Review! เที่ยวเกาหลีกับทัวร์ Romantic Spring
5วัน 3คืน (4วัน 3คืน)
อันยองฮาเซโยชาวพันทิปทุกคนค่า
พอดีช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาหลีมา เลยอย่างมาแบ่งปันประสบการณ์ท่องเที่ยวกับทัวร์ ตามสไตล์คนที่ไม่ชอบศึกษาหาทางท่องเที่ยว จองตั๋ว หาที่พัก หาการเดินทาง หาที่ท่องเที่ยวด้วยตัวเองแบบเรา
การเดินทางที่ผ่านมานั้นได้มีการตัดสินใจอย่างเร่งด่วน คิดจองทัวร์ก่อนเดินทางเพียง10วันเท่านั้นเอง จุดเริ่มต้นในครั้งนี้มาจาก อยากช็อปปิ้ง อยากช็อปปิ้ง อยากช็อปปิ้ง แต่จะจองตั๋วตอนนี้ก็แพง จะจองที่พักเองก็หายาก ไหนจะเรื่องการเดินทางอีก ไม่รู้จักที่ไหนเลย เลยเริ่มหาข้อมูลโปรแกรมทัวร์จากGoogle และก็มาจบที่ทริปRomantic Springนั้นเอง
ในช่วงที่เดินทางนั้นเป็นช่วงเดือนมิถุนายนนั้น จะเป็นหน้าSummerของที่เกาหลี ทุกคนก็จะออกมาเที่ยวกันในหน้านี้ ทำให้เวลาไปเที่ยวไหนจะคึกคัก เห็นวัยรุ่นเกาหลีเดินสวีทกันเต็มไปหมด จนอิจฉาตาร้อนกันเลยที่เดียว
ปล. กระทู้นี้ไม่ได้ทำเพื่อโปรโมทใดๆทั้งสิ้น แต่ทำขึ้นเพื่อรีวิวให้คนที่สนใจจะไปทัวร์ที่เกาหลีได้มีแนวทางในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น
เรามาเริ่มกันเลย!
โปรแกรมทัวร์ Romantic spring นี้เราได้มาในราคา 15900บาทจากบริษัทแห่งหนึ่งที่เป็นเอเจนซี่จัดหาทัวร์ให้ และส่งให้กับบริษัททัวร์นั้นเอง
พอเราจองทัวร์เสร็จพร้อมชำระเงินเรียบร้อย หลังจากนั้นก็ได้เวลาเตรียมตัวพร้อมออกเดินทางกัน
โปรแกรมทัวร์เกาหลี Romantic Spring 5วัน 3คืนแบบคร่าวๆ
DAY1: วันออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ไปยังสนามบินอินชอนประเทศเกาหลีใต้
DAY2: เกาะวอลมิโด(Wolmido Island) ,เกาะนามิ(Nami Island) , หมู่บ้านAnsan Starlight Village
DAY3: ป้อมฮวาซอง ,สวนสนุกเอเวอร์แลนด์, โรงเรียนกิมจิ , ศูนย์โสม ,Cosmatic Shop , Trick Eye Museum , Ice Museum , ตลาดทงแดมุน
DAY4: โซลทาวเวอร์,บลูเฮ้าท์, พระราชวังเคียงบ๊อคคุง, น้ำมันสนเข็มแดง , ศูนย์สมุนไพร , พลอยอเมทิส, Duty Free , ตลาดเมียงดง
DAY5: ซุปเปอร์มาร์เก็ต สนามบินอินชอนเกาหลีใต้ สู้สนามบินดอนเมืองกรุงเทพ
DAY 1
วันออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง โดยถึงสนามบินช่วงเวลาที่ทัวร์นัดเรา และทำการเช็คอินโหลดกระเป๋า การเดินทางครั้งที่ได้ใช้บริการของสายการบินAir Asia X (ในส่วนตัวนั้นไม่ชอบในการบริการไป-กลับของสายการบินนี้สักเท่าไหร่ เพราะเคยนั่งสายการบินEastar Jetของเกาหลี เขาบริการดียิ้มแย้มมากกว่าสาวไทยบนเครื่องบินเป็นอย่างมาก แต่ก็มีบางท่านที่บริการดีและน่ารัก ) หลังจากโหลดประเป๋าเสร็จก็เดินเล่นนั่งรอGateเปิด ซึ่งเวลาที่เดินทางจะเป็นช่วงเวลาดึก ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดแล้ว เราจึงไปรอแถวหน้าGate รอเวลาขึ้นเครื่อง ...หลังจากนั้นได้ขึ้นเครื่องก็ถึงเวลานอน แต่ทางเครื่องบินจะมีบริการอาหารสำหรับทัวร์ของเรา แต่ต้องแสดงตั๋วโดยสารเพื่อยืนยัน อาหารจะเป็นบริการจากทัวร์ที่เตรียมไว้ให้เรา ถ้าใครเดินทางเองจะไม่มีให้นะคะ
