*ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bisnews
FED ได้มีการประชุมไปแล้วว่าคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.25% และลดวงเงิน QE 1 หมื่นล้านดอลล่าร์ คงเหลือ 1.5 หมื่นล้านดอลล่าร์ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์
ตลาดหุ้นคาดว่ามีการปรับฐานไปแล้วบางส่วนแบบเบาๆ เพราะมีแรงซื้อต่างชาติเข้ามารองรับไว้ กอร์ปกับรัฐบาลปรับลดภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 20% ทำให้บริษัทในตลาดมีกำไรเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ กำไรต่อหุ้น(EPS) ดีขึ้น ทำให้ค่า Forward P/E หุ้นไทย จะต่ำลง ดังนั้นคาดว่าโอกาสที่หุ้นไทยจะปรับฐานแรงๆ หมดไปแล้ว โดยแนวรับลึกสุดรอบนี้จะอยู่ที่ 1,545 จุด ตรงเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน แต่จังหวะนี้แนะนำทยอยซื้อสะสมบางส่วน เพราะมีโอกาสที่จะลงกับขึ้น 50:50
การซื้อรอบนี้ให้น้ำหนักกลุ่ม ICT เป็นหลัก(กราฟเส้นสีส้ม) เนื่องจากยัง Laggard ดัชนี SET Index ซึ่งหาก SET จะไปที่ 1,650 หุ้นในกลุ่ม ICT ต้องกลับมาที่ราคาเดิม เพราะมี่ขนาด Market cap ที่ใหญ่ ขณะที่กลุ่ม Bank (เส้นสีแดง) วิ่งนำตลาดไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กลุ่มพาณิชย์ COMM (เส้นสีม่วง) เคลื่อนไหวตามดัชนี ส่วนกลุ่มพลังงาน ENERG (เส้นสีฟ้า) ก็ยังวิ่งต่ำกว่าตลาด แต่ 3 ปีย้อนหลังหุ้นกลุ่มพลังงาน Under perform ตลาดมาตลอด
ปัจจัยบวก: การลดภาษีนิติบุคคล 20%, การยกเลิกกฎอัยการศึก, การอัดฉีดงบประมาณภาครัฐไทย, การอัดฉีดเงินของรัฐบาลจีน
ปัจจัยลบ: การโหวดสก๊อตแลนด์ออกจากสหราชอาณาจักร, ภาวะสงครามยูเครนและกลุ่ม ISIS
คำแนะนำ
นักลงทุนระยะสั้น เริ่มทะยอยซื้อสะสมบางส่วน เนื่องจากการปรับฐานแรงๆ ไม่น่าจะมีแล้ว หุ้นไทยมีโอกาสกลับไปทดสอบแนวต้าน 1,600 จุดสูงมาก
นักลงทุนระยะยาว ส่วนที่ทะยอยลดพอร์ตไป 30% แล้วอาจจะถือเงินสดไว้รอซื้อใหม่หากหุ้นมีการปรับฐานแล้ว ส่วนที่เหลือ 70% ถือลุ้นต่อที่ 1,650 จุดที่ High เดิมเมื่อปีก่อน
www.pichai.com
www.facebook.com/Newbieinvestor
หุ้นไทย กลางเดือน ก.ย. 2014 ลุ้นไปต่อ 1650 จุด
*ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bisnews
FED ได้มีการประชุมไปแล้วว่าคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.25% และลดวงเงิน QE 1 หมื่นล้านดอลล่าร์ คงเหลือ 1.5 หมื่นล้านดอลล่าร์ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์
ตลาดหุ้นคาดว่ามีการปรับฐานไปแล้วบางส่วนแบบเบาๆ เพราะมีแรงซื้อต่างชาติเข้ามารองรับไว้ กอร์ปกับรัฐบาลปรับลดภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 20% ทำให้บริษัทในตลาดมีกำไรเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ กำไรต่อหุ้น(EPS) ดีขึ้น ทำให้ค่า Forward P/E หุ้นไทย จะต่ำลง ดังนั้นคาดว่าโอกาสที่หุ้นไทยจะปรับฐานแรงๆ หมดไปแล้ว โดยแนวรับลึกสุดรอบนี้จะอยู่ที่ 1,545 จุด ตรงเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน แต่จังหวะนี้แนะนำทยอยซื้อสะสมบางส่วน เพราะมีโอกาสที่จะลงกับขึ้น 50:50
การซื้อรอบนี้ให้น้ำหนักกลุ่ม ICT เป็นหลัก(กราฟเส้นสีส้ม) เนื่องจากยัง Laggard ดัชนี SET Index ซึ่งหาก SET จะไปที่ 1,650 หุ้นในกลุ่ม ICT ต้องกลับมาที่ราคาเดิม เพราะมี่ขนาด Market cap ที่ใหญ่ ขณะที่กลุ่ม Bank (เส้นสีแดง) วิ่งนำตลาดไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กลุ่มพาณิชย์ COMM (เส้นสีม่วง) เคลื่อนไหวตามดัชนี ส่วนกลุ่มพลังงาน ENERG (เส้นสีฟ้า) ก็ยังวิ่งต่ำกว่าตลาด แต่ 3 ปีย้อนหลังหุ้นกลุ่มพลังงาน Under perform ตลาดมาตลอด
ปัจจัยบวก: การลดภาษีนิติบุคคล 20%, การยกเลิกกฎอัยการศึก, การอัดฉีดงบประมาณภาครัฐไทย, การอัดฉีดเงินของรัฐบาลจีน
ปัจจัยลบ: การโหวดสก๊อตแลนด์ออกจากสหราชอาณาจักร, ภาวะสงครามยูเครนและกลุ่ม ISIS
คำแนะนำ
นักลงทุนระยะสั้น เริ่มทะยอยซื้อสะสมบางส่วน เนื่องจากการปรับฐานแรงๆ ไม่น่าจะมีแล้ว หุ้นไทยมีโอกาสกลับไปทดสอบแนวต้าน 1,600 จุดสูงมาก
นักลงทุนระยะยาว ส่วนที่ทะยอยลดพอร์ตไป 30% แล้วอาจจะถือเงินสดไว้รอซื้อใหม่หากหุ้นมีการปรับฐานแล้ว ส่วนที่เหลือ 70% ถือลุ้นต่อที่ 1,650 จุดที่ High เดิมเมื่อปีก่อน
www.pichai.com
www.facebook.com/Newbieinvestor