อาทิตย์ หรรษา ... สวัสดีคะ มิตรรักแฟนรายการเชฟกระทะหลุด แม่ครัวบี๊ (บ่งบ๊ง)
ห่างหายไปแต่ไม่ถึงกับเข้าห้องก้นครัวไม่ได้ ด้วยเหตุผล หลงลืม "password" นำทาง
มีชาวก้นครัวหลายคนที่ไม่สามารถเข้าห้องก้นครัวได้ เพราะเขาลืมทางเข้าไปแล้วคะ
วันนี้บ่งบ๊ง(ศรี) มีน้ำพริกกะปิสูตรโบราณมาฝาก เชื่อว่าหลายท่านคงไม่เคยเห็น ไม่รู้จัก
ขอบอกว่าเป็นสูตรอร่อยของบ้านเรา ซึ่งตัวแม่ครัวบี๊เองก็หลงลืมน้ำพริกชนิดไปแล้วนะคะ
จนมีผู้หวังดีมาช่วยเตือนความจำให้ นับแต่วันนั้นมาเราก็ยึดสูตรนี้มาโดยตลอด ถูกใจมาก
อยากนำมาบอกเล่าที่ห้องก้นครัว เพื่อเป็นอีกทางเลือกยามที่ลูกมะนาวมีราคาแพงโหด
น้ำพริกกะปิของไทย หน้าตาอลังการ กลิ่นและรสชาติ สุดแสนคลาสสิค จริงนะ
น้ำพริกกะปิมะกรูด
ส่วนประกอบ
กะปิเคย 3 ชต.
กุ้งแห้งป่น 2 ชต.
กระเทียมกลีบเล็ก 3 ชต.
ลูกมะกรูด 4 ลูก (คั้นน้ำ)
พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด
พริกชี้ฟ้าเขียว 1 เม็ด
พริกชี้ฟ้าเหลือง 2 เม็ด
พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
น้ำปลา 2 ชต.
น้ำตาลปีบ 3 ชต.
น้ำสุก 3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบแบบข้นๆ ก็ไม่ต้องใส่น้ำ)
กุ้งสด ลวกแล้วหั่นสำหรับโรยหน้า
ผักสดชนิดต่าง ๆ
วิธีทำ
นำกะปิและกระเทียมใส่ครกโขลกให้ละเอียด พริกชี้ฟ้าสามสี ตัดเป็นท่อน ๆ ลงโขลกหยาบ
ตามด้วยพริกขี้หนูสวน (ใส่ทั้งสีแดงและสีเขียว) ใส่กุ้งแห้งลงโขลกให้เข้ากัน
ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาลปีบ, น้ำมะกรูด, คนผสมให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ
ก่อนนำเสริฟ นำกุ้งสดลวกต้มให้สุก หั่นชิ้นตามขวางแล้วโรยหน้าน้ำพริก
หมายเหตุ - น้ำพริกกะปิสูตรนี้ได้ความเปรี้ยวจากน้ำมะกรูดที่เปรี้ยวพอ ๆ กับน้ำมะนาว
มีกลิ่นของมะกรูดที่หอมเย็นและไม่ฉุน น้ำพริกสูตรนี้รับประทานกับไข่เจียวร้อน ๆ อร่อยมาก
บีบน้ำมะกรูดลงไป
คนผสมให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ ถ้าชอบหวานก็ใส่เพิ่มน้ำตาลปีบลงไป
ชอบเปรี้ยวอีกนิดก็เติมน้ำมะกรูด หรือจะเพิ่มน้ำมะนาวไปสักลูกก็แจ๋วนะคะ
จำได้แม่นคะ ตอนเป็นเด็กน้อย เห็นคุณย่าตำน้ำพริกด้วยพริกชี้ฟ้าสามสีแบบนี้
จนได้มาเห็นในตำราอาหารสูตรโบราณราชสำนัก ซึ่งมีน้ำพริกชนิดนี้บรรจุไว้ด้วย
ถึงได้ทราบว่านี่คือน้ำพริกกะปิสูตรโบราณ(ชาววัง) นี่เอง เขาเรียกน้ำพริกชนิดข้น
ยามที่มะนาวมีราคาแพง โหดเกิน ลูกละ 8-10 บาท เราก็ไม่ง้อ ไม่ต้องบีบน้ำมะนาวก็ได้
