จุดประสงค์ของการตั้งกระทู้นี้คือ
1.ต้องการแบ่งปันประสบการณ์ คนอื่นๆอาจนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยเฉพาะน้องๆที่อายุยังน้อย
2.อยากแลกเปลี่ยนความรู้ ในเรื่องของวิธีการที่ทุกคนใช้สร้างความสำเร็จ เพื่อต่อยอดครับ และนำไปพัฒนาครับ
ผมเองอ่านหนังสือพวกพัฒนาตนเองมาพอสมควรครับ (จริงๆก็อ่านหลายแนวบริหารธุรกิจ ความรู้เฉพาะทางบ้าง แต่หนังสือแนวพัฒนาตนเองดังๆผมอ่านหมดแล้ว)
หนังสือส่วนใหญ่แทบจะเขียนออกมาอิงเนื้อหาใกล้เคียงกัน ตั้งเป้าหมาย วางแผน แล้วก็ลงมือทำทุกๆวัน
จะมีบ้างที่มีเนื้อหาจำแนกเพิ่มเติมออกไป อาทิ คิดเชิงบวก คิดว่าสำเร็จตามเป้าหมายแล้วทุกวัน แต่ท้ายสุดก็มาแนวเดียวกัน
วันนึงรู้สึกว่า บางทีตอนนี้ที่อ่านหนังสืออยู่ เปรียบได้กับการผลัดวันประกันพรุ่ง คือไม่ได้ลงมือทำซักที
ก็เลยลองลดน้ำหนักดู ชั่งน้ำหนักทุกวัน ทานน้อยลง อดทน และบอกเป้าหมายกับทุกคนให้เรากดดัน ไม่กล้าหยุด
ผลก็สำเร็จ ลดได้เกือบสิบโล มั่นใจในตนเองมากขึ้น
กลับกันกับเพื่อนๆที่ได้บอกวิธีไป เหมือนกันทุกอย่าง แต่ไม่สำเร็จ (เพื่อนไม่ได้อ่านหนังสือเท่าไหร่ แต่ส่วนใหญ่คนรู้จักก็แทบไม่มีใครชอบอ่านเลย)
ที่ไม่สำเร็จผมลองสังเกตดู เพราะไม่ค่อยตั้งใจจริง อดทนไม่ได้ อดได้ไม่กี่วันก็หยุด บางคนไม่คิดจะเริ่มด้วยซ้ำ น่าจะเป็นปัญหาเดียวกับที่ทุกคนไม่ประสบความสำเร็จ
สำหรับเรื่องงาน ผมเองไม่ได้ลงมือเขียนเป้าหมายออกมาเป็นข้อๆเหมือนที่หนังสือส่วนมากแนะนำ เลยอาจจะยังไม่ได้ประสบความสำเร็จมากอย่างที่ตนต้องการ
แต่ถ้าเทียบกันกับคนอื่น ผมเองเป็นคนอายุน้อยที่สุดที่ได้ตำแหน่งผู้จัดการในตอนที่ยังอายุไม่ถึง 30 เพราะน่าจะกระตือรือร้น และทำเกินหน้าที่มากกว่าคนอื่นจึงมีโอกาสหนังสือเล่มนึงที่ช่วยได้ดีมากๆคือ Seven habits of highly effective people ของ Stephen R.Covey แนะนำให้อ่านนะครับทุกคน มุมมองที่ได้จากหนังสือ อาทิ Proactive จะทำให้เรามองเชิงรุก First thing first ก็ทำให้เราบริหารเวลาได้ดีในการทำสิ่งที่สำคัญ แต่ไม่เร่งด่วนก่อน ที่จะรอให้มันจวนตัว
ส่วนหนึ่งจึงคิดว่าพวกหนังสือที่เราอ่านซ้ำๆน่าจะทำให้เรามีความคิดที่แตกต่างกันในเรื่องของความสำเร็จ
ถึงแม้อ่านหนังสือพวกนี้มีประโยชน์ แต่ถึงจุดหนึ่งจะอิ่มตัว รีบลงมือทำและอ่านหนังสือไปด้วยจะดีกว่า อย่ารอแบบผม อ่านจนท่วมหัวแล้วค่อยเริ่มคิดลงมือทำ
