สวัสดีค่ะ จากการตามอ่านสวนลุมมาแล้วพบคำถามเกี่ยวกับการรักษาด้วยสมุนไพรมาเยอะมาก อยากรู้ไหมคะมันดีหรือไม่ดียังไง แล้วเมื่อเปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบันแบบเคมีบำบัด ได้ผลแตกต่างกันไหม จขกท ที่เอาตัวเองเป็นหนูทดลองมาแล้ว จะเล่าให้ฟังค่ะ
ประวัตินะคะ จขกท เพศหญิง ตรวจพบมะเร็งเต้านมตอนอายุ 29 โดยคลำเจอก้อนขนาดประมาณ 1 ซมที่ใต้ราวนมข้างขวา ปรกติ จขกท เป็นซีสท์หลายที่ เคยผ่าเจ้าซีสท์นี่ประมาณ 3 ครั้ง แต่ทุกทีเวลาคลำซีสท์มันจะกลิ้งๆ ไปมาใช่ไหมคะ แต่เจ้าก้อนที่เต้านมเค้าไม่กลิ้งค่ะ แข็งๆแปลกๆ แอบกลัวมากค่ะเช้าอีกวันก็ไปหาหมอเลยค่ะ
หมอ รพ แรกตรวจโดยการคลำเต้านม แล้วก็เอกซเรย์ หมอวินิจฉัยว่าน่าจะซีสท์ นัดผ่าตัดเล็ก แต่ จขกท ยังไม่ผ่านะ เอาผลที่แรกไปหา หมอ รพ ที่สอง คราวนี้ได้ตรวจอัลตราซาวด์เพิ่ม ขอหมอทำแมมโมแกรม หมอบอกว่าเต้านมของคนที่อายุน้อย เนื้อเต้านมไม่มากไม่เหมาะกับการตรวจแมมโมแกรม (ไม่รู้จริงไหมแอบไม่เชื่อเท่าไหร่เพราะอยากตรวจ) จากอัลตราซาวด์เห็นว่าก้อนมีขอบข้างในโปร่งเหมือนมีน้ำเหมือนซีสท์ เราเลยตกลงจะผ่าที่นี่แบบผ่าตัดเล็ก หลังผ่าอีก 7 วันหมอนัดมาฟังผลชิ้นเนื้อ..
วันที่ 3 หลังผ่าได้รับโทรศัพท์จาก รพ ว่าหมออยากคุยด้วยให้มา รพ ด่วนที่สุด คือฟังแค่นี้เราก็รู้แล้วว่าผลที่ออกมามันคงไม่ดีแน่ๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นมะเร็ง สุดท้ายก็แจคพอตค่ะ หมอแจ้งว่าก้อนที่ส่งไปตรวจพบเซลมะเร็งขนาด 0.5 อยู่ในตัวก้อนเป็นมะเร็งระยะที่1 แผนการรักษาคร่าวๆ คือผ่าตัด และให้เคมีบำบัด หมอพูดยาวมากค่ะ แต่หัวเราไม่รับ คือรู้สึกว่าหูอื้อ ตาลาย โลกถล่มลงมาตรงหน้าอ้ะ พยายามจับใจความหมอบอกว่าไม่เป็นไรนะเจ้ามะเร็งเต้านมในระยะแรกการพยากรณ์ของโรคนั้นดีมาก โอกาสรักษาหายเยอะ แล้วก็การผ่าตัดเดี๋ยวนี้เค้ามีแบบรักษาเต้านมไว้ เอาออกเฉพาะก้อน คุยกะหมอเสร็จออกจากห้องตรวจทาแบบเบลอๆ คือไม่คิดว่าตัวเองอายุขนาดนี้จะเป็นมะเร็ง
