เมื่อวันที่ศาลอาญาได้มีคำวินิจฉัยประเด็นข้อกฎหมาย
คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษเป็นโจทก์ฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี
กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ (เลขาธิการ กปปส.) อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผอ.ศอฉ. จำเลยที่ 1 ที่ 2
ฐานผู้ร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำการหรือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบมาตรา 80, 83, 84
คนไทยหลายๆล้านคนที่ไม่ใช่ญาติและรวมถึงญาติของผู้เสียชีวิตจากการชุมนุม ต้องรู้สึกสะเทือนใจขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
เพราะกฏหมายไม่สามารถหาคนผิดมาลงโทษได้ จะด้วยสาเหตุแห่งว่า....
ไม่มีคนผิด หรือไม่มีคนต้องรับผิดชอบ หรือเพราะไม่มีความยุติธรรม ก็ตามที
แต่เมื่อสาเหตุแห่งการตายของประชาชนคนไทยวันนั้น
ศาลอาญาได้ชี้มูลจากการชันสูตรแล้วว่า เกิดจากกระสุนที่มาจากเจ้าหน้าที่
เมื่อมีประเด็นสาเหตุการตายแล้ว ก็น่าจะต้องมีการสืบสวน สอบสวน เพื่อหาผู้ที่กระทำผิด
จะจากผู้ที่ทำให้ประชาชนตาย(ซึ่งยากที่จะชี้ว่าใครเป็นคนยิง) หรือจากผู้ที่มีอำนาจบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่
แต่เมื่อศาลอาญาได้วินิจฉัยประเด็นข้อกฏหมายว่าเป็นการกระทำผิดต่อหน้าที่เท่านั้น
ประเด็นคดีอาญาจึงตกไป เหลือเป็นหน้าที่ของการอุทธรณ์และฎีกาต่อไป
หัวใจของคนไทยซึ่งผมเชื่อว่าอีกหลานล้านดวงต้องสะเทือนใจอย่างมาก หากคดีนี้มิได้หยิบยกขึ้นมาพิจารณา
เพื่อพิสูจน์ความผิดของใคร แต่ต้องตกไปเพียงเพราะวินิจฉัยแค่ประเด็นข้อกฏหมายเท่านั้น
วันนั้นมีความเห็นแย้งของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่พอจะทำให้มีความหวังว่า คดีนี้น่าจะได้นำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง
แล้ววันนี้ก็ได้เห็นความเห็นของอดีตผู้พิพากษาอีกท่านหนึ่งที่ทำให้มีความชุ่มชื่นขึ้นในหัวใจอีกครั้ง จากที่กำลังจะแตกสลาย
หากคดีนี้ได้รับการนำกลับมาขึ้นสู่การพิจารณาของศาลตามกระบวนการ
สุดท้ายจะมีใครได้รับโทษหรือไม่ ก็น่าจะดีกว่าการปักตกในวันนี้
อ่านความเห็นของท่านสมลักษณ์ จัดกระบวนพล อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาและกรรมการป.ป.ช.
อาจารย์พิเศษผู้บรรยายวิชาระบบศาลและหลักการพิจารณาคดี (พระธรรมนูญศาลยุติธรรม) คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จากมติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1409712305
แล้วช่วยกันออกความเห็นกัน
ความยุติธรรมที่คนไทยทุกคนอยากสัมผัส และอยากเห็น มากกว่าความสุขลมๆแล้งๆ
คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษเป็นโจทก์ฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี
กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ (เลขาธิการ กปปส.) อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผอ.ศอฉ. จำเลยที่ 1 ที่ 2
ฐานผู้ร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำการหรือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบมาตรา 80, 83, 84
คนไทยหลายๆล้านคนที่ไม่ใช่ญาติและรวมถึงญาติของผู้เสียชีวิตจากการชุมนุม ต้องรู้สึกสะเทือนใจขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
เพราะกฏหมายไม่สามารถหาคนผิดมาลงโทษได้ จะด้วยสาเหตุแห่งว่า....
ไม่มีคนผิด หรือไม่มีคนต้องรับผิดชอบ หรือเพราะไม่มีความยุติธรรม ก็ตามที
แต่เมื่อสาเหตุแห่งการตายของประชาชนคนไทยวันนั้น
ศาลอาญาได้ชี้มูลจากการชันสูตรแล้วว่า เกิดจากกระสุนที่มาจากเจ้าหน้าที่
เมื่อมีประเด็นสาเหตุการตายแล้ว ก็น่าจะต้องมีการสืบสวน สอบสวน เพื่อหาผู้ที่กระทำผิด
จะจากผู้ที่ทำให้ประชาชนตาย(ซึ่งยากที่จะชี้ว่าใครเป็นคนยิง) หรือจากผู้ที่มีอำนาจบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่
แต่เมื่อศาลอาญาได้วินิจฉัยประเด็นข้อกฏหมายว่าเป็นการกระทำผิดต่อหน้าที่เท่านั้น
ประเด็นคดีอาญาจึงตกไป เหลือเป็นหน้าที่ของการอุทธรณ์และฎีกาต่อไป
หัวใจของคนไทยซึ่งผมเชื่อว่าอีกหลานล้านดวงต้องสะเทือนใจอย่างมาก หากคดีนี้มิได้หยิบยกขึ้นมาพิจารณา
เพื่อพิสูจน์ความผิดของใคร แต่ต้องตกไปเพียงเพราะวินิจฉัยแค่ประเด็นข้อกฏหมายเท่านั้น
วันนั้นมีความเห็นแย้งของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่พอจะทำให้มีความหวังว่า คดีนี้น่าจะได้นำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง
แล้ววันนี้ก็ได้เห็นความเห็นของอดีตผู้พิพากษาอีกท่านหนึ่งที่ทำให้มีความชุ่มชื่นขึ้นในหัวใจอีกครั้ง จากที่กำลังจะแตกสลาย
หากคดีนี้ได้รับการนำกลับมาขึ้นสู่การพิจารณาของศาลตามกระบวนการ
สุดท้ายจะมีใครได้รับโทษหรือไม่ ก็น่าจะดีกว่าการปักตกในวันนี้
อ่านความเห็นของท่านสมลักษณ์ จัดกระบวนพล อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาและกรรมการป.ป.ช.
อาจารย์พิเศษผู้บรรยายวิชาระบบศาลและหลักการพิจารณาคดี (พระธรรมนูญศาลยุติธรรม) คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จากมติชน http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1409712305
แล้วช่วยกันออกความเห็นกัน