คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
พากลับไปหาหมอเถอะครับ
ประวัติถ้าเคยได้ยามากินแล้วพฤติกรรมดีขึ้น
ต้องสงสัยว่าน้องจะมีความผิดปกติจริงนะครับ
มีโอกาสจะเป็นโรคในกลุ่ม ADHD (Attension deficit hyperactive disorder)
ลักษณะคือซนมาก
ขาดสมาธิในการเรียน เรียนไม่รู้เรื่องเพราะไม่มีสมาธิในการสนใจสิ่งที่ครูสอน ทั้งที่สติปัญญาอาจจะปกติ
การทำงานที่ต้องใช้สมาธิจะทำไม่ได้นาน
ให้ทำการบ้านทำได้แป๊บเดียวก็หันไปทำอย่างอื่นหรือไปเล่นอย่างอื่นแล้ว(แต่ดูทีวีได้นานนะ เพราะทีวีเนื้อหามันเปลี่ยนเรื่อยๆ)
พบอาการหุนหันพลันแล่นและก้าวร้าวร่วมด้วยบ่อย
ทำข้าวของเสียหายบ่อย เล่นของเล่นพังอยู่เรื่อยๆ
ผู้ปกครองที่ไม่เข้าใจว่าเด็กเป็นโรคก็จะโทษว่าทำไมเด็กพวกนี้เป็นเด็กเกเรและทำโทษเด็กต่อว่าดุเด็กบ่อยๆ
จะทำให้เด็กยิ่งมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น
แต่ที่จริงน้องน่าสงสารมากกว่า
น้องป่วยแต่ไม่ได้รับการรักษา
กรณีนี้จริงๆแล้วน้องได้รับการรักษาแล้ว แต่มันอาจมีผลข้างเคียงของยาบ้าง
ซึ่งไม่ได้อันตรายอะไร
การหยุดยาเองจะด้วยความหวังดีสงสารอะไรก็แล้วแต่
อาจเป็นการทำร้ายน้องโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์นะครับ
การรักษาด้วยยาจะช่วยให้สงบได้มากขึ้นชัดเจน
ร่วมกับการปรับพฤติกรรม
การใช้ยามีส่วนช่วยมาก
บางครั้งจะหวังการปรับพฤติกรรมอย่างเดียวโดยไม่ใช้ยาช่วยก็ลำบากครับ
ปล.อย่าเชื่อผมมาก ผมเดา
แต่ครั้งนี้จะเชื่อหน่อยก็ดีครับ สงสารเด็ก
ประวัติถ้าเคยได้ยามากินแล้วพฤติกรรมดีขึ้น
ต้องสงสัยว่าน้องจะมีความผิดปกติจริงนะครับ
มีโอกาสจะเป็นโรคในกลุ่ม ADHD (Attension deficit hyperactive disorder)
ลักษณะคือซนมาก
ขาดสมาธิในการเรียน เรียนไม่รู้เรื่องเพราะไม่มีสมาธิในการสนใจสิ่งที่ครูสอน ทั้งที่สติปัญญาอาจจะปกติ
การทำงานที่ต้องใช้สมาธิจะทำไม่ได้นาน
ให้ทำการบ้านทำได้แป๊บเดียวก็หันไปทำอย่างอื่นหรือไปเล่นอย่างอื่นแล้ว(แต่ดูทีวีได้นานนะ เพราะทีวีเนื้อหามันเปลี่ยนเรื่อยๆ)
พบอาการหุนหันพลันแล่นและก้าวร้าวร่วมด้วยบ่อย
ทำข้าวของเสียหายบ่อย เล่นของเล่นพังอยู่เรื่อยๆ
ผู้ปกครองที่ไม่เข้าใจว่าเด็กเป็นโรคก็จะโทษว่าทำไมเด็กพวกนี้เป็นเด็กเกเรและทำโทษเด็กต่อว่าดุเด็กบ่อยๆ
จะทำให้เด็กยิ่งมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น
แต่ที่จริงน้องน่าสงสารมากกว่า
น้องป่วยแต่ไม่ได้รับการรักษา
กรณีนี้จริงๆแล้วน้องได้รับการรักษาแล้ว แต่มันอาจมีผลข้างเคียงของยาบ้าง
ซึ่งไม่ได้อันตรายอะไร
การหยุดยาเองจะด้วยความหวังดีสงสารอะไรก็แล้วแต่
อาจเป็นการทำร้ายน้องโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์นะครับ
การรักษาด้วยยาจะช่วยให้สงบได้มากขึ้นชัดเจน
ร่วมกับการปรับพฤติกรรม
การใช้ยามีส่วนช่วยมาก
บางครั้งจะหวังการปรับพฤติกรรมอย่างเดียวโดยไม่ใช้ยาช่วยก็ลำบากครับ
ปล.อย่าเชื่อผมมาก ผมเดา
แต่ครั้งนี้จะเชื่อหน่อยก็ดีครับ สงสารเด็ก
แสดงความคิดเห็น
น้องชายเป็นเด็กโมโหร้าย รับมือไม่ไหวแล้วค่ะ
จำได้ว่าตอนแม่ท้องน้องชายคนเล็ก แม่ทะเลาะกับพ่อแทบทุกวัน บางวันท้องโตยังออกไปเล่นไพ่เพื่อผ่อนคลาย และหนีจากพ่อ แต่ตอนนี้เลิกเล่นแล้ว
รู้สึกว่าแม่จะเป็นคนหงุดหงิดง่ายอยู่เหมือนกันเวลาอยู่กับพ่อ และโมโหบ่อยๆ
