มีใครโดนไล่ออกจากบ้าน ด้วยสาเหตุอะไรกันบ้าง?

กระทู้คำถาม
มีใครโดนพ่อแม่ไล่ออกจากบ้านด้วยสาเหตุอะไรกันบ้างคะ?
เราโดนไล่ออกจากบ้าน เพราะท้องก่อนแต่งค่ะ (แต่ไม่ได้ท้องในวัยเรียนนะคะ)
ที่บ้านจะให้เอาเด็กออก จะได้จบๆไป แต่เราไม่ยอมค่ะ อยากเก็บเค้าไว้
ตอนนี้เลยต้องออกมาใช้ชีวิตเอง ก็อดมื้อกินมื้อ อยู่รอดได้ไปวันๆ
แต่ก็คิดว่าทำถูกแล้วที่เก็บลูกไว้ค่ะ เป็นความสุขที่สุดของเราเลย
เราพยายามติดต่อที่บ้านแล้ว แต่พ่อแม่ไม่ยอมรับเลยค่ะ ไม่คุยไม่อยากเจอหน้าเรากะลูกทั้งนั้น
แต่เราจะพยายามต่อไป เพื่อลูกของเราด้วยค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
เคยโดนไล่ พ่อไล่ค่ะ เพราะ... ไม่ได้ล้างจาน 5555     เรื่องจริงค่ะสาบานได้
มันเป็นเพราะอารมณ์ของคนเราจริงๆเเหละค่ะ บางเรื่องก็มีเหตุมีผล บางเรื่องมันก็ไม่สมควรเอาซะเลย แต่สุดท้ายมันก็เกิดจากอารมณ์ล้วนๆแหละค่ะ

แต่อย่างของเจ้าของกระทู้ เห็นด้วยค่ะที่ออกมา ถึงเค้าไม่ไล่แต่ถ้าเค้าจะให้เอาออก มันก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเลย
การที่จะเอาชีวิตคนๆนึงมาแลกกับความเป็นอยู่หรือหน้าตาทางสังคมของพ่อแม่ อันนี้มันก็คิดยากนะคะ
ถ้าเราทำตามพ่อแม่ขอ ความหมายมันก็คือเราทำลายชีวิตของคนๆนึงที่เค้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ถ้าเราไม่ทำตามพ่อแม่ขอ ความหมายมันก็คือตรงกันข้าม คือเราทำลายความรู้สึกของพ่อแม่ เป็นการทำลายน้ำใจของบุพการีอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาต้องทุกข์หรือลำบากใจ
แต่ถึงยังไง ปาณาติปาตาเป็นศีลข้อแรกที่พระพุทธศาสนาให้ความสำคัญและถือว่าบาปกรรมมากค่ะสำหรับการฆ่ามนุษย์ สัตว์เดรัจฉานที่เราฆ่าๆกันอยู่ก็ถือว่าบาปแล้ว ฆ่าคนก็ยิ่งหนักกว่า เพราะกว่าจะเกิดมาเป็นคนได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ต้องอาศัยบุญกรรมที่สะสมมา กว่าจะชดใช้หนีกรรมได้หมด  แล้วนี่เป็นคนที่เกิดมาโดยเปรียบเหมือนผ้าขาวเเท้ๆเลย ไม่มีบาป ไม่มีบุญอะไร จึงไม่เเปลกค่ะที่คนทำเเท้งเวรกรรมจะหนักหนาพอๆกับฆ่าพ่อฆ่าแม่ ต่างกันแค่เเรงอาฆาต เพราะพ่อแม่ย่อมอภัยให้ลูกได้ถึงเเม้ลูกจะชั่วจะเลวถึงขึ้นฆ่าพ่อฆ่าแม่ แต่เด็กนี่สิคะ เค้ายังไม่ทันได้เกิดมาลืมตาดูโลกเลย คนก็ไปทำลายชีวิตเค้าแล้ว คนทำเเท้งเลยต้องเจอเเรงกรรมเเรงอาฆาตของเด็ก ทำอะไรไม่เจริญ ทำอะไรไม่ขึ้นเลยสักคนค่ะ บางคนก็เจอเหมือนว่าเค้าเเกล้งให้ชีวิตเราขึ้นไปจุดสูงสุดของตัวเองเเล้วพอมาวันนึงก็ดับวูบไม่เหลืออะไร ซ้ำยังติดลบ

