หลายท่านคงได้ยิน คัมภีร์ไบเบิลฉบับคิงเจมส์ คัมภีร์ไบเบิล ฉบับที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด แม้จะมีฉบับแปลอื่น อีกมาก แต่ฉบับคิงเจมส์ ยังได้รับความนิยม. กระทู้นี้ จะนำความเป็นมาของคัมภีร์ไบเบิลฉบับคิงเจมส์ มาให้อ่านกัน.
.................................................................
พวกพิวริตันมาอยู่ต่อหน้ากษัตริย์
กษัตริย์แทบจะไม่ได้ให้สิ่งที่พวกพิวริตันต้องการ
แต่พระองค์เกิดความคิดอย่างหนึ่ง :
การแปลไบเบิลขึ้นมาใหม่.
สมมติว่า คุณอยู่ในประเทศอังกฤษ ในปี คศ. ๑๖๐๔ ประเทศอังกฤษในเวลานั้น เป็นโลกที่เคลื่อนไปอย่างช้าๆ, เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยและมีความมั่นคง. ประเทศอังกฤษ และประเทศตะวันตกอื่นในตอนนั้น เป็นไปตามปกติและมีการคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆอย่างรวดเร็ว.
สำหรับคนในยุคนั้น อะไรที่เก่าและได้รับการเคารพนับถือ ต่อๆกันมา ตามธรรมเนียมประเพณี ถือว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด. ยังรู้ว่า พระเจ้าปกครองทุกสรรพสิ่ง โดยระเบียบที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เทียบเท่ากฎธรรมชาติที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้.
แต่ทุกสิ่งไม่ดีพร้อมไปทั้งหมด ตามความคิดของคุณ ภายใต้ความสงบและความเป็นจริงที่มีระเบียบ, มีฟองอากาศที่เคลื่อนไหวอยู่ข้างใต้. ที่จริง ที่ในช่วงเวลา ๔๕ ปีที่ผ่านมา คุณและครอบครัวอยู่อย่างมั่นคง,ประเทศอังกฤษที่มีเสถียรภาพ ในสมัยของพระนางเจ้าอลิซาเบท.
ภายใต้การปกครองของเธอ จำนวนประชากรและความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้น, แต่ ในกลุ่มคต, กลุ่มเล็กๆ และกลุ่มคต.ที่มีความกระตือรือร้น มีความไม่เป็นมิตร มีการใช้กำลังกันบ้าง,มีความอดทนอดกลั้น เพื่อสิ่งที่ดีกว่า. แต่ตอนนี้ ภาพสวยงามของอลิซาเบท กำลังหลุดลุ่ยในช่วงปลายสมัยของเธอ
ทศวรรษปี ๑๕๙๐ เกิดความอดอยาก, เชื้อโรค, การว่างงานแผ่ขยายทั่วไป เหมือนบรรยากาศที่เป็นพิษแผ่ขยายไปทั่วเมือง เมืองใหญ่ๆเติบโตมีคนอยู่กันหนาแน่น สกปรก, และมีความสับสนวุ่นวาย.มีการออกกฎหมายที่ไม่ดีออกมาเพื่อลงโทษคนจนที่เกียจคร้าน และกำหนดให้คนยากจนไปทำงานในโรงงานที่มีจำนวนมาก
จากนั้นเป็นความเจ็บป่วยของพระนางเจ้าอลิซาเบท และการปฏิเสธของเธอ ในการกำหนดผู้สืบราชสันติวงศ์ต่อจากเธอ
พระนางเจ้าอาลิซาเบต ที่๑ กระซิบบอกชื่อกษัตริย์องค์ใหม่ ที่จะครองราชย์ต่อจากพระองค์ ก่อนสิ้นพระชนม์ ๑๑ ชม.
ในเวลานั้นคุณ รู้สึกกระวนกระวายใจ ไม่แน่นอนใจ คนที่อยู่ในประเทศตอนนั้นนึกภาพไม่ออกว่าจะเกิดอะไรต่อไป ในประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสมัยใหม่ ผู้อยู่ใต้การปกครองรู้ดีว่า ตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนกษัตริย์, ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนและเป็นที่สนใจของคนที่อยู่ในชาติ. การปกครองโดยกษัตริย์ เป็นเครื่องมือของพระเจ้าในการจัดระเบียบ เป็นพระหัตถ์แห่งการทรงนำของพระองค์.