ปัจจุบันยังมีอารมณ์หงุดหงิด ทะเลาะกับพ่ออยู่บ้างเป็นธรรมดาผัวๆเมียๆ แต่ไม่รุนแรงเหมือนแต่ก่อน
เข้าเรื่องเลยนะคะ น้องชายคนนี้ถูกเลี้ยงโดยย่ามาตั้งแต่ 1-2ปี เพราะแม่ไปหางานทำที่อื่น แล้วหลังจากนั้นพ่อ และน้องสาวคนกลางก็เลี้ยงมาเรื่อยๆ
ตามใจบ้าง เพราะเป็นลูกชายคนเล็ก ตามประสาคนเป็นพ่อ และพี่สาวก็ต้องโอ๋เป็นธรรมดา แต่ไม่โอ๋มาก ตีบ้าง ดุบ้างถ้าไม่ไหวจริงๆ
สาเหตุที่เราไม่ได้อยู่เลี้ยงน้องด้วย คือมาอยู่หอเรียนมหาลัยแล้วค่ะ ช่วงนั้นกิจกรรมเยอะ กลับบ้านบ้างครั้ง พอได้เห็นว่าน้องชายตัวเองเป็นยัง นิสัยใจคอ และวิธีรับมือยังไง ตอนนั้นยังคิดว่าน้องเป็นเด็กผู้ชายที่ซนเป็นธรรมดาตามประสาวัน เลยไม่ได้สนใจอะไรมากมาย
ปัจจุบันอาการเริ่มหนักขึ้นมากเลยค่ะ เป็นคนอารมณ์รุนแรง พูดขัดใจนิดหน่อยคือฟึดฟัดไปใหญ่ ถ้าโมโหที่พ่อ พี่ไม่ตามใจหรือทำให้โกรธมักจะบอกว่าจะขู่ฆ่าบ้าง จะไม่ยอมแพ้บ้าง จะเตะ ตีเพื่อให้ยอมเขาให้ได้ พูดแบบนี้กับทุกคนจริงๆ บางครั้งก็ไม่ใช่แค่พูดนะคะ ลงไม้ลงมือกับพ่อ และพี่จริงๆ ถ้าเป็นพ่อก็พอห้ามได้อยู่ค่ะ แต่พี่บ้างครั้งห้ามไม่ได้ก็ต้องตี วิธีห้ามของพ่อคือ พูดให้เขารู้สึกว่ายอมตามใจเขา หรือทำเสียงแข็งใส่ให้หยุด
ไม่ได้ผลพ่อก็ตีเหมือนเดิมถึงขั้นตบหัวบ้าง เพราะพ่อก็ขึ้นชื่อว่าโมโหร้ายเหมือนกัน เรื่องใจร้อนเป็นเกือบทั้งบ้านรวมเราแล้ว
พูดด้วยเหตูผลให้ฟัง เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แล้วแต่อารมณ์และทรงผมจริงๆ ฮือออออ T^T ไปโรงเรียนก็ไปตีกับเพื่อนอยู่บ่อยๆ ล่าสุดไปตีกับรุ่นพี่ป.6มา(น้องชายป.2) หน้ามีแผลกลับมาบ้าน แต่ก่อนพ่อเคยพาน้องไปหาจิตแพทย์ หมอให้ยาอะไรสักอย่างมาให้กิน ที่ทำให้กินข้าวได้น้อย
ไม่มีแรงไปตีกับเพื่อน ว่านอนสอนง่ายขึ้นมาทันที เพราะไม่มีแรง จากที่เป็นเด็กที่มีเนื้อมีหนัง อวบๆหน่อย
ต้องกลายเป็นเด็กผอมๆ ไม่มีแรง พ่อแม่เห็นก็สงสาร เราก็สงสาร เลยให้น้องเลิกกินยา สักพักก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม อ้วนขึ้นกว่าเดิม แรงเยอะขึ้น จนพี่ตัวผอมๆจะสู้แรงน้องไม่ได้แล้ว
นิสัยน้องชายจะเป็นคนดื้อค่ะ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ถ้าไม่ให้เขาทำ ก็จะยิ่งทำใส่ให้เห้นต่อหน้า ให้เราโมโห
ติดเกมส์ เพราะพ่อและพี่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล เลยให้เล่นแต่เกมส์ (ครอบครัวรังแกฉันสินะ) เลยกลายเป็นเด็กใจร้อย
ทุกวันนี้จะติดเกมส์มือถือแทน เลยมีมือถือเครื่องถูกๆ ไว้ให้เล่นเกมส์อย่างเดียว เพื่อที่จะไม่ให้สร้างปัญหา บางครั้งจะมาแย้งมือถือเราไปเล่นเกมส์เพราะเครื่องใหญ่กว่า ให้เล่นบ้างไม่ให้เล่นบ้าง ถ้าไม่ให้เล่น ถึงขึ้นจะมาตีเรา โมโหใส่เรา จะทำร้ายเราให้ได้ พอโดนเราตีเพื่อที่จะให้หลาบจำ แต่โดนแม่ด่าคืน ตีไปก็ตายเปล่าๆ
ไม่อยากให้ตีน้อง เพราะน้องยังเด็ก (แก่กว่าผิเสมอ) ที่จริงเราไม่อยากตีน้องหรอก
ถ้าตีเราก็เจ็บเหมือนกัน หัวอกคนเป็นพี่อ่ะนะ รักน้องเหมือนกันจ้ะ
/// เพิ่มเติมหน่อย ว่าน้องไปโรงเรียนก็ไม่ยอมเรียนหนังสือค่ะ การบ้านไม่เคยมี จนครูก็เอือม รับมือไม่ไหวเหมือนกัน
**** ตอนนี้ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ ทำไงดีคะ กลัวน้องเป็นแบบนี้ไปจนโต
ที่จริงสงสารน้องอยู่ ที่ไม่เป็นคนอารมณ์ปรกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