เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายไกรสร แสงอนันต์ หรือ ไกรสร ลีละเมฆินทร์ อดีตพระเอก-นักแสดงชื่อดัง สามีอดีตนักร้องราชินีลูกทุ่ง พุ่งพวง ดวงจันทร์ ซึ่งได้มาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ในห้างสรรพสินค้า เมญ่า ถ.ห้วยแก้ว อ.เมืองเชียงใหม่ เป็นประจำ โดยการเดินทางมาครั้งนี้ เนื่องจากมีกระแสข่าวจากแวดวงบันเทิงว่า ลูกชายของนายไกรสร คือ นายสรภพ ลีละเมฆินทร์ หรือ เพชร จะมาทำพิธีขอขมา ผู้เป็นพ่อ หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า เพชร ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและตระเวน ไปกราบขอขมา พี่ป้าน้าอา ยาย ย่า ญาติของทางฝั่งผู้เป็นแม่ พุ่มพวง ดวงจันทร์ โดยจะมาหาผู้เป็นพ่อ เป็นบุคคลสุดท้ายที่จะมากราบขอขมา สำนึกผิด ที่ได้เคยกระทำทั้งคำพูด และอาการที่ไม่เหมาะสม กับผู้เป็นพ่อ มานับหลายครั้ง จนทำให้ผู้เป็นพ่อ ต้องเสียใจถึงกับร้องไห้ และกลับมาอยู่ที่เชียงใหม่ จนทุกวันนี้
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาพบ นายไกรสร แสงอนันต์ โดยนายไกรสร ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวกรณี ลูกชายจะได้ทำพิธีกราบขอขมา ผู้เป็นพ่อว่า ตนทราบข่าวว่าลูกชายของตนเดินทางไปขอขมา คุณยาย หรือ คุณแม่ของพุ่มพวง ซึ่งตนก็รู้สึกดีใจ และยินดีด้วยที่ลูกคิดแบบนี้ ได้ข่าวมาประมาณอาทิตย์หนึ่งแล้ว ทางสลักจิตร ดวงจันทร์ น้องสาวของพุ่งพวง ได้โทรศัพท์มาบอก และทางนายห้างทวีชัย ก็ได้โทรศัพท์มาหาตน บอกว่า น้องเพชร จะได้มากราบขอขมาตน
โดยทางนายห้างทวีชัย ได้บอกว่า เรื่องการมากราบขอขมาตนนั้น ทางน้องเพชร เขาคิดได้เองจริงๆ ไม่มีใครไปบังคับแต่อย่างใด ซึ่งตนก็มาคิดว่า หากลูกเพชร คิดได้แบบนี้ก็เป็นเรื่องดี เพราะลูกเพชรเอง อายุก็ใกล้จะ 30 แล้ว ซึ่งในแวดวงสังคมดาราหรือนักร้องนักแสดง หากยังคิดไม่ได้ในจุดนี้ ก็คงจะเกิดยาก สังคมจะไม่ยอมรับ ซึ่งนายห้างทวีชัย ก็ได้ย้ำกับตนทางโทรศัพท์ว่า ลูกเพชร เดี๋ยวนี้เป็นผู้ใหญ่ พูดจาเป็นผู้ใหญ่ มีหลักมีเกณฑ์ ซึ่งตนก็ได้บอกกับทางห้างฯ ไปว่า ตนนั้นดีใจด้วยจริงๆ ที่ลูกชายตนคิดได้อย่างนี้
