ฉันทำถูกแล้วใช่ไหม ที่ตัดสินใจแบบนี้?

การตามอ่านชีวิตของหลายท่านในกระทู้พันทิปถือเป็นกิจกรรมยามว่างของข้าพเจ้าเลยทีเดียว เรื่องรันทดหดหู่ เศร้าหมองหรือแฮปปี้ ข้าพเจ้าอ่านได้หมด แต่ก็เหมือนหลายๆ ท่านที่ไม่เคยคิดว่าตัวเอง...จะต้องมาเป็น จขกท ในบอร์ดเว็บไซค์แห่งนี้

เรื่องที่เล่า เป็นเรื่องจริง และถ้าคนที่รู้จักข้าพเจ้าได้อ่านกระทู้นี้ก็จะทราบทันทีว่า ข้าพเจ้า...เป็นใคร
ข้าพเจ้ามีครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อยกับสามีคนแรก คนเดียว รู้จักและคบหากันตั้งแต่สมัยเรียน เราเรียนคนละที่ แต่เวรกรรมก็ชักนำให้มาเจอกันจนได้ ข้าพเจ้าจบอนุปริญญา เพราะมีลูกเสียก่อนจะเรียนจบ ลูกคนแรกเป็นผู้หญิง หน้าตาน่ารักและเหมือนข้าพเจ้ามาก เขาว่าลูกสาวหน้าเหมือนแม่จะอาภัพ ไม่ทราบเท็จจริงประการได แต่ความเป็นไปได้ก็มีสูงจริงๆ

ขอย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนแรกคบกับสามีนะคะ
เขาค่อนข้างเป็นคนเกเร เด็กเว้น ชอบแต่งรถ แข่งรถ เที่ยวจัด เล่นยา อืม....ชีวิตฉันหนอช่างเลือก
ถ้าถามว่าหล่อน...ผู้ชายมีคนเดียวในโลกหรือย๊ะ ไม่มีคนอื่นเดินผ่านมาชนเล็บขบเธอบ้างรึไง คำตอบก็มีค่ะ แต่ไม่มองใครเลย ตัวสามีของข้าพเจ้าเองก็ใช่ว่าข้าพเจ้าจะแลในตอนแรกๆ แต่ด้วยข้าพเจ้าเป็นเด็กบ้านนอกค่ะ เขาเป็นเด็กในเมือง บ้านนอกเข้ากรุงเจอเด็กเมืองหลอกค่ะ แรกๆ เขาหลอกจริงๆ มีปัญหาเรื่องผู้หญิงพัวพันตั้งแต่เริ่มต้นเลย และจนถึงวันจบ วันจาก ก็ด้วยเรื่องผู้หญิงเหมือนกัน

