ที่จริงแล้ว เรื่องนี้ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เหตุเกิดขึ้นเพียงเพราะว่า ใครบางคน เขาไม่ฉลาดเท่าที่ควร
เขาก็เลยไม่รู้มาก่อนว่า ปฏิจจสมุปบาท ก็คือ อริยสัจ ๔ นั่นแหละ
ดังนั้น ปฏิจจสมุปบาท สายดับ ซึ่งก็คือ มรรค และ นิโรธ
ย่อมเป็น โลกุตตระ ตามหลักฐานจาก โลกุตตรกถา ที่มันยกมาอ้างอย่างไม่ฉลาด นั่นแหละ !
ล่าสุด นายคนนี้ เขาก็อวดตัวในทำนองว่า เขายกหลักฐานจาก อรรถกถา มาชี้แจงอย่างชัดเจนว่า
เหตุที่นับเป็นโลกุตตรธรรม เนื่องจากธรรมนั้นสัมปยุตกับมรรคจิตผลจิต ....... ฯลฯ
จากนั้น ทำเป็นโวยวายในทำนองว่า ...........
ผม(จ้าวนครเมฆขาว) ไม่ยอมตอบ หรือ ตอบไม่ตรงประเด็น !
*****************************************************************************
ขออนุญาตตอบตามตรงว่า ที่ cantona_z เข้าใจไปเองอย่างนั้น มันไม่ใช่ "ความผิด" หรือ "ความรับผิดชอบ" ของผมนี่ครับ
เพราะในอันที่จริง ถ้า cantona_z จะตั้งใจอ่าน กระทู้ หรือ ข้อความของผู้อื่น อย่างไม่ "มักง่าย" และ ละเอียดรอบคอบ มากกว่าที่เป็นอยู่
มันก็จะทราบได้เองว่า มันไม่จำเป็นต้องไปยก อรรถกถา มาอ้างให้ลำบากเลย
เพราะในกระทู้ของผม ได้ยกพระบาลีพุทธพจน์ขึ้นอ้างอย่างชัดเจนแล้วว่า ........
ปฏิจจสมุปบาท ที่เป็น โลกุตตระ นั้นหมายถึง
ธรรมที่แสดงเพื่อ ความหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับชาติ ..... ฯลฯ
ซึ่งจากหลักฐานที่ผม(จ้าวนครเมฆขาว) แสดงไว้แล้วแต่แรกนั้น มันชัดเจน
โดยไม่ต้องให้คนอย่างแก ต้องเสนอหน้า ยกอรรถกถา มาแสดง "แก้เก้อ" แต่อย่างใดเลย นี่ครับ !
ดังนั้น กรณีเช่นนี้ มันจึงไม่ใช่ การไม่ตอบ หรือ ตอบไม่ตรงประเด็น
แต่มันอยู่ในสภาพที่เรียกว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตอบอะไรเพิ่มเติมแล้วต่างหาก !
ผมเข้าใจดีครับว่า cantona_z เป็นคนที่อยาก อวดฉลาด ให้ผู้คนเขาเห็น(และเชื่ออย่างนั้น)
แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณเป็น คนไม่ฉลาด นี่ครับ ดังนั้น ต่อให้อยากอวดฉลาดมากสักแค่ไหน
มันก็ไม่พ้น โง่อวดฉลาด จนได้นั่นแหละ !
การแสดงข้อมูลหลักฐาน "ซ้ำ" ในสิ่งที่ผู้อื่นแสดงเอาไว้ก่อนแล้วอย่างละเอียด
มันเป็นการแสดง "ความฉลาด" ตรงไหนครับ ?
เพราะผมกลับเห็นว่า นั่นเป็นการแสดงออกของคนโง่อวดฉลาด
หรือไม่ก็เป็น วิธีการ "แก้เก้อ" ของคนที่ไม่สามารถยอมรับความไม่ฉลาดของตนเองได้ เสียมากกว่า
หรือมิใช่ ?
*****************************************************************************
และในท้ายที่สุด คนๆ นี้ เขาก็ได้สรุปความอย่าง "หลงเลอะ" ขึ้นมาว่า
(๑) การกล่าวว่า ปฏิจจสมุปบาท เป็นโลกุตตรธรรม นั้นผิด
(๒) เพราะ เฉพาะ นิโรธวารเท่านั้น ที่เป็นโลกุตตรธรรม
การสรุปเอาเองดื้อๆ แบบนี้ ถ้าไม่เป็นเพราะความ "เก้อยาก" มันก็ต้องจาก "ความไม่ฉลาด" เท่านั้นแหละครับ
ทั้งนี้ ก็เพราะ ข้อความในกระทู้ของผม ย่อมไม่สามารถสื่อให้เข้าใจผิดไปได้เลยว่า ปฏิจจสมุปบาทสายเกิด เป็น โลกุตตระ
อีกทั้ง หลักฐานต่างๆ ข้อมูลต่างๆ ที่ยกขึ้นแสดง ก็ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่า ระบุถึง ปฏิจจสมุปบาท สายดับ
ดังนั้น นี่จึงเป็นเพียงแค่ปัญหาส่วนตัวของคนอย่าง cantona_z ที่ไม่สามารถยอมรับ "ความไม่ฉลาด" ของตนเองได้
ซึ่งกว่าจะรู้ตัวว่า ได้ "ปล่อยไก่" ออกไปจนหมดเล้าแล้ว ........ ต้อนกลับมาไม่ทันแล้ว ........ มันก็สายเกินไปเสียแล้ว
แต่เพราะด้วยความที่คนพวกนี้ เขาผิดไม่ได้ แพ้ไม่เป็น ยอมรับความโง่ของตนเองไม่ได้
การที่จะสามารถ "แก้หน้า" หรือ "แก้เงิบ" หรือ "แก้เก้อ" ให้กับมันได้ จึงต้องอาศัย "ความเก้อยาก" เพียงอย่างเดียว
เพราะฉะนั้น พฤติการณ์ ที่เราจะได้เห็นจากคนจำพวกนี้ ก็คือ .......
