เราเป็นคนยอมคน ไม่ว่าเพื่อนจะสั่งอะไร เราจะยอมทำไปหมดทุกอย่าง ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้อยากทำ เหตุการณ์ที่เคยเจอ เช่น
1.เพื่อนให้หิ้วกระเป๋าให้ ถ้ามือไม่ว่างแค่ฝากหิ้วชั่วคราว โอเค ไม่เป็นอะไรเรายินดี แต่คือเจ้าตัวเดินตัวปลิวสบายใจ เราสะพายกระเป๋าของตัวเองแล้วก็หิ้วกระเป๋าของเพื่อนให้ด้วยตลอดทั้งวัน (เดินเรียน ไม่ค่อยได้อยู่ห้องประจำ) เราไม่ได้ปฏิเสธอะไร เรายอมหิ้วกระเป๋าให้ แต่ตัวเราก็ไม่ได้อยากหิ้ว ถ้าพูดได้อยากจะบอกว่า "หิ้วเองได้ไหม แค่กระเป๋าเราใบเดียวก็หนักแล้ว"
2.ฝากหนังสือเรียนไว้ที่เรา (ครูไม่ให้เอาหนังสือไว้ใต้โต๊ะ นำหนังสือมาเรียนแล้วก็ต้องนำหนังสือกลับบ้านเสมอ) เพื่อนคนเดิมค่ะที่ให้เราหิ้วกระเป๋าให้ เขามักจะชอบฝากหนังสือไว้ที่เราแล้วไม่ยอมเอากลับ ให้เราเอากลับบ้านมาด้วย พอเรียนวันถัดไป เราก็ต้องเอาหนังสือไปให้ กลายเป็นว่าเราแบกหนังสือดับเบิ้ล เราก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ถ้าบอกได้อยากบอกว่า "เราหนัก"
3.ชอบเล่นรุนแรงกับเรา ตีแขนบ้าง ตีหลังบ้าง เราไม่พอใจเลยแต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร มีการยกขาขึ้นมาพาดบนตักเรา
เจ้าตัวถามมาว่า "รำคาญกูไหม? ชอบไหมที่กูเอาขาขึ้นพาดเนี่ย?"
เราตอบ "ไม่ชอบจ้ะ เอาขาลงจ้ะ "
เจ้าตัวตอบ "ฮ่าๆๆๆ กูจะทำ" หัวเราะ แล้วเขาก็เอาขาพาดต่อไป แบบนี้ทุกวันๆ
4.ให้เราทำการบ้านให้ เพื่อนจะบอกว่า ทำการบ้านอันนี้ให้กูหน่อย อันนั้น อันนู้นด้วย ตามตรงนะ การบ้านเราเองยังจะไปไม่รอดเลยค่ะ แต่ก็นะคะ เราก็รับมาทำให้ ถูกๆผิดๆ ทำให้ช้าหน่อย แต่ก็ทำให้ จนกลายเป็นว่า ทุกวันนี้เพื่อนไม่ต้องบอกถ้าเราจะทำการบ้านอะไร เราจะต้องคิดเพื่อเป็นดับเบิ้ลไว้เสมอ ทำพร้อมกับเราทีเดียว เหมือนกลายเป็นหน้าที่ประจำของเราไปแล้วค่ะ
5.ชอบชวนคุยเวลาเรียน ตอนแรกๆก็คุยด้วย แต่สักพักมันทำให้เราเรียนไม่รู้เรื่อง เราหยุดคุยบอกไปว่าจะฟังคุณครูสอน เจ้าตัวงอนแล้วพูดจาประชดประชันใส่ ทำนอง ไม่สนใจกูเลย แล้วจากนั้นก็ไม่พูดไม่จา แล้วทำอะไรประชดประชันใส่เรา เช่น ถีบโต๊ะเก้าอีกเราออกๆปไกลๆ ไล่ให้เราไปนั่งที่อื่น อย่ามาให้เห็นหน้า เราง้อไหม? ตอบได้เลยว่าไม่ แล้วเราได้ว่าอะไรไหม? ก็เปล่า จากนั้นไม่นานนัก เจ้าตัวก็กลับมาคุยกับเราเหมือนเดิม
6.เวลาทานข้าว มักจะให้เราเก็บจานข้าวให้ สเต็ปเดิมเลย เราไม่ว่าอะไร ตอบแค่ "จ้ะ" แล้วก็เก็บจานให้
