ดวงใจเทพบุตร

กระทู้สนทนา



เกริ่นนำ

บนโลกใบนี้ พระเจ้าได้สร้างสรรพสิ่งไว้ตั้งมากมาย โดยเฉพาะสรรพสิ่งที่เรียกว่าผู้หญิง นับเป็นสิ่งสวยงามที่สามารถจับต้องได้ เล้าโลมได้ มันช่างเป็นสิ่งที่น่าเย้ายวนใจซึ่งนำมาสู่ปรารถนาอันแรงกล้าของอีกสรรพสิ่งที่เรียกว่าผู้ชาย และมันก็ยากที่จะหักห้ามใจ
ก็นี่แหละนะ มนุษย์

    แต่หากเปรียบผู้หญิงสวยแล้ว ก็เหมือนดอกไม้งามกลางฝูงผึ้งแต่ฝูงผึ้งเหล่านั้นจะไม่ยอมหยุดแค่ดอกไม้งามเพียงดอกเดียว หากแต่จะสรรหาน้ำหวานจากดอกไม้ดอกอื่นๆ ไปด้วย แต่ฝูงผึ้งเหล่านั้นจะรู้ไหมว่า...น้ำหวานจากดอกไม้เหล่านั้นแท้จริงแล้ว มันมีพิษร้ายแรงมากแค่ไหน

ธนานั่งก้มหน้านิ่ง สีหน้าดูหมองเศร้า เมื่อหวนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงประมาณเก้าเดือนก่อน เพราะความเจ้าชู้ของเขาแท้ๆ ชายหญิงคู่หนึ่งพบเจอกันในผับชื่อดัง ใช้ระยะเวลาแค่เพียงสั้นๆ เพื่อทำความรู้จักกัน มีความสุขด้วยกันจนกระทั่งทำให้เด็กคนหนึ่งต้องลืมตาขึ้นมาดูโลกแถมแม่ผู้ให้กำเนิดยังไม่คิดจะเอาไปเลี้ยงอีก หลังจากคลอดเด็กน้อยนัยน์ตาสีฟ้าแล้ว เธอก็หนีกลับประเทศตัวเองและก็คงไม่คิดจะกลับมาเมืองไทยอีก

“จะเอายังไงกับเด็กคนนี้ เห็นหรือยัง ว่าความเจ้าชู้ไม่เลือกหน้าของแกสร้างปัญหามากแค่ไหน ทำไมถึงไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ เคยคิดบ้างไหมว่าผลจากความมักง่ายของแกจะเกิดอะไรขึ้นมาในภายหลังบ้าง”

เสียงคุณหญิงรวยมณี ผู้เป็นเสาหลักของบ้านดังขึ้น เมื่อมองมายังเด็กน้อยหน้าตาน่าเกลียดน่าชังที่กำลังนอนอยู่บนตักของสร่างผู้เป็นลูกสะใภ้ ธนาผู้เป็นลูกชายยังคงก้มหน้ารับชะตากรรมของตัวเอง เมื่อถูกอความกระหายในตัวผู้หญิงครอบงำทั้งที่ตนก็แต่งงานแล้ว คราวนี้ธนาดันไปมั่วกับผู้หญิงชาวต่างชาติกระทั่งเธอท้องป่องโดยบอกว่าเป็นลูกของธนา และก็คงจะทำแท้งไปแล้วหากธนาไม่ขอร้องให้ช่วยเก็บเด็กคนนี้เอาไว้

“ก็แล้วแต่คุณแม่ละกันครับ ผมไม่มีความคิดเห็นใดๆ ถ้าคุณแม่เห็นว่าควรเอาเด็กคนนี้ไปให้สถานเด็กกำพร้าเลี้ยง ผมก็จะรีบดำเนินการทันที หรือหากต้องการจะตรวจดี เอ็น เอ ผมก็ไม่ขัดข้องครับ” ธนาว่า น้ำเสียงดูเหนื่อยๆ หันมาทางสร่างผู้เป็นภรรยาอย่างสำนึกผิด สร่างจับมือสามีเชิงให้กำลังใจ ปรายตามองผู้เป็นแม่สะใภ้แล้วถือโอกาสเอ่ย

