พระคึกฤทธิ์ดูถูกอรรถกถาจะพาศิษย์ไปนรกนะ
http://www.dharmatarzan.com/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=16&Id=539768410&anspage=1
เนื้อหาบางส่วนของวีดีโอชุดนี้
พระคึกฤทธิ์ดูถูกอรรถกถาจะพาศิษย์ไปนรกนะ
เวลา 00.00น. คำเหล่านี้ไม่ได้บัญญัติใหม่...เดี๋ยวพระคึกฤทธิ์จะว่า...บัญญัติใหม่ ไม่ได้บัญญัติใหม่ แค่คำอธิบาย ...
อธิบายถือว่าเป็นภาษิตไม่ได้แค่ว่า...คำพูดเป็นคำอธิบาย อันต่อเนื่องจากคำพระศาสดาเท่านั้น...ไม่ใช่ ยกคำพระศาสดาออก แล้วเอาคำใหม่มาใส่ ไม่ใช่ ...คำพระศาสดายังเท่าเดิม
*ขันธ์ 5 ก็ยัง ขันธ์ 5 เพียงแค่อธิบายขันธ์ 5 ว่าอันยังอยู่เป็นไง อันไหนดับไป อธิบาย...! คือ หลักเดิมให้ถือไว้เหมือนเดิม ใครอธิบายยักย้ายไปได้เท่าไหร่ อธิบายไป แต่หลักเดิมให้เรียนให้ถืออยู่ *อินทรีย์5 ก็ให้ถือ อินทรีย์6ก็ไห้ถือ เหมือนเดิมที่พุทธะสอนมา อริยมรรค 8 ถือตามเดิม แต่จะอธิบาอริยมรรคด้วยวิธีใด ขึ้นอยู่กับคน คนนั้น หมายความว่าอย่างนี้
*คำอธิบายจึงไม่ใช่แต่งตั้ง ไม่ได้ลบวินัย และบัญญัติวินัยเพิ่ม ไม่ได้ลบพระธรรมและปัญญัติพระธรรมขึ้นใหม่ ...ไม่มี ....มีแต่ว่าค้นไปเจอตรงไหนก็รวบรวมเข้ามา เอาออกมา เอามาเปิดเผยให้ชาวบ้านได้รู้ มันเป็นอย่างนี้....!
*พระคึกฤทธิ์ก็ว่าเราถืออรรถกถามากเกินไป ....ไม่ใช่ ...! คือ....
*ศาสนานี้มี..... พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ใช่ไหม... จะถือแต่พระพุทธ กับพระธรรม แล้วพระคึกฤทธิ์เป็นใคร....! ทำไมจึง ไม่ถือพระสงฆ์ แล้วถ้าถือพระสงฆ์ ทำไมคำพระสงฆ์ ไม่มีดีเลยเหรอ แม้จะมีผิดอยู่บ้าง จะผิดทั้งหมดอยู่เหรอ แล้วตนเองพูดขึ้นละ .......
*พระคึกฤทธิ์เป็นใคร...เป็นพระพุทธเจ้าเหรอ ไม่ใช่พระสงฆ์เหรอ หรือเป็นตัวพระธรรม.....!..(ถามพระคึกฤทธิ์) *ตัวพระคึกฤทธิ์เองเป็นตัวพระธรรมหรือเปล่า *ถ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้ามีแล้ว พระคึกฤทธิ์เป็นพระธรรมเหรอ...! *เพราะพระสงฆ์ไม่ให้อธิบาย พระคึกฤทธิ์เป็นใครเป็นพระธรรมเหรอ ...! คำตนเองไม่ให้ถือแล้วจะเปิดสำนักหาอะไร...! เค้าก็ถือคำพระคึกฤทธิ์…..
*นั่นอันดับแรก แล้วเขาจึงถือไล่ไปหาพุทธะ...เราก็ว่าถ้าเป็นแบบนี้ พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์ ไม่เอาแล้วจะบอกลูกศิษย์ให้กราบ พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์แต่อย่าถือนะ คำพระสงฆ์แล้วจะทำไง ! ก็ต้องไล่พระคึกฤทธิ์ กับพระวัดนั้นให้หมด *ก็เอาแต่พระพุทธเจ้า กับพระธรรม *เรียนพระธรรมกันไปก็ไล่พระหนี…
*แต่ที่นี่ให้ถือ พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์ *แต่พระสงฆ์พูดไม่ถูก ให้เทียบไปไล่ไปที่พระพุทธเจ้าพูดไว้ ว่าพระสงฆ์พูดถูกหรือเปล่า…! อย่าไห้มันไปงัดกับคำของพระพุทธเจ้า ถ้างัดก็ให้หยุด ไม่ให้เอาในเรื่องนั้นๆ เป็นเรื่องๆไป ไม่ใช่ผิดทั้งหมด อรรถกถาพูดไม่ใช่ผิดทั้งหมด แต่พระคึกฤทธิ์ ให้อรรถกถาพูดผิดทั้งหมด...ไม่ให้ถือ...ไม่ให้เอา
*แบบนี้ไม่ถือพระสงฆ์ ไม่เอาด้วยแล้วเรา... พูดยังไงเราก็ยังไม่เอา ...*พระคึกฤทธิ์ ว่า...ถ้าอยากคุย...ให้ตัดอรรถกถาออก ให้มีแต่พระพุทธพจน์...กูไม่ตัดกับ ไม่เอา....!