7.ชอบใช้ถ้อยคำไม่สุภาพกับเรา กู สัตว์ เหี้_ (ละไว้ในฐานที่เข้าใจ) เวลาเราพูดคุยกับเพื่อนๆมักจะมีคำลงท้ายด้วย จ้ะ เสมอ เช่น ปลาจ๋าช่วยหยิบปากกาด้ามที่ตกพื้นให้เค้าหน่อยได้ไหมจ้ะ? ขอบใจมากจ้ะ (ชื่อสมมติไม่ใช่บุคคลใด)
8.ชอบชวนคุยเรื่องผู้ชาย มักจะบอกว่าตัวเองรักคนนั้นที คนนู้นที ส่วนใหญ่มักจะเป็นคุณครู ตอนนั้นที่โรงเรียนจัดงาน คุณครูจากต่างโรงเรียนมา เพื่อนคนเดิมเลยค่ะ ให้เราเอาโหลใส่ลูกอบฮาร์ดบีทไปให้คุณครู คุณครูจะไม่รับแล้วล่ะ แต่ถ้าไม่รับเราก็คงโดนเพื่อนด่าแน่ๆ คุณครูเลยรับไป
(อันนี้เป็นความชอบที่แตกต่างกัน เราสามารถรับข้อนี้ได้มากกว่าข้ออื่นๆที่ผ่านมา เพราะคนเรามักจะมีเรื่องพูดคุยที่แตกต่างกันอยู่แล้ว เราจะชอบคุยพวกการ์ตูน มังงะ อนิเมญี่ปุ่น คอสเพลย์)
9.ชอบบอกว่าแม่ไปต่างประเทศ บอกว่าตัวเองคุยกับดาราคนนั้นคนนี้ บอกว่าตัวเองถ่ายแบบ ทำงานอยู่ที่แกรมมี่ เราสามารถแยกเสียงออกได้ว่าการพูดเล่นกับพูดจริงแตกต่างกันอย่างไร นำเสียงที่ออกมานั้น พูดเหมือนตัวเองทำงานอยู่ที่นั่นจริงๆ แล้วก็มักจะมีเงินออกมาโชว์ บอกว่าถ่ายแบบได้เงินมา โอเคอาจจะเป็นเรื่องจริงที่เราไม่รู้ เราจึงอาจเผลอคิดไปว่าเจ้าตัวโม้ ก็ขอโทษด้วยถ้านั่นเป็นความจริงไม่ได้โม้
จนเราไปบอกกับคนที่บ้าน คนที่บ้านก็โทรหาเพื่อนคนนี้แล้วพูดแทนทุกๆคำที่เราเคยอยากพูดให้ ให้เค้าถือกระเป๋าเอง แบกหนังสือเรียนเอง ให้เล่นกันเบาๆ ให้ตั้งใจเรียน อย่าคุยในชม.เรียน ก็ตักเตือนว่ากล่าวกันไป จนเจ้าตัวบอกว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ถ้าทำให้เรารู้สึกอึดอัดใจขนาดนี้ เขาจะลาออกจากโรงเรียนไปอยู่กับแม่ที่ฝรั่งเศส แล้วเขาบอกมาว่าเขาเป็นโรคหัวใจ ทุกๆอย่างที่ทำไปก็เพราะอยากได้คนดูแลเท่านั้นเอง จากนั้นเราก็กลายเป็นคนผิดเพราะเพื่อนคนนั้นป่วย เราควรจะมีจิตใจอยากช่วยเขาด้วยใจจริง เพราะเขาน่าสงสาร
วันต่อมาเจอกันที่ร.ร. เขาก็ทำทุกอย่างเองหมด ทำเกินด้วยซ้ำ อย่างอะไรที่ไม่จำเป็นเช่นกระเป๋าเรา เขาก็เอาไปถือให้ กลายเป็นเราเดินตัวปลิวแทน ก็บอกไปว่าไม่จำเป็น แค่อย่ามาระลานกันก็พอแล้ว ของเราเราทำเองได้ แล้วการบ้านเขาก็พยายามลอกเพื่อน เน้นนะคะว่าหาลอกเพื่อนเอา งานไม่ได้คิดเอง หรือบางงานเราไม่ได้ทำให้แล้ว เขาก็ไม่มีงานส่งเลย เป็นแบบนี้ได้สักพัก ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