“คุณแม่ค่ะ จะเป็นอะไรไหมคะถ้าหากสร่างอยากจะขอเด็กคนนี้มาเป็นลูกของสร่าง เด็กน้อยหน้าตาน่ารักแถมยังเป็นเด็กผู้ชายอีก คุณแม่เคยบอกว่าอยากได้หลานชายมาก ตอนนี้ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะเลี้ยงเด็กคนนี้ให้เติบโตขึ้นมาในฐานะ ทายาทคนหนึ่งของสุริยะทรัพย์”

“แต่ มันจะดีหรือ ถ้าผลดีเอ็นเอ ตรวจพบว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของธนา เธอจะรับได้หรือแม่สร่าง เท่ากับเอาลูกตาสีตาสาที่ไหนไม่รู้มาเลี้ยง” คุณหญิงรวยมณีบอกลูกสะใภ้ ใจจริงอยากตรวจตั้งแต่เด็กคลอดแล้วแต่เพราะใจท่านเองก็กลัวอยู่ลึกๆ เหมือนกัน ท่านเคยอยากได้หลานชายที่เกิดมาจากท้องสร่างแต่คงหมดหวังแล้วเพราะตอนตรวจร่างกายหมอบอกว่าสร่างเป็นหมัน

“งั้นเราก็อย่าตรวจเลยสิค่ะ ดีเอ็นเอนะ ยังไงผู้หญิงคนนั้นก็ทิ้งลูกตัวเองไปแล้ว เธอไม่ได้ต้องการเด็กคนนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นเราควรใช้โอกาสนี้ทำให้เด็กคนนี้เป็นลูกของคุณธนากับสร่างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แบบนี้ดีไหมคะคุณแม่ ดีกว่าทิ้งให้เด็กไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแบบนั้น เพราะหากเป็นลูกของคุณธนาจริงๆ เด็กคนนี้ก็เท่ากับเป็นหลานของคุณแม่ด้วย” สร่างอธิบายและพยายามโน้มน้าวให้คุณหญิงรวยมณีคิดตาม     

“ว่ายังไง ธนา จะเอาอย่างที่เมียเราว่าไหม” คุณหญิงรวยมณีถามลูกชายสีหน้าราบเรียบ ฝ่ายธนาเริ่มยิ้มออกเมื่อรู้สึกว่าปัญหาที่หนักอกกำลังจะคลี่คลายแล้ว รีบเออออตามภรรยา

“ผมเห็นด้วยกับสร่างนะครับ เด็กคนนี้ไม่ได้ทำผิดอะไร ในเมื่อสร่างไม่สามารถมีลูกให้ผมได้ ดังนั้น น่าจะเป็นการดีหากเด็กคนนี้จะมาเป็นลูกชายของสร่าง” ธนาเอ่ยและคิดว่าการมีเด็กคนนี้เป็นลูกชายของสร่างจะช่วยแก้ปมเศร้าของสร่างได้ เพราะสร่างอยากมีลูกมาก

“ถ้าคิดกันแบบนั้น แม่ก็ไม่ขัดข้อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องถามญาติคนอื่นๆ ด้วยว่าพวกเขาจะยอมให้เด็กคนนี้มาใช้นามสกุลสุริยะทรัพย์ร่วมกับพวกเขาไหม” คุณหญิงรวยมณีว่า สายตาที่มองมายังเด็กน้อยตาสีฟ้าดูอ่อนโยนลงก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าขรึมจัดเหตุเพราะต้องรับลูกของผู้หญิงชาวต่างชาติมาเป็นหลาน เพราะถึงยังไงเด็กน้อยคนนี้ เลือดครึ่งหนึ่งในตัวก็เป็นของหญิงชาวต่างชาติคนนั้น