หลังจากนอนร้องไห้อยู่ 1 คืน ก็บอกตัวเองว่าเราจะมามัวนอนร้องไห้ไม่ได้ต้องรีบรักษาสิ เราก็เลยเอา จม จาก รพ ที่ 2 ไป รพที่ 3 เป็น (คุณหมอบอกว่ากาีผ่าแบบรักษาเต้านมต้องทำโดยแพทย์ที่เชียวชาญดังนั้นให้เรามาปรึกษาโรงเรียนแพทย์) จากนั้น จขกท ก็เข้ารับการผ่าตัดค่ะ โดยการผ่าตัดแบบรักษาเต้านี้จะเป็นผ่าตัดใหญ่ วางยาสลบ ขณะที่เราผ่าก้อน หมอก็ตะฉีดสีที่ต่อมน้ำเหลืองดูว่ามะเร็งแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองหรือยัง ถ้ามีติดสีหมอจะได้ตัดต่อมน้ำเหลืองนั้นออกไปเลยทีเดียว โดยเราโชคดีที่ไม่เจอว่ากระจายไป หลังผ่าตัดอยู่ รพ 7 วันค่ะ ขณะนอน รพ ก็ได้ตรวจ Bone scan ดูว่ามะเร็งลามไปกระดูกไหม อัลตราซาวด์ช่องท้องดูว่ามีกระจายไปไหม โชคดีที่ผลออกมาไม่พบการกระจาย แล้วก็รอฟังผลว่าชิ้นเนื้อของเราเป็นแบบตอบสนองต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือตอบสนองต่อ Her2 ไหม โดยผลชิ้นเนื้อนี้จะมีผลตอนวางแผนการรักษาหลักและการเลือกยาที่ใช้ สรุป จขกท เป็นมะเร็งเต้านมที่ตอบสนองกับเอสโตรเจน คือ ได้รับฮอร์โมนเพศหญิงมากเกินไป การรักษาที่หมอแจ้งคือให้เคมีบำบัดสูตร AC ฉายรังสี และกินยาต้านฮอร์โมน 5 ปี
ดูเหมือนทุกอย่างจะผ่านมาดีใช่ไหมคะ แต่ไม่ใช่ค่ะ จุดพลิกผันคือ ระหว่างกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน เราดันไปดูรายการสัมภาษณ์คุณหมอที่รักษามะเร็งด้วยสมุนไพร ซึ่งเค้าบอกว่ามีคนที่รักษาหายมาแล้วหลายคน เราก็หาข้อมูลมากมายจนเชื่อว่าเราก็จะต้องหายด้วยสมุนไพรให้ได้ เราไม่อยากรับเคมีบำบัด เราก็ไปเลยค่ะ ขั้นตอนการรักษาคือหมอถามประวัติ แล้วให้ไปรับยา เป็นยาใส่มาในห่อให้เอามาต้ม ค่ายาอย่านึกว่าถูกนะคะ แพงมากกกกกก 7500 ค่ะ กินได้ 1 เดือน รสชาติหรอคะแย่มากกก กลิ่นเหม็นมากกกกค่ะ วิธกินคือกินแทนน้ำเปล่าเลยค่ะ ตอนไหนที่หิวน้ำก็ให้กินยานี้ ก็คือเราก็จะต้องพกกระติกยาติดตัว ก็กินได้สัก 3 เดือนมั้งคะ เรารู้สึกว่าแพงมาก ประกอบกับเข้างานที่ใหม่เจอพี่ที่ทำงานเค้าเล่าว่าญาติเค้าเป็นมะเร็งรังไข่รักษากะอีกที่นึงหายแล้ว เราเลยเปลี่ยนที่ค่ะ สถานที่รักษาเป็นคลินิคแพทย์แผนไทย หมอตรวจโดยการแมะค่ะ แล้วก็จ่ายยา ค่ายาที่นี่เดือนละ 2000 มีทั้งยาต้มและยาลูกกลอน เราก็กินมานานมากประมาณ 6 เดือน ทุกเดือนจะต้องไปพบหมอแมะเดือนละครั้งเพื่อปรับยา อาการหรอคะ ไม่ดีขึ้นค่ะ เราเริ่มพบสิ่งผิดปรกติ...
