กรรมตกอับเพราะทอดทิ้งพ่อแม่

เรื่องจริงเมื่อกว่า 5 ปีมาแล้ว

สลดชีวิตสองผัวเมีย เคยร่ำรวยมีกิจการรถบรรทุก แต่ทั้งคู่ไม่เคยหันกลับไปดูแลพ่อ-แม่ แม้ยามที่ล้มป่วยและเสียชีวิต อีกทั้งฆ่าสัตว์เป็นอาจิณ ภายหลังพ่อ-แม่ป่วยตาย ชีวิตเริ่มตกต่ำ สามีถูกรถเฉี่ยวชนจนเป็นอัมพาต ส่วนฝ่ายเมียป่วยเป็นโรคเบาหวานจนต้องตัดขา ส่วนลูก 3 คนก็ไม่เคยกลับมาเหลียวแล ยอมรับสำนึก และเชื่อว่าเป็นกฎแห่งกรรมที่เกิดผลในชาตินี้ วอนเป็นอุทาหรณ์ ให้คนรุ่นหลังอย่าละเลยผู้ให้กำเนิด

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร นอภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับการร้องเรียน จากนางประโลม ปราบศัตรู อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/5 หมู่ที่ 7 ต.พลูตา หลวง อ.สัตหีบ ว่ามีนายไพเราะ ทิมทอง อายุ 71 ปี และนางสะอาด ทิมทอง อายุ 65 ปี สองสามีภรรยาสภาพร่างกายพิการทั้งคู่ ดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะมีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือ โดยอาศัยอยู่ในกระต๊อบยกพื้นสูง ปูด้วยไม้อัดและปิดฝาผนังด้าน หลังด้วยแผ่นสังกะสีเก่าๆ อยู่ในป่าละเมาะ ซอยเขาหมอน หมู่ที่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสองสามีภรรยาเดือดร้อนหนัก หากปล่อยไว้โดยไม่มีใครดูแล  อาจต้องเสียชีวิต

ต่อมาผู้สื่อข่าวรุดไปตรวจสอบพบนางสะอาด สภาพขาซ้ายท่อนล่างขาดเหลือ อยู่เพียง 3 ส่วน ส่วนนิ้วหัวแม่เท้าขวาถูกตัดขาด ขาลีบไม่มีแรง นั่งอยู่เคียงข้างกายนายไพเราะ ผู้เป็นสามีที่เป็นอัมพาต เดินไม่ได้ นอนทอดกายบนที่นอนบนแคร่ไม้อัดที่ยกพื้นสูง  ภายในที่พักมีเพียงของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเท่านั้น เช่น เตาแก๊ส หม้อหุงข้าว ถ้วย ชาม ช้อน ส่วนเสื้อผ้าที่เปลี่ยนสวมใส่แทบจะไม่มี

นางสะอาด เปิดเผยว่า ตนนั้นปรับทุกข์กับสามีเป็นประจำ เพราะชีวิตที่ผ่านมาไม่น่าจะมาลำบาก เคยเป็นเจ้าของกิจการรถบรรทุก มีที่ดิน มีฐานะดี แต่จู่ๆ ชีวิตก็เริ่มเลวร้าย ทรัพย์สมบัติที่มีต้องหมดไป มีความเห็นตรงกันว่าคงเป็น เพราะกฎแห่งกรรมที่เราทั้ง 2 คนทำไว้ กับพ่อแม่บังเกิดเกล้าทั้ง 2 ฝ่าย คือตั้งแต่ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านไม่เคยหวนกลับไปดูแลพ่อแม่แม้แต่ขณะเจ็บป่วย จนท่านเสียชีวิตไปก็ไม่มีโอกาสไปดูใจแต่อย่างใด หลังจากนั้นชีวิตก็เริ่มตกต่ำ โรคร้ายเข้ามาเยือน สามีถูกรถเฉี่ยวชนจนเป็นอัมพาต ส่วนตัวเองเป็นเบาหวาน ต้องตัดขามาหลายปี ลูก 3 คนก็ไม่เคยมาดูแล จึงเชื่อว่าเป็นกฎแห่งกรรมที่ตามมาลงโทษในชาตินี้

ด้านนายไพเราะ กล่าวว่า ยอมรับว่ากฎแห่งกรรมมีจริง ตอนนี้ต้องมาชดใช้ ตอนดีๆ เอาแต่หลงระเริงเป็นนายพราน ฆ่าสัตว์ป่า ยิงเก้ง กวาง กระจง มาเป็นอาหาร ไม่เกรงต่อบาป ที่สำคัญไม่เคยกลับบ้านไปดูแลพ่อ แม่ พี่น้อง และผู้มีพระคุณเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ทำให้รู้สำนึกได้ แต่ก็สายเกินไปแล้วที่จะแก้ไข เพราะเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิตก็คือ รอวันตายที่เข้ามาเยือนเท่านั้น จะสร้างบุญกุศลก็ไม่มีโอกาส ไม่มีเงินเพียงพอ จึงขอฝากคนรุ่นหลังอย่าได้ละเลยต่อพ่อ แม่ ผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเรามา ถ้าผู้ใดปฏิบัติดีกับพ่อ แม่ จะไม่พบกับความลำบากถึงอย่างนี้ และขอให้เชื่อเถิดว่ากรรมมีจริง


ที่มา ข่าวสด


ดอกไม้ร่วมเผยแผ่เรื่องกฎแห่งกรรม ดอกไม้

    http://www.facebook.com/LawsOfKarma


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่