30 ปีผ่านไป
ณ ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง ผู้คนหนาแน่นผิดวันธรรมดา อาจเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงทำให้มีผู้มาใช้บริการกันอย่างหนาตา เสียงเพลงดังกระหึ่มและบรรเลงไปตามโปรแกรมที่ดีเจจัดไว้ พร้อมกันนั้นมีนักเต้นเท้าไฟทั้งชายหญิงกำลังวาดลวดลายบนฟลอร์เต้นรำกันอย่างเมามัน

“แดนค่ะ มาเต้นรำกับแอนนี่นะคะ” แอนนี่ นางแบบสาวหุ่นเซ็กซี่สวมเดรสสั้นจู๋จนเป็นจุดสนใจของหนุ่มๆ ในผับ ทวาเธอไม่ได้สนใจเพราะคนที่เธอควงมาด้วยน่าสนใจกว่าตั้งเยอะเพราะเขาเป็นถึงหลานชายคนเดียวของตระกูลเก่าแก่อย่างสุริยะทรัพย์ ตระกูลที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศแต่เมื่อหนุ่มคนที่เธอควงมาเที่ยวผับด้วยยังไม่ยอมลุกจากที่นั่ง หญิงสาวจึงเป็นฝ่ายจัดการลากเขาให้ลุกขึ้นมา


แดน หรือแดเนียล สุริยะทรัพย์ หนุ่มตาสีฟ้าขัดกับใบหน้าที่หล่อเข้มแบบไทยๆ กำลังถูกคู่ควงลากมายังฟลอร์เต้นรำ ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธกลับยอมให้ถูกลากไปอย่างง่ายดาย ทวาสายตาสีฟ้าอันทรงเสน่ห์ของเขากลับส่งพลังดึงดูดไปยังกลุ่มสาวๆ ทั้งหลายและดูเหมือนว่าสาวๆ พวกนั้นจะสนใจเขาเช่นกัน

“แดเนียล คุณรู้ไหมคะ วันนี้แอนนี่มีความสุขมากๆ ขอบคุณนะคะแดเนียล สำหรับการพาแอนนี่มาเปิดหูเปิดตา ตั้งแต่แอนนี่ต้องไปเดินแบบต่างประเทศ แอนนี่ก็ไม่ได้มีความสุขแบบนี้อีกเลย หรือเพราะว่าแอนนี่ไม่ได้อยู่ใกล้คุณกันแน่คะ” แอนนี่ทำสายตาออดอ้อน มือที่เกาะรอบคอแดเนียลเต้นรำอย่างถือสิทธิ์ เผลอจิกสายตามองไปยังกลุ่มสาวๆ ที่กำลังมองแดเนียลตาเป็นมันและดูเหมือนพวกผู้หญิงพวกนั้นจะไม่แคร์สายตาดุๆ ของแอนนี่ซะด้วย

“แต่ว่าตอนนี้ แอนนี่ชักเริ่มไม่สนุกแล้วละซิค่ะ” แอนนี่ว่าก่อนจะเปลี่ยนมากอดแดเนียลแทนเพื่อประกาศให้สาวๆ พวกที่มองแดเนียลตาเป็นมันรู้ว่า ผู้ชายคนนี้มีเจ้าของแล้ว  

“ไม่สนุกแล้วเหรอ งั้น แอนนี่อยากไปไหนต่อละครับ” แดเนียลถาม มือหนากอดกระชับร่างงามแต่สายตาแพรวพราวมองไปยังสาวๆ ที่กำลังเต้นรำอยู่ในฟลอร์เดียวกัน ฝ่ายแอนนี่ก็ฉีกยิ้มอย่างได้ใจใหญ่

“แอนนี่ไม่อยากไปไหนแล้วค่ะ แอนนี่อยากกลับคอนโดมากกว่า” แอนนี่เว้นการพูดก่อนพูดต่อ “แล้วคุณละคะแดเนียล สนใจจะดื่มกาแฟร้อนๆ ที่คอนโดแอนนี่ไหมคะ” แอนนี่พูดมีเลศนัย แดเนียลคลายกอด แล้วจ้องหน้าแอนนี่ สายตาดูเจ้าเล่ห์นิดๆ ก่อนเปลี่ยนมาโอบไหล่แอนนี่ เอ่ยเสียงนุ่ม

