คติธรรมสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)พรหมรังสี
ให้เสียงภาษาไทยโดย ฟ้าทะลายโจร
ประเภท : พุทธศาสนสุภาษิต, ธรรมคำสอน
หมวดหมู่ : กรรม
ตอน ทำไมทำดีแล้วจึงไม่ได้ดี
และเนื้อเรื่องย่อย มงคลที่ 29 การได้เห็นสมณะ
ยกตัวอย่างง่ายๆ เสมือนหนึ่งท่านคิดตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น พอตกเย็นท่านมานั่งทบทวน ท่านก็แยกแยะทบทวนไม่ค่อยออกว่าเวลาไหนท่านมีอกุศลอารมณ์ เวลาไหนมีโทสจริต เวลาไหนมีเมตตาจิต เพราะว่าการเคลื่อนไหวแห่งจิตวิญญาณนี้เร็วยิ่งกว่าอณูปรมาณูทั้งหลาย
เร็วยิ่งกว่าปรอท เพราะฉะนั้นจึงแยกได้ว่า ท่านสร้างกรรมใดไว้ ท่านย่อมจะต้องเสวยกรรมนั้นในภพชาติแน่นอน ..
ทำไมจึงต้องเห็นสมณะ ?
ความสุขทั้งหลายในโลกนี้มีอยู่ ๒ ประเภท คือ
๑. ความสุขที่ต้องอิงวัตถุกามหรือกามสุข เป็นความสุขทางเนื้อหนัง เช่น ได้เห็นรูปส่วย ได้ฟังเพลงเพราะๆ ได้กลิ่นหอมๆ ได้กินอาหารอร่อยๆ ได้สัมผัสที่นุ่มนวล ฯลฯ จัดเป็นความสุขภายนอกที่เห็นกันได้ง่าย
๒. ความสุขที่ไม่ต้องอิงวัตถุ เป็นความสุขที่เกิดขึ้นจากการเจริญ ภาวนาให้ใจสงบและเกิดปัญญา เป็นความสุขของผู้เข้าถึงธรรม จัดเป็นความสุข ภายใน เมื่อเทียบกันแล้ว ความสุขภายในอันเกิดจากความสงบนั้นเป็นสุขที่เลิศกว่าอย่างเทียบไม่ได้ แต่เห็นและเข้าใจได้ยากกว่า
“ คนเราไม่ใช่จะเป็นสมณะเพราะหัวโล้น คนที่ไม่ทำกิจวัตร มีแต่พูดพล่อยๆ มีความริษยากัน เป็นคนละโมบ จะจัดเป็นสมณะได้อย่างไร
คนที่เราตถาคตเรียกว่า สมณะ นั้น จะต้องเป็นผู้ระงับจากการทำบาปน้อยใหญ่เสีย ”
วิดีโอที่ข้าพเจ้าได้ทำขึ้นนี้ จัดทำเพื่อการกุศล เพื่อเผยแพร่ พระธรรมคำสั่งสอน มิได้มีเจตนาจะลบหลู่หรือดูหมิ่นแต่ประการใด ถ้าหากผิดพลาดพลั้งประการใดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
สามารถติดตามและรับข่าวสาร ได้ที่
Facebook page :
https://www.facebook.com/DharmaXP
ทำไมทำดีแล้วจึงไม่ได้ดี - คติธรรมสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)พรหมรังสี
คติธรรมสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)พรหมรังสี
ให้เสียงภาษาไทยโดย ฟ้าทะลายโจร
ประเภท : พุทธศาสนสุภาษิต, ธรรมคำสอน
หมวดหมู่ : กรรม
ตอน ทำไมทำดีแล้วจึงไม่ได้ดี
และเนื้อเรื่องย่อย มงคลที่ 29 การได้เห็นสมณะ
ยกตัวอย่างง่ายๆ เสมือนหนึ่งท่านคิดตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น พอตกเย็นท่านมานั่งทบทวน ท่านก็แยกแยะทบทวนไม่ค่อยออกว่าเวลาไหนท่านมีอกุศลอารมณ์ เวลาไหนมีโทสจริต เวลาไหนมีเมตตาจิต เพราะว่าการเคลื่อนไหวแห่งจิตวิญญาณนี้เร็วยิ่งกว่าอณูปรมาณูทั้งหลาย
เร็วยิ่งกว่าปรอท เพราะฉะนั้นจึงแยกได้ว่า ท่านสร้างกรรมใดไว้ ท่านย่อมจะต้องเสวยกรรมนั้นในภพชาติแน่นอน ..
ทำไมจึงต้องเห็นสมณะ ?
ความสุขทั้งหลายในโลกนี้มีอยู่ ๒ ประเภท คือ
๑. ความสุขที่ต้องอิงวัตถุกามหรือกามสุข เป็นความสุขทางเนื้อหนัง เช่น ได้เห็นรูปส่วย ได้ฟังเพลงเพราะๆ ได้กลิ่นหอมๆ ได้กินอาหารอร่อยๆ ได้สัมผัสที่นุ่มนวล ฯลฯ จัดเป็นความสุขภายนอกที่เห็นกันได้ง่าย
๒. ความสุขที่ไม่ต้องอิงวัตถุ เป็นความสุขที่เกิดขึ้นจากการเจริญ ภาวนาให้ใจสงบและเกิดปัญญา เป็นความสุขของผู้เข้าถึงธรรม จัดเป็นความสุข ภายใน เมื่อเทียบกันแล้ว ความสุขภายในอันเกิดจากความสงบนั้นเป็นสุขที่เลิศกว่าอย่างเทียบไม่ได้ แต่เห็นและเข้าใจได้ยากกว่า
“ คนเราไม่ใช่จะเป็นสมณะเพราะหัวโล้น คนที่ไม่ทำกิจวัตร มีแต่พูดพล่อยๆ มีความริษยากัน เป็นคนละโมบ จะจัดเป็นสมณะได้อย่างไร
คนที่เราตถาคตเรียกว่า สมณะ นั้น จะต้องเป็นผู้ระงับจากการทำบาปน้อยใหญ่เสีย ”
วิดีโอที่ข้าพเจ้าได้ทำขึ้นนี้ จัดทำเพื่อการกุศล เพื่อเผยแพร่ พระธรรมคำสั่งสอน มิได้มีเจตนาจะลบหลู่หรือดูหมิ่นแต่ประการใด ถ้าหากผิดพลาดพลั้งประการใดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
สามารถติดตามและรับข่าวสาร ได้ที่
Facebook page : https://www.facebook.com/DharmaXP