*เราอธิบาย เรื่องมรรค เรื่องผล เราอธิบายสาธยายให้เห็นรายละเอียด อย่างชัดเจน คือผู้บำเพ็ญจะไม่งง ไม่หลงทางเลยถ้าทำตามเราบอก...หากมันไม่เป็นตามนั้น ก็ตรวจสอบ ตนเอง....ฯลฯ
เวลา00.4น. ที่พระคึกฤทธิ์ว่า นิโรจสมาบัติน่าจะมีชั้นนั้นพูดผิด......ฯลฯ แบบนี้ไม่รู้อริยมรรคฯ
-หลวงปู่บอกว่าเราไม่เคยพูดว่าน่าจะ อาจจะในการบำเพ็ญ
เวลา 00.7น.คำว่าคงอย่างนั้นมั้งในการบำเพ็ญไม่มีฯ
-รู้ก่อนจะเป็นไม่ใช่เป็นก่อนถึงรู้...ฯลฯ
เวลา 00.13น. คนเป็น โสดา สกทาคา อนาคาก็ตามต้องรู้ชัด ฯลฯ
-จิตไม่ได้เห็นง่ายๆ ต้องเป็นอนาคามีขั้นสุดท้าย ถึงเห็น...ฯลฯ
-จิตตัวสุดท้ายคือ อวิชชา *ตัณหาแท้จริงคือจิต
ฯลฯ
เวลา 00.20น. ถ้าว่าอรรถกถา เกินไป ก็ให้มาคุยกันว่า ที่ถืออรรถกถาเพราะอะไร *เพราะอรรถกถาไม่ใช่บัญญัติ ท่านไม่ได้บัญญัติ ท่านเพียงอธิบาย..!..คำของพุทธะยังอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้าสมมุติว่าร่างกายเป็นของเน่าเปื่อย...ฯลฯ
เวลา 00.23น. เป็นอรรถกถาอธิบายเท่านั้นไม่ใช่บัญญัติ ฯลฯ
-ไม่ได้บัญญัติขันธ์ 6..ขันธ์ 5 คือขันธ์ 5 อริยสัจ4..... ก็ไม่ได้อธิบายเป็นอริยสัจ5 อริยมรรค 8 ก็ไม่ได้อธิบายเป็นอริยมรรค9....ไม่ได้คิดว่าตนเองฉลาดแล้ว ตั้งภาษิตใดๆ ขึ้นเพื่อครอบธรรมของพระพุทธะ
*แต่พระพุทธะตั้งไว้ เช่นอริยสัจ4 เราก็มาอธิบาย การเกิดว่าเป็นทุกข์เมื่ออยู่ในท้องแม่...รกห่ออยู่...ฯลฯ
เวลา 00.27น.อธิบายการแก่...ฯลฯ
เวลา 00.29น. ทำไมถือพระพุทธเจ้า ทำไมถือพระธรรม....พระสงฆ์พูดขึ้นทำไมไม่เอา....ไม่เอาแม้แต่...ไล่มาตั้งแต่พระอัญญาโกญทัญญะ พระวัปปะอัสสชิมหานามะ พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระอานนท์ พระกัสสปะ พระกัจจายานะ ใครก็ตามพูดขึ้น เป็นสาวก บรรยายไม่เอาทั้งหมด พระพุทธะเจ้าตีตรารับรองก็ไม่เอา *ก็กลายเป็นว่าหักล้างคำพุทธที่ตีตรารับรองคำพระสารีบุตรพูด
*พระสารีบุตรเธอพูดถูกต้องแล้ว ถ้าเราตถาคตพูด ก็จะเป็นแบบนี้แหละ
*เมื้อรูว่าพระสารีบุตรเป็นผู้พูด..ทางวัดนาป่าพงตีเด็จขาด....ไม่เอา ก็เลยไปดูถูกคำพุทธะ เพราะพุทธะประทับตราให้ ว่าถ้าเป็นเรา ก็จะแก้แบบ เธอนี่แหละอานนท์ – กัจจายานะ – กัสสปะ– โมคคัลลานะ –สารีบุตร อะไร...เหล่านี้ คือพระองค์ตีตราให้เรียบร้อยแล้ว
*ไม่เอาทั้งหมดตายเลย แบบนี้สร้างบาปไม่ใช่เล่น...พาลูกศิษย์สร้างบาปอย่างมหาสาร...ฯลฯ
เวลา 00.30น.ลูกศิษย์ก็หลงไป...กูรักษาศีล5 กูถือพระ รัตนะไตร ทิ้งเครื่องรางของขลัง กูเป็นพระโสดาบัน
*นี่เป็นหมดแล้วถ้าจะพูดแบบนั้น *แม่แต่ไอ้ที่สร้างพุทธภูมินี่ ก็เป็นแล้วมันไม่ได้ไปแล้วพุทธภูมิ เพราะศีลมันมีแล้ว ถือพระรัตนะไตรถูกต้องหมดแล้ว..อริยะเต็มหมดเลยลูกศิษย์วัดสามแยก...ขาก
..!!