คราวนี้เขาไปซื้อของขวัญให้คุณครู(คุณครูท่านใหม่นะคะ ไม่ใช่คนเดิม) แล้วคุณครูไม่รับ เขาบอกเราว่าเขารักครูคนนี้มาก เขาร้องห่มร้องไห้เป็นสัปดาห์ๆ เขาร้องไห้ทีนึงก็จะเอนตัวลงมาซบที่ตักเรา ในชม.เรียน พอครูออกไป เขาก็จะหัวเราะไปร้องไห้ไป ถีบโต๊ะถีบเก้าอี้เรา ทำตัวงอแง เป็นแบบนี้หลายสัปดาห์ เราปวดประสาทมาก พยายามปลอบก็แล้วอะไรก็แล้ว
ตอนนี้กลายเป็นเราที่มีปัญหาซะเอง ไม่อยากไปเจออีกแล้วคนแบบนี้ เราควรจะทำไงดีคะเนี่ย บางคนก็บอกว่าไม่ต้องไปสนใจหรือยุ่งด้วยหรอก ลองดูสิ ถ้าไม่มีเราสักคน เพื่อนคนนั้นก็จะไม่เหลือใครเลย เพราะคนอื่นไม่มีใครยอมทำทุกอย่างให้เขาขนาดนี้ เอ้อ ลืมไปอีกอย่าง ตอนไปเข้าค่าย เขาก็ให้เราป้อนข้าวป้อนน้ำให้ ต้องรอเราทานข้าวตัวเองเสร็จก่อน แล้วให้เราไปป้อนข้าวน้ำให้ ตอนนอนก็แย่งผ้าห่ม ให้เราลูบหัวให้ ให้เราเล่านิทาน ถ้าเขาไม่หลับก่อน เราห้ามหยุดเล่านิทาน ห้ามหยุดลูบหัวเขาเด็ดขาด แล้วเราเหนื่อยมากตอนอยู่ค่ายง่วง อยากนอนแต่นอนไม่ได้ เราไม่ได้ว่าอะไรเขาเลย เรายอมทำให้ที่ต้องการ ยังมีเรื่องอีกเยอะเลยค่ะ แต่เล่าเท่านี้ก็น่าจะพอ
เราควรจะทำยังไงดีคะ ควรจะทำใจตัวเองให้เข้ากับเขาได้อย่างเต็มใจ ควรรักเขา หรือไม่ควรยุ่งอีก หรือทำอย่างไรดีคะ? T^T
ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะเพื่อน แต่อยากเรียน ทำไงคะ T^T
1.เพื่อนให้หิ้วกระเป๋าให้ ถ้ามือไม่ว่างแค่ฝากหิ้วชั่วคราว โอเค ไม่เป็นอะไรเรายินดี แต่คือเจ้าตัวเดินตัวปลิวสบายใจ เราสะพายกระเป๋าของตัวเองแล้วก็หิ้วกระเป๋าของเพื่อนให้ด้วยตลอดทั้งวัน (เดินเรียน ไม่ค่อยได้อยู่ห้องประจำ) เราไม่ได้ปฏิเสธอะไร เรายอมหิ้วกระเป๋าให้ แต่ตัวเราก็ไม่ได้อยากหิ้ว ถ้าพูดได้อยากจะบอกว่า "หิ้วเองได้ไหม แค่กระเป๋าเราใบเดียวก็หนักแล้ว"
2.ฝากหนังสือเรียนไว้ที่เรา (ครูไม่ให้เอาหนังสือไว้ใต้โต๊ะ นำหนังสือมาเรียนแล้วก็ต้องนำหนังสือกลับบ้านเสมอ) เพื่อนคนเดิมค่ะที่ให้เราหิ้วกระเป๋าให้ เขามักจะชอบฝากหนังสือไว้ที่เราแล้วไม่ยอมเอากลับ ให้เราเอากลับบ้านมาด้วย พอเรียนวันถัดไป เราก็ต้องเอาหนังสือไปให้ กลายเป็นว่าเราแบกหนังสือดับเบิ้ล เราก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ถ้าบอกได้อยากบอกว่า "เราหนัก"
3.ชอบเล่นรุนแรงกับเรา ตีแขนบ้าง ตีหลังบ้าง เราไม่พอใจเลยแต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร มีการยกขาขึ้นมาพาดบนตักเรา
เจ้าตัวถามมาว่า "รำคาญกูไหม? ชอบไหมที่กูเอาขาขึ้นพาดเนี่ย?"
