หมายเหตุ: นี่คือการเขียนขอร้องครั้งสุดท้ายต่อช่อง 3 ก่อนที่จะหมดความศรัทธาอย่างถาวร เพราะไม่ว่าใครที่ทราบถึงเรื่องนี้ก็รับไม่ได้กับการกระทำของช่อง 3 ผู้บริหารของช่อง และนักข่าวหลายคน หากไม่สนใจ หรือไม่ทำตามอย่างไร ก็ขอให้ทราบว่า ผมไม่มีความศรัทธาที่จะดูช่องนี้อีกต่อไป
ผมเขียนกระทู้สะกิดถึงช่อง 3 มาถึงตอนนี้ ก็เป็นการเรียกร้องครั้งสุดท้ายที่ผมจะให้ช่อง 3 นึกถึงผลกระทบจากการที่ช่อง 3 เลือกที่จะไม่ออกอากาศคู่ขนาน และไม่ออกอากาศทางช่องดาวเทียม ยังอยู่ในระบบอนาล็อกเช่นเดิม ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อช่อง 3 เลย ผลเสียของช่อง 3 เป็นอย่างไรบ้าง? ทางช่องก็น่าจะทราบอยู่ด้วยนะ
มองย้อนไปอดีตก่อน
ต้องย้อนไปถึงสมัยที่ทีวีดิจิตอลยังไม่เกิด ก็มี Must Carry ชั่วคราวให้ช่องอนาล็อกออกอากาศบนดาวเทียม ภายหลังจากที่ทีวีดิจิตอลเกิด สิทธิ์นี้จึงตกไปเป็นของช่องทีวีดิจิตอล ซึ่งประกอบไปด้วยช่องธุรกิจ 24 ช่อง และช่องสาธารณะอีก 12 ช่อง โดยรวมถึงช่องที่มาจากอนาล็อกเดิม 5 ช่องอยู่ด้วย ได้แก่ ททบ.5 ช่อง 7 สี โมเดิร์นไนน์ทีวี สทท. และไทยพีบีเอส แต่ช่อง 3 ก็ไม่ยอมเข้ามาสู่ทีวีดิจิตอล เมื่อผล Must Carry เริ่มบังคับใช้แล้ว ช่อง 3 ที่ไม่ได้ออกอากาศคู่ขนานก็ต้องเป็นไปตามกฎ Must Carry ในวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อวันที่ 22 พ.ค. เกิดรัฐประหารเสียก่อน ทุกช่องต้องออกอากาศ ททบ.5 ทุกแพลตฟอร์ม ดังนั้น จึงต้องยืด Must Carry ไปอีก 100 วัน ถึง 1 กันยายนนี้
เมื่อถึงวันนั้น Must Carry เริ่มมีผลแล้ว ช่องทีวีดิจิตอลจึงกลายเป็นฟรีทีวีเต็มรูปแบบทุกช่อง ช่องอนาล็อกไม่ว่าจะเป็น ททบ.5 ช่อง 7 สี โมเดิร์นไนน์ทีวี สทท. และไทยพีบีเอส ได้เป็นฟรีทีวีในฐานะช่องทีวีดิจิตอลต่อ (อนาล็อกหมดสภาพ) ส่วนช่อง 3 หมดสภาพ Must Carry สิ้นสุดการเป็นฟรีทีวีไป
ยืด-เยื้อ-เอื้อผลประโยชน์
การยืดเยื้อหลังจากที่ 1 กันยายนช่อง 3 หมดสภาพ Must Carry เริ่มจากทางกรรมการ กสท. คนหนึ่งได้ให้ข้อความที่ไม่ชัดเจน และไม่ได้มีคำสั่งทางปกครองที่ชัดเจน เมื่อเป็นเช่นนี้กล่องดาวเทียมทั้งหลายก็ยังออกอากาศช่อง 3 อนาล็อกเช่นเดิม ราวกับว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรออกมา ส่วนช่อง 3 ที่ยังต้องรอฟังผลคำพิพากษาจากการถอน Must Carry ก็ได้สร้างเหตุผลออกมามากมายที่จะไม่ยอมออกอากาศคู่ขนาน หรือขอยื่นทำช่องดาวเทียม บางเหตุผลก็จริง บ้างก็เท็จ แต่ที่แน่ๆ คือ 'มโน' เสียเป็นส่วนใหญ่ และยิ่งไปกว่านั้น คือการ "อ้างประชาชน" ที่รับชมทีวีผ่านดาวเทียมและเคเบิ้ลกว่า 70% ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ที่จริงแล้วยังผู้ชมทีวีดิจิตอลอีก แต่ยังเป็นส่วนน้อย และจะเพิ่มขึ้นเมื่อคูปองทีวีดิจิตอลเริ่มออกมา