เวลา 00.30น.อริยะต้องรู้ รู้เอาเอง ชัดเจนมาก...รู้ไม่ชัดไม่จริงไม่ใช่..ฯลฯ
-สุขวิปัสสโกฯ.....ก็เป็นรู้ชัดเหมือนกัน...ฯลฯ
-มันต้องรู้ก่อนจะเป็น และกำลังเป็น และเป็น แล้วก็รู้ รู้ว่าเป็นตามลำดับ...ฯลฯ
เวลา 00.35น. เราถือพุทธ ถือธรรม ถือสงฆ์ไม่ใช่ศาสนานี้มีแต่พุทธะ ใช่..! พระศาสดาเป็นผู้สอน ไม่หนีคำพระศาสดา....แต่..! จะไม่อธิบายคำพระศาสดาเป็นไปได้ไหม..........
*บางเรื่องเรารู้ อัธยาศัย พระพุทธศาสดาด้วยนะนี่...ว่าท่านมีเป้าหมายอย่างไรท่านจึงพูด อันนี้...รู้เลย
เช่น...ท่านพูดว่ามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีศีล5 คือคน คนนั้น เค้ามักพลาด เรื่องศีล5 เข้าใจ ! เค้าเป็นพระโสดาบันขึ้นแล้ว พระองค์กลัวเขาจะประมาทหนัก ต่อไปท่านเลย เตือนเรื่องศีล5
*ไอ้คนอื่นเขารู้จักศีล5 เค้ารักษาดีแล้ว อบายมุขอะไรๆ เค้ารักษาดีแล้ว เขาเลยถามว่า...ควรจะอยู่ดำรง ชีวิตแบบไหนพระพุทธเจ้าข้า
*มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อันไม่หวั่นไหว และรู้จักบริจาค....ใช่ไหม !...(มีจาคะ) คือ ท่านสอนคนที่เป็นแล้ว
*แล้วเมื่อไม่ดูอรรถกถา จะรู้จักไหมว่าท่านสอนคนที่เป็นแล้ว พระอรหันต์ รุ่นนั้น ก็รู้อัธยาศัย พระศาสดา
*แล้วพูดอย่างนี้พระคึกฤทธิ์...ก็จะว่า..โห.! พระเกษมเกินไป ดูซิ ..! ดอดไปรู้เรื่องพระพุทธเจ้า ว่าคิดอะไร...เอ้า.! ก็รู้สิ... รู้จะเป็นไร.!
*เรารู้ว่าพระพุทธเจ้ามีเมตตาผิดอีกไหมนี่ รู้ว่าพระพุทธเจ้ามีพระมหากรุณาผิดไหมนี่ รู้ว่าพระพุทธเจ้ามีพระมหาอุเบกขาใหญ่ผิดไหมก็นั้นแหละ รู้ว่าพระพุทธเจ้ามีพระปัญญาธิคุณ มีพระบริสุทธิคุณ เอ๊ารู้ผิดอะไรตรงไหน ผิดได้อย่างไร..! ใช่ไหม แล้วคนรู้อย่างนี้ผิดไหม ( แหม่ลูกศิษย์วัดสามแยกเลยไม่ผิด...ลองไปถามลูกศิษย์พระคึกฤทธิ์สิผิดสิไปรู้พระพุทธเจ้า... )..ฯ...ใครเป็นสาวกพูดขึ้นให้ผิดหมด พระคึกฤทธิ์ปิดวัดได้แล้ว...ฯลฯ
เวลา 00.37น. สมมุติว่าหลานน้อยนี้ลุกขึ้นมาพูด..พระพุทธเจ้าตรัสอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าเขาพูดถูกก็เอานะนี่.. เอา ถึงแม้จะไม่บันทึกในหลักฐานก็ตามแต่ก็เอาเพราะเค้าพูดถูก..ถูกไหม
*จะเด็กสมัยนี้พูดขึ้นมา ถ้าพูดถูกก็เอาใช่มะ..! ไม่ใช่ว่าไม่เอา ....
