ดูจากกระแสในช่วงนี้เหมือนอาชีพนี้จะไม่ค่อยน่าอภิรมย์กับคนทั่วไปซักเท่าไหร่ เพราะนโยบาย หมกเม็ด ต่างๆที่แฝงมากับการบริการ ซึ่งถ้าให้พูดตรงๆก็คือเป็นเรื่องน่ารังเกียจมากที่แฝงค่าธรรมเนียม ค่าประกัน ค่าบัตร ค่าฯลฯ มากับบริการแบบเนียนๆโดยลูกค้าที่ไม่รู้เท่าทัน อากู๋ อาซิ่ม อาม่า คุณป้า คุณน้า คุณอาบางท่านก็อาจเซ็นๆ ไปโดยไม่รู้อะไรเลย รู้อีกทีก็เมื่อมีบิล ถึงบ้าน ถ้าแนวโน้มยังเป็นอย่างนี้ต่อไป ผมว่าจะทำให้พนักงานธนาคารนอกจากเป็นอาชีพที่ไม่มีเกียรติแล้ว ยังอาจติดชาร์จ อาชีพน่ารังเกียจลำดับต้นๆในอานาคตเลยก็ว่าได้ เพราะแนวโน้มภาพลักษณ์มันไปทางนั้นจริงๆ ในความรู้สึกของผู้ใช้บริการปัจจุบัน แทบไม่อยากให้เกียรติพนักงานธนาคารอยู่แล้ว เพราะ เข้าสาขาไปแล้วรู้สึกตัวเองคือ"หยื่อ" ยังไงก็ไม่รู้ นี่สดๆร้อนๆเพิ่งโดนโทรทวงค่ารายปีจากบัตรวีซ่าที่ช่วยพนักงานทำตามที่เขาขอร้องแต่ไม่เคยใช้งาน ตอนทำบอก ฟรีค่าธรรมเนียมตลอดชีพ ไม่มีค่า ไม่มีค่ะ ถือไว้ไม่ใช้ก็ไม่เป็นไรค่ะ สุดท้ายบิลมา 2000 กว่าบาท บอกว่าสะสมไม่ชำระค่าธรรมเนียม และ ค่าปรับ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีบิลมาเลยเนี่ยนะ เหอๆ
เลยอยากฝากให้เหล่านายแบงค์เสือนอนกินทั้งหลายว่า ภาพลักษณ์ของพนักงานสาขาท่านกำลังดิ่งเหวลงทุกวัน ในเมื่อลุกค้าเข้าไปสาขาแล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหยื่อ ที่ต้องตั้งสติตลอดเวลา ห้ามเผลอเรอ ห้ามใจอ่อน ห้ามให้เอกสารสุ่มสี่สุ่มห้า ก็ไม่จำเป็นต้องให้เกียติพนักงานในสาขามากนักหรอก เพราะการกระทำที่หมดเม็ดตามนโยบายของทา่นๆ นั่นในทางธุรกิจ ถือเป็นเรื่องที่ น่ารังเกียจ สุดๆ
ดูจากแนวโน้มแล้ว ต่อไปอาชีพพนักงานธนาคาร นอกจากจะไม่เป็นที่นิยมแล้ว อาจกลายเป็นอาชีพที่น่ารังเกียจอีกด้วย
เลยอยากฝากให้เหล่านายแบงค์เสือนอนกินทั้งหลายว่า ภาพลักษณ์ของพนักงานสาขาท่านกำลังดิ่งเหวลงทุกวัน ในเมื่อลุกค้าเข้าไปสาขาแล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหยื่อ ที่ต้องตั้งสติตลอดเวลา ห้ามเผลอเรอ ห้ามใจอ่อน ห้ามให้เอกสารสุ่มสี่สุ่มห้า ก็ไม่จำเป็นต้องให้เกียติพนักงานในสาขามากนักหรอก เพราะการกระทำที่หมดเม็ดตามนโยบายของทา่นๆ นั่นในทางธุรกิจ ถือเป็นเรื่องที่ น่ารังเกียจ สุดๆ