คู่ขนานเสียเถิดจะเกิดผล
การออกอากาศคู่ขนานของช่องอื่นๆ แม้ว่าช่วงระยะแรกจะลำบากอยู่ด้วยเพราะโครงข่ายทีวีดิจิตอลอาจมาไม่ถึง แต่เมื่อโครงข่ายทีวีดิจิตอลครอบคลุมทั่วประเทศเมื่อใด ทีวีดิจิตอลก็จะมาแทนที่ทีวีอนาล็อก หรือทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวี เพราะเจตนารมณ์ของ กสท. นั่นคือการสร้างให้ทีวีดิจิตอลเป็นแพลตฟอร์มหลักของการรับชมโทรทัศน์ของไทย (ส่วนพื้นที่ที่ไปไม่ถึงก็ต้องให้กล่องดาวเทียมเข้ามาช่วยในภายหลัง)
โฆษณาก็เช่นกัน เมื่อผ่านไป เอเจนซี่ก็จะเริ่มให้ความสำคัญต่อช่องทีวีดิจิตอลอย่างแน่นอน เพราะไม่มีใครหรอกครับที่จะให้ทีวีดิจิตอลต้องเจ๊งเพราะการถ่วงของช่อง 3 ที่ไม่ยอมออกอากาศคู่ขนาน
คู่ขนานดีอย่างไร การคู่ขนานเข้าทีวีดิจิตอล จะทำให้ช่อง 3 มีสถานีฟรีทีวีในฐานะช่องทีวีดิจิตอลทันที และนอกจากนี้ โฆษณาก็ยังได้เท่าเดิม คือเวลาโฆษณา 12 นาทีต่อชั่วโมง แต่ถ้าทำช่องดาวเทียม ก็ต้องออกอากาศในเงื่อนไขเวลาโฆษณาเพียงแค่ 6 นาทีต่อชั่วโมง
เหตุผลที่แท้จริง
คงจะไม่มีอะไรที่เกินจาก "เหตุผล" ที่แท้จริงของช่อง 3 คือต้องการหาค่าโฆษณาจากเรตติ้งที่สูง โดยรายการที่มีเรตติ้งสูงได้แก่ เรื่องเล่าเช้านี้ เรื่องเด่นเย็นนี้ ตีสิบ ชิงร้อยชิงล้าน TheVoice TGT ส่วนรายการอื่นได้ประโยชน์จากคนดูที่ยังดูต่อเนื่อง เพราะช่อง 3 มีคอนเทนต์ที่เน้นครอบครัว
แต่สิ่งที่ช่อง 3 ต้องการมากกว่าคือ การที่ได้ออกอากาศทั้ง 4 ช่อง (ดิจิตอล 3 ช่อง อนาล็อก 1 ช่อง) โดยทั้งที่รู้ว่า การนำช่องทีวีอนาล็อกมาออกอากาศบนแพลตฟอร์มดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวีผิดกฎหมาย
คนทำดียังถูกโดนฟ้อง
การประชุม กสท. ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน จนนำมาสู่การประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณากรณีของช่อง 3 ในวันที่ 3 และ 5 กันยายน ตามลำดับ
แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าในวันที่ 5 กันยายน กรรมการ กสท. ที่มีอยู่เพียงแค่ 3 คนคือ คุณสุภิญญา กลางณรงค์ (คุณเก๋) ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ พล.ท.ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสท. ทั้ง 3 ท่านได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แม้ว่าการประชุมนัดพิเศษวันนั้นจะล่มไปก็ตาม ส่วนกรรมการอีก 2 คนคือ พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ กับ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า ไม่ได้ร่วมประชุม บางคนถึงกับคาดว่าหนีประชุมเพื่อบางสิ่งบางอย่าง
