"ขอย้ายมากระทู้นี้นะคะ... ขอโทษทีค่ะ"
ปล. ข้อมูลในนี้ อาจมีข้อมูลบางอย่างจากที่ได้รวบรวมจากผู้รู้ต่างๆ ต้องขอขอบคุณมา ณ ทีนี้ ด้วยค่ะ
เที่ยวเมืองจีน...ก็สนุกไปอีกแบบ กับการศึกษาข้อมูลต่างๆ เอง วางแผนเอง และอาศัยความกล้าและชอบท่องเที่ยวของเรา
และจากคำพูดของใครๆ ที่ต่างพูดกันว่า "เมืองจีนเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ต้องระวังนะ อันตราย"
แต่สำหรับเรามันเป็นอะไรที่ประทับใจมากๆ ทั้งน้ำใจของคนจีนที่น่ารักที่สุด
และอะไรอีกหลายๆ อย่างที่ทำให้เรารู้ว่าประเทศนี้ เป็นสถานที่น่าท่องเที่ยวและผจญภัยอีกประเทศหนึ่ง..เลยทีเดียว
ทริปนี้ออกเดินทางวันที่ 12 เมษายน - กลับวันที่ 18 เมษายน 2557
(เนื่องจากเค้าบอกว่าอู๋ฮั่นจะมีซากุระให้ชม แต่เราไปช้ามันร่วงเร็วมากกๆ เลยอดดูแต่ได้ไปดูตอนขึ้นเขาบู้ตึ๊งค่ะ)
Day 1 : กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - อู่ฮั๋น (คืนแรกนอนบนรถไฟ)
ภาค 1 :
http://ppantip.com/topic/32558209
ภาค 2 :
http://ppantip.com/topic/32562355
Day 2 : หวู่ตังซาน (เขาบู้ตึ๊ง/นอนที่หวู่ตังซาน)
Day 3 : หวู่ตังซาน - ซีอาน (โดยรถบัส/นอนที่ซีอาน)
http://ppantip.com/topic/32630183
Day 4 : ซีอาน (คืนนี้นอนซีอาน)
Day 5 : ซีอาน - ลั่วหยางหลงเหมิน (นอนที่ลั่วหยาง)
Day 6 : ลั่วหยางหลงเหมิน - อู่ฮั๋น (คืนสุดท้ายแล้วนะ)
Day 7 : วันนี้กลับบ้านแล้วจ้า
----------------------------------------------------------
Day 1 : กรุงเทพฯ - อู๋ฮั่น (วันที่เดินทางคือ 12 เมษายน )
วันนี้ตื่นแต่เช้าเตรียมสัมภาระทุกอย่างให้พร้อม และไฟล์บินของเราวันนี้ คือ ไฟล์แรกเลย 7.15 น.
เดินทางถึงสนามบินฮู๋ฮั่น Wuhan Tianhe International Airport เวลา 11:35 น. ซึ่งเวลาที่ประเทศจีนเร็วกว่าแค่ 1 ชั่วโมง
เลยไม่ค่อยรู้สึกเพลียเท่าไรนัก และสนามบินที่อู๋ฮั่นจะมี 2 เทอร์มินอล คือ เทอร์มินอลใหญ่ (เมียหลวง) และเล็ก (เมียน้อย)
โดยที่สายการบินที่มาจากและไปประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในเอเชีย จะขึ้นและลงที่เทอร์มินอลเล็ก (เมียน้อย)
และเครื่องบินของเราก็ลงที่เทอร์มินอลนี้ค่ะ มันเล็กจริงๆ นะ แบบลงจากเครื่องขึ้นรถบัส วนแปปเดียวก็ถึงประตูขาเข้าล่ะ
หน้าตาของเทอร์มินอล (เมียน้อย) ค่ะ...อิอิ
เมื่อลงไปถึงก็ต่อคิวยื่นพาสปอร์ตผ่านเจ้าหน้าที่ ตม. ค่ะ ซึ่งที่นี่เค้ามีให้กดให้คะแนนการให้บริการของเจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ
พอยื่นผ่านเรียบร้อย เราก็เดินไปตรงที่รับกระเป๋าเดินทาง และก็พยายามดูจากข้อมูลที่เราศึกษามาว่าจะเข้าเมืองต้องนั่งรถสายอะไร
และไปนั่งได้ที่ไหน เพราะตัวเราเองก็เรียนภาษาจีนมานาน (และไม่ได้ใช้งานมานาน เลยลืมม)
และอย่างแรกเลย ที่เราเคยได้ยินชื่อเสียงเลื่องลือมานาน นั่นคือ "ห้องน้ำ" ซึ่งระหว่างที่เรานั่งรอกระเป๋านั้น เราก็แอบปวดฉิ่งฉ่อง
และคิดว่าถ้าไม่เข้าตอนนี้ และไปเข้าเอาดาบหน้าซึ่งไม่รู้หน้าตาเป็นยังไง เราอาจเป็นลมสลบตายได้ .... เราเลยตัดสินใจเข้าค่ะ
และผลที่ได้คือ ห้องน้ำในสนามบินก็มีทั้งแบบโบราณและสมัยใหม่บ้านเรา แต่.....ที่เรารับไม่ได้และต้องเผชิญตลอดเวลาที่นี้
คือ "กลิ่นที่ตลบอบอวลเป็นที่สุด" เพราะถึงแม้เค้าจะพัฒนาแต่นิสัยคนที่ชอบเข้าห้องน้ำแล้วไม่กด...น้ำทิ้งเนี่ยย (เยอะไปหน่อยนะ)
พอเรารับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินออกมาตามจากเทอร์มินอลและเดินไปที่เทอร์นมินอลใหญ่ (เมียหลวง) เพื่อขึ้นรถบัสเข้าเมืองค่ะ
ซึ่งถ้าใครไม่อยากไปขึ้นรถบัส ก็สามารถใช้บริการรถแท๊กซี่ของสนามบิน หรือเรียกแท๊กซี่นั่งไปลงที่ต้องการได้เลยค่ะ
ราคาสนนอยู่ที่ 100 หยวนนะคะ (จากการที่ได้ไปลองถามราคามาค่ะ)
และก่อนที่จะไปเที่ยวเมืองนี้ ขอให้ข้อมูลคร่าวๆ ที่เป็นประโยชน์ของที่นี่ก่อนนะคะ....
ข้อมูลเมืองหวู่ฮั๋น หรือเรียกว่า อู่ฮั๋น (Wuhan : 武汉市 อ่านว่า Wǔhàn Shì)
เป็นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์และเป็นเมืองใหญ่สุดในมณฑลเหอเป่ย์ มีพื้นที่ 8,467.11 ตร.กม. มีประชากร 8 ล้านคน (ปี พ.ศ. 2549)
และที่เมืองนี้เป็นเส้นทางผ่านของแม่น้ำหลัก 2 สาย คือ แม่น้ำแยงซีเกียง (ฉางเจียง) และแม่น้ำฮั่นซุย (ฮั่นเจียง)
ซึ่งถ้าใครจะเดินทางขึ้นเหนือหรือลงใต้ก็จะต้องผ่านเมืองนี้ เพราะเมืองนี้อยู่ตอนกลางของจีน และเมืองนี้ก็เป็นศูนย์กลางแห่งทางเศรษฐกิจ
การค้า การธนาคาร การคมนาคม เทคโนโลยี และการศึกษาในภาคกลางของประเทศจีน และที่เด่นชัดที่สุดก็คือ เขตอุตสาหกรรมการผลิต
รถยนต์, เหล็กกล้า, เภสัชกรรม และวัสดุสมัยใหม่ที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ เป็นมณฑลที่มีการพัฒนาระบบการศึกษาและมีจำนวนมหาวิทยาลัยมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศจีนรอง
จากกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ โดยมีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมากกว่า 75 แห่ง ได้แก่ Wuhan University and Central China University
of Science and Technology และWuhan University เป็นต้น
ซึ่งในสมัยปลายราชวงศ์ชิง เมืองอู่ฮั๋นได้รับการขนานนามว่า “เมืองชิคาโกตะวันออก” เพราะเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางด้าน
ทรัพยากรน้ำ เพราะมีแม่น้ำแยงซีเกียงที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ของเอเชียไหลผ่าน และยังไหลมาบรรจบกับแม่น้ำฮั่นซุยอีกด้วย
นอกจากนั้น ยังมีทะเลสาบอีกกว่า 10 แห่งที่แตกแขนงมาจากแม่น้ำแยงซีเกียงและได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นั่นคือ
“ทะเลสาบตงหู” ที่มีพื้นที่ความกว้าง 110 กิโลเมตร คิดเป็นพื้นที่กว่า 33 ตารางกิโลเมตร (มีขนาดใหญ่กว่าทะเลสาบซีหูในเมืองหางโจว
ถึง 6 เท่า) และจากเส้นทางการไหลของแม่น้ำที่สำคัญทั้ง 2 สายนี้ ทำให้เมืองอู่ฮั๋นสามารถแบ่งเขตการปกครองพื้นที่ของเมืองที่สำคัญ
ได้เป็น 3 เขต ดังนี้
1. ฮั่นโข่ว (Hankou/漢口)
2. อู่ช่าง (Wuchang/武昌)
3. ฮั่นหยาง (Hanyang/漢陽)
สำหรับรถบัสเข้าเมือง (Shuttle service) ที่ให้บริการนั้น เริ่มต้นที่ราคา 17-31 หยวน และรถบัสออกทุกๆ ชั่วโมงนะคะ
ตามตารางด้านล่างเลยค่ะ แต่สำหรับเรานั้น...เรานั่งไปลงที่สถานีรถไฟหวู่ช่าง เพราะเราจะต้องไปออกตั๋วรถไฟจีนที่เราได้จองเอาไว้ล่วงหน้า
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เราวางแผนเอาไว้ว่า คืนแรกเราจะนอนบนรถไฟกัน เนื่องจากเราต้องการเดินทางไปยังหวู่ตังซาน Wudangshan
(เขาบู้ตึ๊ง) แต่มีวิธีการเดินทาง 2 แบบ คือ รถบัสหรือรถไฟ ซึ่งเราเลือกรถไฟ และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ รถไฟมีไม่กี่ขบวนที่นั่งไปลง
สถานีหวู่ตังซานค่ะ และส่วนใหญ่จะเป็นรถไฟที่ต้องนั่งตอนกลางคืนไปโผล่ที่นู่นแต่เช้ามืด คือ ตีห้า (โอ้แม่เจ้า...) แบบมืดสนิทจริงๆ
ส่วนอีกสถานีรถไฟที่เราสามารถนั่งไปลงได้ แต่จะไกลจากหวู่ตังซานหน่อย นั่นคือ สถานีรถไฟ Shiyan ซึ่งรอบเวลารถไฟก็ไม่ค่อยดีและ
ใช้เวลาอยู่บนรถไฟนานเกินไป
ปล. รถไฟบางขบวนที่เราต้องการ อาจจะใช้เวลาในการเดินทางมากเกินไป และไม่ค่อยได้เวลาที่อยากได้ค่ะ
ดังนั้นควรจะวางแผนดีๆ ว่าจะไปอย่างไร
และจากที่เรานั่งรถบัสไปลงที่สถานีรถบัสที่ใกล้ที่สุด เพื่อเดินต่อไปยังสถานีรถไฟหวู่ช่าง (Wuchang Railway) ซึ่งเราก็เดินถามเส้นทาง
จากสถานีรถบัสมาตลอดทาง เพื่อไปให้ถึงสถานีรถไฟและทำการออกตั๋วรถไฟทั้งหมดที่เราได้จองเอาไว้ค่ะ ซึ่งถ้าเราออกตั๋วที่เราจองเอาไว้
ที่สถานีอื่นๆ ที่เราจอง เช่น เราต้องเดินทางจากซีอาน แต่ออกตั๋วที่อู่ช่าง จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการออกตั๋วต่างสถานีด้วยนะคะ
ประมาณ 5 หยวนต่อตั๋ว 1 ใบค่ะ
ซึ่งเราไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาดหรือไปถึงสถานีไหนแล้ว "เค้าปิดทำการ" เราจึงตัดสินใจออกตั๋วทั้งหมดทุกใบที่สถานีเริ่มต้นทั้งหมด
เลยทุกใบ และเราต้องเก็บตั๋วเอาไว้ให้ดีๆ นะคะ เพราะถ้าตั๋วหายต้องออกใหม่เท่านั้น ซึ่งต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ และถ้าพูดถึงการจองตั๋วรถไฟนั้น
ที่ประเทศจีนจะอนุญาตให้จองตั๋วล่วงหน้าได้เพียง 20 วันเท่านั้นนะคะ ซึ่งเราต้องหมั่นเช็คตารางเวลารถไฟที่ต้องการ เพราะอาจมีการเปลี่ยน
แปลงได้ตลอดเวลานะคะ เพราะถ้าเที่ยวไหนคนน้อยเค้าก็อาจจะยกเลิกได้ค่ะ ดังนั้น
สิ่งที่ควรทำคือต้องหมั่นเช็คและดูบ่อยๆ ก่อนที่จะทำการจองทั้งหมดค่ะ ส่วนเว็บไซต์ที่เราขอแนะนำในการจองนั้น คือ
http://www.travelchinaguide.com/china-trains/
ที่เว็บไซต์นี้จะเป็นมีข้อมูลต่างๆ มากมายและกระทู้ถามตอบเรื่องประเทศจีนและการท่องเที่ยวค่ะ เราสามารถค้นหาข้อมูลและตั้งกระทู้
ถามได้ตลอดเวลาค่ะ และที่เว็บนี้จะราคาถูกที่สุดแล้วค่ะ (ทุกราคาที่เราเห็นยังมีค่าธรรมเนียมการจองและอื่นๆ ++ ด้วยนะคะ)
ปล. การจองตั๋วรถไฟที่ประเทศจีน สามารถจองได้ล่วงหน้าเพียง 20 วัน และต้องไปออกตั๋วเอง ไม่มีจัดส่งนะคะ
(ซึ่งกฎระเบียบอาจเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง) และไม่สามารถเลือกให้นั่งใกล้กันได้ เพราะเค้าจะ Random ซึ่งเราสามารถเขียนขอไปก่อน
ได้ค่ะ ถ้าโชคดีอาจได้นั่งติดกัน ขบวนเดียวกัน
ปล. ตู้รถไฟนอนชั้นล่างกะชั้นบน ราคาจะแตกต่างกันนะคะ และรถไฟที่เมืองจีนมีหลายประเภทค่ะ (รถไฟที่เรานั่งมีดังนี้)
= G – High-Speed อันนี้เร็วมาก วิ่งไปตามเมืองใหญ่ๆ และแบบ K – Fast
ขอเพิ่มเติม "
ข้อมูลสถานีรถไฟของที่เมืองอู่ฮั๋น Wuhan ให้ก่อนนะ"
ที่นี่จะมีสถานีรถไฟอยู่ 3 สถานีใหญ่ ที่ใช้เป็นจุดเชื่อมต่อในการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ
(ทุกสถานีรถไฟจะมีบริการรับฝากกระเป๋านะคะ ราคาประมาณ 20 หยวนต่อใบและปิดทำการเวลา 2 ทุ่มนะคะ)
1. Wuhan Railway Station ซึ่งเป็นสถานีรถไฟขนาดใหญ่ที่อยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของอู่ฮั๋น
และเป็นจุดผ่านของรถไฟขบวน High Speed ที่สำคัญ ซึ่งที่นี่จะมีรถไฟใต้ดินบริการอยู่ภายในสถานีนี้ด้วย
จึงง่ายและสะดวกสำหรับทุกคนที่เดินทางมาที่สถานีนี้ (หากใครที่ลงมาจากเครื่องบินไม่รู้จะไปที่ไหน ก็สามารถมาตั้งหลักที่นี่และใช้บริการ
รถไฟใต้ดินที่อยู่ที่นี่ไปยังที่อื่นๆ ก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ต้องนั่งรถบัสไปลงที่อื่น)
หน้าตาสถานี Wuhan Railway Station
2. Hankou Railway Station
สถานีรถไฟ Hankou จะเป็นการออกแบบสไตล์ยุโรป มีให้บริการ 8 แพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 120,000 คนต่อวัน
ส่วนใหญ่จะรองรับรถไฟที่เป็นแบบ High speed มีจุดหมายปลายทางไปยัง Shanghai, Yichang, Nanchang, Nanjing, Ningbo, และอื่นๆ
และรถไฟแบบ ordinary trains ไปยัง Tianjin, Qingdao, Xining, และอื่นๆ
3. Wuchang Railway Station
เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ตอนกลางของจีน (คล้ายๆ สถานีรถไฟหัวลำโพงบ้านเรา) ส่วนใหญ่จะให้บริการรถไฟแบบ ordinary trains
เพื่อเดินทางไปยัง Beijing, Xian, Chengdu, Guilin, Zhengzhou, Zhangjiajie, และอื่นๆ
(ไปต่อหน้าถัดไปนะคะ ) ภาค 2 :
http://ppantip.com/topic/32562355
[CR] ตะลอน...เที่ยวอู๋ฮั่น > หวู่ตังซาน > ซีอาน > ลั่วหยางหลงเหมิน > อู๋ฮั่น (7 วัน 6 คืน)
ปล. ข้อมูลในนี้ อาจมีข้อมูลบางอย่างจากที่ได้รวบรวมจากผู้รู้ต่างๆ ต้องขอขอบคุณมา ณ ทีนี้ ด้วยค่ะ
เที่ยวเมืองจีน...ก็สนุกไปอีกแบบ กับการศึกษาข้อมูลต่างๆ เอง วางแผนเอง และอาศัยความกล้าและชอบท่องเที่ยวของเรา
และจากคำพูดของใครๆ ที่ต่างพูดกันว่า "เมืองจีนเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ต้องระวังนะ อันตราย"
แต่สำหรับเรามันเป็นอะไรที่ประทับใจมากๆ ทั้งน้ำใจของคนจีนที่น่ารักที่สุด
และอะไรอีกหลายๆ อย่างที่ทำให้เรารู้ว่าประเทศนี้ เป็นสถานที่น่าท่องเที่ยวและผจญภัยอีกประเทศหนึ่ง..เลยทีเดียว
ทริปนี้ออกเดินทางวันที่ 12 เมษายน - กลับวันที่ 18 เมษายน 2557
(เนื่องจากเค้าบอกว่าอู๋ฮั่นจะมีซากุระให้ชม แต่เราไปช้ามันร่วงเร็วมากกๆ เลยอดดูแต่ได้ไปดูตอนขึ้นเขาบู้ตึ๊งค่ะ)
Day 1 : กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - อู่ฮั๋น (คืนแรกนอนบนรถไฟ)
ภาค 1 : http://ppantip.com/topic/32558209
ภาค 2 : http://ppantip.com/topic/32562355
Day 2 : หวู่ตังซาน (เขาบู้ตึ๊ง/นอนที่หวู่ตังซาน)
Day 3 : หวู่ตังซาน - ซีอาน (โดยรถบัส/นอนที่ซีอาน) http://ppantip.com/topic/32630183
Day 4 : ซีอาน (คืนนี้นอนซีอาน)
Day 5 : ซีอาน - ลั่วหยางหลงเหมิน (นอนที่ลั่วหยาง)
Day 6 : ลั่วหยางหลงเหมิน - อู่ฮั๋น (คืนสุดท้ายแล้วนะ)
Day 7 : วันนี้กลับบ้านแล้วจ้า
----------------------------------------------------------
Day 1 : กรุงเทพฯ - อู๋ฮั่น (วันที่เดินทางคือ 12 เมษายน )
วันนี้ตื่นแต่เช้าเตรียมสัมภาระทุกอย่างให้พร้อม และไฟล์บินของเราวันนี้ คือ ไฟล์แรกเลย 7.15 น.
เดินทางถึงสนามบินฮู๋ฮั่น Wuhan Tianhe International Airport เวลา 11:35 น. ซึ่งเวลาที่ประเทศจีนเร็วกว่าแค่ 1 ชั่วโมง
เลยไม่ค่อยรู้สึกเพลียเท่าไรนัก และสนามบินที่อู๋ฮั่นจะมี 2 เทอร์มินอล คือ เทอร์มินอลใหญ่ (เมียหลวง) และเล็ก (เมียน้อย)
โดยที่สายการบินที่มาจากและไปประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในเอเชีย จะขึ้นและลงที่เทอร์มินอลเล็ก (เมียน้อย)
และเครื่องบินของเราก็ลงที่เทอร์มินอลนี้ค่ะ มันเล็กจริงๆ นะ แบบลงจากเครื่องขึ้นรถบัส วนแปปเดียวก็ถึงประตูขาเข้าล่ะ
หน้าตาของเทอร์มินอล (เมียน้อย) ค่ะ...อิอิ
เมื่อลงไปถึงก็ต่อคิวยื่นพาสปอร์ตผ่านเจ้าหน้าที่ ตม. ค่ะ ซึ่งที่นี่เค้ามีให้กดให้คะแนนการให้บริการของเจ้าหน้าที่ด้วยนะคะ
พอยื่นผ่านเรียบร้อย เราก็เดินไปตรงที่รับกระเป๋าเดินทาง และก็พยายามดูจากข้อมูลที่เราศึกษามาว่าจะเข้าเมืองต้องนั่งรถสายอะไร
และไปนั่งได้ที่ไหน เพราะตัวเราเองก็เรียนภาษาจีนมานาน (และไม่ได้ใช้งานมานาน เลยลืมม)
และอย่างแรกเลย ที่เราเคยได้ยินชื่อเสียงเลื่องลือมานาน นั่นคือ "ห้องน้ำ" ซึ่งระหว่างที่เรานั่งรอกระเป๋านั้น เราก็แอบปวดฉิ่งฉ่อง
และคิดว่าถ้าไม่เข้าตอนนี้ และไปเข้าเอาดาบหน้าซึ่งไม่รู้หน้าตาเป็นยังไง เราอาจเป็นลมสลบตายได้ .... เราเลยตัดสินใจเข้าค่ะ
และผลที่ได้คือ ห้องน้ำในสนามบินก็มีทั้งแบบโบราณและสมัยใหม่บ้านเรา แต่.....ที่เรารับไม่ได้และต้องเผชิญตลอดเวลาที่นี้
คือ "กลิ่นที่ตลบอบอวลเป็นที่สุด" เพราะถึงแม้เค้าจะพัฒนาแต่นิสัยคนที่ชอบเข้าห้องน้ำแล้วไม่กด...น้ำทิ้งเนี่ยย (เยอะไปหน่อยนะ)
พอเรารับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินออกมาตามจากเทอร์มินอลและเดินไปที่เทอร์นมินอลใหญ่ (เมียหลวง) เพื่อขึ้นรถบัสเข้าเมืองค่ะ
ซึ่งถ้าใครไม่อยากไปขึ้นรถบัส ก็สามารถใช้บริการรถแท๊กซี่ของสนามบิน หรือเรียกแท๊กซี่นั่งไปลงที่ต้องการได้เลยค่ะ
ราคาสนนอยู่ที่ 100 หยวนนะคะ (จากการที่ได้ไปลองถามราคามาค่ะ)
และก่อนที่จะไปเที่ยวเมืองนี้ ขอให้ข้อมูลคร่าวๆ ที่เป็นประโยชน์ของที่นี่ก่อนนะคะ....
ข้อมูลเมืองหวู่ฮั๋น หรือเรียกว่า อู่ฮั๋น (Wuhan : 武汉市 อ่านว่า Wǔhàn Shì)
เป็นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์และเป็นเมืองใหญ่สุดในมณฑลเหอเป่ย์ มีพื้นที่ 8,467.11 ตร.กม. มีประชากร 8 ล้านคน (ปี พ.ศ. 2549)
และที่เมืองนี้เป็นเส้นทางผ่านของแม่น้ำหลัก 2 สาย คือ แม่น้ำแยงซีเกียง (ฉางเจียง) และแม่น้ำฮั่นซุย (ฮั่นเจียง)
ซึ่งถ้าใครจะเดินทางขึ้นเหนือหรือลงใต้ก็จะต้องผ่านเมืองนี้ เพราะเมืองนี้อยู่ตอนกลางของจีน และเมืองนี้ก็เป็นศูนย์กลางแห่งทางเศรษฐกิจ
การค้า การธนาคาร การคมนาคม เทคโนโลยี และการศึกษาในภาคกลางของประเทศจีน และที่เด่นชัดที่สุดก็คือ เขตอุตสาหกรรมการผลิต
รถยนต์, เหล็กกล้า, เภสัชกรรม และวัสดุสมัยใหม่ที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ เป็นมณฑลที่มีการพัฒนาระบบการศึกษาและมีจำนวนมหาวิทยาลัยมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศจีนรอง
จากกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ โดยมีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมากกว่า 75 แห่ง ได้แก่ Wuhan University and Central China University
of Science and Technology และWuhan University เป็นต้น
ซึ่งในสมัยปลายราชวงศ์ชิง เมืองอู่ฮั๋นได้รับการขนานนามว่า “เมืองชิคาโกตะวันออก” เพราะเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางด้าน
ทรัพยากรน้ำ เพราะมีแม่น้ำแยงซีเกียงที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ของเอเชียไหลผ่าน และยังไหลมาบรรจบกับแม่น้ำฮั่นซุยอีกด้วย
นอกจากนั้น ยังมีทะเลสาบอีกกว่า 10 แห่งที่แตกแขนงมาจากแม่น้ำแยงซีเกียงและได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นั่นคือ
“ทะเลสาบตงหู” ที่มีพื้นที่ความกว้าง 110 กิโลเมตร คิดเป็นพื้นที่กว่า 33 ตารางกิโลเมตร (มีขนาดใหญ่กว่าทะเลสาบซีหูในเมืองหางโจว
ถึง 6 เท่า) และจากเส้นทางการไหลของแม่น้ำที่สำคัญทั้ง 2 สายนี้ ทำให้เมืองอู่ฮั๋นสามารถแบ่งเขตการปกครองพื้นที่ของเมืองที่สำคัญ
ได้เป็น 3 เขต ดังนี้
1. ฮั่นโข่ว (Hankou/漢口)
2. อู่ช่าง (Wuchang/武昌)
3. ฮั่นหยาง (Hanyang/漢陽)
สำหรับรถบัสเข้าเมือง (Shuttle service) ที่ให้บริการนั้น เริ่มต้นที่ราคา 17-31 หยวน และรถบัสออกทุกๆ ชั่วโมงนะคะ
ตามตารางด้านล่างเลยค่ะ แต่สำหรับเรานั้น...เรานั่งไปลงที่สถานีรถไฟหวู่ช่าง เพราะเราจะต้องไปออกตั๋วรถไฟจีนที่เราได้จองเอาไว้ล่วงหน้า
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เราวางแผนเอาไว้ว่า คืนแรกเราจะนอนบนรถไฟกัน เนื่องจากเราต้องการเดินทางไปยังหวู่ตังซาน Wudangshan
(เขาบู้ตึ๊ง) แต่มีวิธีการเดินทาง 2 แบบ คือ รถบัสหรือรถไฟ ซึ่งเราเลือกรถไฟ และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ รถไฟมีไม่กี่ขบวนที่นั่งไปลง
สถานีหวู่ตังซานค่ะ และส่วนใหญ่จะเป็นรถไฟที่ต้องนั่งตอนกลางคืนไปโผล่ที่นู่นแต่เช้ามืด คือ ตีห้า (โอ้แม่เจ้า...) แบบมืดสนิทจริงๆ
ส่วนอีกสถานีรถไฟที่เราสามารถนั่งไปลงได้ แต่จะไกลจากหวู่ตังซานหน่อย นั่นคือ สถานีรถไฟ Shiyan ซึ่งรอบเวลารถไฟก็ไม่ค่อยดีและ
ใช้เวลาอยู่บนรถไฟนานเกินไป
ปล. รถไฟบางขบวนที่เราต้องการ อาจจะใช้เวลาในการเดินทางมากเกินไป และไม่ค่อยได้เวลาที่อยากได้ค่ะ
ดังนั้นควรจะวางแผนดีๆ ว่าจะไปอย่างไร
และจากที่เรานั่งรถบัสไปลงที่สถานีรถบัสที่ใกล้ที่สุด เพื่อเดินต่อไปยังสถานีรถไฟหวู่ช่าง (Wuchang Railway) ซึ่งเราก็เดินถามเส้นทาง
จากสถานีรถบัสมาตลอดทาง เพื่อไปให้ถึงสถานีรถไฟและทำการออกตั๋วรถไฟทั้งหมดที่เราได้จองเอาไว้ค่ะ ซึ่งถ้าเราออกตั๋วที่เราจองเอาไว้
ที่สถานีอื่นๆ ที่เราจอง เช่น เราต้องเดินทางจากซีอาน แต่ออกตั๋วที่อู่ช่าง จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการออกตั๋วต่างสถานีด้วยนะคะ
ประมาณ 5 หยวนต่อตั๋ว 1 ใบค่ะ
ซึ่งเราไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาดหรือไปถึงสถานีไหนแล้ว "เค้าปิดทำการ" เราจึงตัดสินใจออกตั๋วทั้งหมดทุกใบที่สถานีเริ่มต้นทั้งหมด
เลยทุกใบ และเราต้องเก็บตั๋วเอาไว้ให้ดีๆ นะคะ เพราะถ้าตั๋วหายต้องออกใหม่เท่านั้น ซึ่งต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ และถ้าพูดถึงการจองตั๋วรถไฟนั้น
ที่ประเทศจีนจะอนุญาตให้จองตั๋วล่วงหน้าได้เพียง 20 วันเท่านั้นนะคะ ซึ่งเราต้องหมั่นเช็คตารางเวลารถไฟที่ต้องการ เพราะอาจมีการเปลี่ยน
แปลงได้ตลอดเวลานะคะ เพราะถ้าเที่ยวไหนคนน้อยเค้าก็อาจจะยกเลิกได้ค่ะ ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือต้องหมั่นเช็คและดูบ่อยๆ ก่อนที่จะทำการจองทั้งหมดค่ะ ส่วนเว็บไซต์ที่เราขอแนะนำในการจองนั้น คือ http://www.travelchinaguide.com/china-trains/
ที่เว็บไซต์นี้จะเป็นมีข้อมูลต่างๆ มากมายและกระทู้ถามตอบเรื่องประเทศจีนและการท่องเที่ยวค่ะ เราสามารถค้นหาข้อมูลและตั้งกระทู้
ถามได้ตลอดเวลาค่ะ และที่เว็บนี้จะราคาถูกที่สุดแล้วค่ะ (ทุกราคาที่เราเห็นยังมีค่าธรรมเนียมการจองและอื่นๆ ++ ด้วยนะคะ)
ปล. การจองตั๋วรถไฟที่ประเทศจีน สามารถจองได้ล่วงหน้าเพียง 20 วัน และต้องไปออกตั๋วเอง ไม่มีจัดส่งนะคะ
(ซึ่งกฎระเบียบอาจเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง) และไม่สามารถเลือกให้นั่งใกล้กันได้ เพราะเค้าจะ Random ซึ่งเราสามารถเขียนขอไปก่อน
ได้ค่ะ ถ้าโชคดีอาจได้นั่งติดกัน ขบวนเดียวกัน
ปล. ตู้รถไฟนอนชั้นล่างกะชั้นบน ราคาจะแตกต่างกันนะคะ และรถไฟที่เมืองจีนมีหลายประเภทค่ะ (รถไฟที่เรานั่งมีดังนี้)
= G – High-Speed อันนี้เร็วมาก วิ่งไปตามเมืองใหญ่ๆ และแบบ K – Fast
ขอเพิ่มเติม "ข้อมูลสถานีรถไฟของที่เมืองอู่ฮั๋น Wuhan ให้ก่อนนะ"
ที่นี่จะมีสถานีรถไฟอยู่ 3 สถานีใหญ่ ที่ใช้เป็นจุดเชื่อมต่อในการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ
(ทุกสถานีรถไฟจะมีบริการรับฝากกระเป๋านะคะ ราคาประมาณ 20 หยวนต่อใบและปิดทำการเวลา 2 ทุ่มนะคะ)
1. Wuhan Railway Station ซึ่งเป็นสถานีรถไฟขนาดใหญ่ที่อยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของอู่ฮั๋น
และเป็นจุดผ่านของรถไฟขบวน High Speed ที่สำคัญ ซึ่งที่นี่จะมีรถไฟใต้ดินบริการอยู่ภายในสถานีนี้ด้วย
จึงง่ายและสะดวกสำหรับทุกคนที่เดินทางมาที่สถานีนี้ (หากใครที่ลงมาจากเครื่องบินไม่รู้จะไปที่ไหน ก็สามารถมาตั้งหลักที่นี่และใช้บริการ
รถไฟใต้ดินที่อยู่ที่นี่ไปยังที่อื่นๆ ก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ต้องนั่งรถบัสไปลงที่อื่น)
หน้าตาสถานี Wuhan Railway Station
2. Hankou Railway Station
สถานีรถไฟ Hankou จะเป็นการออกแบบสไตล์ยุโรป มีให้บริการ 8 แพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 120,000 คนต่อวัน
ส่วนใหญ่จะรองรับรถไฟที่เป็นแบบ High speed มีจุดหมายปลายทางไปยัง Shanghai, Yichang, Nanchang, Nanjing, Ningbo, และอื่นๆ
และรถไฟแบบ ordinary trains ไปยัง Tianjin, Qingdao, Xining, และอื่นๆ
3. Wuchang Railway Station
เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ตอนกลางของจีน (คล้ายๆ สถานีรถไฟหัวลำโพงบ้านเรา) ส่วนใหญ่จะให้บริการรถไฟแบบ ordinary trains
เพื่อเดินทางไปยัง Beijing, Xian, Chengdu, Guilin, Zhengzhou, Zhangjiajie, และอื่นๆ
(ไปต่อหน้าถัดไปนะคะ ) ภาค 2 : http://ppantip.com/topic/32562355