ครั้งแรก....คบกันช่วงปีแรกค่ะ เขากับเราก็นักศึกษาเนอะ ไปไหนมาไหนด้วยกัน อยู่ด้วยกันเลยล่ะ ต่อมาเขาถูกคดีทำร้ายร่างกาย ถูกจับขังคุก เราก็ยังเด็กมาก ไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำ เรารักผู้ชายคนนี้มาก หรือเรียกง่ายๆ คือหลงหัวปักหัวปำ เพราะเราไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคบผู้ชายมาก่อนเลย เขาเป็นคนแรกในทุกๆ เรื่อง คือ ณ ตอนนั้น ให้ตายแทนก็ยังทำได้ค่ะ
มาต่อ...พอเขาติดคุก ตอนนั้นตำรวจจับไปขังอยู่ที่โรงพัก เราก็ไปเยี่ยมค่ะ ที่บ้านเขารู้ว่าคบหากับเราเพราะเคยพาไปบ้าน พ่อแม่พี่เขาดีกับเราทุกคน รักเราเอ็นดูเราที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อเขา ยอมนั่งตุ๊กๆ มาเยี่ยมเช้าเที่ยวเย็น ข้าวปลาไม่ได้กินก็ต้องหามาให้เขาก่อน เฝ้าจนตำรวจทั้งโรงพักจำหน้าได้อ่ะค่ะ เขาก็มองเราเป็นเด็กใจแตกทั่วไปอ่ะแหละ ซึ่งก็ยอมรับ ตอนนั้นสิ้นคิดจริงๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง..มีผู้หญิงมาเยี่ยมเขา ตอนแรกที่เห็นมันเป็นเซ้นต์นะ ผู้หญิง
จะมีเซนต์เรื่องแบบนี้ คือเรารู้ว่าผิดปกติ พอออกจากห้องเยี่ยมก็เลยคุยกับผู้หญิงคนนั้นค่ะ สรุปว่าเป็นแฟนอีกคนของแฟน (ตอนนั้นยังเป็นแฟน) เราจริงๆ คือเสียใจมากตอนนั้น ยังจำความรู้สึกได้ ร้องไห้ฟูมฟายกับเพื่อน นอนไม่หลับกินไม่ได้ ตรอมใจผมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกเลย แต่ก็ยังไปเยี่ยมค่ะตัดใจไมไ่ด้จริงๆ ถ้าขาดเขาเราตายแน่ เป็นแบบนั้นจริงๆ (โง่ค่ะ) จนกระทั่งวันหนึ่งก็โคจรไปเจอกับแฟนอีกคนของเขาจนได้ ถามเขาเลยว่าจะเลือกใคร....ทายซิ เขาจะเอาใครไว้
คำตอบคือ เขาเลือกผู้หญิงคนนั้นค่ะ ช็อค แบบตลอดเวลาเขาทำเหมือนรักเรามาก มีเราคนเดียว แต่พอมาไล่เรียงเหตุการณ์ก็พบว่าจริงๆ แล้วมันมีความสตอสอพลอมากกมายแฝงอยู่ในทุกคำพูดและทุกการกระทำ เจ็บ...พูดได้คำเดียวว่าเจ็บที่ใจสุดชีวิต ร้องไห้ เดินตากฝน กลางคืนก็เดินเข้าออกซอยบ้านเหมือนสัมภเวสีไปผุดไปเกิดไม่ได้ ทรมานมาก เจ็บปวดที่สุด ยังนึกเลยว่าพ่อแม่ยังไม่เคยทำเราขนาดนี้แล้วมันเป็นใครถึงมาทำเราได้ทั้งที่เรารักและทุ่มเททุกอย่าง แต่กลับถูกทรยศ มันมีรายละเอียดอีกมาก ความรู้สึกคือมันบรรยายไม่ได้จริงๆ หลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็ถูกประกันตัวออกมา ก็กลับมาอยู่กับเรานะคะ บอกเลิกผู้หญิงคนนั้นด้วย ตามง้อ ขอคืนดีเราทุกวิธีทาง นี่คือนิสัยของเขาค่ะ คือใช้คำพูดในการซื้อใจ จริงๆ มันเป็นคำลวงให้เราตายใจเท่านั้น ยอมกระทั่งกราบเท้า ไปวัดจุดธูปสาบาน สรุปเราก็ใจอ่อนเพราะยังไงก็รักมาก ให้อภัยค่ะ ก็คบหากันมาต่อจนกระทั่ง

ครั้งที่สอง...ตอนนั้นเราเรียนอยู่และทำงานไปด้วยเพราะอยากแบ่งเบาภาระพ่อแม่ เขาไม่ได้เรียนแล้วและตามมาทำงานประเภทเดียวกันกับเรา คืองานกลางคืน แต่อยู่คนละร้าน ตอนนั้นออกมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกันค่ะ เขาไปรับส่ง หรือไม่ก็ผลัดกัน และแล้วในวันหนึ่ง...ความผิดปกติก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เขามีความผิดปกติที่เซ็นต์เราจับสัญญาณได้ กลับบ้านผิดเวลาก็อ้างว่านายมีงานให้ทำต่อ ต้องอยู่เฝ้าร้าน ต้องบลาๆๆๆๆ บางครั้งทิ้งให้เรากลับเอง นอนรอข้ามวันข้ามคืน กลับมาก็ทะเลาะตบตีเรา คือรู้เลยว่าเขามีคนอื่นอีกแน่ๆ แต่จับไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นใคร ความมั่นใจเกินครึ่งชี้เป้าไปที่เด็กเสริฟในร้านค่ะ เวลาเราไปที่ร้านทุกคนจะทราบอยู่แล้วว่าผู้ชายคนนี้คือแฟนเรา เขาก็มีท่าทีแปลกๆ เหมือนพยายามหลบหลีกกันพิกล เราก็เอะใจนะ แต่จะไปคาดคั้นกับคนนอกมันก็กะไร ไม่ใช่นิสัยเราด้วยการเซ้าซี้เนี่ย