และเมื่อถึงเช้าวันที่ 8 ทีมกฎหมายของช่อง 3 ได้ยื่นฟ้อศาลต่อกรรมการ 3 ท่านที่เข้าร่วมประชุมนัดพิเศษในวันนั้น ซึ่งเป็นการกระทำของช่อง 3 ที่อัปยศที่สุดนับตั้งแต่มีข้อพิพาทเรื่อง Must Carry และไม่มีใครที่ไหนกล้าทำแบบนี้ได้เท่าช่อง 3 อีกแล้ว
ผลกระทบมาเต็มเปา
ตอนนี้คูปองทีวีดิจิตอลเริ่มออกมาในวันที่ 15 ตุลาคม ตามพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัด และพื้นที่โครงข่ายใกล้เคียง และจะแจกไปเรื่อยๆ ตามพื้นที่โครงข่าย ซึ่งจะทำให้ทีวีดิจิตอลเริ่มมีความหวังและได้มีจำนวนผู้ชมมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนคนที่ไม่รอคูปองซื้อกล่องทีวีดิจิตอลมาดูก่อน ก็ถือว่าเป็นผู้ชมคนหนึ่งที่สนับสนุนในการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อทีวีดิจิตอลเติบโตอย่างเต็มที ความสำคัญของช่องทีวีอนาล็อกย่อมลดลง ช่อง 3 จะเริ่มถูกเอเจนซี่ทวงถามว่า "ทำไมถึงทำเช่นนี้ ยังไม่ลดค่าโฆษณาอีกเหรอ" แต่เมื่อยังยืนกรานอยู่เช่นเดิม เอเจนซี่ก็จะเริ่มกดดันมากขึ้น จนกระทั่งไม่มีโฆษณาเข้าช่อง 3 ช่อง 3 ก็จะต้องยอมคู่ขนานบางรายการที่สำคัญ หรือถ้าไม่ยอมคู่ขนาน ก็ต้องรับภาระอันหนักอึ้งกันเอง
ชวนเชื่อ-ชวนชม
มีบุคคลจาก กสทช. ท่านหนึ่งเคยกล่าวว่า "ช่อง 3 ชวนเชื่อ ช่อง 7 ชวนชม" ก็จริงอย่างที่ว่า ช่อง 3 ยิ่งแถ ยิ่งดิ้น ก็ยิ่งกลายเป็น "เล่นตลก" ไปเสียมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น โฆษณาที่ช่อง 3 ออกอากาศ มันกลายเป็นการ "ชวนเชื่อ" ซึ่งช่อง 3HD ไม่มีอะไรให้ดูเลยนอกจากคัลเลอร์บาร์กับเพลงกล่อมสุนัขนอนเท่านั้น ส่วนช่อง 7 มีช่องทีวีดิจิตอลแบบ HD คม ชัด ถึงใจ ถึงอารมณ์ ผสมด้วยพรีเซ็นเตอร์สุดสวยอย่าง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ที่ออกโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ดูช่อง 7 ผ่านโครงข่ายทีวีดิจิตอลที่มีความคมชัด และภาพชัดไม่มีเม็ดฝนซ่าๆ ให้กวนใจยิ่งนัก
การขอร้องครั้งสุดท้าย
การเขียนกระทู้เพื่อขอร้องช่อง 3 เป็นครั้งสุดท้าย เพื่ออยากจะให้ช่อง 3 รู้ว่า ต่อไปถ้าช่อง 3 ยังยืนกรานทำแบบนี้อยู่เช่นเดิม (ก็เพราะต้องการค่าโฆษณา) ก็คงต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม แต่ถ้าช่อง 3 เห็นแก่คนชมบ้าง ก็ต้องออกอากาศคู่ขนาน หรือทำช่องดาวเทียม เพื่อคนดู ก็ไม่มีปัญหา เพราะผมก็ขี้เกียจที่จะเขียนกระทู้ขอร้องช่อง 3 อีกแล้ว ก็ปล่อยตามทางของเขาก็แล้วกัน
หลังจากขอร้องครั้งสุดท้ายแล้ว ผมไม่ขอร้องช่อง 3 อีกต่อไป เพราะขอมาเยอะแล้ว คงต้องใจดำกันบ้างล่ะครับ, ต่อจากนี้ผมขอเขียนเรื่องราวทีวีดิจิตอลที่จะเริ่มออกอากาศในภูเก็ต (ทราบว่าเครื่องส่งของ ททบ.5 ติดตั้งที่เขาโต๊ะแซะแล้ว และเตรียมออกอากาศในอีกไม่กี่วันนี้) และงานกินเจครับ
