ช่าวหุ้น. 25 สิงหาคม 2557
หุ้น JAS ลุ้นระทึก.! ศาลนัดฟังคำสั่งวันนี้กรณี TT&T ยื่นฟ้องศาลแพ่ง เพื่อร้องสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน TTTBB พร้อมร้องขอศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวทรัพย์สินทั้งหมดของ TTTBB เชื่อจะเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายหุ้น JAS โบรกเกอร์ระบุกหากศาลยกคำร้องราคาหุ้น JAS รีเทิร์นสู่ระดับ 8 บาทอีกครั้ง แต่หากศาลรับคำร้องและคุ้มครองชั่วคราวหุ้นหาแนวรับเจอแน่.!
รายงานข่าวเปิดเผยว่า วันนี้ (25 ส.ค.) ศาลแพ่ง มีนัดฟังคำสั่งกรณีบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด(มหาชน) หรือ TT&T ยื่นฟ้องร้องต่อศาลแพ่งให้บริษัท อคิวเม้น จำกัด (JAS ถือหุ้น 100%) ให้ขายหุ้น 70% ในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (TTTBB) ให้ผู้ถือหุ้น TT&T ตามบันทึกข้อตกลงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (MOU) ฉบับลงวันที่ 13 กันยายน 2549 และร้องศาลเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราวทรัพย์สินทั้งหมดของ TTTBB และวางหุ้น 70% ใน TTTBB ที่อคิวเม้นถือไว้ต่อศาลจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ประเด็นดังกล่าวถือเป็นการชี้ชะตาหุ้น JAS เนื่องจาก JAS ถือหุ้นใน“อคิวเม้น” 100% และ “อคิวเม้น” ถือหุ้นใน TTTBB 99.93%
โดยบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ระบุว่า ประเมินแนวทางที่เป็นไปได้ เกี่ยวกับคดีดังกล่าว คือ 1) หากศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราว เชื่อว่าเป็นประเด็นลบต่อ JAS แน่นอน เพราะกองทุนจะออกไม่ได้จนกว่าศาลจะตัดสิน กล่าวคือ กรณีหากคุ้มครองและ JAS ไม่สามารถรับรู้รายได้ที่เกิดจากการทำธุรกิจ Broadband ได้เลย โดยรายได้ JAS กว่า 80% มาจากธุรกิจนี้ กรณีนี้เชื่อว่าจะกระทบ JAS อย่างมากถึงมากที่สุด ขณะที่คู่แข่งอย่าง TRUE จะได้ประโยชน์ หากเป็นกรณีนี้ไม่ควรซื้อทุกระดับราคา
กรณีหากคุ้มครองและ JAS รับรู้รายได้ที่เกิดจากการทำธุรกิจ Broadband เพียง 30% ส่วนที่ไม่เป็นกรณีพิพาท ทำให้กำไรปี 2558 จากที่คาดไว้ 4,155 ล้านบาท จะเหลือเพียง 1,247 ล้านบาท กรณีนี้ราคาที่ควรกลับเข้าซื้อคือระดับ 1.80 บาท และคุ้มครองชั่วคราวแต่ดำเนินธุรกิจต่อได้ แต่ห้ามจำหน่ายหรือลงมติอื่นที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ TTTBB ผลกระทบ คือ JAS จะออก IFF ไม่ได้ไปจนกว่าผลแห่งคำพิพากษาจะถึงที่สุด ไม่กระทบพื้นฐาน แต่กระทบจิตวิทยาช่วงสั้น
อย่างไรก็ดีระยะยาวหากศาลเห็นว่า อคิวเม้น ต้องขายหุ้นออก 70% จะทำให้ JAS ถือราว 29-30% ผลประกอบการจะได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน กรณีนี้ราคาที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับความเสี่ยงคืนที่ระดับ P/E 10 เท่า อยู่ที่ 5.90 บาท
2)หากศาลไม่คุ้มครองชั่วคราว JAS ยังเดินหน้าออก IFF ได้ และทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ คาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวได้แรงเช่นกันและราคาควรกลับไปสู่ระดับ 8 บาทอีกครั้ง
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่า คำตัดสินกรณี TT&T เป็นไปได้ 3 ทางคือ 1)กรณีศาลตัดสินให้ JAS แพ้ และต้องขายหุ้น TTTBB 77 ล้านหุ้นคืนให้ผู้ถือหุ้น TT&T (คำนวณจาก 70% ของทุนจดทะเบียน 110 ล้านหุ้นก่อนการเพิ่มทุนปี 2009) กรณีนี้คาดว่ากำไร JAS ปี 2558 จะลดลง 9% เหลือ 3,800 ล้านบาท ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6.80 บาท
2)กรณีศาลตัดสินให้ JAS แพ้ และต้องขายหุ้น TTTBB 875 ล้านหุ้น คืนให้กับผู้ถือหุ้น TT&T (คำนวณจาก 70% ของทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1,250 ล้านหุ้น) กรณีนี้คาดกำไร JAS ปี 2558 จะลดลงถึง 75% เหลือประมาณ 1,000 ล้านบาท
3)กรณีดีสุดศาลตัดสินให้ JAS ชนะ เพราะการเพิ่มทุน TTTBB ถูกต้องตามกฎหมาย กรณีนี้ทำให้กำไร JAS ปี 2558 จะยังคงเป็น 4,160 ล้านบาท และราคาเป้าหมายจะอยู่ที่ 9.60 บาท
วันนี้ศาลนัดชี้ชะตาหุ้นJAS มีความเห็นว่ายังไงกันครับ หัวหรือก้อย
หุ้น JAS ลุ้นระทึก.! ศาลนัดฟังคำสั่งวันนี้กรณี TT&T ยื่นฟ้องศาลแพ่ง เพื่อร้องสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน TTTBB พร้อมร้องขอศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวทรัพย์สินทั้งหมดของ TTTBB เชื่อจะเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายหุ้น JAS โบรกเกอร์ระบุกหากศาลยกคำร้องราคาหุ้น JAS รีเทิร์นสู่ระดับ 8 บาทอีกครั้ง แต่หากศาลรับคำร้องและคุ้มครองชั่วคราวหุ้นหาแนวรับเจอแน่.!
