สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 55
ปกติผมจะอ่านพันทิพอย่างเดียวแต่เห็นกระทู้อดมาแชร์ประสบการณ์ไม่ได้ ตอนผมลาออกจากงานอายุ 28 มีรายได้เฉลี่ยจากเงินเดือน+คอม ประมาณ 6 หมื่นต่อเดือน ผมคิดเสมอว่ารายได้ผมตันแล้วหละสำหรับการเป็นมนุษย์เงินเดือน ตอนที่ผมลาออกลูกผมเพิ่งเกิดตอนนี้ผ่านมา 4 ปีกว่าละ ธุรกิจแรกที่ผมทำเป็นฟาร์มเลี้ยงปลาดุกให้ cp เริ่มจาก 50000 ตัวกำไร 50000 บาทต่อ 3 เดือน หลังจากนั้น 1 ปีผมเพิ่มเป็น 1 ล้านตัวกำไร 1 ล้านต่อ 3 เดือน สุดท้ายต้องเลิกทำเพราะหาคนงานไม่ได้ ทำฟาร์มปลาดุกเป็นช่วงที่ผมเหนื่อยที่สุดในชีวิต ลองนึกดูว่าผมต้องลงไปในบ่อปลาดุก 1 แสนตัวเพื่อจับมันซิครับ หน้าหนาวต้องลงบ่อจับขาย หลังจากนั้นก็มาทำธุรกิจขนส่งและไร่อ้อยแต่ละอย่างถ้าให้เล่ายาวมากๆตัดบทเลยละกันครับ ทุกวันนี้ผมมีอ้อยปลูกเองอยู่ 400 ไร่ + ตั้งลานรับซื้อ = กำไรจากอ้อยปีละ 5-8 ล้าน มีรถบรรทุกพ่วง 6 คันมีรายได้จากการทำขนส่งช่วงหน้าฝน 6 ล้าน แต่ตอนนี้ผมมีหนี้อยู่ 50 ล้านนะ 5555 ถามว่าตอนนี้ทุกข์มั้ย ?? ผมตื่นนอน 10 โมงทุกวัน บ่ายไปรับลูก ไปเที่ยวได้ทุกที่ทุกเวลาอยู่ที่ไหนก็ได้ เพราะผมให้ลูกน้องทำงานแทนหมด ตื่นมาเปิดคอมดู GPS สิ้นเดือนวางบิลรับเงิน ทำเอกสารไม่เกิน 3 ชม. จ้างลูกน้องเฉลี่ยเดือนละ 40000
ผมให้ข้อคิดไว้แบบนี้ละกันนะครับ
- ถ้าเงินเดือนเป็นแสนอยู่แล้วและคิดว่าทำธุรกิจเองได้เงินพอๆหรือมากกว่ารับเงินเดือนไม่เท่าไหร่ อย่าทำ !!!
- คุณคิดว่ามนุษย์เงินเดือนได้เงินเดือนสูงสุดเท่าไหร่ เดือนละ 1 ล้าน ???? แต่ธุรกิจส่วนตัวทำได้ และทำได้แบบไม่จำกัดด้วยตราบใดสมองคุณยังดี
- มนุษย์เงินเดือนหรือทำธุรกิจส่วนตัวล้วนมีความเสี่ยง อย่าหลอกตัวเอง
- เหนื่อยก่อนสบายก่อน ถ้าทำแล้วเหนื่อยตลอดชีวิต คุณมาผิดทางล่ะ
- หนี้เยอะไม่มีปัญหาถ้าบริหารเป็น และต้องเลือกเป็นหนี้ให้ถูกทาง ถ้าคุณเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ คุณไปผิดทางล่ะ
- คนที่เก่ง (ไม่ได้อวยตัวเองนะอย่าเพิ่งว่าผม) คือคนที่บริหารเวลาเป็น เคยเห็นคนเงินเดือน 2 แสนทำงาน 35 วันต่อเดือนมะครับ ?? แต่คนรายได้เดือนละมากกว่า 1 ล้านทำงานวันที่ 30 วันเดียวและแค่ 3 ชม.
