ตัวเองวิ่งมา 5 เดือนแล้วเฉลี่ยเดือนละ 100 กิโล ไม่เคยมีอาการเจ็บเข่า ข้อ เอ็นเลย อาจจะมีปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบ้าง
เวลาอัพระยะทางหรือความเร็วค่ะ แต่เช้าเมื่อวานนี้วิ่งจบ 8 กิโล หน้ามืดเป็นลมค่ะตอนวิ่งเสร็จก็เดินคูลดาวน์ไป 4-5 ก้าว
โลกก็เริ่มมืด คิดว่าไม่ไหวแล้วเลยหยุดและจะนอนราบระหว่างนั้นก็รู้สึกตัวนะคะ จากนั้นก็มีคนแถวนั้นมาช่วยพยุงไปนั่ง
นั่งพักสัก 15 นาทีก็ดีขึ้นแต่พอเดินกลับที่พักสัก 200 เมตรเจอเนินนิดหน่อย แต่พอถึงห้องก็ต้องรีบนอนราบเพราะมีอาการ
อีกแล้ว ครั้งนี้เป็นการหน้ามืดที่หนักที่สุดเลยค่ะ (ไม่นับเรื่องการช้อปปิ้ง)
อันที่จริงก่อนหันมาออกกำลังกายก็เคยเป็นลมตอนประถมที่หน้าแถว 1-2 ครั้ง เคยวิ่งขึ้นบันได bts แล้วไปเป็นลมข้าง
รถไฟ ดีนะที่ไม่ตกราง ทั้งหมดนี้สาเหตุมาจากการอดข้าวเช้าและเป็นคนความดันค่อนข้างต่ำ (45-95) พอหันมา
ออกกำลังกายความดันก็ยังเหมือนเดิมมีแต่ชีพจรที่ลดลง ก็คิดว่าปอดและหัวใจก็คงพัฒนาแล้วเป็นแน่
แต่อาการเป็นลมเมื่อวานนี้ทำให้ต้องกลับมามองตัวเองค่ะ วันนั้นวิ่งได้กิโลที่ 6-7 ก็เหนื่อยอยากจะหยุดแล้ว แต่มันดันตั้ง
เป้าหมายกับตัวเองไว้ที่ 8 และเจ้าคำคมที่ว่า Don't stop when you're tired, stop when you're done มันก็ผุดมาในหัว
อีกอย่างระยะวิ่ง 7-10 กิโลก็เป็นระยะประจำอยู่แล้ว เลยฝืนวิ่งจนจบ และก็เป็นลมไปซะเลย ... ก็พยายามหาสาเหตุจาก
ปัจจัยภายนอก อดนอนไม่ใช่ อดอาหารอาจจะมีส่วนเพราะคืนก่อนวิ่งกินขนมไดฟุกุ 3 ชิ้นแทนข้าว ตื่นเช้าก็กินอีกชิ้นก่อนวิ่ง
ขาดน้ำก็เป็นไปได้เพราะช่วงนี้ฝนตกไม่ค่อยหิวน้ำค่ะ ส่วนปัจจัยภายใน เพิ่งไปตรวจร่างกายเมื่อ 2 เดือนที่แล้วก็ปกติดีค่ะ
คุณหมอติงเรื่องหัวใจเต้นช้าไปนิด แต่พอบอกว่ากำลังออกกำลังกายอยู่หมอก็ว่าไม่ต้องกังวล
ใครเคยมีประสบการณ์เป็นลมหลังวิ่งช่วยแชร์ให้ฟังด้วยนะคะ อยากทราบว่ามีสาเหตุจากอะไรกันบ้าง และป้องกันอย่างไร
ถ้าสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกก็ยังพอปรับได้ แต่ถ้ามาจากปัจจัยภายในร่างกายเราเองจะได้ลดดีกรีความซ่าส์ในการวิ่งลง
บ้างค่ะ
เคยเป็นลมหลังการวิ่งบ้างไหมคะ
เวลาอัพระยะทางหรือความเร็วค่ะ แต่เช้าเมื่อวานนี้วิ่งจบ 8 กิโล หน้ามืดเป็นลมค่ะตอนวิ่งเสร็จก็เดินคูลดาวน์ไป 4-5 ก้าว
โลกก็เริ่มมืด คิดว่าไม่ไหวแล้วเลยหยุดและจะนอนราบระหว่างนั้นก็รู้สึกตัวนะคะ จากนั้นก็มีคนแถวนั้นมาช่วยพยุงไปนั่ง
นั่งพักสัก 15 นาทีก็ดีขึ้นแต่พอเดินกลับที่พักสัก 200 เมตรเจอเนินนิดหน่อย แต่พอถึงห้องก็ต้องรีบนอนราบเพราะมีอาการ
อีกแล้ว ครั้งนี้เป็นการหน้ามืดที่หนักที่สุดเลยค่ะ (ไม่นับเรื่องการช้อปปิ้ง)
อันที่จริงก่อนหันมาออกกำลังกายก็เคยเป็นลมตอนประถมที่หน้าแถว 1-2 ครั้ง เคยวิ่งขึ้นบันได bts แล้วไปเป็นลมข้าง
รถไฟ ดีนะที่ไม่ตกราง ทั้งหมดนี้สาเหตุมาจากการอดข้าวเช้าและเป็นคนความดันค่อนข้างต่ำ (45-95) พอหันมา
ออกกำลังกายความดันก็ยังเหมือนเดิมมีแต่ชีพจรที่ลดลง ก็คิดว่าปอดและหัวใจก็คงพัฒนาแล้วเป็นแน่
แต่อาการเป็นลมเมื่อวานนี้ทำให้ต้องกลับมามองตัวเองค่ะ วันนั้นวิ่งได้กิโลที่ 6-7 ก็เหนื่อยอยากจะหยุดแล้ว แต่มันดันตั้ง
เป้าหมายกับตัวเองไว้ที่ 8 และเจ้าคำคมที่ว่า Don't stop when you're tired, stop when you're done มันก็ผุดมาในหัว
อีกอย่างระยะวิ่ง 7-10 กิโลก็เป็นระยะประจำอยู่แล้ว เลยฝืนวิ่งจนจบ และก็เป็นลมไปซะเลย ... ก็พยายามหาสาเหตุจาก
ปัจจัยภายนอก อดนอนไม่ใช่ อดอาหารอาจจะมีส่วนเพราะคืนก่อนวิ่งกินขนมไดฟุกุ 3 ชิ้นแทนข้าว ตื่นเช้าก็กินอีกชิ้นก่อนวิ่ง
ขาดน้ำก็เป็นไปได้เพราะช่วงนี้ฝนตกไม่ค่อยหิวน้ำค่ะ ส่วนปัจจัยภายใน เพิ่งไปตรวจร่างกายเมื่อ 2 เดือนที่แล้วก็ปกติดีค่ะ
คุณหมอติงเรื่องหัวใจเต้นช้าไปนิด แต่พอบอกว่ากำลังออกกำลังกายอยู่หมอก็ว่าไม่ต้องกังวล
ใครเคยมีประสบการณ์เป็นลมหลังวิ่งช่วยแชร์ให้ฟังด้วยนะคะ อยากทราบว่ามีสาเหตุจากอะไรกันบ้าง และป้องกันอย่างไร
ถ้าสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกก็ยังพอปรับได้ แต่ถ้ามาจากปัจจัยภายในร่างกายเราเองจะได้ลดดีกรีความซ่าส์ในการวิ่งลง
บ้างค่ะ