“สนใจสิครับ สนใจมาก เพราะผมเองก็ไม่ได้ชิมกาแฟร้อนๆ ที่คอนโดแอนนี่นานแล้วเหมือนกัน ไม่รู้ว่ารสชาติมันจะยังอร่อยเหมือนเดิมหรือเปล่า” แดเนียลว่าพลางทำสายตาเจ้าชู้ แอนนี่ยิ้มแป้น ก่อนทั้งสองจะเดินออกจากผับชื่อดัง

ธนาเดินลงมาจากห้องนอนเพราะสร่าง ผู้เป็นภรรยาไม่ได้เข้ามานอนด้วย ชายหนุ่มลงมายังข้างล่างเห็นไฟในห้องโถงสว่างจึงตัดสินใจเดินเข้าไปแล้วก็พบว่ามีร่างของสร่างกำลังเดินไปเดินมา สีหน้าดูกังวล ธนารู้ในทันทีเพราะไม่มีเรื่องไหนที่จะทำให้ภรรยาของตนเป็นกังวลได้มากเท่าเรื่องแดเนียล

“นี่เจ้าแดนมันยังไม่กลับมาอีกหรือคุณ” ธนาถามเสียงขุ่น นึกไม่ชอบใจที่ลูกชายตัวดีทำตัวเหลวไหล พลอยทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนโดยเฉพาะสร่างภรรยาของตนที่รักแดเนียลเหมือนกับว่าแดเนียลเป็นลูกชายแท้ๆ ของสร่าง

“ยังค่ะ นี่มันจะตีหนึ่งแล้วนะคะ ทำไมถึงยังไม่กลับมาอีกก็ไม่รู้ ฉันร้อนใจจังเลยคะคุณ กลัวตาแดนจะขับรถไปประสบอุบัติเหตุที่ไหนสักแห่ง เอ๊ะ หรือว่า เราจะโทรไปถามที่โรงพยาบาลดีคะ” สร่างเอ่ย สีหน้าดูตื่นตูม ธนารีบห้าม

“ไม่ต้องหรอกคุณ ทำเหมือนไม่รู้จักลูกชายของเราดีอย่างนั้นแหละ แล้วคุณเองก็ควรขึ้นไปนอนได้แล้ว ตีหนึ่งแล้วนะ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้ว ไหนว่าพรุ่งนี้จะลุกขึ้นมาใส่บาตรแต่เช้ายังไงล่ะ”

“แหมคุณก็ ฉันจะมีแก่จิตแก่ใจมาใส่บาตรได้ยังไง จิตใจของฉันหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของตาแดน กลัวจะเกิดเรื่องร้ายๆ กับลูก”

“ก็บอกแล้วยังไง เจ้านี่มันเจ้าเล่ห์ แถมเจ้าชู้เป็นไฟอีก นี่คงจะไปนอนค้างอ้างแรมบ้านสาวที่ไหนสักแห่ง”

“งั้นก็คงเป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้นสินะคะ พ่อเป็นยังไง ลูกก็เป็นอย่างงั้น” สร่างว่า น้ำเสียงแอบมีเคือง ธนาเลิกคิ้วสูง

“อ้าว ทำไมอยู่ดีๆ มาแควะใส่ผมได้ล่ะ คุณสร่าง” ธนาถาม

“ก็ไม่รู้ละ ตาแดนติดนิสัยเจ้าชู้มาตั้งแต่เด็กๆ ที่เป็นแบบนี้มันเป็นเพราะใครถ้าไม่ใช่เพราะ เชื้อพ่อมันแรง” สร่างว่าแล้วทำหน้าบึ้งเดินจากไป ธนายืนมองจนลับก่อนจะทำหน้าเข้มสั่นหน้าไปมา ปากบ่นถึงลูกชาย

“แดนนะแดน ทำพ่อเดือดร้อนอีกจนได้”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่