DAY 2
เราจะมาถึงสนามบินอินชอนในช่วงเวลาตอนเช้า ก็ทำการตรวจคนเข้าเมือง มากับทัวร์เราจะได้ต้องกรอบนผ่านตม.เอง ทางบริษัทจะเตรียมไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว แค่เซ็นชื่อแล้วต่อแถวยื่นผ่านได้เลย แต่ตอนนี้มีคนหนีเข้ามาทำงานและอาศัยในประเทศเกาหลีใต้มากขึ้น ทำให้การผ่านตม.นั้นยากยิ่งขึ้น หากไม่ผ่านตม.ทางทัวร์จะไม่มีการรับผิดชอบใดๆทั้งสิน แนะนำให้เตรียมเอกสารไปเผื่อในการยืนยันตัวตนว่าเราจะไม่หลบหนีแน่นอน อย่างเช่นใบรับรองจากมหาลัยและบัตรนักศึกษาในกรณีที่ยังเรียนอยู่ หรือใบรับรองการทำงานจากบริษัทที่ทำงาน เป็นต้น
หลังจากผ่านตม.ก็จะไปรอกระเป๋าที่สายพานและหัวหน้าทัวร์จะรออยู่ที่สายพาน หลังจากนั้นพอคนมากันครบก็จะออกไปเจอไกด์พร้อมกัน หลังจากนั้นก็จะพาขึ้นรถทัวร์พร้อมออกเดินทางกัน
หลังจากขึ้นรถออกเดินทางนั้นไกด์ก็จะแนะนำเกี่ยวกับประเทศเกาหลีไปเรื่อยๆ
สถานที่แรกที่เราจะไปนั้นคือ
เกาะวอลมิโด หรือ
Wolmido Island นั้นเอง
เกาะวอลมิโด
จะเป็นที่พักผ่อนริมทะเลสำหรับหนุ่มสาวเกาหลี ได้ยินคำว่าริมทะเล อย่าคิดว่าเป็นหาดทรายขาวสวยแบบบ้านเรานะคะ ที่เราเขาไม่ได้เป็นหาดทราย แต่เป็นเหมือนท่าเรื่อ ข้างทางจะมีขายของต่างๆ ทั้งของกิน ของเล่น ของฝาก และก็ยังมีเครื่องเล่น
จากนั้นไกด์ก็จะพาเราไปทาน
จาจังเมียน หรือ
บะหมี่ดำ ที่เป็นของขึ้นชื่อของเกาหลี เป็นอาหารที่หาทานได้ง่ายและพบในซีรี่เกาหลีหลายๆเรื่อง
จาจังเมียน
หมดวันที่2แล้ว ขอพักแล้วเดียวมาต่อวันที่3กันน้า
ปล.รูปภาพไม่สวย สาระไม่มี ขออภัยด้วยจ้า
แก้ไข : แก้ไขรูปให้ใหญ่ขึ้นนิดนึงน้า
[CR] Review!! เที่ยวเกาหลีสไตล์ Romantic Spring กับสองสาวแม่ลูกออนทัวร์
5วัน 3คืน (4วัน 3คืน)
อันยองฮาเซโยชาวพันทิปทุกคนค่า
พอดีช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาหลีมา เลยอย่างมาแบ่งปันประสบการณ์ท่องเที่ยวกับทัวร์ ตามสไตล์คนที่ไม่ชอบศึกษาหาทางท่องเที่ยว จองตั๋ว หาที่พัก หาการเดินทาง หาที่ท่องเที่ยวด้วยตัวเองแบบเรา
ในช่วงที่เดินทางนั้นเป็นช่วงเดือนมิถุนายนนั้น จะเป็นหน้าSummerของที่เกาหลี ทุกคนก็จะออกมาเที่ยวกันในหน้านี้ ทำให้เวลาไปเที่ยวไหนจะคึกคัก เห็นวัยรุ่นเกาหลีเดินสวีทกันเต็มไปหมด จนอิจฉาตาร้อนกันเลยที่เดียว
ปล. กระทู้นี้ไม่ได้ทำเพื่อโปรโมทใดๆทั้งสิ้น แต่ทำขึ้นเพื่อรีวิวให้คนที่สนใจจะไปทัวร์ที่เกาหลีได้มีแนวทางในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น
เรามาเริ่มกันเลย!