*เอา ถ้าเค้าพูดถูก ถ้าเค้าพูดไม่ถูกเทียบเคียงตามหลักฐานฟังเค้า....แล้วเค้าพูดไม่ถูก เฮ้ออันนี้ไม่ถูกนะลูกนะ.ก็ต้องเตือนว่าไม่ถูก
*อันที่ถูกมันคือ อย่างโน้นๆ ก็อธิบาย ฯ
*เป็นอธิบายไม่ใช่บัญญัติ ถูกไหม....อะไรๆ ก็จะให้เป็นบัญญัติไปหมดก็แย่แล้ว..! พูดอะไรไม่ได้เลย ทีนี้ ใช่ไหม..!พูดไรไม่ได้
*มาตรงนี้ก็...! อ่านๆ..พระไตรปิฎกเฉพาะพระสูตรที่เป็นพุทธตรัส...สาวกพูดไม่เอา อ่านจบแล้วก็ลงไปใช่ไหม แล้วจะรู้เรื่องอะไรไหมนี่...........
เวลา 00.39น. ฟังพุทธพจน์ ท่านจึงให้พระอธิบาย พระพุทธเจ้าเป็นผู้สั่ง พระให้อธิบาย แต่คงบาลีที่พระองค์ แสดงไว้ เหมือนเดิมใครจะอธิบาย ยักย้ายไปไหน ร้อยแปด พันประการ หมื่นใน แสนใน ล้านใน เป็นโกฏิ เป็นโกฏิๆใน ว่าอย่างนี้ ได้เลย แต่หลัก อย่าเสีย
คือ อย่าตัดคำพุทธะ อย่าเพิ่มคำพุทธ แต่จะอธิบายไปไหนอธิบายไปเถอะ * เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ
*เธอทั้งหลายจงอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ...อันนี้ก็มี
*เธอจงให้พิสดารเถิด...อย่างนี้ก็มี *ตถาคต ตรัสย่อไว้แล้ว สารีบุตรความพิสดารจงแจ่มแจ้งกับพระสารีบุตรเถิด *เพราะพระสารีบุตรเป็นผู้ให้
- สูตรแบบนี้ท่านพระสารีบุตรเทศน์จบปั๊บพระพุทธองค์ ลุกขึ้นมา...ดีแล้วๆ พระสารีบุตรถ้าหากเราพูดก็จะแสดงแบบเธอนั้นแล... (*แบบนี้ตีตราแล้วยัง)ฯ
เวลา 00.40น. เรื่องตราชูฯลฯ
เวลา 00.42น. พระพุทธเจ้ายกคนเหล่านั้นเป็นตราชู.....พระคึกฤทธิ์ ไม่เอาเลย เราก็ว่า โห พาคนไปนรกนะนี่....เพราะคำพูดที่พระท่านพูดถูก ก็ไปหักลงหมดไม่ให้ถือเอา และไม่ยอมให้ศึกษา
*เราไล่ให้อ่านหมด อันไหนถูกให้เอาตามนั้น อันไหนถูกจริตนิสัยให้เอาตามนั้น อันไหนไม่ถูกจริตนิสัย ก็อย่าไปตัดทิ้งให้คงเอาไว้แล้วให้ผู้อื่นได้ศึกษา อันอย่างนี้มันถูกกว่า เท่าที่เราคิด เท่าที่เราคิดถูกกว่า *พระคึกฤทธิ์ทำอย่างนั้นหวาดเสียวมาก...! เลยฯ
*เอ้า..! ไปเป็นห่วงเค้าเหรอ ! ก็ไม่ได้เป็นห่วงพระคึกฤทธิ์ ผู้เดียว ก็เป็นห่วงตาสี ตาสา ตามา ตามี ตาแมว ตาช้าง ตาวัว ตาควาย ตาม้า ตาลา ตาล้อ ตาแพะ ตาแกะ อะไร หลายๆ ตานั้นแหละในนั้น
เวลา .0.43น. พูดเรื่องหนองป่าพงประชุมเรื่องตัด พระคึกฤทธิ์ไม่ให้เข้าพวก ฯลฯ
เวลา .00.44น. คนที่มาฟังเทศน์ ตอนนั้น พูดขึ้น เรื่องมีคนขอให้ ถกธรรมกับพระคึกฤทธิ์ ฯลฯ
-หลวงปู่อธิบาย การที่จะถกธรรม ฯลฯ
เวลา .00.47น. หลวงปู่เกษมถาม พระคึกฤทธิ์ ฯลฯ
พระคึกฤทธิ์ดูถูกอรรถกถาจะพาศิษย์ไปนรกนะ
http://www.dharmatarzan.com/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=16&Id=539768410&anspage=1
เนื้อหาบางส่วนของวีดีโอชุดนี้
พระคึกฤทธิ์ดูถูกอรรถกถาจะพาศิษย์ไปนรกนะ
เวลา 00.00น. คำเหล่านี้ไม่ได้บัญญัติใหม่...เดี๋ยวพระคึกฤทธิ์จะว่า...บัญญัติใหม่ ไม่ได้บัญญัติใหม่ แค่คำอธิบาย ...