ตามสุภาษิต
“หากปราศจากกษัตริย์ ประชาชนจะอยู่ได้ฤา ย่อมสูญสลายไปเช่นกัน”
เวลานี้ อยู่ในปี ค.ศ. ๑๖๐๔, ข่าวยืนยันแน่นอนแล้วว่า กษัตริย์องค์ต่อไปจะเป็นพระเจ้าเจมส์ที่ ๖,พระเจ้าเจมส์ มาจากศัตรูเก่าของอังกฤษ นั่นคือ ประเทศสก๊อตแลนด์ กำแพงแฮเดรียน ที่ใช้แบ่งแยกประเทศ ยังคงอยู่เป็นสัญลักษณ์ เตือนความทรงจำ ถึงการเป็นศัตรูของทั้งสองประเทศ พอกษัตริย์คนต่อไปเป็นชาวสก๊อต ผู้คนจะมีความหวาดหวั่น คิดไปต่างๆ นานา คนที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ และนมัสการในคริสตจักรอังกฤษ จะเป็นอย่างไร จากการปกครองของคนที่เติบโตจากนิกายเพรสไบทีเนียนได้รับอิทธิพลจากไบเบิลฉบับเจนีวา?
คนที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ของอังกฤษ เป็นกษัตริย์ของสก๊อตแลนด์, ขณะนั้นยังเป็นเด็กเพิ่งหัดเดิน, อยู่ภายใต้การดูแลของ จอห์น น๊อค ผู้เคร่งครัดศาสนาคนหนึ่ง ชายคนนี้จะทำอย่างไร คนที่ช่วงวัยรุ่นเป็นทั้งนักประพันธ์และคนมีความรู้ เขาจะให้คำแนะนำกษัตริย์ได้หรือไม่
เพื่อนบ้านของคุณที่มองโลกในแง่ร้ายไปอีก อาจถามคำถามในแง่มืดยิ่งขึ้น เป็นต้นว่า คนอายุ ๓๗ ปีคนนี้ จะมีความคิดอะไรซุกซ่อนอยู่ในใจ ที่ตกทอดมาจากพ่อแม่ของเขาหรือไม่ เพราะพ่อแม่ของเขา ถูกฆ่าทั้งสองคนด้วยเหตุผลทางการเมือง จะไม่ให้มีความสงสัยเลย ว่าพระเจ้าอยู่ข้างเขาจริงๆ หรือไม่ ย่อมทำไม่ได้
และใครจะพูด ว่าเป็นกษัตริย์มาจากการมอบหมายของพระเจ้า พระเจ้าเจมส์ได้รับการศึกษามาอย่างดี (ซึ่งนำความภาคภูมิใจมายังพระองค์) และยังทราบกันทั่วไปว่า พระองค์ชอบถกเถียงในทางเทววิทยา – สิ่งนี้จะนำความยุ่งยากลำบากกับผู้เลื่อมใสในนิกายอังกฤษที่ปักหลักมั่นคงและมีความแตกต่างกันทางศาสนาหรือไม่?
กำเนิดคัมภีร์ไบเบิลฉบับคิงเจมส์(1)
.................................................................
พวกพิวริตันมาอยู่ต่อหน้ากษัตริย์
กษัตริย์แทบจะไม่ได้ให้สิ่งที่พวกพิวริตันต้องการ
แต่พระองค์เกิดความคิดอย่างหนึ่ง :
การแปลไบเบิลขึ้นมาใหม่.
สมมติว่า คุณอยู่ในประเทศอังกฤษ ในปี คศ. ๑๖๐๔ ประเทศอังกฤษในเวลานั้น เป็นโลกที่เคลื่อนไปอย่างช้าๆ, เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยและมีความมั่นคง. ประเทศอังกฤษ และประเทศตะวันตกอื่นในตอนนั้น เป็นไปตามปกติและมีการคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆอย่างรวดเร็ว.
สำหรับคนในยุคนั้น อะไรที่เก่าและได้รับการเคารพนับถือ ต่อๆกันมา ตามธรรมเนียมประเพณี ถือว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด. ยังรู้ว่า พระเจ้าปกครองทุกสรรพสิ่ง โดยระเบียบที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เทียบเท่ากฎธรรมชาติที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้.
แต่ทุกสิ่งไม่ดีพร้อมไปทั้งหมด ตามความคิดของคุณ ภายใต้ความสงบและความเป็นจริงที่มีระเบียบ, มีฟองอากาศที่เคลื่อนไหวอยู่ข้างใต้. ที่จริง ที่ในช่วงเวลา ๔๕ ปีที่ผ่านมา คุณและครอบครัวอยู่อย่างมั่นคง,ประเทศอังกฤษที่มีเสถียรภาพ ในสมัยของพระนางเจ้าอลิซาเบท.