อยู่ดีๆ มันก็มา "ฝลัดกระทู้" โพสต์ข้อความหลักฐาน ซึ่งที่จริง มันก็เป็นข้อมูล ที่มีอยู่มากมาย
อย่างเพียงพอแล้ว ในกระทู้นั่นแหละ หลังจากสำแดงความฉลาด จนเป็นที่พอใจแล้ว
มันก็จะ "ปรักปรำ" ให้ผู้อื่นต้องมีความเข้าใจผิดในอะไรสักอย่าง ซึ่งไม่มีอยู่จริง ประมาณว่า ...........
ตรูเชื่อว่า พวกแก ต้องเข้าใจผิดอย่างนี้ๆ และนั่นต้องเป็นความจริง ตามความเชื่อของ "ตรู" ด้วยว่า
พวกแก มีความเข้าใจผิดอย่างนี้ๆ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นจริงอย่างนั้นได้เลย ก็ตาม !
จากนั้น การสรุปความเอาเองดื้อๆ อย่างไร้เหตุผล ก็จะตามมาในท้ายที่สุด
ดังที่ท่านทั้งหลาย ได้เห็นตามหลักฐานที่ปรากฏอยู่ นี้แล ฯ
ในเมื่อ เจ้าตัวเขาบอกว่า ขำ
ดังนั้น กระทู้นี้ ผมก็อธิบายความ โดยอ้างอิงหลักฐานเท่าที่ปรากฏอยู่จริง อย่าง ขำๆ เช่นกัน
สวัสดี
แต่ผมขำเรื่องมีคนอวดฉลาดบอก ปฏิจจสมุปบาท เป็น โลกุตตระ ต่างหาก
เขาก็เลยไม่รู้มาก่อนว่า ปฏิจจสมุปบาท ก็คือ อริยสัจ ๔ นั่นแหละ
ดังนั้น ปฏิจจสมุปบาท สายดับ ซึ่งก็คือ มรรค และ นิโรธ
ย่อมเป็น โลกุตตระ ตามหลักฐานจาก โลกุตตรกถา ที่มันยกมาอ้างอย่างไม่ฉลาด นั่นแหละ !
ล่าสุด นายคนนี้ เขาก็อวดตัวในทำนองว่า เขายกหลักฐานจาก อรรถกถา มาชี้แจงอย่างชัดเจนว่า
เหตุที่นับเป็นโลกุตตรธรรม เนื่องจากธรรมนั้นสัมปยุตกับมรรคจิตผลจิต ....... ฯลฯ
จากนั้น ทำเป็นโวยวายในทำนองว่า ...........
ผม(จ้าวนครเมฆขาว) ไม่ยอมตอบ หรือ ตอบไม่ตรงประเด็น !
*****************************************************************************
ขออนุญาตตอบตามตรงว่า ที่ cantona_z เข้าใจไปเองอย่างนั้น มันไม่ใช่ "ความผิด" หรือ "ความรับผิดชอบ" ของผมนี่ครับ
เพราะในอันที่จริง ถ้า cantona_z จะตั้งใจอ่าน กระทู้ หรือ ข้อความของผู้อื่น อย่างไม่ "มักง่าย" และ ละเอียดรอบคอบ มากกว่าที่เป็นอยู่
มันก็จะทราบได้เองว่า มันไม่จำเป็นต้องไปยก อรรถกถา มาอ้างให้ลำบากเลย
เพราะในกระทู้ของผม ได้ยกพระบาลีพุทธพจน์ขึ้นอ้างอย่างชัดเจนแล้วว่า ........
ปฏิจจสมุปบาท ที่เป็น โลกุตตระ นั้นหมายถึง
ธรรมที่แสดงเพื่อ ความหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับชาติ ..... ฯลฯ
ซึ่งจากหลักฐานที่ผม(จ้าวนครเมฆขาว) แสดงไว้แล้วแต่แรกนั้น มันชัดเจน
โดยไม่ต้องให้คนอย่างแก ต้องเสนอหน้า ยกอรรถกถา มาแสดง "แก้เก้อ" แต่อย่างใดเลย นี่ครับ !