อธิบายถือว่าเป็นภาษิตไม่ได้แค่ว่า...คำพูดเป็นคำอธิบาย อันต่อเนื่องจากคำพระศาสดาเท่านั้น...ไม่ใช่ ยกคำพระศาสดาออก แล้วเอาคำใหม่มาใส่ ไม่ใช่ ...คำพระศาสดายังเท่าเดิม
*ขันธ์ 5 ก็ยัง ขันธ์ 5 เพียงแค่อธิบายขันธ์ 5 ว่าอันยังอยู่เป็นไง อันไหนดับไป อธิบาย...! คือ หลักเดิมให้ถือไว้เหมือนเดิม ใครอธิบายยักย้ายไปได้เท่าไหร่ อธิบายไป แต่หลักเดิมให้เรียนให้ถืออยู่ *อินทรีย์5 ก็ให้ถือ อินทรีย์6ก็ไห้ถือ เหมือนเดิมที่พุทธะสอนมา อริยมรรค 8 ถือตามเดิม แต่จะอธิบาอริยมรรคด้วยวิธีใด ขึ้นอยู่กับคน คนนั้น หมายความว่าอย่างนี้
*คำอธิบายจึงไม่ใช่แต่งตั้ง ไม่ได้ลบวินัย และบัญญัติวินัยเพิ่ม ไม่ได้ลบพระธรรมและปัญญัติพระธรรมขึ้นใหม่ ...ไม่มี ....มีแต่ว่าค้นไปเจอตรงไหนก็รวบรวมเข้ามา เอาออกมา เอามาเปิดเผยให้ชาวบ้านได้รู้ มันเป็นอย่างนี้....!
*พระคึกฤทธิ์ก็ว่าเราถืออรรถกถามากเกินไป ....ไม่ใช่ ...! คือ....
*ศาสนานี้มี..... พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ใช่ไหม... จะถือแต่พระพุทธ กับพระธรรม แล้วพระคึกฤทธิ์เป็นใคร....! ทำไมจึง ไม่ถือพระสงฆ์ แล้วถ้าถือพระสงฆ์ ทำไมคำพระสงฆ์ ไม่มีดีเลยเหรอ แม้จะมีผิดอยู่บ้าง จะผิดทั้งหมดอยู่เหรอ แล้วตนเองพูดขึ้นละ .......
*พระคึกฤทธิ์เป็นใคร...เป็นพระพุทธเจ้าเหรอ ไม่ใช่พระสงฆ์เหรอ หรือเป็นตัวพระธรรม.....!..(ถามพระคึกฤทธิ์) *ตัวพระคึกฤทธิ์เองเป็นตัวพระธรรมหรือเปล่า *ถ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้ามีแล้ว พระคึกฤทธิ์เป็นพระธรรมเหรอ...! *เพราะพระสงฆ์ไม่ให้อธิบาย พระคึกฤทธิ์เป็นใครเป็นพระธรรมเหรอ ...! คำตนเองไม่ให้ถือแล้วจะเปิดสำนักหาอะไร...! เค้าก็ถือคำพระคึกฤทธิ์…..
*นั่นอันดับแรก แล้วเขาจึงถือไล่ไปหาพุทธะ...เราก็ว่าถ้าเป็นแบบนี้ พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์ ไม่เอาแล้วจะบอกลูกศิษย์ให้กราบ พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์แต่อย่าถือนะ คำพระสงฆ์แล้วจะทำไง ! ก็ต้องไล่พระคึกฤทธิ์ กับพระวัดนั้นให้หมด *ก็เอาแต่พระพุทธเจ้า กับพระธรรม *เรียนพระธรรมกันไปก็ไล่พระหนี…
*แต่ที่นี่ให้ถือ พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์ *แต่พระสงฆ์พูดไม่ถูก ให้เทียบไปไล่ไปที่พระพุทธเจ้าพูดไว้ ว่าพระสงฆ์พูดถูกหรือเปล่า…! อย่าไห้มันไปงัดกับคำของพระพุทธเจ้า ถ้างัดก็ให้หยุด ไม่ให้เอาในเรื่องนั้นๆ เป็นเรื่องๆไป ไม่ใช่ผิดทั้งหมด อรรถกถาพูดไม่ใช่ผิดทั้งหมด แต่พระคึกฤทธิ์ ให้อรรถกถาพูดผิดทั้งหมด...ไม่ให้ถือ...ไม่ให้เอา
*แบบนี้ไม่ถือพระสงฆ์ ไม่เอาด้วยแล้วเรา... พูดยังไงเราก็ยังไม่เอา ...*พระคึกฤทธิ์ ว่า...ถ้าอยากคุย...ให้ตัดอรรถกถาออก ให้มีแต่พระพุทธพจน์...กูไม่ตัดกับ ไม่เอา....!