โปรแกรมทัวร์ Romantic spring นี้เราได้มาในราคา 15900บาทจากบริษัทแห่งหนึ่งที่เป็นเอเจนซี่จัดหาทัวร์ให้ และส่งให้กับบริษัททัวร์นั้นเอง
พอเราจองทัวร์เสร็จพร้อมชำระเงินเรียบร้อย หลังจากนั้นก็ได้เวลาเตรียมตัวพร้อมออกเดินทางกัน
โปรแกรมทัวร์เกาหลี Romantic Spring 5วัน 3คืนแบบคร่าวๆ
DAY1: วันออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ไปยังสนามบินอินชอนประเทศเกาหลีใต้
DAY2: เกาะวอลมิโด(Wolmido Island) ,เกาะนามิ(Nami Island) , หมู่บ้านAnsan Starlight Village
DAY3: ป้อมฮวาซอง ,สวนสนุกเอเวอร์แลนด์, โรงเรียนกิมจิ , ศูนย์โสม ,Cosmatic Shop , Trick Eye Museum , Ice Museum , ตลาดทงแดมุน
DAY4: โซลทาวเวอร์,บลูเฮ้าท์, พระราชวังเคียงบ๊อคคุง, น้ำมันสนเข็มแดง , ศูนย์สมุนไพร , พลอยอเมทิส, Duty Free , ตลาดเมียงดง
DAY5: ซุปเปอร์มาร์เก็ต สนามบินอินชอนเกาหลีใต้ สู้สนามบินดอนเมืองกรุงเทพ
วันออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง โดยถึงสนามบินช่วงเวลาที่ทัวร์นัดเรา และทำการเช็คอินโหลดกระเป๋า การเดินทางครั้งที่ได้ใช้บริการของสายการบินAir Asia X (ในส่วนตัวนั้นไม่ชอบในการบริการไป-กลับของสายการบินนี้สักเท่าไหร่ เพราะเคยนั่งสายการบินEastar Jetของเกาหลี เขาบริการดียิ้มแย้มมากกว่าสาวไทยบนเครื่องบินเป็นอย่างมาก แต่ก็มีบางท่านที่บริการดีและน่ารัก ) หลังจากโหลดประเป๋าเสร็จก็เดินเล่นนั่งรอGateเปิด ซึ่งเวลาที่เดินทางจะเป็นช่วงเวลาดึก ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดแล้ว เราจึงไปรอแถวหน้าGate รอเวลาขึ้นเครื่อง ...หลังจากนั้นได้ขึ้นเครื่องก็ถึงเวลานอน แต่ทางเครื่องบินจะมีบริการอาหารสำหรับทัวร์ของเรา แต่ต้องแสดงตั๋วโดยสารเพื่อยืนยัน อาหารจะเป็นบริการจากทัวร์ที่เตรียมไว้ให้เรา ถ้าใครเดินทางเองจะไม่มีให้นะคะ
เราจะมาถึงสนามบินอินชอนในช่วงเวลาตอนเช้า ก็ทำการตรวจคนเข้าเมือง มากับทัวร์เราจะได้ต้องกรอบนผ่านตม.เอง ทางบริษัทจะเตรียมไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว แค่เซ็นชื่อแล้วต่อแถวยื่นผ่านได้เลย แต่ตอนนี้มีคนหนีเข้ามาทำงานและอาศัยในประเทศเกาหลีใต้มากขึ้น ทำให้การผ่านตม.นั้นยากยิ่งขึ้น หากไม่ผ่านตม.ทางทัวร์จะไม่มีการรับผิดชอบใดๆทั้งสิน แนะนำให้เตรียมเอกสารไปเผื่อในการยืนยันตัวตนว่าเราจะไม่หลบหนีแน่นอน อย่างเช่นใบรับรองจากมหาลัยและบัตรนักศึกษาในกรณีที่ยังเรียนอยู่ หรือใบรับรองการทำงานจากบริษัทที่ทำงาน เป็นต้น