นายห้างทวีชัย ได้บอกกับตนว่า เรื่องน้องเพชร จะมากราบขอเขมา ตนนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการโปรโมทอะไรทั้งสิ้น เป็นเรื่องที่น้องเพชร คิดได้เอง ได้ห้างฯ พูดแบบนี้ ตนนั้นแสนจะดีใจ ความเป็นพ่อนั้นให้อภัยลูกอยู่แล้ว แต่ผมกลัวอย่างเดียว เหมือนเมื่อครั้งก่อนที่เคยไปออกรายการโทรทัศน์ของคุณวิทวัส ฯ รายการ ตีสิบ เมื่อครั้งก่อน ซึ่งทำให้ผมเสียใจอย่างมาก เมื่อถูกลูกชายทำกับผมแบบนั้น ต่อหน้าสาธารณชน ออกอากาศ คิดถึงเมื่อไหร่ ก็แสนจะเจ็บปวด แสนจะทรมาน กับการกระทำของลูกที่ทำกับผมเมื่อครั้งออกรายการครั้งนั้น แต่เอาเถอะ เมื่อลูกตนกลับเนื้อกลับตัวได้ และมีความคิดเป็นคนใหญ่ขึ้น สำนึกระลึกถึงพระคุณพ่อแม่ ผมอภัยให้ลูกเสมอ
“ทั้งน้องสาวพุ่มพวง และนายห้างทวีชัย ได้โทรศัพท์บอกผมว่า ลูกเพชร เป็นผู้ใหญ่และจะมากราบขอขมาผม แต่ก็เป็นเพียงน้องสาวพุ่มพวง และนายห้างทวีชัย โทรศัพท์มาบอก แต่ลูกเพชรไม่ได้โทรศัพท์หาผมเลย ไม่เป็นไร ผมจะเฝ้ารอโทรศัพท์จากลูกตลอด ผมรักลูกมาก และพร้อมอภัยให้ลูกเสมอ ผมไม่เคยเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ผมเลย เพียงเพื่อหวังว่า สักวันลูกจะโทรศัพท์มาหาผม แต่อยากฝากเตือนสติ อย่ามากราบขอขมาพ่อ “หากใจลูกเพชรยังไม่รู้สึกผิด” ตั้งสติให้ดี คิดให้ดี คิดดีเพื่อดีสู่ดี นะลูก”
“คำพูด กิริยา ท่าทาง ให้ร้ายพ่อ ที่ร้ายที่สุด หาว่าพ่อ ทำมิดีมิร้ายกับลูก สิ่งนี้ ทำให้พ่อเสียใจอย่างมาก ไม่เคยคิดเลยว่า ความคิดลูก ในตอนนั้น จะเป็นถึงเพียงนี้ แม่ของลูกไม่เคยทำให้พ่อเสียใจเลย พ่อลืมทุกอย่างได้เสมอ หากลูกสำนึกผิดและคิดใหม่ได้จริงอย่างที่คนอื่นพูด พ่ออยากฟังจากปากของลูกเอง ไม่ต้องผ่านคนอื่นมา พ่อพร้อมอโหสิกรรม และให้อภัยลูก และขออวยพรให้ลูก ให้เจริญๆ และประสบความสำเร็จ สมปรารถนาในชีวิตดั่งที่ลูกต้องการ พ่อรักลูกที่สุด”
นายไกรสร แสงอนันต์ ได้เผยในตอนที่ทำให้ช้ำใจและเสียใจกับการกระทำของลูกมากที่สุด เมื่อครั้งที่ได้ไปออกรายการตีสิบ ของนายวิทวัส สุนทรวิเนตร์ เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา ว่า ตนบันทึกเทป รายการตีสิบ ทีมงานได้มาบอกกับตนว่า ตอนนี้ ลูกเพชร กลับเนื้อกลับตัวแล้ว และเขาจะทำเซอร์ไพรส์ มาขอโทษพี่กลางรายการเลย ตอนนั้นตนดีใจมาก พอเริ่มอัดรายการ ผมนั่งปั๊บ เริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศ เริ่มแปลกๆ คิดว่าคงมีรายการเซอร์ไพรส์ และทางคุณวิทวัส ก็ได้ถามตนขณะอัดรายการว่า “พร้อมหรือยังที่จะได้เจอกับลูกชาย” ตอนนั้นผมก็ได้ตอบไปว่าพร้อม ดีใจที่สุด เขาไม่ได้บอกผมนะว่า ลูกเพชร จะมาด่าผมกลางรายการ ทีมงานบอกลูกชายจะมาขอโทษ ผมก็ดีใจ ตื่นเต้นมาก