เลือกใส่น้ำมะกรูดแทนก็ได้ เน๊อะ เพราะน้ำมะกรูดก็ให้ความเปรี้ยวไม่แพ้น้ำมะนาวนะคะ
แต่ถ้าใครที่ชอบทานรสเปรี้ยวจัด ทานเปรี้ยวมาก บ่งบ๊งแนะนำให้บีบน้ำมะนาวไป 1 ลูก
ถามว่าทำไม? เพราะถ้าใส่มะกรูดมากไป เกรงว่ากลิ่นของมะกรูดจะกลบกลิ่นหอมของกะปิ
ไม่ได้หมายความว่าน้ำมะกรูดไม่เปรี้ยวนะคะ แต่ด้วยที่กลิ่นของผิวมะกรูดนั้นหอมฉุนมาก
แต่ถ้าคนชอบกลิ่นหอมสดชื่นของมะกรูด จะไม่หวั่น เรียกว่าจัดหนักน้ำมะกรูดกันเลยเชียว
ก่อนเสริฟ โรยหน้าด้วยกุ้งสดต้มหั่นเป็นชิ้น โรยหน้าให้ทั่ว เพิ่มมูลค่าและได้อรรถรสมาก
เป็นอีกทางเลือกยามที่มะนาวแพงแบบจับไม่ลง ถามราคาแล้วต้องวางกลับที่เดิม แพงเกิน
สมัยก่อนมะนาวหน้าแล้ง ช่วงประมาณเดือนเมษาฯ มะนาวนอกฤดูกาล ราคาจะแพงมาก ๆๆๆ
แต่ปัจจุบันนี้แพงได้ตลอด เดือนสองเดือนที่ผ่านมาราคาเริ่มต้นลูกละ 4 -5 บาทไปแล้วนะคะ
หลังจากที่บ่งบ๊งนำสูตรไปแปะไว้ที่แฟนเพจ@เพสบุ๊ค มีคนทำมาส่งการบ้านหลายคนแล้วคะ
ด้วยที่เขาไม่เคยเห็น ไม่รู้จักจึงอยากลองว่ามันอร่อยและเปรี้ยวแทนน้ำมะนาวได้ไหมหนอ
น้ำพริกกะปิถ้วยต่อไปที่บ้านของท่าน ลองทำน้ำพริกมะกรูดสูตรนี้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนคะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ ขอบคุณมิตรรักแฟนรายการที่แวะมาเยี่ยมเสมอ ๆ
[CR] +*""*+ น้ำพริกมะกรูด อร่อยเหาะโดยไม่ง้อมะนาว(แพง) +*""*+
อาทิตย์ หรรษา ... สวัสดีคะ มิตรรักแฟนรายการเชฟกระทะหลุด แม่ครัวบี๊ (บ่งบ๊ง)
ห่างหายไปแต่ไม่ถึงกับเข้าห้องก้นครัวไม่ได้ ด้วยเหตุผล หลงลืม "password" นำทาง
มีชาวก้นครัวหลายคนที่ไม่สามารถเข้าห้องก้นครัวได้ เพราะเขาลืมทางเข้าไปแล้วคะ
วันนี้บ่งบ๊ง(ศรี) มีน้ำพริกกะปิสูตรโบราณมาฝาก เชื่อว่าหลายท่านคงไม่เคยเห็น ไม่รู้จัก
ขอบอกว่าเป็นสูตรอร่อยของบ้านเรา ซึ่งตัวแม่ครัวบี๊เองก็หลงลืมน้ำพริกชนิดไปแล้วนะคะ
จนมีผู้หวังดีมาช่วยเตือนความจำให้ นับแต่วันนั้นมาเราก็ยึดสูตรนี้มาโดยตลอด ถูกใจมาก
อยากนำมาบอกเล่าที่ห้องก้นครัว เพื่อเป็นอีกทางเลือกยามที่ลูกมะนาวมีราคาแพงโหด
น้ำพริกกะปิของไทย หน้าตาอลังการ กลิ่นและรสชาติ สุดแสนคลาสสิค จริงนะ
น้ำพริกกะปิมะกรูด
ส่วนประกอบ
กะปิเคย 3 ชต.
กุ้งแห้งป่น 2 ชต.
กระเทียมกลีบเล็ก 3 ชต.
ลูกมะกรูด 4 ลูก (คั้นน้ำ)
พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด
พริกชี้ฟ้าเขียว 1 เม็ด
พริกชี้ฟ้าเหลือง 2 เม็ด
พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
น้ำปลา 2 ชต.
น้ำตาลปีบ 3 ชต.