- ถ้าทำในงานที่คุณรักคุณจะไม่คิดว่ามันคืองาน
- อย่าเอาเงินเป็นเป้าหลัก ผมยอมรับว่าผมเลี้ยงปลาดุกเพราะอยากได้เงิน สุดท้ายโครตเหนื่อยถึงแม้จะได้เงิน มันจะทำให้คุณบ้าเอาแรงไปแลกเงิน ความจริงมันควรใช้สมองแลกเงิน (ทุกวันนี้เจ็บหลังไม่หายสักที)
- ใช้สมองเยอะๆ แรกๆอาจจะต้องใช้แรงมากหน่อยเพราะทุนไม่มี
- ผมทำมาหลายอย่างมากและค่อยๆเลิกงานที่ไม่คุ้มกับสิ่งที่ทุ่มเทลงไปทั้งเงินและแรง จนสุดท้ายเหลือแค่ 2-3 อย่างที่ทำเงินและไม่ต้องออกแรง
- ถ้าไม่มีลูกน้องผมคงไม่สบายแบบนี้ เลี้ยงดูเค้าให้ดี ทุกนี้ลูกน้องผม 50 คน สั่งงานทีเดียวไม่ต้องลงมือทำเองแต่ก็ต้องแอบตามไปดูบ้าง
- สุดท้าย สิ่งที่สำคัญที่สุดคุณต้องมี vision และ mindset ที่ถูกต้องก่อน ไม่งั้นคุณอาจจะเหนื่อยแทบขาดใจ แค่คิดเปลี่ยนพฤติกรรมคุณจะเปลี่ยน
ผมให้ข้อคิดไว้แบบนี้ละกันนะครับ
- ถ้าเงินเดือนเป็นแสนอยู่แล้วและคิดว่าทำธุรกิจเองได้เงินพอๆหรือมากกว่ารับเงินเดือนไม่เท่าไหร่ อย่าทำ !!!
- คุณคิดว่ามนุษย์เงินเดือนได้เงินเดือนสูงสุดเท่าไหร่ เดือนละ 1 ล้าน ???? แต่ธุรกิจส่วนตัวทำได้ และทำได้แบบไม่จำกัดด้วยตราบใดสมองคุณยังดี
- มนุษย์เงินเดือนหรือทำธุรกิจส่วนตัวล้วนมีความเสี่ยง อย่าหลอกตัวเอง
- เหนื่อยก่อนสบายก่อน ถ้าทำแล้วเหนื่อยตลอดชีวิต คุณมาผิดทางล่ะ
- หนี้เยอะไม่มีปัญหาถ้าบริหารเป็น และต้องเลือกเป็นหนี้ให้ถูกทาง ถ้าคุณเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ คุณไปผิดทางล่ะ
- คนที่เก่ง (ไม่ได้อวยตัวเองนะอย่าเพิ่งว่าผม) คือคนที่บริหารเวลาเป็น เคยเห็นคนเงินเดือน 2 แสนทำงาน 35 วันต่อเดือนมะครับ ?? แต่คนรายได้เดือนละมากกว่า 1 ล้านทำงานวันที่ 30 วันเดียวและแค่ 3 ชม.