แต่พอเพชรออกมาในรายการ ลูกเพชรหอบแฟ้มมาด้วย เราดีใจจะเข้าไปกอดลูก ลูกไม่ให้กอด ตอนนั้นผมเริ่มงงและเสียหน้ามาก พอนั่งสัมภาษณ์กันในรายการ ลูกเพชร ก็เปิดฉาก ต่อว่าตนด่าตนทันที กลายเป็นหนังคนละม้วนเลย เรื่องไปกันใหญ่ ทางวิทวัส ก็ปล่อยเลยตามเลย ตอนนั้นผมรู้ว่ากำลังอัดรายการ จึงใจเย็นไม่กล้าที่จะพูดมากอะไร เพราะกลัวว่าจะเสียทั้งสองคน ทั้งตนและลูก ลูกชายผมขุดคุ้ยเรื่องเก่าออกมาด่าตนเสียหาย ตนได้แต่พูดว่า “ใจเย็นๆ นะลูกนะ” ในตอนนั้นผมพยายามพูดในสิ่งที่ดี ทั้งเรื่องรอยเท้าลูกรอยมือลูก ใบเกิดลูก สูติบัตรของลูกที่ผมเก็บไว้เสมอ ผลการเรียนของลูกตั้งแต่เริ่มแรก รางวัลต่างๆ เพื่อจะให้เขารู้ว่า พ่อนั้นเก็บหลักฐานสำคัญของลูกไว้เสมอ ผมพูดถึงความดีของลูกในรายการ แต่ลูกชายผมตอนนั้นไม่สนใจ ได้แต่ด่าผมอย่างเดียว ตอนนั้นผมเจ็บปวด ทรมาน นิ่งอย่างเดียว
ตอนนั้นมีผู้หลักผู้ใหญ่ เข้ามาเบรก และบอกว่า เพชร มานั่งด่าพ่อแบบนี้ไม่ได้ มีการไปอบรมเพชรนานกว่า 10 กว่านาที ตอนนั้นผมเสียใจและร้องไห้ด้วย หลังจากนั้นก็ได้ให้มีการอัดรายการใหม่อีกครั้ง ตอนนี้เพชร เหมือนถูกบังคับ หรือล้างสมองมา และทำทีมากราบขอโทษตน ทั้งที่ด่ามาหยกๆ และทางรายการก็ถามว่าให้อภัยลูกนะ พอออกจากรายการ ก็ต่างคนต่างแยกทางกันเลย เหตุการณ์แบบนั้น ผมไม่อยากให้กลับมาอีกเลย ผมเลยไม่มั่นใจ
“หากลูกเพชร สำนึกผิดจริง แค่โทรมาหาตน ตนก็ดีใจแล้ว ไม่ใช่มีแต่คนอื่นโทรมาบอก เพียงแค่ลูกบอก จะให้ตนทำอะไร ตนก็พร้อม ตนอยากจะได้พูดคุยกับลูก และบอกให้ลูกรู้ว่า พ่อผิดอะไรตรงไหน ให้ลูกพูดมาให้หมด และตนก็พร้อมที่จะอธิบายให้ลูกได้เข้าใจ กับเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด และพร้อมที่จะให้อภัยลูกเสมอ พ่อจะลืมทุกอย่างที่ผ่านมา และกระแสข่าวที่ลูกชายของตนจะมากราบขอขมาตน เพียงเพื่อหวังจะโปรโมตอะไรก็ตาม ตนยอมรับ อย่างน้อยๆ ก็จะได้เห็นหน้าลูก ใช่ผมอาจจะไม่ใช่พ่อที่ดีที่สุด แต่ผมรักลูกมากนะ” นายไกรสร เผย พร้อมทั้งน้ำตาคลอ
ข่าวจาก : ข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE1EUXdPREF6T0E9PQ==&subcatid=