เราตอบ "ไม่ชอบจ้ะ เอาขาลงจ้ะ "
เจ้าตัวตอบ "ฮ่าๆๆๆ กูจะทำ" หัวเราะ แล้วเขาก็เอาขาพาดต่อไป แบบนี้ทุกวันๆ
4.ให้เราทำการบ้านให้ เพื่อนจะบอกว่า ทำการบ้านอันนี้ให้กูหน่อย อันนั้น อันนู้นด้วย ตามตรงนะ การบ้านเราเองยังจะไปไม่รอดเลยค่ะ แต่ก็นะคะ เราก็รับมาทำให้ ถูกๆผิดๆ ทำให้ช้าหน่อย แต่ก็ทำให้ จนกลายเป็นว่า ทุกวันนี้เพื่อนไม่ต้องบอกถ้าเราจะทำการบ้านอะไร เราจะต้องคิดเพื่อเป็นดับเบิ้ลไว้เสมอ ทำพร้อมกับเราทีเดียว เหมือนกลายเป็นหน้าที่ประจำของเราไปแล้วค่ะ
5.ชอบชวนคุยเวลาเรียน ตอนแรกๆก็คุยด้วย แต่สักพักมันทำให้เราเรียนไม่รู้เรื่อง เราหยุดคุยบอกไปว่าจะฟังคุณครูสอน เจ้าตัวงอนแล้วพูดจาประชดประชันใส่ ทำนอง ไม่สนใจกูเลย แล้วจากนั้นก็ไม่พูดไม่จา แล้วทำอะไรประชดประชันใส่เรา เช่น ถีบโต๊ะเก้าอีกเราออกๆปไกลๆ ไล่ให้เราไปนั่งที่อื่น อย่ามาให้เห็นหน้า เราง้อไหม? ตอบได้เลยว่าไม่ แล้วเราได้ว่าอะไรไหม? ก็เปล่า จากนั้นไม่นานนัก เจ้าตัวก็กลับมาคุยกับเราเหมือนเดิม
6.เวลาทานข้าว มักจะให้เราเก็บจานข้าวให้ สเต็ปเดิมเลย เราไม่ว่าอะไร ตอบแค่ "จ้ะ" แล้วก็เก็บจานให้
7.ชอบใช้ถ้อยคำไม่สุภาพกับเรา กู สัตว์ เหี้_ (ละไว้ในฐานที่เข้าใจ) เวลาเราพูดคุยกับเพื่อนๆมักจะมีคำลงท้ายด้วย จ้ะ เสมอ เช่น ปลาจ๋าช่วยหยิบปากกาด้ามที่ตกพื้นให้เค้าหน่อยได้ไหมจ้ะ? ขอบใจมากจ้ะ (ชื่อสมมติไม่ใช่บุคคลใด)
8.ชอบชวนคุยเรื่องผู้ชาย มักจะบอกว่าตัวเองรักคนนั้นที คนนู้นที ส่วนใหญ่มักจะเป็นคุณครู ตอนนั้นที่โรงเรียนจัดงาน คุณครูจากต่างโรงเรียนมา เพื่อนคนเดิมเลยค่ะ ให้เราเอาโหลใส่ลูกอบฮาร์ดบีทไปให้คุณครู คุณครูจะไม่รับแล้วล่ะ แต่ถ้าไม่รับเราก็คงโดนเพื่อนด่าแน่ๆ คุณครูเลยรับไป
(อันนี้เป็นความชอบที่แตกต่างกัน เราสามารถรับข้อนี้ได้มากกว่าข้ออื่นๆที่ผ่านมา เพราะคนเรามักจะมีเรื่องพูดคุยที่แตกต่างกันอยู่แล้ว เราจะชอบคุยพวกการ์ตูน มังงะ อนิเมญี่ปุ่น คอสเพลย์)
9.ชอบบอกว่าแม่ไปต่างประเทศ บอกว่าตัวเองคุยกับดาราคนนั้นคนนี้ บอกว่าตัวเองถ่ายแบบ ทำงานอยู่ที่แกรมมี่ เราสามารถแยกเสียงออกได้ว่าการพูดเล่นกับพูดจริงแตกต่างกันอย่างไร นำเสียงที่ออกมานั้น พูดเหมือนตัวเองทำงานอยู่ที่นั่นจริงๆ แล้วก็มักจะมีเงินออกมาโชว์ บอกว่าถ่ายแบบได้เงินมา โอเคอาจจะเป็นเรื่องจริงที่เราไม่รู้ เราจึงอาจเผลอคิดไปว่าเจ้าตัวโม้ ก็ขอโทษด้วยถ้านั่นเป็นความจริงไม่ได้โม้