- ถ้าทำในงานที่คุณรักคุณจะไม่คิดว่ามันคืองาน
- อย่าเอาเงินเป็นเป้าหลัก ผมยอมรับว่าผมเลี้ยงปลาดุกเพราะอยากได้เงิน สุดท้ายโครตเหนื่อยถึงแม้จะได้เงิน มันจะทำให้คุณบ้าเอาแรงไปแลกเงิน ความจริงมันควรใช้สมองแลกเงิน (ทุกวันนี้เจ็บหลังไม่หายสักที)
- ใช้สมองเยอะๆ แรกๆอาจจะต้องใช้แรงมากหน่อยเพราะทุนไม่มี
- ผมทำมาหลายอย่างมากและค่อยๆเลิกงานที่ไม่คุ้มกับสิ่งที่ทุ่มเทลงไปทั้งเงินและแรง จนสุดท้ายเหลือแค่ 2-3 อย่างที่ทำเงินและไม่ต้องออกแรง
- ถ้าไม่มีลูกน้องผมคงไม่สบายแบบนี้ เลี้ยงดูเค้าให้ดี ทุกนี้ลูกน้องผม 50 คน สั่งงานทีเดียวไม่ต้องลงมือทำเองแต่ก็ต้องแอบตามไปดูบ้าง
- สุดท้าย สิ่งที่สำคัญที่สุดคุณต้องมี vision และ mindset ที่ถูกต้องก่อน ไม่งั้นคุณอาจจะเหนื่อยแทบขาดใจ แค่คิดเปลี่ยนพฤติกรรมคุณจะเปลี่ยน
ความคิดเห็นที่ 15
ตามนี้เลยค่ะ เราไม่เคยทำงานประจำ เริ่มต้นทำธุรกิจเลยเพราะพ่อเสียเลยทิ้งธุรกิจไว้ให้
เริ่มทำตั้งแต่อายุ 19 จนถึงทุกวันนี้ บอกเลยว่าบางทีอยากจะเลิกทำ อยากไปเป็นพนักงานประจำ
แต่ทิ้งไมไ่ด้ค่ะ กดดันเพราะเป็นธุรกิจที่พ่อสร้างด้วย อีกอย่างเป็นเสาหลักของบ้าน
ถ้าทิ้ง แม่กับน้องเราก็ต้องมาลำบาก T^T
เริ่มทำตั้งแต่อายุ 19 จนถึงทุกวันนี้ บอกเลยว่าบางทีอยากจะเลิกทำ อยากไปเป็นพนักงานประจำ
แต่ทิ้งไมไ่ด้ค่ะ กดดันเพราะเป็นธุรกิจที่พ่อสร้างด้วย อีกอย่างเป็นเสาหลักของบ้าน
ถ้าทิ้ง แม่กับน้องเราก็ต้องมาลำบาก T^T
ความคิดเห็นที่ 41
หลาย ๆ คนมักคิดว่าการออกมาทำธุรกิจส่วนตัว คือทางออกหนึ่งของคนที่เบื่อชีวิตเงินเดือนซ้ำซากจำเจ หรือเบื่อคนเบื่องาน
แต่คงลืมไปว่า จริง ๆ แล้วธุรกิจส่วนตัว คือทางออกสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีค่าเกินกว่าจะแค่ทำงานรับเงินเดือนแล้วเท่านั้น
ไม่ใช่ทางออกสำหรับคนที่สมองโล่ง แค่เบื่องาน เบื่อเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย เงินเดือนน้อย งานหนัก ซะที่ไหน
แต่คงลืมไปว่า จริง ๆ แล้วธุรกิจส่วนตัว คือทางออกสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีค่าเกินกว่าจะแค่ทำงานรับเงินเดือนแล้วเท่านั้น
ไม่ใช่ทางออกสำหรับคนที่สมองโล่ง แค่เบื่องาน เบื่อเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย เงินเดือนน้อย งานหนัก ซะที่ไหน
ความคิดเห็นที่ 45
555 เรานี่แหละคนนึง เคยเป็นลูกจ้าง
ออกมาค้าขาย โค ตะ ระ เหนื่อยยยยยย
ไม่ได้หยุดเลยค่าาา
กว่าจะขายให้ได้กำไรเท่ากับเงินเดือน ที่เคยได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ตอนทำงานประจำ เข้าแปดโมง สี่โมงเลิก มีเวลาลั้ลลาตอนเย็น
ไปวิ่งออกกำลังกาย เข้าเมืองไปซื้อของ นู่น นี่ นั่น
เสาร์ อาทิตย์...หยุด นักขัตฤกษ์....หยุด
รัฐบาลประกาศให้หยุด...หยุด
ป่วย ไอค๊อกแค๊ก...ลาป่วย
พาแม่ไปหาหมอ...ลากิจ
ไปเที่ยวกับแฟน...ลาพักร้อน
แต่ออกมาทำเอง นักขัตฤกษ์ไร ไม่รู้อ่ะ
เค้าหยุด อีนี่เปิดร้านเหมือนเดิม
ป่วยก็ลากสังขารมาเปิดร้าน ถ้าหยุดก็ขาดรายได้ ขณะที่ค่าเช่ายังเท่าเดิม
จิปาถะ เยอะแยะ
เป้าหมายตอนนี้ ขายของไปด้วยและอ่านหนังสือสอบเป็นข้าราชการค่ะ
(ขอกลับไปเป็นลูกจ้างอย่างเดิมเห๊อะ)
............................................................................
