“อาเจะห์” จ่อลงโทษ “เฆี่ยน 100 ครั้ง” สำหรับการ "มีเซ็กส์” กับเพศเดียวกัน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กันยายน 2557 13:42 น.
การลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมายอิสลามด้วยวิธีเฆี่ยน ในจังหวัดอาเจะห์
เอเอฟพี – จังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซียซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรมุสลิมเคร่งจารีตเป็นส่วนใหญ่ เตรียมออกกฎหมายท้องถิ่นซึ่งตั้งระวางโทษ “เฆี่ยน 100 ครั้ง” สำหรับการมีเพศสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศ ซึ่งนักวิจารณ์ชี้ว่าเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
อาเจะห์เป็นเพียงจังหวัดเดียวในหมู่เกาะอินโดนีเซียที่นำกฎหมายอิสลาม (ชารีอะห์) มาบังคับใช้แบบค่อยเป็นค่อยไป หลังได้รับอำนาจปกครองตนเองเพิ่มขึ้นในปี 2001
ร่างกฎหมายซึ่งผู้สื่อข่าวเอเอฟพีได้รับวันนี้(20) กำหนดระวางโทษสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย และ “การถูส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง” และจะเป็นครั้งแรกที่กฎหมายอิสลามถูกบังคับใช้กับพลเมืองที่ไม่ใช่มุสลิมด้วย
ร่างกฎหมายท้องถิ่นฉบับนี้ยังกำหนดโทษเฆี่ยน 100 ครั้งสำหรับการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส
ก่อนหน้านี้ จังหวัดอาเจะห์ได้เริ่มบังคับใช้กฎหมายห้ามการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน การปฏิสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน รวมไปถึงการแสดงความรัก เช่น การสัมผัสหรือจุมพิต ระหว่างบุคคลที่ไม่ใช่สามีภรรยากัน
ทั้งนี้ การเฆี่ยนในอาเจะห์มักจะใช้ไม้ที่ยาวและเรียวบาง โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้กระทำผิดรู้สึกอับอายมากกว่าความเจ็บปวดทางกาย และหากไม่ต้องการถูกโบยก็จะต้องเสียค่าปรับเป็นทองคำ หรือรับโทษจำคุกแทน
เมื่อวานนี้(19) ชาย 8 คนซึ่งเล่นการพนันได้ถูกนำมาเฆี่ยนต่อหน้าสาธารณชนในเมืองบันดาอาเจะห์ โดยชาวบ้านที่มาชมการลงโทษประมาณ 1,000 คนต่างส่งเสียงเชียร์ บ้างก็ถ่ายวีดีโอเก็บไว้
ร่างกฎหมายท้องถิ่นฉบับนี้ถูกปรับให้รอมชอมมากขึ้นจากร่างกฎหมายเดิมที่ผ่านสภาจังหวัดอาเจะห์เมื่อปี 2009 ซึ่งกำหนดโทษ “ปาหินจนตาย” สำหรับการคบชู้ และนำมาซึ่งเสียงประณามอย่างรุนแรงจากนานาชาติ จนสุดท้ายผู้ว่าการจังหวัดต้องใช้อำนาจยกเลิกบทลงโทษดังกล่าว
รอมลี สุลัยมาน สมาชิกพรรคอาเจะห์ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการร่างกฎหมาย ระบุว่า สมาชิกสภาจังหวัดส่วนใหญ่เห็นชอบกับร่างกฎหมายนี้ และน่าจะผ่านการโหวตได้ในวันจันทร์(22)
“เราได้ศึกษารูปแบบการใช้กฎหมายชารีอะห์ในประเทศอื่น เช่น ซาอุดีอาระเบีย, บรูไนดารุสสลาม และจอร์แดน ก่อนที่จะร่างกฎหมายนี้ และรู้สึกพอใจกับมันมาก” เขากล่าว
อย่างไรก็ดี โจเฮอร์มานชาห์ โจฮาน ผู้อำนวยการฝ่ายเขตปกครองตนเอง กระทรวงมหาดไทยอินโดนีเซีย ออกมาประกาศเตือนแล้วว่า หน่วยงานของเขาอาจใช้อำนาจคว่ำกฎหมายนี้หากพบว่าเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน
องค์การนิรโทษกรรมสากลแสดงความกังวลเกี่ยวกับร่างกฎหมายท้องถิ่นของอาเจะห์ และขอให้ยกเลิกการลงโทษด้วยวิธีเฆี่ยน เนื่องจากขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการทรมานและสิทธิ และยังขัดต่อรัฐธรรมนูญของอินโดนีเซียเองด้วย
วิธีนี้ดีกว่าการลงโทษโดยการปาหินจนตาย
“อาเจะห์” จ่อลงโทษ “เฆี่ยน 100 ครั้ง” สำหรับการ "มีเซ็กส์” กับเพศเดียวกัน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กันยายน 2557 13:42 น.
การลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมายอิสลามด้วยวิธีเฆี่ยน ในจังหวัดอาเจะห์
เอเอฟพี – จังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซียซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรมุสลิมเคร่งจารีตเป็นส่วนใหญ่ เตรียมออกกฎหมายท้องถิ่นซึ่งตั้งระวางโทษ “เฆี่ยน 100 ครั้ง” สำหรับการมีเพศสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศ ซึ่งนักวิจารณ์ชี้ว่าเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
อาเจะห์เป็นเพียงจังหวัดเดียวในหมู่เกาะอินโดนีเซียที่นำกฎหมายอิสลาม (ชารีอะห์) มาบังคับใช้แบบค่อยเป็นค่อยไป หลังได้รับอำนาจปกครองตนเองเพิ่มขึ้นในปี 2001
ร่างกฎหมายซึ่งผู้สื่อข่าวเอเอฟพีได้รับวันนี้(20) กำหนดระวางโทษสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย และ “การถูส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง” และจะเป็นครั้งแรกที่กฎหมายอิสลามถูกบังคับใช้กับพลเมืองที่ไม่ใช่มุสลิมด้วย
ร่างกฎหมายท้องถิ่นฉบับนี้ยังกำหนดโทษเฆี่ยน 100 ครั้งสำหรับการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส
ก่อนหน้านี้ จังหวัดอาเจะห์ได้เริ่มบังคับใช้กฎหมายห้ามการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน การปฏิสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน รวมไปถึงการแสดงความรัก เช่น การสัมผัสหรือจุมพิต ระหว่างบุคคลที่ไม่ใช่สามีภรรยากัน
ทั้งนี้ การเฆี่ยนในอาเจะห์มักจะใช้ไม้ที่ยาวและเรียวบาง โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้กระทำผิดรู้สึกอับอายมากกว่าความเจ็บปวดทางกาย และหากไม่ต้องการถูกโบยก็จะต้องเสียค่าปรับเป็นทองคำ หรือรับโทษจำคุกแทน
เมื่อวานนี้(19) ชาย 8 คนซึ่งเล่นการพนันได้ถูกนำมาเฆี่ยนต่อหน้าสาธารณชนในเมืองบันดาอาเจะห์ โดยชาวบ้านที่มาชมการลงโทษประมาณ 1,000 คนต่างส่งเสียงเชียร์ บ้างก็ถ่ายวีดีโอเก็บไว้
ร่างกฎหมายท้องถิ่นฉบับนี้ถูกปรับให้รอมชอมมากขึ้นจากร่างกฎหมายเดิมที่ผ่านสภาจังหวัดอาเจะห์เมื่อปี 2009 ซึ่งกำหนดโทษ “ปาหินจนตาย” สำหรับการคบชู้ และนำมาซึ่งเสียงประณามอย่างรุนแรงจากนานาชาติ จนสุดท้ายผู้ว่าการจังหวัดต้องใช้อำนาจยกเลิกบทลงโทษดังกล่าว
รอมลี สุลัยมาน สมาชิกพรรคอาเจะห์ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการร่างกฎหมาย ระบุว่า สมาชิกสภาจังหวัดส่วนใหญ่เห็นชอบกับร่างกฎหมายนี้ และน่าจะผ่านการโหวตได้ในวันจันทร์(22)
“เราได้ศึกษารูปแบบการใช้กฎหมายชารีอะห์ในประเทศอื่น เช่น ซาอุดีอาระเบีย, บรูไนดารุสสลาม และจอร์แดน ก่อนที่จะร่างกฎหมายนี้ และรู้สึกพอใจกับมันมาก” เขากล่าว
อย่างไรก็ดี โจเฮอร์มานชาห์ โจฮาน ผู้อำนวยการฝ่ายเขตปกครองตนเอง กระทรวงมหาดไทยอินโดนีเซีย ออกมาประกาศเตือนแล้วว่า หน่วยงานของเขาอาจใช้อำนาจคว่ำกฎหมายนี้หากพบว่าเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน
องค์การนิรโทษกรรมสากลแสดงความกังวลเกี่ยวกับร่างกฎหมายท้องถิ่นของอาเจะห์ และขอให้ยกเลิกการลงโทษด้วยวิธีเฆี่ยน เนื่องจากขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการทรมานและสิทธิ และยังขัดต่อรัฐธรรมนูญของอินโดนีเซียเองด้วย