร่อยดี เผ็ดนิดๆ แก้หนาวไปได้เยอะ ตากล้องอปป้าก็คอยช่วยดูแลตลอด ทั้งเสิร์ฟน้ำ เติมกิมจิ สารพัด เรียกได้ว่าลูกทัวร์ทุกคนมีหน้าที่กินกินกินเท่านั้น ฮ่าๆ


ควันขึ้นเลยยยย ฟู่วววว ~ จุ๊บๆ

ท้องอิ่ม ก็ไปต่อที่เกาะนามิ (เจอกรุ๊ปคนไทยกรุ๊ปเดิมอีกแล้ว) ตอนแรกคิดว่าต้องนั่งเรือไกล แต่เปล่าเลย ข้ามฝั่งไปนิดเดียวเท่านั้น แต่เรือลำใหญ่มาก แล่นนิ่งมาก ไม่เหมือนอยู่บนเรือเลย แล้วต้องขอชมเลยว่าทางเชื่อมตอนขึ้น - ลงเรือจากท่าทำได้ดีมาก ไม่มีหวาดเสียว เป็นพื้นเรียบๆ แค่ประมาณ 5 นาทีก็ถึงเกาะแล้ว

มาถึงเกาะนามิ ไกด์ก็ปล่อยเราเดินเล่นตามอัธยาศัย เดินตรงเข้าไปก็เจอต้นคริสต์มาส (รึเปล่า) ที่คาดว่าจะทำจากขวดเหล้าโซจูก่อนเลย แล้วพอเดินเข้าไปอีกนิด ก็เจอเจ้าตัวนี้เข้า น่ารักมากๆ คนถ่ายรูปกันเต็มเลย มีตั้งสองตัวแน่ะ




ระหว่างทางมีต้นสนเป็นแนวยาว แต่โกร๋นเหลือแต่ลำต้น เจอน้องคนนี้ยืนแอคท่าให้ออมม่า (คุณแม่) ถ่ายรูป น่ารักมาก แก้มกลมๆแดงๆ อยากจะฟัดซักทีสองที ฮ่าๆ เด็กๆที่นี่หน้าตาคล้ายๆกันไปหมด แต่น่ารักทุกคนจริงๆ บางคนผมหยักศกนิดๆ น่ารักมากกกก


เดินกันจนหอบขึ้นก็มาถึงจุดไคลแมกซ์ของเกาะ คู่ผัวเมียเจ้าของเกาะ เอ๊ย ! คู่พระนางจากซีรี่ย์ดัง Winter love song ต่างหากกกก เป็นมุมที่คนถ่ายรูปเยอะที่สุดเลยก็ว่าได้ กว่าจะว่างให้เราได้เข้าไปสัมผัสเบยองจุนอปป้าบ้างก็พักใหญ่ๆเลยทีเดียว เม่าเศร้า


ใช้เวลาที่เกาะนามิได้พักใหญ่ ก็ได้เวลารวมตัว ไปต่อที่วัดวาวูจองซา เป็นวัดที่มีพระนอนแกะสลักด้วยไม้องค์ใหญ่ประทับอยู่ในโบสถ์ (แต่เราไปถึงเย็นเกิน เค้าปิดแล้วเพราะว่าปิดห้าโมงเย็น เลยได้แต่เดินดูรอบๆแทน TT")


ฝั่งซ้ายเป็นนกฮูก สีดำๆคือกระเบื้องแผ่นใหญ่ คล้ายๆทำบุญกระเบื้องบ้านเรา มีการเขียนชื่อและคำอธิษฐานลงไปบนแผ่นกระเบื้องด้วย ถ้าจำไม่ผิด แผ่นละ 10000 วอน ส่วนฝั่งขวาเป็นเศียรพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ตั้งอยู่หน้าบ่อน้ำมนต์ รายล้อมด้วยพระพุทธรูปหินองค์เล็กๆ มีระฆังให้ตีด้วยนะ : )

ออกจากวัดก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี มื้อนี้เมนูหมูย่างเกาหลีแบบต้นตำรับสุดๆ หมูชิ้นใหญ่มากกกกก ต้องใช้กรรไกรตัด (บริการโดยตากล้องอปป้าอะเกน) กินกับกิมจิที่โผล่มาทุกมื้อ ผักกาด ข้าวสวย แล้วก็เครื่องเคียงอีกเยอะแยะตาแป๊ะไก่ หลังจากนั้นก็ถึงเวลาเข้าที่พัก พักผ่อนก่อนเข้าโซลกันพรุ่งนี้เช้า

โรงแรมที่เราพักชื่อ Windsor Castle Hotel อยู่ที่เมืองซูวอน พักห้องละ 2 คน แบ่งเป็นตึก A กับ ตึก B เราพักที่ตึก B ห้องถือว่าดี แม้ว่าจะเล็กไปหน่อย แต่ว่า...มันเปิดแอร์ไม่ได้ ! จากการสอบถามพบว่าโรงแรมที่นี่จะไม่เปิดแอร์ในฤดูหนาว ถ้าร้อนต้องเปิดหน้าต่าง สรุปคือคืนนั้นหลับๆตื่นๆทุก 2 ชั่วโมงเพราะร้อนจนนอนไม่ได้ ลุกขึ้นมาล้างหน้าทั้งคืน ร้องไห้

*เดี๋ยวกลับมาต่อตอนค่ำๆนะค้าบ*
ชื่อสินค้า:   Chill out leisure
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่