*เราอธิบาย เรื่องมรรค เรื่องผล เราอธิบายสาธยายให้เห็นรายละเอียด อย่างชัดเจน คือผู้บำเพ็ญจะไม่งง ไม่หลงทางเลยถ้าทำตามเราบอก...หากมันไม่เป็นตามนั้น ก็ตรวจสอบ ตนเอง....ฯลฯ
เวลา00.4น. ที่พระคึกฤทธิ์ว่า นิโรจสมาบัติน่าจะมีชั้นนั้นพูดผิด......ฯลฯ แบบนี้ไม่รู้อริยมรรคฯ
-หลวงปู่บอกว่าเราไม่เคยพูดว่าน่าจะ อาจจะในการบำเพ็ญ
เวลา 00.7น.คำว่าคงอย่างนั้นมั้งในการบำเพ็ญไม่มีฯ
-รู้ก่อนจะเป็นไม่ใช่เป็นก่อนถึงรู้...ฯลฯ
เวลา 00.13น. คนเป็น โสดา สกทาคา อนาคาก็ตามต้องรู้ชัด ฯลฯ
-จิตไม่ได้เห็นง่ายๆ ต้องเป็นอนาคามีขั้นสุดท้าย ถึงเห็น...ฯลฯ
-จิตตัวสุดท้ายคือ อวิชชา *ตัณหาแท้จริงคือจิต
ฯลฯ
เวลา 00.20น. ถ้าว่าอรรถกถา เกินไป ก็ให้มาคุยกันว่า ที่ถืออรรถกถาเพราะอะไร *เพราะอรรถกถาไม่ใช่บัญญัติ ท่านไม่ได้บัญญัติ ท่านเพียงอธิบาย..!..คำของพุทธะยังอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้าสมมุติว่าร่างกายเป็นของเน่าเปื่อย...ฯลฯ
เวลา 00.23น. เป็นอรรถกถาอธิบายเท่านั้นไม่ใช่บัญญัติ ฯลฯ
-ไม่ได้บัญญัติขันธ์ 6..ขันธ์ 5 คือขันธ์ 5 อริยสัจ4..... ก็ไม่ได้อธิบายเป็นอริยสัจ5 อริยมรรค 8 ก็ไม่ได้อธิบายเป็นอริยมรรค9....ไม่ได้คิดว่าตนเองฉลาดแล้ว ตั้งภาษิตใดๆ ขึ้นเพื่อครอบธรรมของพระพุทธะ
*แต่พระพุทธะตั้งไว้ เช่นอริยสัจ4 เราก็มาอธิบาย การเกิดว่าเป็นทุกข์เมื่ออยู่ในท้องแม่...รกห่ออยู่...ฯลฯ
เวลา 00.27น.อธิบายการแก่...ฯลฯ
เวลา 00.29น. ทำไมถือพระพุทธเจ้า ทำไมถือพระธรรม....พระสงฆ์พูดขึ้นทำไมไม่เอา....ไม่เอาแม้แต่...ไล่มาตั้งแต่พระอัญญาโกญทัญญะ พระวัปปะอัสสชิมหานามะ พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระอานนท์ พระกัสสปะ พระกัจจายานะ ใครก็ตามพูดขึ้น เป็นสาวก บรรยายไม่เอาทั้งหมด พระพุทธะเจ้าตีตรารับรองก็ไม่เอา *ก็กลายเป็นว่าหักล้างคำพุทธที่ตีตรารับรองคำพระสารีบุตรพูด
*พระสารีบุตรเธอพูดถูกต้องแล้ว ถ้าเราตถาคตพูด ก็จะเป็นแบบนี้แหละ
*เมื้อรูว่าพระสารีบุตรเป็นผู้พูด..ทางวัดนาป่าพงตีเด็จขาด....ไม่เอา ก็เลยไปดูถูกคำพุทธะ เพราะพุทธะประทับตราให้ ว่าถ้าเป็นเรา ก็จะแก้แบบ เธอนี่แหละอานนท์ – กัจจายานะ – กัสสปะ– โมคคัลลานะ –สารีบุตร อะไร...เหล่านี้ คือพระองค์ตีตราให้เรียบร้อยแล้ว
*ไม่เอาทั้งหมดตายเลย แบบนี้สร้างบาปไม่ใช่เล่น...พาลูกศิษย์สร้างบาปอย่างมหาสาร...ฯลฯ
เวลา 00.30น.ลูกศิษย์ก็หลงไป...กูรักษาศีล5 กูถือพระ รัตนะไตร ทิ้งเครื่องรางของขลัง กูเป็นพระโสดาบัน