คนส่วนใหญ่ไม่ชอบอ่านหนังสือ แนะนำให้ฝึกอ่านทุกวันวันละนิด ก็จะติดเป็นนิสัยได้ จะเป็นประโยชน์ในระยะยาวได้ครับ
ประเด็นหลักเลย คือแนะนำให้ตั้งเป้าหมายครับ เพราะชีวิตเราจะไร้ทิศทางมาก คือเหมือนอยู่กันไปวันๆ แต่บางคนอาจจะมีความสุขดีกับสิ่งที่เป็นและมีอยู่อันนี้ก็ยกเว้นนะครับ
ประเด็นรองลงมา คือให้คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้ถ้าเราพยายามมากพอ คนส่วนมากหวังเรื่องโชคชะตาเกินไป และไม่พยายามทำอะไรให้ดีขึ้นมา คนที่ไม่มีความสุขก็ไม่มีความสุขต่อไป ผมเองถ้ามีโอกาสสักวันนึงอยากจะสอน และนำหนังสือดีๆไปให้คนเหล่านี้อ่าน ได้เข้าถึงความรู้ดีๆ อยากรู้ว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตได้มั้ย
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ใจ ตั้งเป้าหมายแล้ว มีแผนการแล้ว แต่ใจไม่เข้มแข็งพอ ก็จะยอมแพ้ ย่อท้อแต่อุปสรรค ถึงกระทั่งไม่เริ่มทำอะไรด้วยซ้ำ
มีอีกวิธีที่ผมคิดว่าเป็นประโยชน์ และน่าจะได้ผลเช่นเดียวกับการตั้งเป้าหมายในระยะยาว ก็คือเน้นที่ process มากกว่า outcome
Process คือวิธีการที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ เช่น ทานวันละ 700แคลอรี่ ซิตอัพวันละ 30ครั้ง โทรหาคนที่คุณรัก วันละครั้ง
Outcome ก็พวกผลลัพธ์ปกติเวลาเราตั้งเป้าหมาย เช่น ลดน้ำหนักได้ 5โล แต่งงานตอนอายุ 32
ถ้าเน้น process ไม่เน้น outcome ก็อาจจะสำเร็จได้เหมือนกัน ต่างประเทศกำลังนิยมการตั้งเป้าหมายแบบ process goal หรือ system goal แต่เน้นกิจการที่เราต้องทำทุกวัน
อีกวิธีเรียกว่า Seinfield's method คือให้เอาปฎิทินมากากบาทวันที่เราทำกิจกรรมสำเร็จทุกๆวันอย่าหยุด จนเป็นแถวยาวไปสุดท้ายก็จะสำเร็จเอง
เพราะชีวิตเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ชั่วข้ามคืน หากอยู่ที่ผลลัพธ์ของการกระทำอย่างต่อเนื่องในทุกๆวัน เหมือนดังที่ Aristotle เคยกล่าวไว้ว่า"We are what we repeated do" ผมเชื่อว่าเรารู้อยู่ในใจลึกๆว่าทำอย่าวไรถึงจะบรรลุสิ่งที่เราคาดหวัง แต่การกระทำที่ต้องแลกมากับความสำเร็จต่างหาก ที่เรายังขาดไป
ท้ายสุดนี้ อยากให้ลองไปปฎิบัติดูนะครับ และอยากฟังคนอื่นๆว่ามีวิธีการอย่างไรที่ทำให้ประสบความสำเร็จในนิยามของความสำเร็จของแต่ละคน สิ่งใดคืออุปสรรคสำคัญที่ทำให้ยังไม่ประสบความสำเร็จครับ
ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ แบ่งปันประสบการณ์ครับ
1.ต้องการแบ่งปันประสบการณ์ คนอื่นๆอาจนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยเฉพาะน้องๆที่อายุยังน้อย
2.อยากแลกเปลี่ยนความรู้ ในเรื่องของวิธีการที่ทุกคนใช้สร้างความสำเร็จ เพื่อต่อยอดครับ และนำไปพัฒนาครับ
ผมเองอ่านหนังสือพวกพัฒนาตนเองมาพอสมควรครับ (จริงๆก็อ่านหลายแนวบริหารธุรกิจ ความรู้เฉพาะทางบ้าง แต่หนังสือแนวพัฒนาตนเองดังๆผมอ่านหมดแล้ว)
หนังสือส่วนใหญ่แทบจะเขียนออกมาอิงเนื้อหาใกล้เคียงกัน ตั้งเป้าหมาย วางแผน แล้วก็ลงมือทำทุกๆวัน
จะมีบ้างที่มีเนื้อหาจำแนกเพิ่มเติมออกไป อาทิ คิดเชิงบวก คิดว่าสำเร็จตามเป้าหมายแล้วทุกวัน แต่ท้ายสุดก็มาแนวเดียวกัน
วันนึงรู้สึกว่า บางทีตอนนี้ที่อ่านหนังสืออยู่ เปรียบได้กับการผลัดวันประกันพรุ่ง คือไม่ได้ลงมือทำซักที
ก็เลยลองลดน้ำหนักดู ชั่งน้ำหนักทุกวัน ทานน้อยลง อดทน และบอกเป้าหมายกับทุกคนให้เรากดดัน ไม่กล้าหยุด
ผลก็สำเร็จ ลดได้เกือบสิบโล มั่นใจในตนเองมากขึ้น
กลับกันกับเพื่อนๆที่ได้บอกวิธีไป เหมือนกันทุกอย่าง แต่ไม่สำเร็จ (เพื่อนไม่ได้อ่านหนังสือเท่าไหร่ แต่ส่วนใหญ่คนรู้จักก็แทบไม่มีใครชอบอ่านเลย)
ที่ไม่สำเร็จผมลองสังเกตดู เพราะไม่ค่อยตั้งใจจริง อดทนไม่ได้ อดได้ไม่กี่วันก็หยุด บางคนไม่คิดจะเริ่มด้วยซ้ำ น่าจะเป็นปัญหาเดียวกับที่ทุกคนไม่ประสบความสำเร็จ
สำหรับเรื่องงาน ผมเองไม่ได้ลงมือเขียนเป้าหมายออกมาเป็นข้อๆเหมือนที่หนังสือส่วนมากแนะนำ เลยอาจจะยังไม่ได้ประสบความสำเร็จมากอย่างที่ตนต้องการ
แต่ถ้าเทียบกันกับคนอื่น ผมเองเป็นคนอายุน้อยที่สุดที่ได้ตำแหน่งผู้จัดการในตอนที่ยังอายุไม่ถึง 30 เพราะน่าจะกระตือรือร้น และทำเกินหน้าที่มากกว่าคนอื่นจึงมีโอกาสหนังสือเล่มนึงที่ช่วยได้ดีมากๆคือ Seven habits of highly effective people ของ Stephen R.Covey แนะนำให้อ่านนะครับทุกคน มุมมองที่ได้จากหนังสือ อาทิ Proactive จะทำให้เรามองเชิงรุก First thing first ก็ทำให้เราบริหารเวลาได้ดีในการทำสิ่งที่สำคัญ แต่ไม่เร่งด่วนก่อน ที่จะรอให้มันจวนตัว
ส่วนหนึ่งจึงคิดว่าพวกหนังสือที่เราอ่านซ้ำๆน่าจะทำให้เรามีความคิดที่แตกต่างกันในเรื่องของความสำเร็จ
ถึงแม้อ่านหนังสือพวกนี้มีประโยชน์ แต่ถึงจุดหนึ่งจะอิ่มตัว รีบลงมือทำและอ่านหนังสือไปด้วยจะดีกว่า อย่ารอแบบผม อ่านจนท่วมหัวแล้วค่อยเริ่มคิดลงมือทำ
