ขั้นตอนเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอล & ช่อง 3 อนาล๊อก ปัญหามาจาก ...

แบบ A. Timeline จริง (เกิดปัญหาช่อง 3)

ปี 2555 - กสทช. ออกประกาศ Must Carry
ปี 2556 - กสทช. จัดประมูลทีวีดิจิตอลธุรกิจ 24 ช่อง
กุมภาพันธ์ 2557 - กสทช. ลงมติ กสท. 4/2557 ให้ทีวีแอนะล็อกเดิม หมดความเป็น "ฟรีทีวี" ตามกฎ Must Carry ภายใน 30 วันหลังทีวีดิจิตอลเริ่มออกอากาศจริง (มีผลช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2557)

---------------------------------------------------------------------------
แบบ B. Timeline ที่ควรจะเป็น แบบแผนที่ดี (จะไม่เกิดปัญหาช่อง 3)

ปี 2555 - กสทช. ออกประกาศ Must Carry และให้ทีวีแอนะล็อกเดิม หมดความเป็น "ฟรีทีวี" ตามกฎ Must Carry ภายใน 30 วันหลังทีวีดิจิตอลเริ่มออกอากาศจริง
ปี 2556 - กสทช. จัดประมูลทีวีดิจิตอลธุรกิจ 24 ช่อง

*** หากลำดับและเนื้อหาเป็นแบบ B. ก่อนการประมูลทีวีดิจิตอลผู้ประกอบการ (รวมถึงช่อง 3) ก็จะทราบล่วงหน้าว่าช่องอนาล๊อกเดิมที่ตนเองถือสัมปทานอยู่จะไม่สามารถออกอากาศบนเคเบิ้ลและดาวเทียมได้
ผู้ประกอบการ (รวมถึงช่อง 3) ก็อาจจะใช้ชื่อนิติบุคคลเดียวกันกับที่ถือสัมปทานอนาล๊อก เข้ายื่นประมูลทีวีดิจิตอล ซึ่งคราวนี้ก็จะไม่เกิดปัญหาข้อกฏหมายที่เป็นคนละนิติบุคคลที่ต่างคนก็ต่างไม่มั่นใจและเกรงจะผิดกฏหมาย
(กสทช., กสท., ช่อง 3) ปัจจุบันก็เลยต้องปฏิบัติตามประกาศที่ตนเองออกแบบไว้ (มีช่องว่างและเกิดปัญหาที่คาดไม่ถึง)

สรุปว่า
1) กสทช. วางแผนระยะเวลาทั้งเรื่อง Must Carry และประมูลทีวีดิจิตอลไม่สอดรับกัน ใครก่อนใครหลัง ไม่รอบคอบเกิดช่องว่าง (เพราะไม่คิดว่าช่อง 3 ดันประมูลตั้ง 3 ช่อง)
2) ช่อง 3 ไม่คาดคิดว่าจะมีประกาศ 4/2557 ให้ทีวีแอนะล็อกเดิม หมดความเป็น "ฟรีทีวี" ตามกฎ Must Carry ภายใน 30 วันหลังทีวีดิจิตอลเริ่มออกอากาศจริง หลังการประมูลทีวีดิจิตอลไปแล้ว
แต่ถ้าช่อง 3 ทราบจากวงในก่อนประมูล อันนี้ช่อง 3 ก็คงต้องโทษตัวเองแล้วหละ
3) สุดท้ายผู้ออกกฏหรือผู้ควบคุม  (กสทช.) ก็ต้องได้เปรียบอยู่แล้ว หรือว่าศาลปกครองจะยกเลิกประกาศ 4/2557 (อันนี้คงยากทำเพื่อผู้ประกอบการเจ้าเดียว)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่