แชร์วิธีรักษามะเร็งด้วยยาสมุนไพรเปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบัน
ประวัตินะคะ จขกท เพศหญิง ตรวจพบมะเร็งเต้านมตอนอายุ 29 โดยคลำเจอก้อนขนาดประมาณ 1 ซมที่ใต้ราวนมข้างขวา ปรกติ จขกท เป็นซีสท์หลายที่ เคยผ่าเจ้าซีสท์นี่ประมาณ 3 ครั้ง แต่ทุกทีเวลาคลำซีสท์มันจะกลิ้งๆ ไปมาใช่ไหมคะ แต่เจ้าก้อนที่เต้านมเค้าไม่กลิ้งค่ะ แข็งๆแปลกๆ แอบกลัวมากค่ะเช้าอีกวันก็ไปหาหมอเลยค่ะ
หมอ รพ แรกตรวจโดยการคลำเต้านม แล้วก็เอกซเรย์ หมอวินิจฉัยว่าน่าจะซีสท์ นัดผ่าตัดเล็ก แต่ จขกท ยังไม่ผ่านะ เอาผลที่แรกไปหา หมอ รพ ที่สอง คราวนี้ได้ตรวจอัลตราซาวด์เพิ่ม ขอหมอทำแมมโมแกรม หมอบอกว่าเต้านมของคนที่อายุน้อย เนื้อเต้านมไม่มากไม่เหมาะกับการตรวจแมมโมแกรม (ไม่รู้จริงไหมแอบไม่เชื่อเท่าไหร่เพราะอยากตรวจ) จากอัลตราซาวด์เห็นว่าก้อนมีขอบข้างในโปร่งเหมือนมีน้ำเหมือนซีสท์ เราเลยตกลงจะผ่าที่นี่แบบผ่าตัดเล็ก หลังผ่าอีก 7 วันหมอนัดมาฟังผลชิ้นเนื้อ..
วันที่ 3 หลังผ่าได้รับโทรศัพท์จาก รพ ว่าหมออยากคุยด้วยให้มา รพ ด่วนที่สุด คือฟังแค่นี้เราก็รู้แล้วว่าผลที่ออกมามันคงไม่ดีแน่ๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นมะเร็ง สุดท้ายก็แจคพอตค่ะ หมอแจ้งว่าก้อนที่ส่งไปตรวจพบเซลมะเร็งขนาด 0.5 อยู่ในตัวก้อนเป็นมะเร็งระยะที่1 แผนการรักษาคร่าวๆ คือผ่าตัด และให้เคมีบำบัด หมอพูดยาวมากค่ะ แต่หัวเราไม่รับ คือรู้สึกว่าหูอื้อ ตาลาย โลกถล่มลงมาตรงหน้าอ้ะ พยายามจับใจความหมอบอกว่าไม่เป็นไรนะเจ้ามะเร็งเต้านมในระยะแรกการพยากรณ์ของโรคนั้นดีมาก โอกาสรักษาหายเยอะ แล้วก็การผ่าตัดเดี๋ยวนี้เค้ามีแบบรักษาเต้านมไว้ เอาออกเฉพาะก้อน คุยกะหมอเสร็จออกจากห้องตรวจทาแบบเบลอๆ คือไม่คิดว่าตัวเองอายุขนาดนี้จะเป็นมะเร็ง