รายงานข่าวเปิดเผยว่า วันนี้ (25 ส.ค.) ศาลแพ่ง มีนัดฟังคำสั่งกรณีบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด(มหาชน) หรือ TT&T ยื่นฟ้องร้องต่อศาลแพ่งให้บริษัท อคิวเม้น จำกัด (JAS ถือหุ้น 100%) ให้ขายหุ้น 70% ในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (TTTBB) ให้ผู้ถือหุ้น TT&T ตามบันทึกข้อตกลงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (MOU) ฉบับลงวันที่ 13 กันยายน 2549 และร้องศาลเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราวทรัพย์สินทั้งหมดของ TTTBB และวางหุ้น 70% ใน TTTBB ที่อคิวเม้นถือไว้ต่อศาลจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ประเด็นดังกล่าวถือเป็นการชี้ชะตาหุ้น JAS เนื่องจาก JAS ถือหุ้นใน“อคิวเม้น” 100% และ “อคิวเม้น” ถือหุ้นใน TTTBB 99.93%
โดยบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ระบุว่า ประเมินแนวทางที่เป็นไปได้ เกี่ยวกับคดีดังกล่าว คือ 1) หากศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราว เชื่อว่าเป็นประเด็นลบต่อ JAS แน่นอน เพราะกองทุนจะออกไม่ได้จนกว่าศาลจะตัดสิน กล่าวคือ กรณีหากคุ้มครองและ JAS ไม่สามารถรับรู้รายได้ที่เกิดจากการทำธุรกิจ Broadband ได้เลย โดยรายได้ JAS กว่า 80% มาจากธุรกิจนี้ กรณีนี้เชื่อว่าจะกระทบ JAS อย่างมากถึงมากที่สุด ขณะที่คู่แข่งอย่าง TRUE จะได้ประโยชน์ หากเป็นกรณีนี้ไม่ควรซื้อทุกระดับราคา
กรณีหากคุ้มครองและ JAS รับรู้รายได้ที่เกิดจากการทำธุรกิจ Broadband เพียง 30% ส่วนที่ไม่เป็นกรณีพิพาท ทำให้กำไรปี 2558 จากที่คาดไว้ 4,155 ล้านบาท จะเหลือเพียง 1,247 ล้านบาท กรณีนี้ราคาที่ควรกลับเข้าซื้อคือระดับ 1.80 บาท และคุ้มครองชั่วคราวแต่ดำเนินธุรกิจต่อได้ แต่ห้ามจำหน่ายหรือลงมติอื่นที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ TTTBB ผลกระทบ คือ JAS จะออก IFF ไม่ได้ไปจนกว่าผลแห่งคำพิพากษาจะถึงที่สุด ไม่กระทบพื้นฐาน แต่กระทบจิตวิทยาช่วงสั้น
อย่างไรก็ดีระยะยาวหากศาลเห็นว่า อคิวเม้น ต้องขายหุ้นออก 70% จะทำให้ JAS ถือราว 29-30% ผลประกอบการจะได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน กรณีนี้ราคาที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับความเสี่ยงคืนที่ระดับ P/E 10 เท่า อยู่ที่ 5.90 บาท
2)หากศาลไม่คุ้มครองชั่วคราว JAS ยังเดินหน้าออก IFF ได้ และทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ คาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวได้แรงเช่นกันและราคาควรกลับไปสู่ระดับ 8 บาทอีกครั้ง
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่า คำตัดสินกรณี TT&T เป็นไปได้ 3 ทางคือ 1)กรณีศาลตัดสินให้ JAS แพ้ และต้องขายหุ้น TTTBB 77 ล้านหุ้นคืนให้ผู้ถือหุ้น TT&T (คำนวณจาก 70% ของทุนจดทะเบียน 110 ล้านหุ้นก่อนการเพิ่มทุนปี 2009) กรณีนี้คาดว่ากำไร JAS ปี 2558 จะลดลง 9% เหลือ 3,800 ล้านบาท ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6.80 บาท
2)กรณีศาลตัดสินให้ JAS แพ้ และต้องขายหุ้น TTTBB 875 ล้านหุ้น คืนให้กับผู้ถือหุ้น TT&T (คำนวณจาก 70% ของทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1,250 ล้านหุ้น) กรณีนี้คาดกำไร JAS ปี 2558 จะลดลงถึง 75% เหลือประมาณ 1,000 ล้านบาท
3)กรณีดีสุดศาลตัดสินให้ JAS ชนะ เพราะการเพิ่มทุน TTTBB ถูกต้องตามกฎหมาย กรณีนี้ทำให้กำไร JAS ปี 2558 จะยังคงเป็น 4,160 ล้านบาท และราคาเป้าหมายจะอยู่ที่ 9.60 บาท