หนึ่งใจในแผ่นดิน ตอนที่ 37

กระทู้สนทนา
ตอนที่ผ่านมาอยู่ คห สุดท้ายค่ะ



แจ้งให้ทราบค่ะ
เนื่องจากว่าผู้เขียนรีไรท์เรื่องราวโดยการตัดทอนความยาวแต่ละตอนให้กระชับ และมีการยกเนื้อหาไปขึ้นตอนถัดไป
ทำให้ลำดับตอนเลื่อนออกค่ะ  แค่เลขลำดับเลื่อนค่ะ แต่เนื้อหาต่อกัน




หนึ่งใจในแผ่นดิน
ตอนที่ 37



         อาการเจ็บปวดของแผลลึกครั้งนี้หนักกว่าครั้งที่ผ่านมา ชายหนุ่มพยายามชันตัวขึ้นนั่งอยากยากลำบาก ขยับตัวเพียงนิดเดียวก็ปวดร้าวจนถึงภายใน

ชายหนุ่มพบว่าเขากำลังอยู่บนเตียงสีขาวกับราวม่านที่ถูกปิดรอบเตียง ที่แบบนี้ต้องเป็นห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่ไหนสักแห่งแน่ๆ แต่เขามาอยู่ที่นี่ได้

อย่างไร

    กลางจับจ้องที่เงาของคนร่างบางหลังผ้าม่าน เสียงย่ำเของเงาที่กำลังเดินเข้ามานั้นคล้ายกับรองเท้าส้นสูงของผู้หญิง และเมื่อผ้าม่านถูกเปิดออก

เขาถึงกับหยุดหายใจเมื่อร่างที่เผยนั้นคือ คุณนายดารา !

หญิงงามปริรอยยิ้มแล้วเดินมานั่งบนเตียงของชายบาดเจ็บ
    
          “เธอนี่ดวงแข็งจริงๆ อยากรู้จังว่าที่ตายยากแบบนี้เป็นเพราะรอยสักสวยงามของเธอหรือเปล่า” ดาราพูดพลางลากปลายเล็บแหลมไปตามกล้ามเนื้อ

หน้าท้องและวนรอบรอยสักของชายหนุ่ม

         “ผมเตือนคุณนายแล้วว่าอย่าไว้ใจมัน !” เสียงชายย้อมผมเดินอาดตามเข้ามาแล้วชี้หน้าเขาอย่างแค้นเคือง

          “มันต้องเป็นสายของตำรวจแน่ๆ ! กระดาษที่ไอ้ป๋องมันยื่นให้เอื้อยก็หายไป ทั้งๆผมเห็นกับตาว่าตำรวจมันโยนไปกองรวมกันในถังขยะนั่น !” เขา

พูดแล้วเดินไปเดินมาอย่างฉุนเฉียว  

          “เธอเอาอะไรมาเป็นหลักฐานว่าหนุ่มน้อยน่ารักคนนี้เป็นสายตำรวจ” หญิงงามพูดพลางมองใบหน้าของคนเจ็บที่ยังนิ่งเฉย

          “นี่ไงล่ะ หลักฐาน !” ลูกน้องคุณนายวางกระดาษห่อหมากฝรั่งสีเขียวบนเตียงข้างมือเธอ ดาราหยิบมันขึ้นมาดูแล้วยิ้มกริ่มเมื่อกระดาษแผ่นนี้มัน

เหมือนกับสินค้าของเธอแทบแยกไม่ออก ถ้าไม่มีข้อความเล็กจิ๋วตรงขอบด้านล่างล่ะก็คงไม่รู้ว่ามันเป็นของเลียนแบบ

          “ดูเหมือนว่าเธอจะชอบอะไรที่สั่งทำพิเศษเฉพาะ” ดาราชูกระดาษแผ่นนั้นด้านที่มีข้อความให้เขา และสิ่งที่เขาเห็นตรงปลายนิ้วเรียวของเธอคือตัว

พิมพ์คำว่า

          ‘ © TRIN DAMROMGKRAILAS’

          กลางพยายามเก็บสีหน้าให้เรียบเฉย แต่ในใจก่นด่าเพื่อนร่วมแผนการไปเรียบร้อยแล้ว ให้ทำลอกเลียนทั้งทีไม่วายลงลิขสิทธิ์ไว้ด้วย แล้วแบบนี้มัน

จะเรียกว่าเลียนแบบได้ยังไงหรือต้องบอกว่าให้เหมือนเป๊ะมันถึงจะเข้าใจ เจอตัวเมื่อไหร่จะด่าให้ยับ

          “ผมก็อยากจะรวยอย่างคุณนายบ้าง ก็เลยทำขายเอง” เขาหาข้อแก้ตัวหลีกเลี่ยงการถูกจับได้

          แต่ดารากลับหัวเราะครื้นกับคำแก้ตัวของชายหนุ่มแล้วลูบหัวเขาอย่างเอ็นดู “นี่สุดหล่อ แต่ของแท้น่ะ มันต้องรสกัญชา ไม่ใช่รสมินท์นะจ๊ะ”

         “มันก็แค่ก้าวแรก ผมก็แค่ทดลองตลาดเท่านั้น” เป็นการหาข้ออ้างที่ยากที่สุดตั้งแต่เกิดมา แต่อย่างน้อยก็ดีตรงที่ผู้หญิงคนนี้ปักใจเชื่อว่าเขาคือ

ตฤณ

          “แต่การทดลองตลาดของเธอทำให้คนแถวนี้หงุดหงิดเอานะ” น้ำเสียงของดารายังบ่งบอกว่าเธอยังอารมณ์ดี และไม่มีทีท่าโกรธเคืองเรื่องที่ตำรวจ

ขอตรวจสารเสพติดแต่อย่างไร

         “คุณนายทำให้ผมเสียลูกน้องที่ไว้ใจได้ไปหนึ่งคน คุณนายก็รู้กว่าผมจะตามหาและรวบรวมได้มันลำบากขนาดพลิกแผ่นดิน คุณนายเลือกให้ลูกน้อง

ของผมตายเพื่อช่วยชีวิตไอ้เด็กที่ไว้ใจไม่ได้ !”

         แต่คนที่เกรี้ยวกราดกลับเป็นลูกน้องของเธอเสียมากกว่า สายตาแค้นเคืองของมันที่มองเขาบอกเขาว่าถ้าฆ่าเขาตอนนี้ได้มันก็จะทำ แต่หญิงสาวตวัด

สายตามองชายผมย้อมสีและเขาหยุดพูดทันที

          “ลูกน้องเธอคนนั้นหมดหนทางช่วยชีวิต เขาตายตั้งแต่วินาทีนั้นแล้ว”

          “มันต้องมีใครอีกคนที่คอยช่วยไอ้เด็กนี่อยู่ ผมเชื่อว่ามันต้องเป็นตำรวจ !”

          เขาเห็นกับตาว่าไอ้หนุ่มนี่ต่อสู้กับลูกน้องของเขาก่อนที่มันจะเสียท่าเป็นฝ่ายถูกยิงที่หน้าอก และลูกน้องของเขากำลังจะส่งวิญญาณของมันโดย

ปล่อยลูกกระสุนอีกนัด แต่ร่างของลูกน้องเขากลับล้มลงหลังจากถูกระเบิดสมองด้วยลูกปืนปริศนาที่วิ่งผ่านซี่ตาข่ายเหล็ก

           “เธอออกไปก่อน ฉันต้องการคุยธุระส่วนตัวกับนายตฤณคนนี้สักหน่อย” ดาราสั่งลูกน้องเสียงเรียบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่