ขอบคุณสำหรับการอ่านกระทู้ยาวๆ เรื่องนี้ครับ
ฝันดี-มีสุข-เจอกันเมื่อมีเรื่องสนุกๆ มาเล่า
นายเบนซ์อภินันท์-Abhinan'zCH
ครั้งสุดท้ายที่จะเรียกร้องถึงช่อง 3 ก่อนที่ศรัทธาจะหมดสิ้น
ผมเขียนกระทู้สะกิดถึงช่อง 3 มาถึงตอนนี้ ก็เป็นการเรียกร้องครั้งสุดท้ายที่ผมจะให้ช่อง 3 นึกถึงผลกระทบจากการที่ช่อง 3 เลือกที่จะไม่ออกอากาศคู่ขนาน และไม่ออกอากาศทางช่องดาวเทียม ยังอยู่ในระบบอนาล็อกเช่นเดิม ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อช่อง 3 เลย ผลเสียของช่อง 3 เป็นอย่างไรบ้าง? ทางช่องก็น่าจะทราบอยู่ด้วยนะ
มองย้อนไปอดีตก่อน
ต้องย้อนไปถึงสมัยที่ทีวีดิจิตอลยังไม่เกิด ก็มี Must Carry ชั่วคราวให้ช่องอนาล็อกออกอากาศบนดาวเทียม ภายหลังจากที่ทีวีดิจิตอลเกิด สิทธิ์นี้จึงตกไปเป็นของช่องทีวีดิจิตอล ซึ่งประกอบไปด้วยช่องธุรกิจ 24 ช่อง และช่องสาธารณะอีก 12 ช่อง โดยรวมถึงช่องที่มาจากอนาล็อกเดิม 5 ช่องอยู่ด้วย ได้แก่ ททบ.5 ช่อง 7 สี โมเดิร์นไนน์ทีวี สทท. และไทยพีบีเอส แต่ช่อง 3 ก็ไม่ยอมเข้ามาสู่ทีวีดิจิตอล เมื่อผล Must Carry เริ่มบังคับใช้แล้ว ช่อง 3 ที่ไม่ได้ออกอากาศคู่ขนานก็ต้องเป็นไปตามกฎ Must Carry ในวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อวันที่ 22 พ.ค. เกิดรัฐประหารเสียก่อน ทุกช่องต้องออกอากาศ ททบ.5 ทุกแพลตฟอร์ม ดังนั้น จึงต้องยืด Must Carry ไปอีก 100 วัน ถึง 1 กันยายนนี้
เมื่อถึงวันนั้น Must Carry เริ่มมีผลแล้ว ช่องทีวีดิจิตอลจึงกลายเป็นฟรีทีวีเต็มรูปแบบทุกช่อง ช่องอนาล็อกไม่ว่าจะเป็น ททบ.5 ช่อง 7 สี โมเดิร์นไนน์ทีวี สทท. และไทยพีบีเอส ได้เป็นฟรีทีวีในฐานะช่องทีวีดิจิตอลต่อ (อนาล็อกหมดสภาพ) ส่วนช่อง 3 หมดสภาพ Must Carry สิ้นสุดการเป็นฟรีทีวีไป
ยืด-เยื้อ-เอื้อผลประโยชน์
การยืดเยื้อหลังจากที่ 1 กันยายนช่อง 3 หมดสภาพ Must Carry เริ่มจากทางกรรมการ กสท. คนหนึ่งได้ให้ข้อความที่ไม่ชัดเจน และไม่ได้มีคำสั่งทางปกครองที่ชัดเจน เมื่อเป็นเช่นนี้กล่องดาวเทียมทั้งหลายก็ยังออกอากาศช่อง 3 อนาล็อกเช่นเดิม ราวกับว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรออกมา ส่วนช่อง 3 ที่ยังต้องรอฟังผลคำพิพากษาจากการถอน Must Carry ก็ได้สร้างเหตุผลออกมามากมายที่จะไม่ยอมออกอากาศคู่ขนาน หรือขอยื่นทำช่องดาวเทียม บางเหตุผลก็จริง บ้างก็เท็จ แต่ที่แน่ๆ คือ 'มโน' เสียเป็นส่วนใหญ่ และยิ่งไปกว่านั้น คือการ "อ้างประชาชน" ที่รับชมทีวีผ่านดาวเทียมและเคเบิ้ลกว่า 70% ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ที่จริงแล้วยังผู้ชมทีวีดิจิตอลอีก แต่ยังเป็นส่วนน้อย และจะเพิ่มขึ้นเมื่อคูปองทีวีดิจิตอลเริ่มออกมา
คู่ขนานเสียเถิดจะเกิดผล