‘ไกรสร แสงอนันต์’ ดีใจ ‘น้องเพชร’ ลูกชายจะมาขอขมา ประกาศพร้อมให้อภัยทุกอย่าง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายไกรสร แสงอนันต์ หรือ ไกรสร ลีละเมฆินทร์ อดีตพระเอก-นักแสดงชื่อดัง สามีอดีตนักร้องราชินีลูกทุ่ง พุ่งพวง ดวงจันทร์ ซึ่งได้มาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ในห้างสรรพสินค้า เมญ่า ถ.ห้วยแก้ว อ.เมืองเชียงใหม่ เป็นประจำ โดยการเดินทางมาครั้งนี้ เนื่องจากมีกระแสข่าวจากแวดวงบันเทิงว่า ลูกชายของนายไกรสร คือ นายสรภพ ลีละเมฆินทร์ หรือ เพชร จะมาทำพิธีขอขมา ผู้เป็นพ่อ หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า เพชร ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและตระเวน ไปกราบขอขมา พี่ป้าน้าอา ยาย ย่า ญาติของทางฝั่งผู้เป็นแม่ พุ่มพวง ดวงจันทร์ โดยจะมาหาผู้เป็นพ่อ เป็นบุคคลสุดท้ายที่จะมากราบขอขมา สำนึกผิด ที่ได้เคยกระทำทั้งคำพูด และอาการที่ไม่เหมาะสม กับผู้เป็นพ่อ มานับหลายครั้ง จนทำให้ผู้เป็นพ่อ ต้องเสียใจถึงกับร้องไห้ และกลับมาอยู่ที่เชียงใหม่ จนทุกวันนี้
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาพบ นายไกรสร แสงอนันต์ โดยนายไกรสร ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวกรณี ลูกชายจะได้ทำพิธีกราบขอขมา ผู้เป็นพ่อว่า ตนทราบข่าวว่าลูกชายของตนเดินทางไปขอขมา คุณยาย หรือ คุณแม่ของพุ่มพวง ซึ่งตนก็รู้สึกดีใจ และยินดีด้วยที่ลูกคิดแบบนี้ ได้ข่าวมาประมาณอาทิตย์หนึ่งแล้ว ทางสลักจิตร ดวงจันทร์ น้องสาวของพุ่งพวง ได้โทรศัพท์มาบอก และทางนายห้างทวีชัย ก็ได้โทรศัพท์มาหาตน บอกว่า น้องเพชร จะได้มากราบขอขมาตน
โดยทางนายห้างทวีชัย ได้บอกว่า เรื่องการมากราบขอขมาตนนั้น ทางน้องเพชร เขาคิดได้เองจริงๆ ไม่มีใครไปบังคับแต่อย่างใด ซึ่งตนก็มาคิดว่า หากลูกเพชร คิดได้แบบนี้ก็เป็นเรื่องดี เพราะลูกเพชรเอง อายุก็ใกล้จะ 30 แล้ว ซึ่งในแวดวงสังคมดาราหรือนักร้องนักแสดง หากยังคิดไม่ได้ในจุดนี้ ก็คงจะเกิดยาก สังคมจะไม่ยอมรับ ซึ่งนายห้างทวีชัย ก็ได้ย้ำกับตนทางโทรศัพท์ว่า ลูกเพชร เดี๋ยวนี้เป็นผู้ใหญ่ พูดจาเป็นผู้ใหญ่ มีหลักมีเกณฑ์ ซึ่งตนก็ได้บอกกับทางห้างฯ ไปว่า ตนนั้นดีใจด้วยจริงๆ ที่ลูกชายตนคิดได้อย่างนี้
