ระหว่างน้ำมันปลา กับ อาหารเสริมจากใบแปะก้วย อันไหนดีกว่ากันครับ

ตอนนี้ผมอายุ25 ช่วงนี้ผมเรียนค่อนข้างเยอะ และ ทำงานที่ต้องใช้ความจำ และความคิด ค่อนข้างมาก
ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ค่อนข้างขี้ลืม มีเพื่อนหลายๆคนแนะนำมาว่าให้ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับ น้ำมันปลา หรือใบแปะก้วย มาลองทานดู
รบกวนแนะนำหน่อยใครว่าผมควรจะทานอะไรดี
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ใบแปะก๊วย (Ginkgo biloba) เป็นสมุนไพรที่มีมาแต่โบราณ เพราะถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 270 ล้านปีก่อน ถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ครั้งแรก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1436 ในสมัยราชวงศ์หมิง ประเทศจีน ปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ทั้งในเอเชีย ยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา เพราะเชื่อกันว่าเป็นยาอายุวัฒนะ แปะก๊วยเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีใบเดี่ยวลักษณะคล้ายพัดซึ่งเป็นแหล่งของสารออกฤทธิ์ทางยา สารสกัดจากใบแป๊ะก๊วยมีสารสำคัญ คือ จิงโกไลด์ (Ginkgolide) และบิโลบาไลด์ (Bilobalide)

ประโยชน์ของใบแปะก๊วย (Ginkgo biloba)

1. มีการวิจัยทางคลินิก พบว่า สารสกัดจากใบแปะก๊วย นอกจากจะมีไบโอฟลาโวนอยด์แล้ว ยังจะมีสารไบโลบาไลด์ (Bilobalides) และกิงโกไลด์ (Ginkgolides) ซึ่งเชื่อกันว่า มีผลต่อความจำ และบำบัดอาการสมองเสื่อม เพราะสารทั้งสองตัวนี้ จะไปเพิ่มการหมุนเวียนโลหิตที่สมอง ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น จึงช่วยเรื่องความจำได้ดี โดยเฉพาะในผู้สูงอายุอาจจะสามารถป้องกันโรคความจำเสื่อม (โรคอัลไซเมอร์ Alzheimer disease) สมองฝ่อ อาการขี้หลงขี้ลืม วิงเวียนหน้ามืด โรคซึมเศร้าได้ด้วย

2. สารสกัดจากใบแปะก๊วย มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในบริเวณตา จึงมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดเบาหวานขึ้นตา

3. ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดที่สมองและแขน ขา จึงช่วยลดอาการชาปลายมือ ปลายเท้า
4. ลดการวิงเวียน หูอื้อ อันเนื่องมาจากปัญหาไหลเวียนของเลือด ยับยั้งการเกาะตัวของเกร็ดเลือด ลดการอุดตันของหลอดเลือด

ปัจจุบันหลายประเทศได้ยอมรับถึงสรรพคุณของใบแปะก๊วยในการรักษาโรคสมองเสื่อม โดยการนำสารสกัดจากใบแปะก๊วยมารวมกับสารอื่น ๆ ช่วยให้การดูดซับที่ผนังลำไส้เล็กดีขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถนำเอาสารสกัดจากใบแปะก๊วยนี้มาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำสารสกัดจากใบแปะก๊วยมาทำเป็นอาหารเสริม เพื่อบำรุงสมอง และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น

น้ำมันปลา Fish Oil คือส่วนที่สกัดมาจากจากส่วนของเนื้อ หนัง หัว หาง ของปลาโดยเฉพาะปลาในเขตหนาว ซึ่งในน้ำปลาจะมีกรดไขมันอยู่หลายชนิด

น้ำมันปลาประกอบด้วยประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 และกรดไขมันโอเมก้า-6 สำหรับกรดไขมันโอเมก้า-3 นั้นจะแบ่งออกเป็น EPA และ DHA เป็นหลักซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก

ประโยชน์ของน้ำมันปลา
1. ช่วยบำรุงสุขภาพผิว เส้นผม และเล็บให้มีสุขภาพดี
2. ช่วยบำรุงประสาทและสมอง ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้
3. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกรีเซอไรด์ที่เป็นอันตราย
4. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจวายเฉียบพลัน
5. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
6. ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดเส้นเลือดในสมองแตก
7. น้ํามันปลาช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว
8. ช่วยลดความถี่และความรุนแรงของโรคปวดศีรษะไมเกรน
9. ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ ปวด บวมของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
10. ช่วยป้องกันการเกิดภาวะสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ จบแล้วประโยชน์ของน้ำมันปลา

ลองเปรียบเทียบว่าควรกินอะไร แต่แนะนำน้ำมันปลาค่ะ อายุยังน้อยอยู่
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
น้ำมันปลาครอบคลุมแทบทุกส่วนของร่างกาย แปะก้วยเน้นบำรุงเฉพาะส่วน ตามหลักไขมันจากสัตว์มีสารอาหารเยอะกว่า แต่จะว่าดีกว่าเลยก็ไม่เชิง เพราะทำงานกันคนละอย่าง น้ำมันปลาหนักไปทางบำรุง แปะก้วยหนักไปทางรักษา ถ้าให้เลือกแค่อย่างเดียวผมกินน้ำมันปลาของเมก้าอยู่ แต่ผมไม่ได้กินแปะก้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่