การออกอากาศคู่ขนานของช่องอื่นๆ แม้ว่าช่วงระยะแรกจะลำบากอยู่ด้วยเพราะโครงข่ายทีวีดิจิตอลอาจมาไม่ถึง แต่เมื่อโครงข่ายทีวีดิจิตอลครอบคลุมทั่วประเทศเมื่อใด ทีวีดิจิตอลก็จะมาแทนที่ทีวีอนาล็อก หรือทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวี เพราะเจตนารมณ์ของ กสท. นั่นคือการสร้างให้ทีวีดิจิตอลเป็นแพลตฟอร์มหลักของการรับชมโทรทัศน์ของไทย (ส่วนพื้นที่ที่ไปไม่ถึงก็ต้องให้กล่องดาวเทียมเข้ามาช่วยในภายหลัง)
โฆษณาก็เช่นกัน เมื่อผ่านไป เอเจนซี่ก็จะเริ่มให้ความสำคัญต่อช่องทีวีดิจิตอลอย่างแน่นอน เพราะไม่มีใครหรอกครับที่จะให้ทีวีดิจิตอลต้องเจ๊งเพราะการถ่วงของช่อง 3 ที่ไม่ยอมออกอากาศคู่ขนาน
คู่ขนานดีอย่างไร การคู่ขนานเข้าทีวีดิจิตอล จะทำให้ช่อง 3 มีสถานีฟรีทีวีในฐานะช่องทีวีดิจิตอลทันที และนอกจากนี้ โฆษณาก็ยังได้เท่าเดิม คือเวลาโฆษณา 12 นาทีต่อชั่วโมง แต่ถ้าทำช่องดาวเทียม ก็ต้องออกอากาศในเงื่อนไขเวลาโฆษณาเพียงแค่ 6 นาทีต่อชั่วโมง
เหตุผลที่แท้จริง
คงจะไม่มีอะไรที่เกินจาก "เหตุผล" ที่แท้จริงของช่อง 3 คือต้องการหาค่าโฆษณาจากเรตติ้งที่สูง โดยรายการที่มีเรตติ้งสูงได้แก่ เรื่องเล่าเช้านี้ เรื่องเด่นเย็นนี้ ตีสิบ ชิงร้อยชิงล้าน TheVoice TGT ส่วนรายการอื่นได้ประโยชน์จากคนดูที่ยังดูต่อเนื่อง เพราะช่อง 3 มีคอนเทนต์ที่เน้นครอบครัว
แต่สิ่งที่ช่อง 3 ต้องการมากกว่าคือ การที่ได้ออกอากาศทั้ง 4 ช่อง (ดิจิตอล 3 ช่อง อนาล็อก 1 ช่อง) โดยทั้งที่รู้ว่า การนำช่องทีวีอนาล็อกมาออกอากาศบนแพลตฟอร์มดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวีผิดกฎหมาย
คนทำดียังถูกโดนฟ้อง
การประชุม กสท. ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน จนนำมาสู่การประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณากรณีของช่อง 3 ในวันที่ 3 และ 5 กันยายน ตามลำดับ
แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าในวันที่ 5 กันยายน กรรมการ กสท. ที่มีอยู่เพียงแค่ 3 คนคือ คุณสุภิญญา กลางณรงค์ (คุณเก๋) ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ พล.ท.ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสท. ทั้ง 3 ท่านได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แม้ว่าการประชุมนัดพิเศษวันนั้นจะล่มไปก็ตาม ส่วนกรรมการอีก 2 คนคือ พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ กับ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า ไม่ได้ร่วมประชุม บางคนถึงกับคาดว่าหนีประชุมเพื่อบางสิ่งบางอย่าง
และเมื่อถึงเช้าวันที่ 8 ทีมกฎหมายของช่อง 3 ได้ยื่นฟ้อศาลต่อกรรมการ 3 ท่านที่เข้าร่วมประชุมนัดพิเศษในวันนั้น ซึ่งเป็นการกระทำของช่อง 3 ที่อัปยศที่สุดนับตั้งแต่มีข้อพิพาทเรื่อง Must Carry และไม่มีใครที่ไหนกล้าทำแบบนี้ได้เท่าช่อง 3 อีกแล้ว