นายห้างทวีชัย ได้บอกกับตนว่า เรื่องน้องเพชร จะมากราบขอเขมา ตนนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการโปรโมทอะไรทั้งสิ้น เป็นเรื่องที่น้องเพชร คิดได้เอง ได้ห้างฯ พูดแบบนี้ ตนนั้นแสนจะดีใจ ความเป็นพ่อนั้นให้อภัยลูกอยู่แล้ว แต่ผมกลัวอย่างเดียว เหมือนเมื่อครั้งก่อนที่เคยไปออกรายการโทรทัศน์ของคุณวิทวัส ฯ รายการ ตีสิบ เมื่อครั้งก่อน ซึ่งทำให้ผมเสียใจอย่างมาก เมื่อถูกลูกชายทำกับผมแบบนั้น ต่อหน้าสาธารณชน ออกอากาศ คิดถึงเมื่อไหร่ ก็แสนจะเจ็บปวด แสนจะทรมาน กับการกระทำของลูกที่ทำกับผมเมื่อครั้งออกรายการครั้งนั้น แต่เอาเถอะ เมื่อลูกตนกลับเนื้อกลับตัวได้ และมีความคิดเป็นคนใหญ่ขึ้น สำนึกระลึกถึงพระคุณพ่อแม่ ผมอภัยให้ลูกเสมอ
“ทั้งน้องสาวพุ่มพวง และนายห้างทวีชัย ได้โทรศัพท์บอกผมว่า ลูกเพชร เป็นผู้ใหญ่และจะมากราบขอขมาผม แต่ก็เป็นเพียงน้องสาวพุ่มพวง และนายห้างทวีชัย โทรศัพท์มาบอก แต่ลูกเพชรไม่ได้โทรศัพท์หาผมเลย ไม่เป็นไร ผมจะเฝ้ารอโทรศัพท์จากลูกตลอด ผมรักลูกมาก และพร้อมอภัยให้ลูกเสมอ ผมไม่เคยเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ผมเลย เพียงเพื่อหวังว่า สักวันลูกจะโทรศัพท์มาหาผม แต่อยากฝากเตือนสติ อย่ามากราบขอขมาพ่อ “หากใจลูกเพชรยังไม่รู้สึกผิด” ตั้งสติให้ดี คิดให้ดี คิดดีเพื่อดีสู่ดี นะลูก”
“คำพูด กิริยา ท่าทาง ให้ร้ายพ่อ ที่ร้ายที่สุด หาว่าพ่อ ทำมิดีมิร้ายกับลูก สิ่งนี้ ทำให้พ่อเสียใจอย่างมาก ไม่เคยคิดเลยว่า ความคิดลูก ในตอนนั้น จะเป็นถึงเพียงนี้ แม่ของลูกไม่เคยทำให้พ่อเสียใจเลย พ่อลืมทุกอย่างได้เสมอ หากลูกสำนึกผิดและคิดใหม่ได้จริงอย่างที่คนอื่นพูด พ่ออยากฟังจากปากของลูกเอง ไม่ต้องผ่านคนอื่นมา พ่อพร้อมอโหสิกรรม และให้อภัยลูก และขออวยพรให้ลูก ให้เจริญๆ และประสบความสำเร็จ สมปรารถนาในชีวิตดั่งที่ลูกต้องการ พ่อรักลูกที่สุด”
นายไกรสร แสงอนันต์ ได้เผยในตอนที่ทำให้ช้ำใจและเสียใจกับการกระทำของลูกมากที่สุด เมื่อครั้งที่ได้ไปออกรายการตีสิบ ของนายวิทวัส สุนทรวิเนตร์ เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา ว่า ตนบันทึกเทป รายการตีสิบ ทีมงานได้มาบอกกับตนว่า ตอนนี้ ลูกเพชร กลับเนื้อกลับตัวแล้ว และเขาจะทำเซอร์ไพรส์ มาขอโทษพี่กลางรายการเลย ตอนนั้นตนดีใจมาก พอเริ่มอัดรายการ ผมนั่งปั๊บ เริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศ เริ่มแปลกๆ คิดว่าคงมีรายการเซอร์ไพรส์ และทางคุณวิทวัส ก็ได้ถามตนขณะอัดรายการว่า “พร้อมหรือยังที่จะได้เจอกับลูกชาย” ตอนนั้นผมก็ได้ตอบไปว่าพร้อม ดีใจที่สุด เขาไม่ได้บอกผมนะว่า ลูกเพชร จะมาด่าผมกลางรายการ ทีมงานบอกลูกชายจะมาขอโทษ ผมก็ดีใจ ตื่นเต้นมาก
แต่พอเพชรออกมาในรายการ ลูกเพชรหอบแฟ้มมาด้วย เราดีใจจะเข้าไปกอดลูก ลูกไม่ให้กอด ตอนนั้นผมเริ่มงงและเสียหน้ามาก พอนั่งสัมภาษณ์กันในรายการ ลูกเพชร ก็เปิดฉาก ต่อว่าตนด่าตนทันที กลายเป็นหนังคนละม้วนเลย เรื่องไปกันใหญ่ ทางวิทวัส ก็ปล่อยเลยตามเลย ตอนนั้นผมรู้ว่ากำลังอัดรายการ จึงใจเย็นไม่กล้าที่จะพูดมากอะไร เพราะกลัวว่าจะเสียทั้งสองคน ทั้งตนและลูก ลูกชายผมขุดคุ้ยเรื่องเก่าออกมาด่าตนเสียหาย ตนได้แต่พูดว่า “ใจเย็นๆ นะลูกนะ” ในตอนนั้นผมพยายามพูดในสิ่งที่ดี ทั้งเรื่องรอยเท้าลูกรอยมือลูก ใบเกิดลูก สูติบัตรของลูกที่ผมเก็บไว้เสมอ ผลการเรียนของลูกตั้งแต่เริ่มแรก รางวัลต่างๆ เพื่อจะให้เขารู้ว่า พ่อนั้นเก็บหลักฐานสำคัญของลูกไว้เสมอ ผมพูดถึงความดีของลูกในรายการ แต่ลูกชายผมตอนนั้นไม่สนใจ ได้แต่ด่าผมอย่างเดียว ตอนนั้นผมเจ็บปวด ทรมาน นิ่งอย่างเดียว
ตอนนั้นมีผู้หลักผู้ใหญ่ เข้ามาเบรก และบอกว่า เพชร มานั่งด่าพ่อแบบนี้ไม่ได้ มีการไปอบรมเพชรนานกว่า 10 กว่านาที ตอนนั้นผมเสียใจและร้องไห้ด้วย หลังจากนั้นก็ได้ให้มีการอัดรายการใหม่อีกครั้ง ตอนนี้เพชร เหมือนถูกบังคับ หรือล้างสมองมา และทำทีมากราบขอโทษตน ทั้งที่ด่ามาหยกๆ และทางรายการก็ถามว่าให้อภัยลูกนะ พอออกจากรายการ ก็ต่างคนต่างแยกทางกันเลย เหตุการณ์แบบนั้น ผมไม่อยากให้กลับมาอีกเลย ผมเลยไม่มั่นใจ
“หากลูกเพชร สำนึกผิดจริง แค่โทรมาหาตน ตนก็ดีใจแล้ว ไม่ใช่มีแต่คนอื่นโทรมาบอก เพียงแค่ลูกบอก จะให้ตนทำอะไร ตนก็พร้อม ตนอยากจะได้พูดคุยกับลูก และบอกให้ลูกรู้ว่า พ่อผิดอะไรตรงไหน ให้ลูกพูดมาให้หมด และตนก็พร้อมที่จะอธิบายให้ลูกได้เข้าใจ กับเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด และพร้อมที่จะให้อภัยลูกเสมอ พ่อจะลืมทุกอย่างที่ผ่านมา และกระแสข่าวที่ลูกชายของตนจะมากราบขอขมาตน เพียงเพื่อหวังจะโปรโมตอะไรก็ตาม ตนยอมรับ อย่างน้อยๆ ก็จะได้เห็นหน้าลูก ใช่ผมอาจจะไม่ใช่พ่อที่ดีที่สุด แต่ผมรักลูกมากนะ” นายไกรสร เผย พร้อมทั้งน้ำตาคลอ
ข่าวจาก : ข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE1EUXdPREF6T0E9PQ==&subcatid=