*นี่เป็นหมดแล้วถ้าจะพูดแบบนั้น *แม่แต่ไอ้ที่สร้างพุทธภูมินี่ ก็เป็นแล้วมันไม่ได้ไปแล้วพุทธภูมิ เพราะศีลมันมีแล้ว ถือพระรัตนะไตรถูกต้องหมดแล้ว..อริยะเต็มหมดเลยลูกศิษย์วัดสามแยก...ขาก
เวลา 00.30น.อริยะต้องรู้ รู้เอาเอง ชัดเจนมาก...รู้ไม่ชัดไม่จริงไม่ใช่..ฯลฯ
-สุขวิปัสสโกฯ.....ก็เป็นรู้ชัดเหมือนกัน...ฯลฯ
-มันต้องรู้ก่อนจะเป็น และกำลังเป็น และเป็น แล้วก็รู้ รู้ว่าเป็นตามลำดับ...ฯลฯ
เวลา 00.35น. เราถือพุทธ ถือธรรม ถือสงฆ์ไม่ใช่ศาสนานี้มีแต่พุทธะ ใช่..! พระศาสดาเป็นผู้สอน ไม่หนีคำพระศาสดา....แต่..! จะไม่อธิบายคำพระศาสดาเป็นไปได้ไหม..........
*บางเรื่องเรารู้ อัธยาศัย พระพุทธศาสดาด้วยนะนี่...ว่าท่านมีเป้าหมายอย่างไรท่านจึงพูด อันนี้...รู้เลย
เช่น...ท่านพูดว่ามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีศีล5 คือคน คนนั้น เค้ามักพลาด เรื่องศีล5 เข้าใจ ! เค้าเป็นพระโสดาบันขึ้นแล้ว พระองค์กลัวเขาจะประมาทหนัก ต่อไปท่านเลย เตือนเรื่องศีล5
*ไอ้คนอื่นเขารู้จักศีล5 เค้ารักษาดีแล้ว อบายมุขอะไรๆ เค้ารักษาดีแล้ว เขาเลยถามว่า...ควรจะอยู่ดำรง ชีวิตแบบไหนพระพุทธเจ้าข้า
*มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อันไม่หวั่นไหว และรู้จักบริจาค....ใช่ไหม !...(มีจาคะ) คือ ท่านสอนคนที่เป็นแล้ว
*แล้วเมื่อไม่ดูอรรถกถา จะรู้จักไหมว่าท่านสอนคนที่เป็นแล้ว พระอรหันต์ รุ่นนั้น ก็รู้อัธยาศัย พระศาสดา
*แล้วพูดอย่างนี้พระคึกฤทธิ์...ก็จะว่า..โห.! พระเกษมเกินไป ดูซิ ..! ดอดไปรู้เรื่องพระพุทธเจ้า ว่าคิดอะไร...เอ้า.! ก็รู้สิ... รู้จะเป็นไร.!
*เรารู้ว่าพระพุทธเจ้ามีเมตตาผิดอีกไหมนี่ รู้ว่าพระพุทธเจ้ามีพระมหากรุณาผิดไหมนี่ รู้ว่าพระพุทธเจ้ามีพระมหาอุเบกขาใหญ่ผิดไหมก็นั้นแหละ รู้ว่าพระพุทธเจ้ามีพระปัญญาธิคุณ มีพระบริสุทธิคุณ เอ๊ารู้ผิดอะไรตรงไหน ผิดได้อย่างไร..! ใช่ไหม แล้วคนรู้อย่างนี้ผิดไหม ( แหม่ลูกศิษย์วัดสามแยกเลยไม่ผิด...ลองไปถามลูกศิษย์พระคึกฤทธิ์สิผิดสิไปรู้พระพุทธเจ้า... )..ฯ...ใครเป็นสาวกพูดขึ้นให้ผิดหมด พระคึกฤทธิ์ปิดวัดได้แล้ว...ฯลฯ
เวลา 00.37น. สมมุติว่าหลานน้อยนี้ลุกขึ้นมาพูด..พระพุทธเจ้าตรัสอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าเขาพูดถูกก็เอานะนี่.. เอา ถึงแม้จะไม่บันทึกในหลักฐานก็ตามแต่ก็เอาเพราะเค้าพูดถูก..ถูกไหม
*จะเด็กสมัยนี้พูดขึ้นมา ถ้าพูดถูกก็เอาใช่มะ..! ไม่ใช่ว่าไม่เอา ....