ผลกระทบมาเต็มเปา
ตอนนี้คูปองทีวีดิจิตอลเริ่มออกมาในวันที่ 15 ตุลาคม ตามพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัด และพื้นที่โครงข่ายใกล้เคียง และจะแจกไปเรื่อยๆ ตามพื้นที่โครงข่าย ซึ่งจะทำให้ทีวีดิจิตอลเริ่มมีความหวังและได้มีจำนวนผู้ชมมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนคนที่ไม่รอคูปองซื้อกล่องทีวีดิจิตอลมาดูก่อน ก็ถือว่าเป็นผู้ชมคนหนึ่งที่สนับสนุนในการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อทีวีดิจิตอลเติบโตอย่างเต็มที ความสำคัญของช่องทีวีอนาล็อกย่อมลดลง ช่อง 3 จะเริ่มถูกเอเจนซี่ทวงถามว่า "ทำไมถึงทำเช่นนี้ ยังไม่ลดค่าโฆษณาอีกเหรอ" แต่เมื่อยังยืนกรานอยู่เช่นเดิม เอเจนซี่ก็จะเริ่มกดดันมากขึ้น จนกระทั่งไม่มีโฆษณาเข้าช่อง 3 ช่อง 3 ก็จะต้องยอมคู่ขนานบางรายการที่สำคัญ หรือถ้าไม่ยอมคู่ขนาน ก็ต้องรับภาระอันหนักอึ้งกันเอง
ชวนเชื่อ-ชวนชม
มีบุคคลจาก กสทช. ท่านหนึ่งเคยกล่าวว่า "ช่อง 3 ชวนเชื่อ ช่อง 7 ชวนชม" ก็จริงอย่างที่ว่า ช่อง 3 ยิ่งแถ ยิ่งดิ้น ก็ยิ่งกลายเป็น "เล่นตลก" ไปเสียมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น โฆษณาที่ช่อง 3 ออกอากาศ มันกลายเป็นการ "ชวนเชื่อ" ซึ่งช่อง 3HD ไม่มีอะไรให้ดูเลยนอกจากคัลเลอร์บาร์กับเพลงกล่อมสุนัขนอนเท่านั้น ส่วนช่อง 7 มีช่องทีวีดิจิตอลแบบ HD คม ชัด ถึงใจ ถึงอารมณ์ ผสมด้วยพรีเซ็นเตอร์สุดสวยอย่าง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ที่ออกโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ดูช่อง 7 ผ่านโครงข่ายทีวีดิจิตอลที่มีความคมชัด และภาพชัดไม่มีเม็ดฝนซ่าๆ ให้กวนใจยิ่งนัก
การขอร้องครั้งสุดท้าย
การเขียนกระทู้เพื่อขอร้องช่อง 3 เป็นครั้งสุดท้าย เพื่ออยากจะให้ช่อง 3 รู้ว่า ต่อไปถ้าช่อง 3 ยังยืนกรานทำแบบนี้อยู่เช่นเดิม (ก็เพราะต้องการค่าโฆษณา) ก็คงต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม แต่ถ้าช่อง 3 เห็นแก่คนชมบ้าง ก็ต้องออกอากาศคู่ขนาน หรือทำช่องดาวเทียม เพื่อคนดู ก็ไม่มีปัญหา เพราะผมก็ขี้เกียจที่จะเขียนกระทู้ขอร้องช่อง 3 อีกแล้ว ก็ปล่อยตามทางของเขาก็แล้วกัน
หลังจากขอร้องครั้งสุดท้ายแล้ว ผมไม่ขอร้องช่อง 3 อีกต่อไป เพราะขอมาเยอะแล้ว คงต้องใจดำกันบ้างล่ะครับ, ต่อจากนี้ผมขอเขียนเรื่องราวทีวีดิจิตอลที่จะเริ่มออกอากาศในภูเก็ต (ทราบว่าเครื่องส่งของ ททบ.5 ติดตั้งที่เขาโต๊ะแซะแล้ว และเตรียมออกอากาศในอีกไม่กี่วันนี้) และงานกินเจครับ
ขอบคุณสำหรับการอ่านกระทู้ยาวๆ เรื่องนี้ครับ
ฝันดี-มีสุข-เจอกันเมื่อมีเรื่องสนุกๆ มาเล่า
นายเบนซ์อภินันท์-Abhinan'zCH