เจตนาของการพูดโกหกอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางคนโกหกเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษ บางคนโกหก
เพื่อให้ตนได้ผลประโยชน์ บางคนพูดเกินจริงเพื่อเรียกร้องความสนใจ บางคนโกหกเพื่อรักษาน้ำใจของอีกฝ่าย
หรือเพราะไม่อยากเกิดปัญหา แต่ไม่ว่าจะเกิดจากเจตนาใดก็ตาม ล้วนมีผลเสียทั้งสิ้น เพราะถ้าคุณโกหก
คุณก็จะไม่มีความสุข ต้องคอยระแวงว่าคนอื่นจะจับโกหกของคุณได้ และถ้าคนอื่นจับได้ คุณก็จะกลายเป็นคนที่
ไม่ได้รับความเชื่อถืออีกต่อไป ในกรณีที่คุณโกหกเพื่อถนอมน้ำใจคนฟัง ก็ไม่ใช่เรื่องดีอีกนั่นแหละเพราะเท่ากับ
เป็นการปิดกั้นไม่ให้อีกฝ่ายเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับความจริง ยิ่งถ้ามารู้ในภายหลัง เขาอาจจะโกรธที่คุณปกปิด
ความจริง และมองว่าคุณหลอกเขาก็ได้ ไม่มีใครหรอกที่อยากถูกหลอก ยิ่งถ้าคุณโกหกบ่อย ๆ อีกหน่อยก็คงไม่
มีใคร อยากคบอยากคุยด้วย ดังนั้น จึงเป็นนิสัยที่ควรจะรีบแก้ไขเสีย โดยการพยายามเตือนสติตัวเอง คิดก่อนที่
จะพูดทุกครั้ง ตั้งใจไว้ว่าจะพยายามพูดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจริง หรือพูดอิงความจริงให้มากที่สุด ถ้าคุณทำได้
ก็ให้รางวัลตัวเอง ชมเชยตัวเอง แต่ถ้าทำไม่ได้ คุณต้องมีข้อลงโทษตัวเอง เช่น งดทำใน สิ่งที่คุณชอบ

ที่สำคัญคุณควรตระหนักอยู่แก่ใจว่า คนที่พูดความจริง คือคนกล้าหาญและมีความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นคุณลักษณะ
ของคนที่มีวุฒิภาวะน่านับถือ ดังนั้น ควรรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่คุณพูดความจริง

สำหรับคนใกล้ชิด ควรหมั่นบอกให้คนชอบโกหกรู้ตัวว่าเขามีจุดเด่นที่ดีตรงไหนบ้าง แล้วยกย่องชมเชย เพื่อให้เขา
เกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง จะช่วยลดความรู้สึกอยากคุยโวเพื่อสร้างความเด่นให้น้อยลง

ถ้าพยายามแก้ไขทุกทางแล้ว แต่แก้นิสัยชอบโกหกไม่ได้สักที ก็ลองโทรมาปรึกษา ได้ที่หมายเลข 1323

ที่มา : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข