ตัดมาส่วนหนึ่งค่ะ



ใครที่อยากอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://goo.gl/KwjP4I

ดิฉันค่อนข้างงนะคะที่สังคมมุ่งประเด็นไปในทางโจมตีนักศึกษาโดยไม่สนใจในประเด็นคำพูดของอาจารย์เลย
(หรืออาจเป็นเพราะสังคมเรามีอคติกับคำว่าลิเบอรัล/เสรีภาพอยู่แล้ว?)

อยากให้คนในสังคมลองคิดนะคะว่า เวลาเราจะด่า/ต่อว่าใคร เรามักใช้คำที่เรารู้สึกเชิงลบอยู่แล้ว
ในการ ด่า/ต่อว่า คนๆนั้น ถูกไหมคะ? (1)

รวมถึงคำว่า "เด็กวัด" ถูกคนในสังคมใช้ในลักษณะดูถูกหรือเข้าใจได้ว่าด้อยกว่าผู้อื่น (2)

ดังนั้นเมื่อ (1)+(2) จึงไม่แปลกใจหรอกค่ะที่จะมีนักศึกษาและคนส่วนหนึ่งรวมถึงดิฉันมองว่านี่คือการ..ดูถูก
โอเคผู้พูดอาจไม่ได้มีเจตนาเช่นนั่น บางคนอาจไม่ได้รู้สึกว่าถูกดูถูกก็มี แต่มันไม่ได้ปฏิเสธไปเลยว่า
คำๆนั้นถูกนำมาใช้ในลักษณะใด...

ดิฉันจึงเห็นว่าคำว่า "เด็กวัด" ไม่ควรถูกนำมาใช้เพื่อ "ด่า" ใคร...ในทำนองที่ว่านั่นเป็นปัญหาค่ะ
เพราะมันทั้งผลิตซ้ำคำว่าเด็กวัดให้ดูแย่ ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบก็คือเด็กวัด ถ้าอ้างอิงตามรูปด้านบน
ก็มีคนที่รู้สึกแย่ (ต่อให้บางคนไม่รับรู้แต่ไม่ได้ปฏิเสธการมีอยู่ของคำ)

เหมือนคำว่า "ไอ้ลาว" "ไอ้บานนอก" นั่นแหล่ะค่ะ

ส่วนคำว่า "เหี้-ย" ของนักศึกษา ไม่ได้ไปกดทับกลุ่มคนใดในสังคมให้ถูกตีตราว่าด้อยค่าหรือเป็นปัญหา
แต่ก็จัดว่าเป็นคำที่ผู้ถูกด่ารู้สึกแย่ได้(ไม่แน่ใจว่าจัดเป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้าได้หรือไม่)
มันคงเหมือนกับด่า shit ในภาษาอังกฤษหรือไม่คะ?

ส่วนตัวดิฉันมองครูในฐานะมนุษย์ มิใช่ผู้เกินมนุษย์ต้องบูชาค่ะ ดิฉันก็มีครูที่เคารพเพราะนับถือกันในความสามารถค่ะ
ดิฉันจึงมองว่าครูและนักศึกษา อาจหลุดอารมณ์ใส่กันได้ วิจารณ์กันได้ ด่ากันได้ตราบใดที่คำด่านั้นไม่เป็นปัญหา
ต่อคนที่สาม แต่สังคมเรามักหยวนๆสำหรับครูและตราหน้าไว้ก่อนว่านักเรียนในฐานะผู้ด้อยกว่านั้นเป็นฝ่ายผิดพลาด

สังคมเราควรคิดกันให้มากขึ้นและหลากมิติมากขึ้นค่ะ ทุกวันนี้สังคมเราใช้คำบางคำในลักษณะด่าทอ ขำขัน ประชดประชัน
โดยไม่ใส่ใจเลยคำๆนั้นมีส่งผลกระทบอย่างไรต่อบุคคลอื่น อย่างที่ยกไปเช่น ลาว บ้านนอก ตุ๊ด เป็นต้น
ดิฉันว่ามันเป็นปัญหาอย่างยิ่งที่คนไทยบางส่วนคิดน้อยกันเช่นนี้ (คำว่า "ลาว" ปัจจุบันคนตระหนักกันมากขึ้นแล้วค่ะ)

ดังนั้นดิฉันไม่อยากให้ประเด็นคำพูดของครูคนนี้หายไปโดยไม่ถูกหยิบยกมาตระหนัก
เช่นเดียวกันเรื่องนักศึกษาดิฉันก็ไม่ได้ต้องการให้หายไปค่ะ
(ดิฉันไม่ได้ต้องการมุ่งโจมตีคน แต่สนใจสาระของคำค่ะ)

ประเด็นสุดท้าย หลายคนมักมีอคติกับคำว่าลิเบอรัลหรือผู้เป็นลิเบอรัล ดิฉันไม่กล้าอ้างตนว่าเป็นลิเบอรัลนะคะ
แต่ยอมรับว่าเรามีลิเบอรัลที่ไม่เข้าใจลิเบอรัล และมีคนที่ไม่ใช่ลิเบอรัลแต่ก็ไม่เข้าใจลิเบอรัลเช่นกันก็มีค่ะ
และคนกลุ่มหลังก็มักโจมตีลิเบอรัลอย่างเสียหายและไร้เหตุผล บางครั้งก็โยงไปทั่ว เช่น

ลิเบอรัลไม่สนวินัย, ลิเบอรัลเป็นศูนย์กลางจักรวาล, ลิเบอรัลทำสังคมวุ่นวาย ฯลฯ

ขอโทษนะคะ ลิเบอรัลใช้หลักการสำคัญคือ

พื้นที่ส่วนตัว (เช่นความคิด, ร่างกาย) ตราบใดที่ไม่ไปละเมิดพื้นที่ส่วนตัวอีกฝ่ายค่ะ + การถกเถียง

ดังนั้นไม่ใช่ว่าลิเบอรัลจะทำอะไรก็ได้ค่ะ มันมีหลักการข้างต้นกำกับอยู่

ส่วนลิเบอรัลทำสังคมวุ่นวายไหม ถ้าในเชิงความคิดใช่ค่ะ และเป็นสิ่งดีด้วยเพราะสังคมจะได้มีชุดความคิดมากมายให้เลือก
ไม่ใช่มีแค่ชุดเดียวแล้วบอกว่าถูกต้อง แต่ถ้าบอกว่าวุ่นวายในแง่สังคมคงต้องบอกว่าที่ผ่านมาจากประวัติศาสตร์ความวุ่นวายมักเกิดจาก
การที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมสุดขั้วไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงค่ะ และต้องการแซงชั่นคนอื่นๆ เอาความคิดตัวเองเข้าไปละเมิดพื้นที่ส่วนตัว
เช่น การบังคับแต่งกายชุดนักศึกษา เป็นต้น (โดยไม่อยู่บนพื้นฐานของการถกเถียง)

และลิเบอรัลเราจะเรียกเพื่อสิทธิส่วนตัวเท่านั้นค่ะ ไม่มีการเรียกร้องเพื่อละเมิดใครค่ะ

ขอบคุณค่ะ