น้ำหนัก 65 กก. สูง 154 ต้องการลด เหลือ 50 กก. ภายใน 4 เดือน เราจะทำได้มั๊ยนะ????

กระทู้คำถาม
เมื่อก่อนเราหนัก 52 กก. แต่เรามองว่าตัวเองอ้วน จึงหันไปพึ่งยาลดน้ำหนัก กินอยู่ปีกว่า หลายยี่ห้อสลัลสับเปลี่ยนไป น้ำหนักมีขึ้นมีลง แต่เรามองว่ามันไม่ยั่งยืน แล้วเราก็หมดเงินไปเยอะมาก เราจึงตัดสินใจหยุดยาลดน้ำหนัก ทำให้น้ำหนักขึ้นมาเป็น 66.2 กก. (วันที่ 18 สิงหาคม 57) หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เราก็งดแป้ง ไขมัน ของทอดของมัน เราทำอาหารกินเองบ้าง ซื้อบ้าง แต่เลือก อาทิเช่น สลัดทูน่า ยำทูน่า ผักกาดกับน้ำพริก เกาเหลาไก่ โยเกิรต0%  และเข้าฟิตเนตออกกำลังกายวันละ 1 ชม กลับบ้านเล่นฮูลาฮูป 15-30 นาที แต่ตอนเย็นหลังออกกำลังกาย เราจะหิวมากๆๆๆ แล้วเราก็กินผักกาดกับน้ำพริก ----การกินทุกมื้อของเรา เราจะอิ่มจนอยู่ท้อง ----- ล่าสุดช่างน้ำหนัก 65 (วันที่ 3 กันยายน 57) อมยิ้ม14อมยิ้ม14 เราคิดว่าเรามาผิดทาง ทำไมน้ำหนักลงน้อยแบบนี้ ณ วันนี้ เราจึเปลี่ยนวิธีการกินอาหารใหม่ โดยจะเริ่มทานข้าวช่วงเช้า (อ่านมา เค้าว่าถ้าไม่กินแป้ง ร่างกายจะไม่รู้จัก เมื่อไหร่ที่กลับมากิน จะอ้วนมากขึ้น) กลางวันก็ทานสลัด สุกี้ เกาเหลา แล้วแต่โอกาส ตอนเย็นออกกำลังกายปกติ แต่หลัง 6 โมงเย็น จะพยายามงดอาหารทุกชนิด ถ้าหิว จะกินแค่น้ำเปล่า..... ไม่รู้จะทำได้รึเปล่า อมยิ้ม05อมยิ้ม05 เพื่อนๆ มีคำแนะนำ แชร์กันได้เลยนะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ถามว่าเป็นไปได้ไหมบอกเลยว่าเป็นไปได้แน่นอน
แต่ต้องกินให้ถูก ออกกำลังให้ถูก ให้หนัก
กินครบ 5 หมู่ กินคาร์บเชิงซ้อน กินโปรตีนดี กินไขมันดี กินผักเยอะ ดื่มน้ำเยอะ ในปริมาณที่พอเหมาะ คือเหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการ อิ่ม ไม่โหย
ไม่ต้องอดอาหาร แทบไม่ต้องลดอาหารด้วยซ้ำ หากเรากินดีๆ ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้จนหมด ไม่เหลือสะสม มื้อนึง กินได้ 300-400 แคลสบายๆ

ออกกำลัง ทั้งเวท คาร์ดิโอ้ เล่นขนาดที่เรารู้สึกว่าเหนื่อย เหนื่อยมากๆ เหนื่อยจนฟิน อดรีนาลีนหลั่ง ทำให้วันรุ่งขึ้นอยากไปออกอีก
ถ้าออกแล้ว เหนื่อย วันรุ่งขึ้นขยาด ไม่อยากไปเหนื่อยอีกแล้ว แสดงว่ายังออกไม่ถึง ไม่เหนื่อยจริง ถ้าก้าวข้ามจุดเหนื่อยปลอมนั่นไปได้ จนอดรีนาลีนหลั่ง นั่นแหละ คุณจะเจอกับความสุขที่สุด หัวเบา ร่างกายสบาย ไฮๆ

เลิกชั่งน้ำหนัก หันมาวัดสัดส่วนแทน สามเดือนค่อยวัดผล

ตั้งเป้าหมายที่การออกกำลังกาย อย่าไปตั้งเป้าที่น้ำหนัก
เช่น เดือนแรก จะวิ่งให้ได้ 2 กิโล จะวิ่งอาทิตย์ละ 3 วัน สลับกับเวทเทรนนิ่งครั้งละ 30 นาที
เดือนที่ 2 จะวิ่งให้ได้ 5 กิโล ซ้อมอาทิตย์ละ 3 วัน สลับกับเวท และจะลงงานวิ่ง 1 งาน
เดือนที่ 3 จะวิ่งให้ได้ 5 กิโล ด้วยความเร็วดีขึ้นกว่าเดือนที่แล้ว ซ้อมอาทิตย์ละ 3 วัน  เวท 3 วัน จะลงงานวิ่ง 1 งาน
เดือนที่ 4 จะวิ่งให้ได้ 10 กิโล ซ้อม 5 กิโล 3 วัน 10 กิโล 1 วัน  เวท 3 วัน ลงวิ่งระยะมินิมาราธอน

ทำได้อย่างนี้ น้ำหนักไม่ลงให้มาเหยียบหน้าเลย
จบเดือนที่ 4 ได้เหรียญมาครอบครอง 3 เหรียญ เพื่อเป็นรางวัลให้กับตัวเอง และฉลองที่ร้ำหนักลงถาวร
ทุกอาทิตย์ที่ทำได้ตามเป้า คุณจะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง
เหมือนคุณได้ประสบความสำเร็จอะไรสักอย่างทุกๆวัน มันจะทำให้คุณมี self esteem มากขึ้นไม่รู้ตัว จะรักตัวเอง ภูมิใจ อารมณ์ดี มั่นใจมากขึ้น
แป็บๆก็ผ่านไปแล้ว 4 เดือน สองเดือนแรก ไม่ต้องสนใจอะไรเลย ทำตามเป้าพอ ร่างกายกำลังปรับตัว นน จะขึ้นๆลงๆ รูปร่างจะยังไม่เปลี่ยนชัดเจน
เดือนที่ 3 ไปแล้ว ถึงจะเห็นผลชัดเจน กางเกงเปลี่ยนขนาด
หากจะชั่ง นน ให้ชั่ง 3 วัน  หรือ 5 วัน แล้วเอามาเฉลี่ยค่า จะได้ นน ตัวที่แท้จริง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่