น้ำสุก 3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบแบบข้นๆ ก็ไม่ต้องใส่น้ำ)
กุ้งสด ลวกแล้วหั่นสำหรับโรยหน้า
ผักสดชนิดต่าง ๆ
วิธีทำ
นำกะปิและกระเทียมใส่ครกโขลกให้ละเอียด พริกชี้ฟ้าสามสี ตัดเป็นท่อน ๆ ลงโขลกหยาบ
ตามด้วยพริกขี้หนูสวน (ใส่ทั้งสีแดงและสีเขียว) ใส่กุ้งแห้งลงโขลกให้เข้ากัน
ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาลปีบ, น้ำมะกรูด, คนผสมให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ
ก่อนนำเสริฟ นำกุ้งสดลวกต้มให้สุก หั่นชิ้นตามขวางแล้วโรยหน้าน้ำพริก
หมายเหตุ - น้ำพริกกะปิสูตรนี้ได้ความเปรี้ยวจากน้ำมะกรูดที่เปรี้ยวพอ ๆ กับน้ำมะนาว
มีกลิ่นของมะกรูดที่หอมเย็นและไม่ฉุน น้ำพริกสูตรนี้รับประทานกับไข่เจียวร้อน ๆ อร่อยมาก
บีบน้ำมะกรูดลงไป
คนผสมให้เข้ากันดี ชิมรสตามชอบ ถ้าชอบหวานก็ใส่เพิ่มน้ำตาลปีบลงไป
ชอบเปรี้ยวอีกนิดก็เติมน้ำมะกรูด หรือจะเพิ่มน้ำมะนาวไปสักลูกก็แจ๋วนะคะ
จำได้แม่นคะ ตอนเป็นเด็กน้อย เห็นคุณย่าตำน้ำพริกด้วยพริกชี้ฟ้าสามสีแบบนี้
จนได้มาเห็นในตำราอาหารสูตรโบราณราชสำนัก ซึ่งมีน้ำพริกชนิดนี้บรรจุไว้ด้วย
ถึงได้ทราบว่านี่คือน้ำพริกกะปิสูตรโบราณ(ชาววัง) นี่เอง เขาเรียกน้ำพริกชนิดข้น
ยามที่มะนาวมีราคาแพง โหดเกิน ลูกละ 8-10 บาท เราก็ไม่ง้อ ไม่ต้องบีบน้ำมะนาวก็ได้
เลือกใส่น้ำมะกรูดแทนก็ได้ เน๊อะ เพราะน้ำมะกรูดก็ให้ความเปรี้ยวไม่แพ้น้ำมะนาวนะคะ
แต่ถ้าใครที่ชอบทานรสเปรี้ยวจัด ทานเปรี้ยวมาก บ่งบ๊งแนะนำให้บีบน้ำมะนาวไป 1 ลูก
ถามว่าทำไม? เพราะถ้าใส่มะกรูดมากไป เกรงว่ากลิ่นของมะกรูดจะกลบกลิ่นหอมของกะปิ
ไม่ได้หมายความว่าน้ำมะกรูดไม่เปรี้ยวนะคะ แต่ด้วยที่กลิ่นของผิวมะกรูดนั้นหอมฉุนมาก
แต่ถ้าคนชอบกลิ่นหอมสดชื่นของมะกรูด จะไม่หวั่น เรียกว่าจัดหนักน้ำมะกรูดกันเลยเชียว
ก่อนเสริฟ โรยหน้าด้วยกุ้งสดต้มหั่นเป็นชิ้น โรยหน้าให้ทั่ว เพิ่มมูลค่าและได้อรรถรสมาก
เป็นอีกทางเลือกยามที่มะนาวแพงแบบจับไม่ลง ถามราคาแล้วต้องวางกลับที่เดิม แพงเกิน
สมัยก่อนมะนาวหน้าแล้ง ช่วงประมาณเดือนเมษาฯ มะนาวนอกฤดูกาล ราคาจะแพงมาก ๆๆๆ
แต่ปัจจุบันนี้แพงได้ตลอด เดือนสองเดือนที่ผ่านมาราคาเริ่มต้นลูกละ 4 -5 บาทไปแล้วนะคะ
หลังจากที่บ่งบ๊งนำสูตรไปแปะไว้ที่แฟนเพจ@เพสบุ๊ค มีคนทำมาส่งการบ้านหลายคนแล้วคะ
ด้วยที่เขาไม่เคยเห็น ไม่รู้จักจึงอยากลองว่ามันอร่อยและเปรี้ยวแทนน้ำมะนาวได้ไหมหนอ
น้ำพริกกะปิถ้วยต่อไปที่บ้านของท่าน ลองทำน้ำพริกมะกรูดสูตรนี้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนคะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ ขอบคุณมิตรรักแฟนรายการที่แวะมาเยี่ยมเสมอ ๆ