หลังจากนอนร้องไห้อยู่ 1 คืน ก็บอกตัวเองว่าเราจะมามัวนอนร้องไห้ไม่ได้ต้องรีบรักษาสิ เราก็เลยเอา จม จาก รพ ที่ 2 ไป รพที่ 3 เป็น (คุณหมอบอกว่ากาีผ่าแบบรักษาเต้านมต้องทำโดยแพทย์ที่เชียวชาญดังนั้นให้เรามาปรึกษาโรงเรียนแพทย์) จากนั้น จขกท ก็เข้ารับการผ่าตัดค่ะ โดยการผ่าตัดแบบรักษาเต้านี้จะเป็นผ่าตัดใหญ่ วางยาสลบ ขณะที่เราผ่าก้อน หมอก็ตะฉีดสีที่ต่อมน้ำเหลืองดูว่ามะเร็งแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองหรือยัง ถ้ามีติดสีหมอจะได้ตัดต่อมน้ำเหลืองนั้นออกไปเลยทีเดียว โดยเราโชคดีที่ไม่เจอว่ากระจายไป หลังผ่าตัดอยู่ รพ 7 วันค่ะ ขณะนอน รพ ก็ได้ตรวจ Bone scan ดูว่ามะเร็งลามไปกระดูกไหม อัลตราซาวด์ช่องท้องดูว่ามีกระจายไปไหม โชคดีที่ผลออกมาไม่พบการกระจาย แล้วก็รอฟังผลว่าชิ้นเนื้อของเราเป็นแบบตอบสนองต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือตอบสนองต่อ Her2 ไหม โดยผลชิ้นเนื้อนี้จะมีผลตอนวางแผนการรักษาหลักและการเลือกยาที่ใช้ สรุป จขกท เป็นมะเร็งเต้านมที่ตอบสนองกับเอสโตรเจน คือ ได้รับฮอร์โมนเพศหญิงมากเกินไป การรักษาที่หมอแจ้งคือให้เคมีบำบัดสูตร AC ฉายรังสี และกินยาต้านฮอร์โมน 5 ปี
ดูเหมือนทุกอย่างจะผ่านมาดีใช่ไหมคะ แต่ไม่ใช่ค่ะ จุดพลิกผันคือ ระหว่างกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน เราดันไปดูรายการสัมภาษณ์คุณหมอที่รักษามะเร็งด้วยสมุนไพร ซึ่งเค้าบอกว่ามีคนที่รักษาหายมาแล้วหลายคน เราก็หาข้อมูลมากมายจนเชื่อว่าเราก็จะต้องหายด้วยสมุนไพรให้ได้ เราไม่อยากรับเคมีบำบัด เราก็ไปเลยค่ะ ขั้นตอนการรักษาคือหมอถามประวัติ แล้วให้ไปรับยา เป็นยาใส่มาในห่อให้เอามาต้ม ค่ายาอย่านึกว่าถูกนะคะ แพงมากกกกกก 7500 ค่ะ กินได้ 1 เดือน รสชาติหรอคะแย่มากกก กลิ่นเหม็นมากกกกค่ะ วิธกินคือกินแทนน้ำเปล่าเลยค่ะ ตอนไหนที่หิวน้ำก็ให้กินยานี้ ก็คือเราก็จะต้องพกกระติกยาติดตัว ก็กินได้สัก 3 เดือนมั้งคะ เรารู้สึกว่าแพงมาก ประกอบกับเข้างานที่ใหม่เจอพี่ที่ทำงานเค้าเล่าว่าญาติเค้าเป็นมะเร็งรังไข่รักษากะอีกที่นึงหายแล้ว เราเลยเปลี่ยนที่ค่ะ สถานที่รักษาเป็นคลินิคแพทย์แผนไทย หมอตรวจโดยการแมะค่ะ แล้วก็จ่ายยา ค่ายาที่นี่เดือนละ 2000 มีทั้งยาต้มและยาลูกกลอน เราก็กินมานานมากประมาณ 6 เดือน ทุกเดือนจะต้องไปพบหมอแมะเดือนละครั้งเพื่อปรับยา อาการหรอคะ ไม่ดีขึ้นค่ะ เราเริ่มพบสิ่งผิดปรกติ...