จนเราไปบอกกับคนที่บ้าน คนที่บ้านก็โทรหาเพื่อนคนนี้แล้วพูดแทนทุกๆคำที่เราเคยอยากพูดให้ ให้เค้าถือกระเป๋าเอง แบกหนังสือเรียนเอง ให้เล่นกันเบาๆ ให้ตั้งใจเรียน อย่าคุยในชม.เรียน ก็ตักเตือนว่ากล่าวกันไป จนเจ้าตัวบอกว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ถ้าทำให้เรารู้สึกอึดอัดใจขนาดนี้ เขาจะลาออกจากโรงเรียนไปอยู่กับแม่ที่ฝรั่งเศส แล้วเขาบอกมาว่าเขาเป็นโรคหัวใจ ทุกๆอย่างที่ทำไปก็เพราะอยากได้คนดูแลเท่านั้นเอง จากนั้นเราก็กลายเป็นคนผิดเพราะเพื่อนคนนั้นป่วย เราควรจะมีจิตใจอยากช่วยเขาด้วยใจจริง เพราะเขาน่าสงสาร
วันต่อมาเจอกันที่ร.ร. เขาก็ทำทุกอย่างเองหมด ทำเกินด้วยซ้ำ อย่างอะไรที่ไม่จำเป็นเช่นกระเป๋าเรา เขาก็เอาไปถือให้ กลายเป็นเราเดินตัวปลิวแทน ก็บอกไปว่าไม่จำเป็น แค่อย่ามาระลานกันก็พอแล้ว ของเราเราทำเองได้ แล้วการบ้านเขาก็พยายามลอกเพื่อน เน้นนะคะว่าหาลอกเพื่อนเอา งานไม่ได้คิดเอง หรือบางงานเราไม่ได้ทำให้แล้ว เขาก็ไม่มีงานส่งเลย เป็นแบบนี้ได้สักพัก ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
คราวนี้เขาไปซื้อของขวัญให้คุณครู(คุณครูท่านใหม่นะคะ ไม่ใช่คนเดิม) แล้วคุณครูไม่รับ เขาบอกเราว่าเขารักครูคนนี้มาก เขาร้องห่มร้องไห้เป็นสัปดาห์ๆ เขาร้องไห้ทีนึงก็จะเอนตัวลงมาซบที่ตักเรา ในชม.เรียน พอครูออกไป เขาก็จะหัวเราะไปร้องไห้ไป ถีบโต๊ะถีบเก้าอี้เรา ทำตัวงอแง เป็นแบบนี้หลายสัปดาห์ เราปวดประสาทมาก พยายามปลอบก็แล้วอะไรก็แล้ว
ตอนนี้กลายเป็นเราที่มีปัญหาซะเอง ไม่อยากไปเจออีกแล้วคนแบบนี้ เราควรจะทำไงดีคะเนี่ย บางคนก็บอกว่าไม่ต้องไปสนใจหรือยุ่งด้วยหรอก ลองดูสิ ถ้าไม่มีเราสักคน เพื่อนคนนั้นก็จะไม่เหลือใครเลย เพราะคนอื่นไม่มีใครยอมทำทุกอย่างให้เขาขนาดนี้ เอ้อ ลืมไปอีกอย่าง ตอนไปเข้าค่าย เขาก็ให้เราป้อนข้าวป้อนน้ำให้ ต้องรอเราทานข้าวตัวเองเสร็จก่อน แล้วให้เราไปป้อนข้าวน้ำให้ ตอนนอนก็แย่งผ้าห่ม ให้เราลูบหัวให้ ให้เราเล่านิทาน ถ้าเขาไม่หลับก่อน เราห้ามหยุดเล่านิทาน ห้ามหยุดลูบหัวเขาเด็ดขาด แล้วเราเหนื่อยมากตอนอยู่ค่ายง่วง อยากนอนแต่นอนไม่ได้ เราไม่ได้ว่าอะไรเขาเลย เรายอมทำให้ที่ต้องการ ยังมีเรื่องอีกเยอะเลยค่ะ แต่เล่าเท่านี้ก็น่าจะพอ
เราควรจะทำยังไงดีคะ ควรจะทำใจตัวเองให้เข้ากับเขาได้อย่างเต็มใจ ควรรักเขา หรือไม่ควรยุ่งอีก หรือทำอย่างไรดีคะ? T^T