เพราะฉะนั้นคิดดีแล้วค่ะ จริงอยู่ที่เราทำลายความรู้สึกพ่อแม่ มันเป็นบาป แต่หลายครั้งเราก็ทำลายความรู้สึกเขาได้เหมือนกันทั้งๆที่เราก็ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ มันก็แค่สังคมคนรอบข้างที่เค้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับลูกเรา ชีวิตเรา หรือพ่อแม่เรา เป็นได้แค่เสียงนกเสียงกาเท่านั้นแหละค่ะ พ่อแม่คุณก็เเค่ยึดติดอยู่แค่ตรงนี้ ว่าจะมีแต่คนมาติฉินนินทา จนลืมดูว่าคนเหล่านั้นก็ไม่ได้มีความหมายหรือมีพระคุณอะไรกับครอบครัวของคุณสักนิดเลย ยามเรายากดีมีจนเค้าก็ไม่ได้มาช่วยเหลืออะไรคุณได้มากหรอกค่ะ ถ้าพ่อแม่คุณปลดทุกข์จากสิ่งเหล่านี้พวกเขาก็ไม่เป็นทุกข์อะไรกับคุณมากมายหรอกค่ะ
ลองพูดคุยให้พ่อกับเเม่เข้าใจอย่างนี้นะคะ ให้เขาลองหันมามองความรู้สึกและความเห็นของคุณสักนิด ให้เขาสงสารแก่หลานตัวน้อยๆของเขา
อย่าให้เขาต้องทำลายทั้งความสัมพันธ์แม่ลูกของคุณกับพ่อแม่ และความสัมพันธ์แม่ลูกของคุณกับลูกคุณเพียงเพราะกลัวคำพูดดูถูกเหยียดหยามของใครก็ไม่รู้ที่ไม่ได้มีส่วนสำคัญในชีวิตของเรา ไม่คุ้มหรอกค่ะสำหรับการทำลายชีวิตๆหนึ่ง

ส่วนตัวเเล้วเป็นเหมือนคุณเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ว่า เราออกจากบ้านมาก่อนแล้วไปอยู่กับเเฟน แล้วท้อง  อยู่ด้วยกันจนท้อง 4 เดือน จะเข้าเดือนที่5เลยหนีกลับไปบ้านเพราะทนแฟนไม่ไหว และอาหารการกินไม่ค่อยจะได้กินอะไร เป็นห่วงลูกในท้อง
พอกลับมาบ้าน ก็ต้องบอกความจริงเค้า ตอนแรกนึกว่าเค้าจะแค่เสียใจและผิดหวัง แต่ไปๆมาๆเค้ากลับพูดกับเราว่าทำไมไม่มาหาตั้งแต่เเรก จะได้ช่วยเหลือได้เร็วกว่านี้ เลยสงสัยว่าจะช่วยยังไง เค้าก็ให้คำตอบกับเราว่าจะได้ให้ไปเอาออก เด็กยังเป็นเลือดอยู่ ยอมรับว่าเสียใจและผิดหวังกับความคิดพ่อกับแม่มาก แต่ยังดีที่เค้าไม่บังคับอะไร ให้เราเลือกตัดสินใจเอาและขอคุยกับแฟน ทางแฟนขอไม่เอาออกและยินดีจะรับผิดชอบ
ตอนแรกๆพ่อกับแม่ก็ทำเหมือนไม่อยากรับรู้อะไรอีกเรื่องเราท้อง บ่นโน่นนี่นั่น เราก็รู้ว่าเราผิด ไม่เถียงอะไรไม่เคืองอะไรเลย ได้แต่ก้มหน้ายอมรับทุกอ่ยาง  จนตอนนี้ 8 เดือนแล้วค่ะ  หน้ามือเป็นหลังมือเลย แม่ถามไถ่ตลอด แนะนำโน่นนี่  บอกให้กินข้าวเยอะๆ ให้ทำอย่างโน่นอย่างนี้ ซื้อของกินมาให้  สุดท้ายก็ไม่มีใครรักเราเท่าพ่อกับแม่แล้วหละคะ ยังไงลูกก็คือลูก พ่อแม่ก็คือพ่อแม่ เป็นอื่นไปไม่ได้หรอกค่ะ ขอแค่ให้ใช้เวลาปรับความเข้าใจกันสักหน่อย อาจจะใช้เวลานาน แต่สุดท้ายมันก็จะดีเหมือนเดิม

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่