แต่ แต่ สามีเราไม่เคยเป็นลูกจ้างนะ
เรียนจบออกมาตั้งธุรกิจเลย ไม่เคยทำงานที่ไหนด้วย
เริ่มจากเล็กเล็ก เดี๋ยวนี้ก็ใหญ่โตพอสมควร
เค้าเหมาะที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจมาก
นิสัยเค้าหรอ เห็นปัญหา พุ่งชนครับพี่น้อง
ปัญหามา แก้ไปทีละจุด จนแก้ได้
พอครั้งแรกแก้ได้ ปัญหาครั้งต่อไป มันก็จะแก้ได้เอง
มีไม้อ่อน ไม้แข็ง พูดจาเป็น รู้จักจังหวะตอนไหนควรพูดอะไรแบบไหน
กล้าได้ กล้าเสีย ชอบความเสี่ยง ชอบอ่านคน (ต่างกับเรามาก เราจะกล้ากล้า กลัวกลัว ไม่ชอบเสี่ยง)
หาความรู้อยู่เสมอ มีคอนเน๊กชั่นเยอะ รู้จักคนไปทั่ว
ตื่นเช้ามาทำงาน บางทีดึกมากแล้ว ก็ยังเห็นเค้าทำอยู่
ขณะที่ลูกจ้างบางคนไปนั่งดริ๊งแล้วมั้ง
ในหัวจะคิดแต่เรื่องงานตลอด
แต่เค้าก็มีมุมผ่อนคลายเหมือนกัน ถ้าวันไหนว่างนี่
ดึกดึกจะชอบไปกินเหล้า กับเพื่อน กลับตีหนึ่งตีสอง
หกโมงตื่นหล่ะ นอนวันละไม่กี่ชั่วโมงเอง โคตรอึด
จะเห็นได้ว่านิสัยเรากับแฟนจะต่างกัน
เราออกแนวสบายสบาย เราว่าเราเหมาะจะเป็นลูกจ้างมากกว่า
แต่นิสัยแฟนเราถ้าเป็นลูกจ้างไม่รุ่งแน่นอน
ยกตัวอย่างให้ดูว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ
และจะมีกำไรที่มากมายมหาศาล
บางคนขาดทุน บางคนเท่าทุน บางคนพออยู่ได้
บางคนได้กำไร มันมีทุกรูปแบบ
นิสัยบางคนก็เหมาะที่จะเป็นลูกจ้าง
ไม่งั้นโลกนี้ก็เป็นเจ้าของธุรกิจกันหมดแล้วสิ
แต่ถ้าใครอยากลอง เราแนะนำ เหมือนเราอ่ะ
ทำเลย ทำมันตอนอายุน้อยน้อยนี่แหละ
ไม่ลองไม่รู้หรอก ถ้าไปไม่รอด ก็กลับไปเป็นลูกจ้างเหมือนเดิม
ไม่เสียหายหรอก ไม่งั้นพอคุณอายุมากนะ มันจะคาใจไง
ว่าถ้าชั้นออกไปเป้นเจ้าของเองจะเป็นไงนะ
เราบอกเลย เราถอดใจเลยนะ พอพอพอ
มันไม่ได้ขาดทุนนะ แต่กำไรที่ได้เราไม่ค่อยพอใจเมื่อเทียบ
กับแรงและเวลาที่เราลงไป
แล้วอีกอย่าง เราเป็นคนเรียนเก่งได้เกียรตินิยม อยู่ในกรอบตลอด
แต่สามีเราเรียนอยู่ท้ายท้ายของห้องมาตลอดตั้งแต่ประถม
ถูถูไถไถมาจนจบ ป.ตรี (เป็นคนไม่ชอบเรียนมากกกก)
ไม่จบสี่ปีอีกต่างหาก ติดเอฟอีก ใบเกรด มีแต่ D กับ C
เริ่มค้าขายมาตั้งแต่อยู่ มหาวิทยาลัย (เรียนก็ไม่ค่อยเรียนอีก)
จบมาหาเงินได้หลักล้านต่อปี แต่เราเรียนเก่ง ได้ไม่กี่หมื่นต่อเดือนเอง
ดูเอาละกัน มีลูก เลี้ยงแบบปล่อยปล่อย ให้มีความคิดเป็นอิสระ