จนวันหนึ่งเราต้องออกจากงานเพราะความเครียดทำงานไม่ได้เลย นอนไม่หลับ กินไม่ได้อีกตามเคย ตรอมใจเหมือนคนบ้า วันๆ เฝ้าแต่จะตามเขา ระแวง หวาดกลัว คือเหมือนบ้าจริงๆ อ่ะ นอนไม่หลับขนาดที่ว่ากินยานอนหลับชนิดอ่อนๆ 8 เม็ดก็ยังไม่หลับค่ะ ต้องกินเหล้าซ้ำเข้าไปอีกให้เมาถึงจะหลับได้ (โชคดีที่รอดไม่ตายไปซะก่อน) และตัวเขาก็พยายามจะตีห่างเราตลอดเวลา หายไปข้ามวันข้ามคืนเราก็เที่ยวตาม บางทีก็ไล่เราเลย ด่าว่าเราสารพัดว่าชอบหาเรื่อง ค่ือเราผิดหมด ผิดทุกอย่าง หายใจก็ผิด หายใจก็ถูกด่าว่า ถูกตบตีสารพัดเลย เสียใจค่ะ เสียใจมากเพราะเรารักและทุ่มเททุกอย่าง ให้แต่ความจริงใจทั้งกับเขาและครอบครัวเรายอมหมดทุกคน ยอมเพื่อให้คนที่บ้านเขารักเรา เอ็นดูเรา ยอมเพื่อให้เขาเห็นความรักที่เรามีให้เขาบ้าง แต่ไม่มีประโยชน์เลยสำหรับผู้ชายคนนี้ เขาไม่มีความรู้สึกนึกคิด ไม่มีหัวจิตหัวใจไดๆ ทั้งสิ้น สนแต่ความรู้สึก ความสุขของตัวเอง เห็นแก่ตัวอย่างมาก วันหนึ่งเราไม่มีเงินติดตัวเลยค่ะ ไม่มีสักบาทเราก็รอเขากลับบ้าน รอจนดึก เช้า เที่ยงไปแล้วก็ยังไม่มา เราโทรไปถามแม่เขาก็ปรากฏว่ายังไม่ได้กลับเข้าบ้านเหมือนกัน เขาทิ้งเรา ทิ้งให้เราอดข้าวทั้งที่รู้ว่าเราไม่มีเงินติดตัวเลย เรามีสร้อยเส้นหนึ่งที่แม่ให้ เพราะความหิวเราเดินเป็นกิโลเพื่อเอาทองนั้นไปจำนำ หาเงินซื้อข้าวกิน ตกช่วงบ่ายถึงติดต่อเขาได้ พอเราโทรติดเขาก็รีบมาหาทันทีค่ะ มาถึงทะเลาะกันเลย ตีกันบ้านแทบแตก คนแถวนั้นเอือมระอากันหมดเพราะเราสร้างความรำคาญให้ เราย้ายบ้านเช่าสามสี่หลัง แต่คุณเชื่อไหม...ทุกหลังเราถูกตบถูกตีตลอด ทุกหลังเลย แม้กระทั่งบ้านที่อยู่ในตอนนี้ ม้ันเจ็บปวดนะ แม้จะไม่ได้แสดงออกตลอดเวลา แต่ความรู้สึกมันบั่นทอนจริงๆ

