อาณาจักรโบราณกูเก - อ่านแบบทิเบต (Ancient Guge Kingdom) ภาษาจีนอ่านกู่เก๋อ ตั้งอยู่ในเขตซาด้า (Zhada) แคว้นงาริ (Ngari) ของทิเบตตะวันตก เคยเป็นอาณาจักรยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองถึงขีดสุดเมื่อ 1000 ปีเศษมาแล้ว มีอาณาบริเวณครอบคลุมถึง 200,000 ตารางเมตร
อาณาจักรกูเกตั้งอยู่บนเขา มองเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ ปัจจุบันยังมีร่องรอยของสถาปัตยกรรมที่เหลืออยู่ รวม 1416 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยถ้ำ 879 ถ้ำ บ้านเดี่ยว 445 หลัง แนวตึกแถว 60 แห่ง เจดีย์ 28 องค์ และถ้ำ 4 ถ้ำ ถ้ำเหล่านี้สามารถติดต่อเชื่อมกันภายในอาณาจักรนี้ได้ รอบอาณาจักรมีลักษณะคล้ายแนวกำแพงที่เกิดจากการที่ลมหอบฝุ่นละอองจากดิน หิน และน้ำ มาสะสมเป็นเวลานานจนตกตะกอนหนาขึ้นเรื่อย ๆ เป็นรูปร่างต่าง ๆ กัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีอยู่ในทุกทวีปของโลก ชาวตะวันตกเรียกตะกอนนี้ว่า “loess” (ออกเสียงว่า โล)
รูปที่เพื่อน ๆ เห็นเป็นปล่อง ๆ หรือเป็นรู ๆ อยู่ส่วนล่างของเขาคือถ้ำที่เป็นที่อยู่ของคนชั้นธรรมดาสามัญ ส่วนกลางของภูเขาที่เป็นสิ่งปลูกสร้างในอาณาบริเวณของวัด ส่วนบนยอดสุดของภูเขาเป็นเขตพระราชวัง มีทั้งพระราชวังฤดูร้อน และพระราชวังฤดูหนาว มีอุโมงลับจากฐานของภูเขาอยู่เพียงแห่งเดียวที่จะนำไปสู่ยอดเขาได้
อาณาจักรกูเกได้ล่มสลายและสูญหายไปเมื่อเกิดสงครามทางศาสนาและการปฏิรูปทางวัฒนธรรมขึ้นในศตวรรตที่ 17 จนมาค้นพบอีกครั้งหนึ่งโดยชาวอิตาลี่ซึ่งบันทึกเป็นหลักฐานไว้ในศตวรรษที่ 20 ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจากพี่แมว (ผู้ร่วมเดินทางค่ะ)
ภาพ - เรื่อง -เล่า อาณาจักรโบราณกูเก (Ancient Guge Kingdom) กับร่องรอยของสถาปัตยกรรมที่เหลืออยู่ ในทิเบตตะวันตก
อาณาจักรกูเกตั้งอยู่บนเขา มองเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ ปัจจุบันยังมีร่องรอยของสถาปัตยกรรมที่เหลืออยู่ รวม 1416 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยถ้ำ 879 ถ้ำ บ้านเดี่ยว 445 หลัง แนวตึกแถว 60 แห่ง เจดีย์ 28 องค์ และถ้ำ 4 ถ้ำ ถ้ำเหล่านี้สามารถติดต่อเชื่อมกันภายในอาณาจักรนี้ได้ รอบอาณาจักรมีลักษณะคล้ายแนวกำแพงที่เกิดจากการที่ลมหอบฝุ่นละอองจากดิน หิน และน้ำ มาสะสมเป็นเวลานานจนตกตะกอนหนาขึ้นเรื่อย ๆ เป็นรูปร่างต่าง ๆ กัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีอยู่ในทุกทวีปของโลก ชาวตะวันตกเรียกตะกอนนี้ว่า “loess” (ออกเสียงว่า โล)
รูปที่เพื่อน ๆ เห็นเป็นปล่อง ๆ หรือเป็นรู ๆ อยู่ส่วนล่างของเขาคือถ้ำที่เป็นที่อยู่ของคนชั้นธรรมดาสามัญ ส่วนกลางของภูเขาที่เป็นสิ่งปลูกสร้างในอาณาบริเวณของวัด ส่วนบนยอดสุดของภูเขาเป็นเขตพระราชวัง มีทั้งพระราชวังฤดูร้อน และพระราชวังฤดูหนาว มีอุโมงลับจากฐานของภูเขาอยู่เพียงแห่งเดียวที่จะนำไปสู่ยอดเขาได้
อาณาจักรกูเกได้ล่มสลายและสูญหายไปเมื่อเกิดสงครามทางศาสนาและการปฏิรูปทางวัฒนธรรมขึ้นในศตวรรตที่ 17 จนมาค้นพบอีกครั้งหนึ่งโดยชาวอิตาลี่ซึ่งบันทึกเป็นหลักฐานไว้ในศตวรรษที่ 20 ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจากพี่แมว (ผู้ร่วมเดินทางค่ะ)