ดังนั้น กรณีเช่นนี้ มันจึงไม่ใช่ การไม่ตอบ หรือ ตอบไม่ตรงประเด็น
แต่มันอยู่ในสภาพที่เรียกว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตอบอะไรเพิ่มเติมแล้วต่างหาก !
ผมเข้าใจดีครับว่า cantona_z เป็นคนที่อยาก อวดฉลาด ให้ผู้คนเขาเห็น(และเชื่ออย่างนั้น)
แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณเป็น คนไม่ฉลาด นี่ครับ ดังนั้น ต่อให้อยากอวดฉลาดมากสักแค่ไหน
มันก็ไม่พ้น โง่อวดฉลาด จนได้นั่นแหละ !
การแสดงข้อมูลหลักฐาน "ซ้ำ" ในสิ่งที่ผู้อื่นแสดงเอาไว้ก่อนแล้วอย่างละเอียด
มันเป็นการแสดง "ความฉลาด" ตรงไหนครับ ?
เพราะผมกลับเห็นว่า นั่นเป็นการแสดงออกของคนโง่อวดฉลาด
หรือไม่ก็เป็น วิธีการ "แก้เก้อ" ของคนที่ไม่สามารถยอมรับความไม่ฉลาดของตนเองได้ เสียมากกว่า
หรือมิใช่ ?
*****************************************************************************
และในท้ายที่สุด คนๆ นี้ เขาก็ได้สรุปความอย่าง "หลงเลอะ" ขึ้นมาว่า
(๑) การกล่าวว่า ปฏิจจสมุปบาท เป็นโลกุตตรธรรม นั้นผิด
(๒) เพราะ เฉพาะ นิโรธวารเท่านั้น ที่เป็นโลกุตตรธรรม
การสรุปเอาเองดื้อๆ แบบนี้ ถ้าไม่เป็นเพราะความ "เก้อยาก" มันก็ต้องจาก "ความไม่ฉลาด" เท่านั้นแหละครับ
ทั้งนี้ ก็เพราะ ข้อความในกระทู้ของผม ย่อมไม่สามารถสื่อให้เข้าใจผิดไปได้เลยว่า ปฏิจจสมุปบาทสายเกิด เป็น โลกุตตระ
อีกทั้ง หลักฐานต่างๆ ข้อมูลต่างๆ ที่ยกขึ้นแสดง ก็ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่า ระบุถึง ปฏิจจสมุปบาท สายดับ
ดังนั้น นี่จึงเป็นเพียงแค่ปัญหาส่วนตัวของคนอย่าง cantona_z ที่ไม่สามารถยอมรับ "ความไม่ฉลาด" ของตนเองได้
ซึ่งกว่าจะรู้ตัวว่า ได้ "ปล่อยไก่" ออกไปจนหมดเล้าแล้ว ........ ต้อนกลับมาไม่ทันแล้ว ........ มันก็สายเกินไปเสียแล้ว
แต่เพราะด้วยความที่คนพวกนี้ เขาผิดไม่ได้ แพ้ไม่เป็น ยอมรับความโง่ของตนเองไม่ได้
การที่จะสามารถ "แก้หน้า" หรือ "แก้เงิบ" หรือ "แก้เก้อ" ให้กับมันได้ จึงต้องอาศัย "ความเก้อยาก" เพียงอย่างเดียว
เพราะฉะนั้น พฤติการณ์ ที่เราจะได้เห็นจากคนจำพวกนี้ ก็คือ .......
อยู่ดีๆ มันก็มา "ฝลัดกระทู้" โพสต์ข้อความหลักฐาน ซึ่งที่จริง มันก็เป็นข้อมูล ที่มีอยู่มากมาย
อย่างเพียงพอแล้ว ในกระทู้นั่นแหละ หลังจากสำแดงความฉลาด จนเป็นที่พอใจแล้ว
มันก็จะ "ปรักปรำ" ให้ผู้อื่นต้องมีความเข้าใจผิดในอะไรสักอย่าง ซึ่งไม่มีอยู่จริง ประมาณว่า ...........
ตรูเชื่อว่า พวกแก ต้องเข้าใจผิดอย่างนี้ๆ และนั่นต้องเป็นความจริง ตามความเชื่อของ "ตรู" ด้วยว่า
พวกแก มีความเข้าใจผิดอย่างนี้ๆ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นจริงอย่างนั้นได้เลย ก็ตาม !
จากนั้น การสรุปความเอาเองดื้อๆ อย่างไร้เหตุผล ก็จะตามมาในท้ายที่สุด
ดังที่ท่านทั้งหลาย ได้เห็นตามหลักฐานที่ปรากฏอยู่ นี้แล ฯ
ในเมื่อ เจ้าตัวเขาบอกว่า ขำ
ดังนั้น กระทู้นี้ ผมก็อธิบายความ โดยอ้างอิงหลักฐานเท่าที่ปรากฏอยู่จริง อย่าง ขำๆ เช่นกัน
สวัสดี