สวย สังหาร ทหารหญิงรัสเซีย (ตอนที่ 2)


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Lyudmila Pavlichenko - Soviet WWII sniper hero



Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko เกิดที่เมือง Belaya Tserkov
ในรัฐ Ukrain (ช่วงนั้นยังรวมอยู่กับสหภาพโซเวียตรัสเซีย) วันที่ 12 กรกฏาคม 1916
ต่อมาครอบครัวเธอย้ายไปที่เมือง Kiev ตอนที่เธออายุได้ 14 ปี
ที่นั้นเธอเป็นสมาชิกสโมสรนักยิงปืนและเริ่มพัฒนาฝีมือเป็นนักแม่นปืน
ขณะเดียวกันทำงานเป็นพนักงานประจำโรงงานสรรพาวุธที่ Kiev Arsenal factor

ในเดือนกรกฏาคม 1941 Pavlichenko อายุได้ 24 ปี
ขณะที่กำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาประวัติศาสตร์ที่ Kiev University
เมื่อกองทัพนาซีเยอรมันนีบุกโจมตีโซเวียตรัสเซีย
เธอตัดสินใจเป็นอาสาสมัครชุดแรกที่ขอเป็นทหารราบ
แล้วต่อมาได้ย้ายไปประจำกองทัพ Red Army’s 25th Rifle Division
เธอเป็นหนึ่งในทหารหญิงซุ่มยิงจำนวน 2,000 ราย
ที่ได้รับการคัดเลือกจากกองทัพโซเวียตรัสเซีย
ผลงานของทหารหญิงซุ่มยิงที่ได้คัดเลือกจำนวนนี้คือ
ยิงฝ่ายศัตรูรวมกันทุกคนแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 ศพ(เฉลี่ย 5 ศพ/ราย)
แต่ทหารหญิงซุ่มยิงที่รอดตายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 มีน้อยกว่า 500 คน



Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko



เธอยิงนาซีเยอรมันนี 2 ศพแรกใกล้กับเมือง Belyayevk
โดยใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ Tokarev SVT-40 พร้อมกล้องเล็ง 3.5X

1941 Tula SVT-40 in Original Sniper Configuration


ในการรบครั้งหนึ่ง Pavlichenko ได้ทำหน้าที่แทนผู้พันกองพันที่ถูกฆ่าตาย
ระหว่างทำการรบเธอได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ยอมยุติการรบแต่อย่างใด

Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko


ร้อยโท Pavlichenko เข้าร่วมสงครามใน Moldavia กับ Odessa
เพียง 2 เดือนครึ่งใกล้กับ Odessa เธอยิงศัตรูได้  187 ศพ
และเมื่อชาวโรมาเนียฝ่ายรัสเซียควบคุมเมือง Odessa ได้แล้ว
หน่วยรบของเธอถูกส่งไปที่ Sevastopol คาบสมุทร Crimean Peninsula
ที่นั่นเธอต้องทำการสู้รบนานถึง 8 เดือน
เธอเคยถูกสื่อมวลชนสหรัฐอเมริกาในตอนไปที่นั่นสัมภาษณ์ว่า  
" ทหารผู้หญิงมีการแต่งหน้าทาแป้งกันบ้างหรือไม่  ในการรบแนวหน้าที่นั่น "
เธอตอบว่า  " ไม่มีเวลาคิดถึงจมูกที่เปื้อนหรอก ลองคุณอยู่ในสนามรบ "
ในเดือนพฤษภาคม ปี 1942 ร้อยโท Pavlichenko
ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกองทัพบกทักษิณ
Southern Army Council ว่ายิงศัตรูไปแล้ว 257 ศพ

จำนวนศพทหารนาซีเยอรมันที่เธอยิงได้
และมีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
ในการรบช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คือ
309 ศพ ในจำนวนนี้มีทหารซุ่มยิงเยอรมันนีถึง 36 ศพ
นอกจากนี้เธอยังทำหน้าที่เป็นครูฝึกทหารหญิง
และสอนทหารหญิงซุ่มยิงจนกระทั่งสงครามยุติ

Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko


Pavlichenko ชอบไปทำการซุ่มยิงหรือล่าเหยื่อตามลำพัง
บางครั้งก็ไปร่วมกับบัดดี้ Leonid Kutsenko  ที่อยู่กองพันเดียวกับเธอ
ทุกวันก่อนเช้าตรู่เธอจะไปซุ่มเงียบหลายชั่วโมงหรือตลอดทั้งวัน
เพื่อรอซุ่มยิงฝ่ายศัตรูและบ่อยครั้งที่เธอต้องดวลปืนกับทหารซุ่มยิงเยอรมันนี

Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko


มีครั้งหนึ่งสองคู่หูถูกยิงด้วยปืนครกของฝ่ายนาซีเยอรมันนี
ทำให้  Leonid บัดดี้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัส
แม้ว่า  Pavlichenko จะพยายามพาเขาออกจากสนามรบ
แต่ Leonid ทนพิษบาดแผลไม่ไหวตายในที่สุด

Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko


ตั้งแต่นั้นมา เธอเริ่มทำการรบอย่างกล้าหาญและบ้าบิ่น
เพื่อล้างแค้นศัตรูให้กับบัดดี้(เพื่อนสนิท)ของเธอที่ตายไป

Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko


ในเดือนมิถุนายน ปี 1942  Pavlichenko
ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนครก
แต่เพราะตำแหน่งที่สูงขึ้นและเป็นที่รู้จักกันมากแล้ว
(ทหารซุ่มยิงเยอรมันนีพยายามจะล้างแค้นเอากลับคืนให้ได้)
เธอจึงถูกดึงตัวออกจากสนามรบไปไม่ถึงเดือน
หลังจากฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ
ซึ่งเป็นบาดเจ็บจากการรบในครั้งที่ 4

Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko


Pavlichenko เดินทางไปเยี่ยมเยือนแคนนาดากับสหรัฐอเมริกา ในปี 1942
(ก่อนการยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดี วัน D-Day เพียงไม่กึ่ปี)
เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย  จึงต้องใช้ล่ามในการพบปะเจรจา
ในช่วงที่เธออยู่ที่นั่นเธอจะแต่งเครื่องแบบทหารตลอดเวลา
สื่อมวลชนอเมริกาประเภทชั้นเลวที่เที่ยวเขียนข่าวแขวะเธอว่า
อ้วน กินจุ  กินอาหารเช้าแบบอเมริกันถึง 5 ชุดในตอนเช้า
ไม่แต่งหน้า ทาปาก หรือเสริมสวยแต่อย่างใด
แต่งเครื่องแบบทหารหญิงรุ่มร่ามเพื่ออำพรางความอ้วน
แต่เธอให้สัมภาษณ์ว่า การแต่งเครื่องแบบทหาร
เป็นคำสั่ง/การให้เกียรติกับอดีตท่านผู้นำ Lenin

ส่วนสื่อมวลชนอเมริกาที่ชื่นชมเธอขนานนามเธอว่า  
ทหารหญิงซุ่มยิงที่เก่งที่สุดในโลกด้วยผลงาน 309 ศพ
ผู้บุกเบิกอาชีพทหารหญิง (ยุคนั้นอเมริกายังไม่มีทหารหญิง)
ผู้มีบทบาทยกระดับและสถานะภาพสตรีให้เท่าเทียมกับบุรุษ

หรือบางสื่อมวลชนเปรียบเทียบเธอกับ
ฌานดาร์ค  Jeanne d' Arc (Joan of Arc)
ว่าไม่เห็นเธอจะแต่งตัวอย่างไร
แต่กอบกู้เอกราชให้กับคนฝรั่งเศสได้อย่างน่าชื่นชม
(แต่สุดท้าย ฌองดาร์ค ถูกเผาทั้งเป็น
จากบาทหลวงนิกายโรมันคาทอลิค
ที่สมคบคิดกับฝ่ายศัตรูและฝ่ายที่ไม่พอใจเธอ
ด้วยข้อกล่าวหาว่าเธอเป็นแม่มด
จึงโน้มน้าวผู้คนเข้าร่วมในการสู้รบได้
หลังจากสงครามครั้งสุดท้ายที่เธอพ่ายแพ้ฝ่ายศัตรู)

ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลสหภาพโซเวียตรัสเซีย
เธอเป็นประชาชน/พลเรือนคนแรกของรัสเซีย
ที่ได้รับการต้อนรับจากประธานาธิบดี
Franklin Roosevelt ที่ทำเนียบขาว White House
ต่อมา Pavlichenko ยังได้รับการเชิญจาก Eleanor Roosevelt
(ต่อมาทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน) ให้ทัศนาจรในอเมริกา
เพราะประสบการณ์ความสามารถพูดเร้าใจ/การสังหารศัตรูของเธอ

ในการที่เธอเดินทางไปสหรัฐอเมริกาครั้งนั้น
เพื่อปฏิบัติตามภาระกิจสำคัญที่ได้รับมอบหมายจาก
เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ Joseph Stalin
ผู้นำสูงสุดของสหภาพโซเวียตรัสเซีย
ในการเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมรบในยุโรป
เพื่อลดแรงกดดันภัยคุกคามของนาซีเยอรมันนีในรัสเซีย
(จะทำให้นาซีเยอรมันนีต้องถอนทัพมายันด้านตะวันตกแทน)