*เอา ถ้าเค้าพูดถูก ถ้าเค้าพูดไม่ถูกเทียบเคียงตามหลักฐานฟังเค้า....แล้วเค้าพูดไม่ถูก เฮ้ออันนี้ไม่ถูกนะลูกนะ.ก็ต้องเตือนว่าไม่ถูก
*อันที่ถูกมันคือ อย่างโน้นๆ ก็อธิบาย ฯ
*เป็นอธิบายไม่ใช่บัญญัติ ถูกไหม....อะไรๆ ก็จะให้เป็นบัญญัติไปหมดก็แย่แล้ว..! พูดอะไรไม่ได้เลย ทีนี้ ใช่ไหม..!พูดไรไม่ได้
*มาตรงนี้ก็...! อ่านๆ..พระไตรปิฎกเฉพาะพระสูตรที่เป็นพุทธตรัส...สาวกพูดไม่เอา อ่านจบแล้วก็ลงไปใช่ไหม แล้วจะรู้เรื่องอะไรไหมนี่...........
เวลา 00.39น. ฟังพุทธพจน์ ท่านจึงให้พระอธิบาย พระพุทธเจ้าเป็นผู้สั่ง พระให้อธิบาย แต่คงบาลีที่พระองค์ แสดงไว้ เหมือนเดิมใครจะอธิบาย ยักย้ายไปไหน ร้อยแปด พันประการ หมื่นใน แสนใน ล้านใน เป็นโกฏิ เป็นโกฏิๆใน ว่าอย่างนี้ ได้เลย แต่หลัก อย่าเสีย
คือ อย่าตัดคำพุทธะ อย่าเพิ่มคำพุทธ แต่จะอธิบายไปไหนอธิบายไปเถอะ * เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ
*เธอทั้งหลายจงอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ...อันนี้ก็มี
*เธอจงให้พิสดารเถิด...อย่างนี้ก็มี *ตถาคต ตรัสย่อไว้แล้ว สารีบุตรความพิสดารจงแจ่มแจ้งกับพระสารีบุตรเถิด *เพราะพระสารีบุตรเป็นผู้ให้
- สูตรแบบนี้ท่านพระสารีบุตรเทศน์จบปั๊บพระพุทธองค์ ลุกขึ้นมา...ดีแล้วๆ พระสารีบุตรถ้าหากเราพูดก็จะแสดงแบบเธอนั้นแล... (*แบบนี้ตีตราแล้วยัง)ฯ
เวลา 00.40น. เรื่องตราชูฯลฯ
เวลา 00.42น. พระพุทธเจ้ายกคนเหล่านั้นเป็นตราชู.....พระคึกฤทธิ์ ไม่เอาเลย เราก็ว่า โห พาคนไปนรกนะนี่....เพราะคำพูดที่พระท่านพูดถูก ก็ไปหักลงหมดไม่ให้ถือเอา และไม่ยอมให้ศึกษา
*เราไล่ให้อ่านหมด อันไหนถูกให้เอาตามนั้น อันไหนถูกจริตนิสัยให้เอาตามนั้น อันไหนไม่ถูกจริตนิสัย ก็อย่าไปตัดทิ้งให้คงเอาไว้แล้วให้ผู้อื่นได้ศึกษา อันอย่างนี้มันถูกกว่า เท่าที่เราคิด เท่าที่เราคิดถูกกว่า *พระคึกฤทธิ์ทำอย่างนั้นหวาดเสียวมาก...! เลยฯ
*เอ้า..! ไปเป็นห่วงเค้าเหรอ ! ก็ไม่ได้เป็นห่วงพระคึกฤทธิ์ ผู้เดียว ก็เป็นห่วงตาสี ตาสา ตามา ตามี ตาแมว ตาช้าง ตาวัว ตาควาย ตาม้า ตาลา ตาล้อ ตาแพะ ตาแกะ อะไร หลายๆ ตานั้นแหละในนั้น
เวลา .0.43น. พูดเรื่องหนองป่าพงประชุมเรื่องตัด พระคึกฤทธิ์ไม่ให้เข้าพวก ฯลฯ
เวลา .00.44น. คนที่มาฟังเทศน์ ตอนนั้น พูดขึ้น เรื่องมีคนขอให้ ถกธรรมกับพระคึกฤทธิ์ ฯลฯ
-หลวงปู่อธิบาย การที่จะถกธรรม ฯลฯ
เวลา .00.47น. หลวงปู่เกษมถาม พระคึกฤทธิ์ ฯลฯ