ภายใต้การปกครองของเธอ จำนวนประชากรและความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้น, แต่ ในกลุ่มคต, กลุ่มเล็กๆ และกลุ่มคต.ที่มีความกระตือรือร้น มีความไม่เป็นมิตร มีการใช้กำลังกันบ้าง,มีความอดทนอดกลั้น เพื่อสิ่งที่ดีกว่า. แต่ตอนนี้ ภาพสวยงามของอลิซาเบท กำลังหลุดลุ่ยในช่วงปลายสมัยของเธอ
ทศวรรษปี ๑๕๙๐ เกิดความอดอยาก, เชื้อโรค, การว่างงานแผ่ขยายทั่วไป เหมือนบรรยากาศที่เป็นพิษแผ่ขยายไปทั่วเมือง เมืองใหญ่ๆเติบโตมีคนอยู่กันหนาแน่น สกปรก, และมีความสับสนวุ่นวาย.มีการออกกฎหมายที่ไม่ดีออกมาเพื่อลงโทษคนจนที่เกียจคร้าน และกำหนดให้คนยากจนไปทำงานในโรงงานที่มีจำนวนมาก
จากนั้นเป็นความเจ็บป่วยของพระนางเจ้าอลิซาเบท และการปฏิเสธของเธอ ในการกำหนดผู้สืบราชสันติวงศ์ต่อจากเธอ
พระนางเจ้าอาลิซาเบต ที่๑ กระซิบบอกชื่อกษัตริย์องค์ใหม่ ที่จะครองราชย์ต่อจากพระองค์ ก่อนสิ้นพระชนม์ ๑๑ ชม.
ในเวลานั้นคุณ รู้สึกกระวนกระวายใจ ไม่แน่นอนใจ คนที่อยู่ในประเทศตอนนั้นนึกภาพไม่ออกว่าจะเกิดอะไรต่อไป ในประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสมัยใหม่ ผู้อยู่ใต้การปกครองรู้ดีว่า ตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนกษัตริย์, ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนและเป็นที่สนใจของคนที่อยู่ในชาติ. การปกครองโดยกษัตริย์ เป็นเครื่องมือของพระเจ้าในการจัดระเบียบ เป็นพระหัตถ์แห่งการทรงนำของพระองค์.
ตามสุภาษิต
“หากปราศจากกษัตริย์ ประชาชนจะอยู่ได้ฤา ย่อมสูญสลายไปเช่นกัน”
เวลานี้ อยู่ในปี ค.ศ. ๑๖๐๔, ข่าวยืนยันแน่นอนแล้วว่า กษัตริย์องค์ต่อไปจะเป็นพระเจ้าเจมส์ที่ ๖,พระเจ้าเจมส์ มาจากศัตรูเก่าของอังกฤษ นั่นคือ ประเทศสก๊อตแลนด์ กำแพงแฮเดรียน ที่ใช้แบ่งแยกประเทศ ยังคงอยู่เป็นสัญลักษณ์ เตือนความทรงจำ ถึงการเป็นศัตรูของทั้งสองประเทศ พอกษัตริย์คนต่อไปเป็นชาวสก๊อต ผู้คนจะมีความหวาดหวั่น คิดไปต่างๆ นานา คนที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ และนมัสการในคริสตจักรอังกฤษ จะเป็นอย่างไร จากการปกครองของคนที่เติบโตจากนิกายเพรสไบทีเนียนได้รับอิทธิพลจากไบเบิลฉบับเจนีวา?
คนที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ของอังกฤษ เป็นกษัตริย์ของสก๊อตแลนด์, ขณะนั้นยังเป็นเด็กเพิ่งหัดเดิน, อยู่ภายใต้การดูแลของ จอห์น น๊อค ผู้เคร่งครัดศาสนาคนหนึ่ง ชายคนนี้จะทำอย่างไร คนที่ช่วงวัยรุ่นเป็นทั้งนักประพันธ์และคนมีความรู้ เขาจะให้คำแนะนำกษัตริย์ได้หรือไม่
เพื่อนบ้านของคุณที่มองโลกในแง่ร้ายไปอีก อาจถามคำถามในแง่มืดยิ่งขึ้น เป็นต้นว่า คนอายุ ๓๗ ปีคนนี้ จะมีความคิดอะไรซุกซ่อนอยู่ในใจ ที่ตกทอดมาจากพ่อแม่ของเขาหรือไม่ เพราะพ่อแม่ของเขา ถูกฆ่าทั้งสองคนด้วยเหตุผลทางการเมือง จะไม่ให้มีความสงสัยเลย ว่าพระเจ้าอยู่ข้างเขาจริงๆ หรือไม่ ย่อมทำไม่ได้
และใครจะพูด ว่าเป็นกษัตริย์มาจากการมอบหมายของพระเจ้า พระเจ้าเจมส์ได้รับการศึกษามาอย่างดี (ซึ่งนำความภาคภูมิใจมายังพระองค์) และยังทราบกันทั่วไปว่า พระองค์ชอบถกเถียงในทางเทววิทยา – สิ่งนี้จะนำความยุ่งยากลำบากกับผู้เลื่อมใสในนิกายอังกฤษที่ปักหลักมั่นคงและมีความแตกต่างกันทางศาสนาหรือไม่?