ไม่ต้องให้เรียนเก่งมากก็ได้ (อันนี้นอกเรื่องนะ)
ออกมาค้าขาย โค ตะ ระ เหนื่อยยยยยย
ไม่ได้หยุดเลยค่าาา
กว่าจะขายให้ได้กำไรเท่ากับเงินเดือน ที่เคยได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ตอนทำงานประจำ เข้าแปดโมง สี่โมงเลิก มีเวลาลั้ลลาตอนเย็น
ไปวิ่งออกกำลังกาย เข้าเมืองไปซื้อของ นู่น นี่ นั่น
เสาร์ อาทิตย์...หยุด นักขัตฤกษ์....หยุด
รัฐบาลประกาศให้หยุด...หยุด
ป่วย ไอค๊อกแค๊ก...ลาป่วย
พาแม่ไปหาหมอ...ลากิจ
ไปเที่ยวกับแฟน...ลาพักร้อน
แต่ออกมาทำเอง นักขัตฤกษ์ไร ไม่รู้อ่ะ
เค้าหยุด อีนี่เปิดร้านเหมือนเดิม
ป่วยก็ลากสังขารมาเปิดร้าน ถ้าหยุดก็ขาดรายได้ ขณะที่ค่าเช่ายังเท่าเดิม
จิปาถะ เยอะแยะ
เป้าหมายตอนนี้ ขายของไปด้วยและอ่านหนังสือสอบเป็นข้าราชการค่ะ
(ขอกลับไปเป็นลูกจ้างอย่างเดิมเห๊อะ)
............................................................................
แต่ แต่ สามีเราไม่เคยเป็นลูกจ้างนะ
เรียนจบออกมาตั้งธุรกิจเลย ไม่เคยทำงานที่ไหนด้วย
เริ่มจากเล็กเล็ก เดี๋ยวนี้ก็ใหญ่โตพอสมควร
เค้าเหมาะที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจมาก
นิสัยเค้าหรอ เห็นปัญหา พุ่งชนครับพี่น้อง
ปัญหามา แก้ไปทีละจุด จนแก้ได้
พอครั้งแรกแก้ได้ ปัญหาครั้งต่อไป มันก็จะแก้ได้เอง
มีไม้อ่อน ไม้แข็ง พูดจาเป็น รู้จักจังหวะตอนไหนควรพูดอะไรแบบไหน
กล้าได้ กล้าเสีย ชอบความเสี่ยง ชอบอ่านคน (ต่างกับเรามาก เราจะกล้ากล้า กลัวกลัว ไม่ชอบเสี่ยง)
หาความรู้อยู่เสมอ มีคอนเน๊กชั่นเยอะ รู้จักคนไปทั่ว
ตื่นเช้ามาทำงาน บางทีดึกมากแล้ว ก็ยังเห็นเค้าทำอยู่
ขณะที่ลูกจ้างบางคนไปนั่งดริ๊งแล้วมั้ง
ในหัวจะคิดแต่เรื่องงานตลอด
แต่เค้าก็มีมุมผ่อนคลายเหมือนกัน ถ้าวันไหนว่างนี่
ดึกดึกจะชอบไปกินเหล้า กับเพื่อน กลับตีหนึ่งตีสอง
หกโมงตื่นหล่ะ นอนวันละไม่กี่ชั่วโมงเอง โคตรอึด
จะเห็นได้ว่านิสัยเรากับแฟนจะต่างกัน
เราออกแนวสบายสบาย เราว่าเราเหมาะจะเป็นลูกจ้างมากกว่า
แต่นิสัยแฟนเราถ้าเป็นลูกจ้างไม่รุ่งแน่นอน
ยกตัวอย่างให้ดูว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ
และจะมีกำไรที่มากมายมหาศาล
บางคนขาดทุน บางคนเท่าทุน บางคนพออยู่ได้
บางคนได้กำไร มันมีทุกรูปแบบ
