ผลวิจัย มหาลัยฮาร์วาร์ด “ผี-นรก-สวรรค์” มีจริง!

กระทู้สนทนา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    11 สิงหาคม 2557 17:19 น.      
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000091389
มิติลี้ลับที่ใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์
      
       อย่างไรก็ดี ทีม special scoop ไขข้อสงสัยว่า ศ.ดร.นพ.เทพพนม มีอะไรต่างจากคนทั่วไป มนุษย์ต่างดาวจึงเลือกที่จะมาสื่อสารหรือปรากฏให้เห็นและบอกเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า
      
       “มนุษย์ต่างดาวบอกในอดีตชาตินั้นผมเป็นเพื่อนกับมนุษย์ต่างดาวและมาจากแหล่งเดียวกัน” ซึ่งส่วนใหญ่คนไม่เชื่อว่าตัวเองติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้ บางคนมองว่าเพี้ยน แต่มีส่วนหนึ่งเชื่อ เพราะมองว่าอาจารย์เป็นนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะบอก แต่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเองก็มีการศึกษาเรื่องลี้ลับเช่นกัน
      
       “ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ พยายามค้นหาความจริง และฮาร์วาร์ดเองมีการศึกษาเยอะ การวิจัยของที่นี่ถือว่า “เก่ง” ที่สุดในโลก นอกจากวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และยังมีการวิจัยธรรมชาติ สิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ คือ วิจัยเรื่อง “ผี” “มนุษย์ต่างดาว”เรื่องที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ หรือเรื่องที่ยิงไม่เข้า แทง ฟันไม่เข้า”
      
       โดยที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีการวิจัยเรื่องผีเยอะมาก ตามคำขวัญ “ความจริงเท่านั้น ที่ทำให้ท่านเป็นอิสระต่อความโง่เขลาทั้งปวง” ซึ่งวิจัยได้ทุกๆ เรื่อง และการวิจัยใช้เหตุผลอย่างเดียวไม่ได้ ตัวอย่างการพิสูจน์ของเพื่อนนักเรียนแพทย์ที่ฮาร์วาร์ด ต้องการพิสูจน์เรื่องผีว่าตายแล้วไปไหน โดยแอบทดลองไม่บอกอาจารย์ ฉีดยาเข้าเส้นให้หัวใจหยุดเต้น ไม่ให้เกิน 5 นาทีเดี๋ยวสมองถูกทำลาย หลังจากนั้น 4 นาทียิงกระแสไฟฟ้าเข้าไปในหัวใจให้หัวใจเต้นใหม่ แล้วรอวันสองวัน พอเริ่มดีขึ้นก็จะนำบุคคลกลุ่มเดิมมาทำการสัมภาษณ์ว่าขณะนั้นที่ตายไป ไปไหนมาบ้าง ทำอยู่ประมาณ 100 คน หลังศาสตราจารย์ใหญ่รู้เรื่องเลยเรียกไปตักเตือนว่า ใครทำแบบนี้อีกโดนไล่ออก
      
       การวิจัยใน 100 คนเมื่อหัวใจหยุดเต้นทั้งผู้หญิงและผู้ชายนั้น จะพบคำตอบว่าพวกเขาจะถูกดูดหรือจับตัวไปในที่แห่งหนึ่ง และเจอญาติเพื่อนสนิทที่ตายไปแล้วมาคอยรับอยู่ และพาไปที่มีคณะกรรมการตัดสินความดี-ความชั่ว ไปนรกหรือสวรรค์ มีเช็กแล้วพบว่ายังไม่ตายแล้วมาได้ยังไง ถูกส่งกลับคืนมา เขาบอกเวลา มนุษย์ทุกคนที่ตายไปต้องไปผ่านกระบวนการนี้ ซึ่งพุทธศาสนาหินยานไม่เรียกว่าเป็น “ภพภูมิ” แต่มหายานเรียกว่าเป็นภพภูมิที่ 32 เพราะมีการบอกเล่าว่า มนุษย์ยังมีการเวียนว่ายตายเกิด เวลาตายไปนรกหรือสวรรค์ ต้องไปเกิดใหม่กลายเป็นสัตว์หรือคน และเวลาเกิดใหม่ ต้องกลับมาที่ภพภูมิเก่า เช่นเดียวกับบทสรุปของนักเรียนแพทย์ที่ฮาร์วาร์ดทำการศึกษาเหมือนหนังฮอลลีวูดเรื่องแฟลชไลน์ พูดว่า “มนุษย์ตายไปไม่ได้สูญไป แต่ไปมีชีวิตอยู่ในอีกมิติหนึ่ง”
      
       ดังนั้นการติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้ และความลี้ลับต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากในอีกมิตินั้น ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจ ซึ่ง “ศ.ดร.นพ.เทพพนม” เลือกใช้พลังพิเศษที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยเฉพาะในบทบาท “นายกสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยมหิดล” ที่มีการประชุมทุกเดือน เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำสมาธิทางจิต มีกิจกรรมเรื่องโครงการเข้าไปสอนทำสมาธิในกรมราชทัณฑ์ ส่งเสริมให้ผู้ต้องขังทำสมาธิให้จิตสงบ สอนการให้พลังมือ หลักสูตร 3 วันก่อนการพ้นโทษ สำหรับนักโทษที่เป็นอาชญากรรุนแรงต่างๆ เพื่อไม่ให้ทำผิดซ้ำ ให้จิตสงบ ปลดปล่อยเป็นพลังออกมา
       “จำนวนผู้รับการสอนนับหมื่นคน ซึ่งหลังจากที่เข้ารับการอบรม และติดตามผลพบไม่มีอัตราทำผิดซ้ำและกลับเข้ามารับโทษ” ศ.ดร.นพ.เทพพนมกล่าว
      
       อย่างไรก็ดี สิ่งที่ ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน บอกเล่าเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่มาเตือนหรือมาบอกกล่าวทั้งหมดนั้นล้วนเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ หากเราสามารถปฏิบัติได้และรู้จักป้องกันภัยพิบัติตามธรรมชาติไว้ก่อนที่จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจนสร้างความเสียหายให้กับประเทศได้ รวมไปถึงผลการพิสูจน์ด้านวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ชี้ให้เห็นชัดเจนว่ามนุษย์ทุกคนตายแล้วไปไหน ก็ขึ้นอยู่กับกรรมดีและกรรมชั่วของตนเองทั้งสิ้น!

                                                     ...อาจจะดูเพ้อฝัน..แต่มันก็มีตรรกะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่