คนส่วนใหญ่ไม่ชอบอ่านหนังสือ แนะนำให้ฝึกอ่านทุกวันวันละนิด ก็จะติดเป็นนิสัยได้ จะเป็นประโยชน์ในระยะยาวได้ครับ
ประเด็นหลักเลย คือแนะนำให้ตั้งเป้าหมายครับ เพราะชีวิตเราจะไร้ทิศทางมาก คือเหมือนอยู่กันไปวันๆ แต่บางคนอาจจะมีความสุขดีกับสิ่งที่เป็นและมีอยู่อันนี้ก็ยกเว้นนะครับ
ประเด็นรองลงมา คือให้คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้ถ้าเราพยายามมากพอ คนส่วนมากหวังเรื่องโชคชะตาเกินไป และไม่พยายามทำอะไรให้ดีขึ้นมา คนที่ไม่มีความสุขก็ไม่มีความสุขต่อไป ผมเองถ้ามีโอกาสสักวันนึงอยากจะสอน และนำหนังสือดีๆไปให้คนเหล่านี้อ่าน ได้เข้าถึงความรู้ดีๆ อยากรู้ว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตได้มั้ย
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ใจ ตั้งเป้าหมายแล้ว มีแผนการแล้ว แต่ใจไม่เข้มแข็งพอ ก็จะยอมแพ้ ย่อท้อแต่อุปสรรค ถึงกระทั่งไม่เริ่มทำอะไรด้วยซ้ำ
มีอีกวิธีที่ผมคิดว่าเป็นประโยชน์ และน่าจะได้ผลเช่นเดียวกับการตั้งเป้าหมายในระยะยาว ก็คือเน้นที่ process มากกว่า outcome
Process คือวิธีการที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ เช่น ทานวันละ 700แคลอรี่ ซิตอัพวันละ 30ครั้ง โทรหาคนที่คุณรัก วันละครั้ง
Outcome ก็พวกผลลัพธ์ปกติเวลาเราตั้งเป้าหมาย เช่น ลดน้ำหนักได้ 5โล แต่งงานตอนอายุ 32
ถ้าเน้น process ไม่เน้น outcome ก็อาจจะสำเร็จได้เหมือนกัน ต่างประเทศกำลังนิยมการตั้งเป้าหมายแบบ process goal หรือ system goal แต่เน้นกิจการที่เราต้องทำทุกวัน
อีกวิธีเรียกว่า Seinfield's method คือให้เอาปฎิทินมากากบาทวันที่เราทำกิจกรรมสำเร็จทุกๆวันอย่าหยุด จนเป็นแถวยาวไปสุดท้ายก็จะสำเร็จเอง
เพราะชีวิตเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ชั่วข้ามคืน หากอยู่ที่ผลลัพธ์ของการกระทำอย่างต่อเนื่องในทุกๆวัน เหมือนดังที่ Aristotle เคยกล่าวไว้ว่า"We are what we repeated do" ผมเชื่อว่าเรารู้อยู่ในใจลึกๆว่าทำอย่าวไรถึงจะบรรลุสิ่งที่เราคาดหวัง แต่การกระทำที่ต้องแลกมากับความสำเร็จต่างหาก ที่เรายังขาดไป
ท้ายสุดนี้ อยากให้ลองไปปฎิบัติดูนะครับ และอยากฟังคนอื่นๆว่ามีวิธีการอย่างไรที่ทำให้ประสบความสำเร็จในนิยามของความสำเร็จของแต่ละคน สิ่งใดคืออุปสรรคสำคัญที่ทำให้ยังไม่ประสบความสำเร็จครับ