นิสัยบางคนก็เหมาะที่จะเป็นลูกจ้าง
ไม่งั้นโลกนี้ก็เป็นเจ้าของธุรกิจกันหมดแล้วสิ
แต่ถ้าใครอยากลอง เราแนะนำ เหมือนเราอ่ะ
ทำเลย ทำมันตอนอายุน้อยน้อยนี่แหละ
ไม่ลองไม่รู้หรอก ถ้าไปไม่รอด ก็กลับไปเป็นลูกจ้างเหมือนเดิม
ไม่เสียหายหรอก ไม่งั้นพอคุณอายุมากนะ มันจะคาใจไง
ว่าถ้าชั้นออกไปเป้นเจ้าของเองจะเป็นไงนะ
เราบอกเลย เราถอดใจเลยนะ พอพอพอ
มันไม่ได้ขาดทุนนะ แต่กำไรที่ได้เราไม่ค่อยพอใจเมื่อเทียบ
กับแรงและเวลาที่เราลงไป
แล้วอีกอย่าง เราเป็นคนเรียนเก่งได้เกียรตินิยม อยู่ในกรอบตลอด
แต่สามีเราเรียนอยู่ท้ายท้ายของห้องมาตลอดตั้งแต่ประถม
ถูถูไถไถมาจนจบ ป.ตรี (เป็นคนไม่ชอบเรียนมากกกก)
ไม่จบสี่ปีอีกต่างหาก ติดเอฟอีก ใบเกรด มีแต่ D กับ C
เริ่มค้าขายมาตั้งแต่อยู่ มหาวิทยาลัย (เรียนก็ไม่ค่อยเรียนอีก)
จบมาหาเงินได้หลักล้านต่อปี แต่เราเรียนเก่ง ได้ไม่กี่หมื่นต่อเดือนเอง
ดูเอาละกัน มีลูก เลี้ยงแบบปล่อยปล่อย ให้มีความคิดเป็นอิสระ
ไม่ต้องให้เรียนเก่งมากก็ได้ (อันนี้นอกเรื่องนะ)
แสดงความคิดเห็น
ลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวดีกว่า... จริงเหรอ?
... ทำงานประจำ กินเงินเดือน ไม่มีทางรวยแน่ๆ ต้องทำธุรกิจส่วนตัวซิ
... ไม่อยากตื่นเช้าตอกบัตร ไม่อยาก เข้างาน 9 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็น
... ทำไมต้องมาคอยรองรับอารมณ์ เจ้านาย งี่เง่า ลูกค้าขี้วีน ด้วยว่ะ
... หน้าที่ ความสามารถอย่างกู หาเงินได้มากกว่านี้แน่ๆ
... ทำธุรกิจส่วนตัว สบายกว่างานประจำแน่ๆ เหนื่อยเท่าไรก็ได้เท่านั้น
... เบื่อระบบ เบื่อเพื่อนร่วมงาน เบื่อปัญหาของคนอื่น เบื่อ เบื่อ เบื่อ...
ผมออกจากงานประจำมาทำธุรกิจส่วนตัวครบ 1 ปี... ได้ข้อสรุปดังนี้ครับ
... ทุกธุรกิจ มีความเสี่ยง ทุกธุรกิจ มีกำไร และขาดทุน
... งานประจำ วันไหนขี้เกียจไปทำงานก็ หยุด วันไหนอยากไปเที่ยว ก็ลา ได้
... ทำธุรกิจคุณจะเจอปัญหาเยอะแยะไปหมด ตั้งแต่พนักงาน ลูกค้า คุณภาพงาน ที่สำคัญเรื่องเงิน
... ทำงานประจำ... เบื่อ คุณสามารถลาออกได้ ... แต่ทำธุรกิจ... ถ้าคุณเบื่อ คือ... จบกัน
ทำธุรกิจ ไม่ได้ง่าย และสบาย อย่างที่คิดหรอกครับ...
แต่ถ้าพร้อมรับแรงกระแทก... ก็ออกมาลุยได้เลยครับ... โลกธุรกิจ ยินดีต้อนรับ