ได้ยินเสียงสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) รุ่นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
รายหนึ่ง ออกมาบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่ทำลังจะร่างกันอยู่เนี่ย ต้องกันคนอย่าง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกไปนอกสารบบให้ได้
ฟังแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่า ความคิดนี้ดีหรือไม่ดี ถูกหรือไม่ถูก
แต่ฟังแล้วรู้สึกว่า เป็นความคิดที่มีความคั่งแค้นภายในใจ ซึ่งบอกไม่ได้ว่าแค้นกันมา
ตั้งแต่ชาติปางไหน
ทำไมยังแคบและเขลาอยู่กับคนชื่อทักษิณ ทำไมไม่จมอยู่กับประชาชน
ปัญหาของประเทศไทยที่ยังคาราคาซังอยู่จนบัดนี้ก็เป็นเพราะการที่คนบางคนที่รวมกัน
เป็นกลุ่มมิใช่หรือที่ตีโจทย์ไม่แตก ถามอย่างตอบอย่างบ้าง ตอบไม่ตรงคำถามบ้าง ถาม
ไม่ตรงคำตอบก็มี
จนทำให้วิกฤติเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติ เมื่อเราตั้งโจทย์ผิดย่อม
ไม่มีวันที่วิกฤติจะสิ้นไปได้ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน
มนุษย์ 1 คนมีทั้งความดีและความชั่วประกอบกันอยู่ ผมก็มนุษย์ คุณทักษิณก็มนุษย์ คนที่พูด
ว่าต้องกันคนอย่างคุณทักษิณออกไปก็เป็นมนุษย์ ดังนั้นจึงมีทั้งดีและชั่วอยู่ในตัวเหมือนกัน
ผมอาจจะไม่ดีเท่าคนพูด แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นสื่อเลือกข้าง การไม่เลือกข้างอาจจะสร้าง
ความเสียหายน้อยกว่าอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง และอาจเห็นสัจธรรมทางการเมืองมากกว่าก็ได้
โจทย์ที่ผมอยากจะให้ตีไม่ใช่ “ด้านมืด” ของคุณทักษิณ แต่อยากจะให้ตีโจทย์จาก “ด้านสว่าง”
เพื่อเอามาสร้างสรรค์ให้ประเทศและประชาชน ซึ่งหากตีโจทย์ตรงนี้แตกอาจจะไม่ต้องไปเขียน
รัฐธรรมนูญเพื่อ
“กันคนอย่างทักษิณ” ให้เสียเวลา
เพราะคนอย่างคุณทักษิณจะถูกลบเลือนไปจากผู้คนเอง
โจทย์ที่มีก็คือขนาดกันคุณทักษิณออกไปไกลโพ้นแล้ว ทำไมเลือกตั้งทีไร พรรคเพื่อไทย
ของทักษิณได้ที่นั่งมาเป็นที่ 1 ทุกครั้งและการมาเป็นที่ 1 ห่างจากที่ 2 อย่างพรรคประชาธิปัตย์
มากเหลือเกิน
ขนาดล้มเลือกตั้งก็ยังไม่ชนะ ยุบพรรคทักษิณก็ยังแพ้ ตั้งรัฐบาลในค่ายทหารสุดท้ายก็ยังเอา
ชนะไม่ได้อยู่ดี จนต้องใช้วิธีสุดท้ายคือการที่ทหารออกมายึดอำนาจ
ความจริงพวก (บาง) ท่านเคยคิดบ้างหรือไม่ว่า คนที่ไม่ได้ถูกกันออกไปนั่นแหละคือตัววิกฤติ
ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกครับ ยกเว้นเอาข้างเดียวกันนั้นตบไปที่หน้าตัวเอง
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่ เพราะดูเหมือนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
และหัวหน้า คสช.จะตีโจทย์เหล่านี้แตกเพราะ 5 เดือนแห่งการเข้ามายึดอำนาจ
คนจะได้ยิน พล.อ.ประยุทธ์พูดถึงคุณทักษิณน้อยมาก นั่นหมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้แคบ
เขลาและจมอยู่กับทักษิณให้สูญเสียเวลาไปเปล่า
สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์กำลังทำก็คือการมองประชาชนและประเทศไทยเป็นหลักในการแก้ไขไม่ใช่
แก้แค้น “วิธีคิดและวิธีทำ” มันบ่งชี้อย่างนั้นชัดเจน
ทั้งการดำเนินนโยบาย การวางโรดแม็ป โดยเฉพาะการพูดแล้วทำ ทำทั้ง “ไมโครและแม็คโคร”
ไปพร้อมๆกัน
ก็อย่างที่บอกไว้ หากการซ่อมสร้างประเทศไทยสำเร็จ คนก็จะลืม “คนอย่างทักษิณ” ไปเอง
ซึ่งอาจจะไม่ได้ลืมคนอย่างทักษิณเท่านั้น แต่จะลืม “คนอย่างอภิสิทธิ์” ลืม “คนอย่างยิ่งลักษณ์”
แบบลบออกจากหัวสมองไปเลย!