หลังจากผ่านตม.ก็จะไปรอกระเป๋าที่สายพานและหัวหน้าทัวร์จะรออยู่ที่สายพาน หลังจากนั้นพอคนมากันครบก็จะออกไปเจอไกด์พร้อมกัน หลังจากนั้นก็จะพาขึ้นรถทัวร์พร้อมออกเดินทางกัน
หลังจากขึ้นรถออกเดินทางนั้นไกด์ก็จะแนะนำเกี่ยวกับประเทศเกาหลีไปเรื่อยๆ
สถานที่แรกที่เราจะไปนั้นคือ
เกาะวอลมิโด หรือ Wolmido Island นั้นเอง
เกาะวอลมิโด
จะเป็นที่พักผ่อนริมทะเลสำหรับหนุ่มสาวเกาหลี ได้ยินคำว่าริมทะเล อย่าคิดว่าเป็นหาดทรายขาวสวยแบบบ้านเรานะคะ ที่เราเขาไม่ได้เป็นหาดทราย แต่เป็นเหมือนท่าเรื่อ ข้างทางจะมีขายของต่างๆ ทั้งของกิน ของเล่น ของฝาก และก็ยังมีเครื่องเล่น
จากนั้นไกด์ก็จะพาเราไปทาน จาจังเมียน หรือ บะหมี่ดำ ที่เป็นของขึ้นชื่อของเกาหลี เป็นอาหารที่หาทานได้ง่ายและพบในซีรี่เกาหลีหลายๆเรื่อง
จาจังเมียน
การเดินทางจากที่แรกมาเกาะนามินั้น ไกด์บอกใช้เวลาเดินทาง2ชม. แต่วันนั้นเป็นวันเสาร์ คนออกมาเที่ยวนอกบ้านกันเยอะ ทำให้รถติด ใช้เวลาในการเดินทางนั้นถึง4ชม.เต็มๆ เรียกได้ว่าหลับแล้วหลับอีก
เกาะนามิเป็นสถานที่ๆใครๆก็รู้จักดี เพราะมีการถ่ายทำซีรีย์กันหลายเรื่อง แต่ที่เด่นๆเลยก็คือ
เรื่อง Winter Love Song
ในเกาะมีอะไรอีกหลายอย่าง ทั้งรูปปั้น งานต่างๆ ของกิน ของฝาก
แต่เราเก็บภาพมาไม่หมด เพราะเดินไม่ทั่วถึงจึงมีแค่บางส่วน
หลังจากที่ข้ามฝั่งออกมาจากเกาะนามิแล้ว ไกด์ก็จะพาเราไปทาน
ชาบูชาบู หรือ สุกี้หม้อไฟแบบเกาหลี
ชาบูชาบู
ที่มีงานจำลองศิลปะฝรั่งเศสระดับโลกและการจัดไปที่สวยงามให้ได้ถ่ายรูปเล่นกัน
และปิดท้ายด้วยคุณแม่แสนสวย อิอิ
หลังจากนั้นก็กลับที่พัก ซึ่งห้องพักระดับ3ดาวของเกาหลีดีมาก ในห้องดูดี แถมมี Wifi Routerในห้องพักอีกด้วย เน็ตเร็วใช้ได้เลยทีเดียว
หมดวันที่2แล้ว ขอพักแล้วเดียวมาต่อวันที่3กันน้า
ปล.รูปภาพไม่สวย สาระไม่มี ขออภัยด้วยจ้า
แก้ไข : แก้ไขรูปให้ใหญ่ขึ้นนิดนึงน้า