พอกลับมาก็ทะเลาะกันนะคะ เขาก็โกหกอีกว่าไม่ได้ไปไหน ไปกับเพื่อน นอนบ้านเพื่อน (บ้านเพื่อนเหมือนโรงแรมเลย หมดเวลาและกลับมาหลังเที่ยง) แล้วโยนความผิดให้เรา ว่าเราชอบหาเรื่อง น่าเบื่อ ชวนทะเลาะตลอด เชื่อแต่คนอื่น ไม่มีความเชื่อใจกันบ้างเลย (เพราะเชื่อค่ะ เชื่อมาตลอดถึงกลายเป็นคนโง่) เป็นอย่างนี้อยู่สามสี่เดือน จนน้ำหนักเราจาก 45 กิโล เหลือ 36 กิโลอ่ะค่ะ คิดดูตรอมใจขนาดไหน เพื่อนเราทนไม่ไหวค่ะ ชวนเราไปอยู่ด้วยเราจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ปรากฏว่า...คืนที่เราไปนอนบ้านเพื่อนเขาก็หายตัวไป ไม่กลับบ้าน ไม่กลับมานอนที่บ้านเช่าด้วย เราทนไม่ได้เช้าขึ้นมารีบกลับทันที แล้วโทรไปไล่ถามเพื่อนสนิทที่เขาอ้างว่าไปนอนด้วย ก็รู้ความจริงว่าเขาโกหกค่ะ ไม่มีใครอยู่กับเขาทั้งนั้นในคืนที่หายตัวไป ด้วยความเครียดเราไล่ถามพนักงานในร้านเกือบทุกคนถึงเหตุการณ์ต่างๆ จนรู้ตัวแมวขโมย เป็นเด็กเสริฟในร้านจริงๆ เหมือนที่เราคิดไว้ แต่ไม่เคยคิดว่าเป็นคนนี้นะ เพราะแฟนนางเพิ่งถูกจับเข้าคุกได้สักสามสี่เดือนมั้ง เอาเข้าจริงๆ คือ นางกะแฟนเรารู้เห็นเป็นใจกันตั้งแต่แฟนของนางเข้าคุกเลย ว่างั้น

เราปรี๊ดมาก บุกไปถึงร้าน นั่งคู่กันเลยค่ะ ฝ่ายผู้หญิงนั่งกินข้าว อีตัวเงินตัวทองนั่งข้าง เราด่ากราด ด่าๆๆ แล้วก็ตบผู้หญิง อีตัวเงินตัวทองเข้ามาขวางค่ะ ลืมบอกเราไปกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง มีการยื้อยึดฉุดกระชากกัน เพราะเราไม่ยอม ผู้หญิงมันหนี แต่ผู้ชายมันกันท่าตลอด แล้วผลักเราล้ม...ต่อหน้าคนทั้งร้าน ต่อหน้าผู้หญิงคนนั้น ต่อหน้าเพื่อนของเรา คุณคะ...มันเหนือคำบรรยาย ความรู้นึกตอนนั้นเหมือนถูกถีบลงนรกเลย ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องทนขนาดนั้นด้วย ทำไมตัดใจไม่ได้สักที ทำไมต้องทุ่มเท ทำไมต้องรัก ทำไมต้องยอม ทำไมต้องทำทุกอย่าง เสียสละทุกอย่างเพื่อเขาทั้งที่เขาเห็นเราหมือนสุนัขตัวหนึ่งก็ว่าได้ เหมือนเราเป็นของตายอ่ะ จะฆ่าจะแกง ตบตี ด่าทอ หรือทำร้ายจิตใจร่างกายยังไงเราก็ไม่ไปไหน เขาเห็นผู้หญิงที่ได้มาจากคนอื่น ผู้หญิงที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนและยังไปหาไปเยี่ยมทีเรือนจำทุกวัน มีค่ามากกว่าเรา ไม่ให้เกียติเราแม้แต่นิดเดียว....

#แก้ไขนะคะ คำผิดเยอะขออภัย ตกหล่นขออภัยค่ะ อยากแชร์ประสบการณ์ และอยากฝากเตื่อนเพื่อนทั้งหญิงชายเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก อย่าคิดว่าเป็นความสุขสนุกชั่วครั้งชั่วคราว คุณไม่รู้หรอกว่าความจริงแล้วคุณทำร้ายจิตใจใครหลายคน ซึ่งล้วนแล้วเป็นคนที่รักคุณทั้งนั้น ส่วนคนที่คุณคิดว่าเพียงเล่นๆ นั่นคือตัวปัญหาที่สร้างความปวดร้าวให้ครอบครัวที่ไม่มีความผิดเลย เพราะความเห็นแก่ตัวของคุณคนเดียว

พรุ่งนี้มาต่อนนะคะ พิมพ์ไม่ไหว มันเมื่อยมือมาก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่