“เจ้าพายุ”
http://www.thairath.co.th/content/455844
กันคนอย่าง “ทักษิณ”โดย เจ้าพายุ ..... คอลัมน์กล้าได้กล้าเสีย ... ไทยรัฐออนไลน์ vs แนวหน้า .... หลายคอลัมน์
รายหนึ่ง ออกมาบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่ทำลังจะร่างกันอยู่เนี่ย ต้องกันคนอย่าง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกไปนอกสารบบให้ได้
ฟังแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่า ความคิดนี้ดีหรือไม่ดี ถูกหรือไม่ถูก
แต่ฟังแล้วรู้สึกว่า เป็นความคิดที่มีความคั่งแค้นภายในใจ ซึ่งบอกไม่ได้ว่าแค้นกันมา
ตั้งแต่ชาติปางไหน
ทำไมยังแคบและเขลาอยู่กับคนชื่อทักษิณ ทำไมไม่จมอยู่กับประชาชน
ปัญหาของประเทศไทยที่ยังคาราคาซังอยู่จนบัดนี้ก็เป็นเพราะการที่คนบางคนที่รวมกัน
เป็นกลุ่มมิใช่หรือที่ตีโจทย์ไม่แตก ถามอย่างตอบอย่างบ้าง ตอบไม่ตรงคำถามบ้าง ถาม
ไม่ตรงคำตอบก็มี
จนทำให้วิกฤติเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติ เมื่อเราตั้งโจทย์ผิดย่อม
ไม่มีวันที่วิกฤติจะสิ้นไปได้ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน
มนุษย์ 1 คนมีทั้งความดีและความชั่วประกอบกันอยู่ ผมก็มนุษย์ คุณทักษิณก็มนุษย์ คนที่พูด
ว่าต้องกันคนอย่างคุณทักษิณออกไปก็เป็นมนุษย์ ดังนั้นจึงมีทั้งดีและชั่วอยู่ในตัวเหมือนกัน
ผมอาจจะไม่ดีเท่าคนพูด แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นสื่อเลือกข้าง การไม่เลือกข้างอาจจะสร้าง
ความเสียหายน้อยกว่าอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง และอาจเห็นสัจธรรมทางการเมืองมากกว่าก็ได้
โจทย์ที่ผมอยากจะให้ตีไม่ใช่ “ด้านมืด” ของคุณทักษิณ แต่อยากจะให้ตีโจทย์จาก “ด้านสว่าง”
เพื่อเอามาสร้างสรรค์ให้ประเทศและประชาชน ซึ่งหากตีโจทย์ตรงนี้แตกอาจจะไม่ต้องไปเขียน
รัฐธรรมนูญเพื่อ “กันคนอย่างทักษิณ” ให้เสียเวลา
เพราะคนอย่างคุณทักษิณจะถูกลบเลือนไปจากผู้คนเอง
โจทย์ที่มีก็คือขนาดกันคุณทักษิณออกไปไกลโพ้นแล้ว ทำไมเลือกตั้งทีไร พรรคเพื่อไทย
ของทักษิณได้ที่นั่งมาเป็นที่ 1 ทุกครั้งและการมาเป็นที่ 1 ห่างจากที่ 2 อย่างพรรคประชาธิปัตย์
มากเหลือเกิน
ขนาดล้มเลือกตั้งก็ยังไม่ชนะ ยุบพรรคทักษิณก็ยังแพ้ ตั้งรัฐบาลในค่ายทหารสุดท้ายก็ยังเอา
ชนะไม่ได้อยู่ดี จนต้องใช้วิธีสุดท้ายคือการที่ทหารออกมายึดอำนาจ
ความจริงพวก (บาง) ท่านเคยคิดบ้างหรือไม่ว่า คนที่ไม่ได้ถูกกันออกไปนั่นแหละคือตัววิกฤติ
ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกครับ ยกเว้นเอาข้างเดียวกันนั้นตบไปที่หน้าตัวเอง
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่ เพราะดูเหมือนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
และหัวหน้า คสช.จะตีโจทย์เหล่านี้แตกเพราะ 5 เดือนแห่งการเข้ามายึดอำนาจ
คนจะได้ยิน พล.อ.ประยุทธ์พูดถึงคุณทักษิณน้อยมาก นั่นหมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้แคบ
เขลาและจมอยู่กับทักษิณให้สูญเสียเวลาไปเปล่า
สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์กำลังทำก็คือการมองประชาชนและประเทศไทยเป็นหลักในการแก้ไขไม่ใช่
แก้แค้น “วิธีคิดและวิธีทำ” มันบ่งชี้อย่างนั้นชัดเจน
ทั้งการดำเนินนโยบาย การวางโรดแม็ป โดยเฉพาะการพูดแล้วทำ ทำทั้ง “ไมโครและแม็คโคร”
ไปพร้อมๆกัน
ก็อย่างที่บอกไว้ หากการซ่อมสร้างประเทศไทยสำเร็จ คนก็จะลืม “คนอย่างทักษิณ” ไปเอง
ซึ่งอาจจะไม่ได้ลืมคนอย่างทักษิณเท่านั้น แต่จะลืม “คนอย่างอภิสิทธิ์” ลืม “คนอย่างยิ่งลักษณ์”
แบบลบออกจากหัวสมองไปเลย!
“เจ้าพายุ”
http://www.thairath.co.th/content/455844