ผู้พิพากษา Robert Jackson, Lyudmila Pavlichenko
กับ Eleanor Roosevelt ในปี 1942
Photo: Library of Congress


L. Pavlichenko กับ Maisky ภริยาของ Agnia Alexandrovna
ที่สถานทูตโซเวียตในสหราชอาณาจักร


Pavlichenko เคยปรากฎตัวที่การประชุมนานาชาติของนักเรียน
International Student Assembly ที่จัดขึ้นที่ Washington, D.C.
ต่อมาเข้าร่วมการประชุม  CIO (Congress of Industrial Organizations)
และปราศรัยที่มหานครนิวยอร์คตามคำเชิญของผู้ว่าการรัฐ

L. Pavlichenko กับ Ms. Davis
(ภริยาของทูตสหรัฐอเมริกาในสหภาพโซเวียตรัสเซีย)


L. Pavlichenko กับ Joseph Davis


ในการประชุมครั้งหนึ่งที่ Chicago การปราศรัยของ Pavlichenko เริ่มต้นว่า
“ ท่านสุภาพบุรุษ  ตอนที่ดิฉันอายุ 25 ปี  ดิฉันได้ยิงศัตรูฟาสซิสไปแล้ว 309 ศพ
ท่านสุภาพบุรุษ  ดิฉันคงคาดคิดว่า  พวกท่านยังคงต้องยิงศัตรูไล่ตามหลังฉันอีกนาน "
ผู้ฟังต่างปรบมือด้วยความชอบใจและตอบรับการปราศรัยของเธอเป็นอย่างดีมาก

ที่สหรัฐอเมริกาเธอได้รับปืนพกออโตเมติก Colt
ส่วนที่แคนาดาได้รับปืนยาวไรเฟิลติดกล้องเล็ง Winchester
ตอนนี้ปืนทั้ง 2 กระบอกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์
Central Armed Forces Museum ใน Moscow
ในช่วงที่เยี่ยมเยือนแคนาดาเธอร่วมเดินทางไปกับ
Vladimir Pchelintsev (คู่หู/บัดดี้ทหารซุ่มยิงคนใหม่)
และ Nikolai Krasavchenko (กรรมาธิการเชื้อเพลิง Moscow)
พวกเธอได้รับการต้อนนับจากผู้คนนับหมื่นคน
ที่สถานีรถไฟ Toronto's Union Station

ในการไปเยือนสหราชอาณาจักร
ในวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 1942
ร้อยโท Pavlichenko ไปที่เมือง Coventry
ได้รับเงินบริจาคจากบรรดากรรมกรรวม 4,516 ปอนด์
เพื่อซื้อเครื่อง X-ray จำนวน 3 เครื่องสำหรับกองทัพแดง
ทั้งยังไปเยี่ยมชมซากปรักหักพังของ Coventry Cathedral
โรงงาน Alfred Herbert และโรงงานรถยนต์ Standard Car Factory
และบรรดากรรมกรที่โรงงานเหล่านั้นต่างระดมทุนสมทบให้กับเธอ
รวมทั้งเธอยังได้ไปเยี่ยมเยือนโรงงานที่ Birmingham แห่งหนึ่งด้วย

Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko

Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko


หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงแล้ว
เธอกลับไปเรียนต่อที่ Kiev University จนจบปริญญาตรี
แล้วศึกษาต่อจนจบปริญญาโทประวัติศาสตร์ที่ Bohdan Khmelnytsky
โดยมีอาชีพเป็นนักประวัติศาสตร์  ตั้งแต่ปี 1945 ถึง 1953
เธอยังเป็นผู้ช่วยวิจัยกองทัพเรือ Chief HQ of the Soviet Navy
ต่อมาได้ร่วมงานในคณะกรรมการทหารผ่านศึกโซเวียต
Soviet Committee of the Veterans of War
เธอได้รับรางวัลเหรียญทองคำวีรสตรีของสหภาพโซเวียตรัสเซีย
Gold Star of the Hero of the Soviet Union
และมีการนำรูปถ่ายเธอมาเป็นสแตมป์สหภาพโซเวียตรัสเซียด้วย

Pavlichenko มตะ(ตาย) วันที่ 10 ตุลาคม 1974 ตอนอายุได้ 58 ปี

Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko

Stamps Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko


เรียบเรียง/ที่มา

http://goo.gl/VvbQVv
http://goo.gl/oEj3Z1
http://goo.gl/LrdmfN



http://ppantip.com/topic/32475255  สวยสังหาร ทหารหญิงรัสเซีย (ตอนที่ 1)

http://ppantip.com/topic/32577335  สวยสังหาร ทหารหญิงรัสเซีย (ตอนที่ 3)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่