สืบเนื่องจากกระทู้ :
การเหยียดเพศ และเหยียดสถาบันการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ ในประเทศญี่ปุ่น
http://ppantip.com/topic/31771933
ที่พูดถึงกรณีการกระทำผิดจริยธรรมการวิจัยของ ฮารุโกะ โอโบกาตะ (Haruko Obokata) และผู้เขียนร่วม ที่ตีพิมพ์เผยแพร่การค้นพบสิ่งที่เรียกว่า STAP Cells ในวารสารวิทยาศาสตร์ชื่อดัง Nature
จนเกิดข้อถกเถียง โจมตีมากมาย นำไปสู่การตรวจสอบ และทาง Riken อกกมาแถลงในวันที่ 1 เมษายน 2557
ว่า ดร. ฮารุโกะ โอโบกาตะ มี "การประพฤติผิดจริยธรรมการวิจัย" จริง โดยมีการกระทำผิดหลักๆ 2 ข้อ คือ
1. การปั้นข้อมูลเท็จ (data fabrication)
2. การดัดแปลงตกแต่งรูปภาพของผลการทดลอง (image manipulation)
ดร. โยชิกิ ซาซาอิ (Yoshiki Sasai) รองผู้อำนวยการศูนย์ Center for Developmental Biology ของสถาบันวิจัย Riken ในเมืองโกเบ
ซึ่งเป็น Adviser และเป็นผู้เขียนร่วมกับ ดร. ฮารุโกะ โอโบกาตะ ได้รับการตำหนิจาก Riken และวงการวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นในเรื่องความรับผิดชอบ
ซึ่งความผิดพลาดครั้งนี้ได้ทำลายความน่าเชื่อถือของวงการวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นไปมากพอสมควร
ล่าสุด โยชิกิ ซาซาอิ ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอตัวเองกับราวบันไดในตึกที่ทำงานในเมืองโกเบ
ในตอนเช้าวันที่ 5 สิงหาคม 2557
ป.ล. ปัจจุบัน ดร. ฮารุโกะ โอโบกาตะ ได้รับโอกาสจาก Riken ให้ทำการทดลองเพื่อสร้าง STAP Cells ขึ้นมาอีกครั้ง
ในห้องทดลองที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด และตรวจสอบอย่างแน่นหนา เพื่อยืนยันว่า STAP Cells เป็นจริง หรือแค่เรื่องลวงโลก
แต่ ดร. โยชิกิ ซาซาอิ ก็มาฆ่าตัวตายเสียก่อน
.......................................................................
ความเห็นส่วนตัว จากที่ผมติดตามข่าวนี้มา
ทราบว่าหลังการตรวจสอบพบการกระทำผิดจริยธรรมวิจัย คนที่เกี่ยวข้องก็ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจไปหลายคน
ซึ่งทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้นเมื่อมีการอนุญาตให้ทดลองเพื่อพิสูจน์อีกครั้ง ว่า STAP Cells เป็นจริงหรือเท็จ
แต่เมื่อ 2-3 วันก่อนก็มีการโจมตี Riken ขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง
โดยสังคมวิชาการญี่ปุ่นได้จัดแคมเปญวิพากษ์และโจมตี Riken
The Molecular Biology Society of Japan (MBSJ) โจมตีอย่างรุนแรง
ถึงขนาดบอกว่าความผิดพลาดของ Riken สามารถนำไปสู่ “denial of science”
และทำให้นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นขาดความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่แค่เฉพาะคนที่ทำงานกับ Riken
จนในที่สุด ดร. โยชิกิ ซาซาอิ ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายในวันนี้ ซึ่งน่าเสียดายเพราะก่อนเกิดเรื่อง STAP cells
เขาคือหนึ่งในนักวิจัยความหวังของญี่ปุ่น
STAP Cells ::: Yoshiki Sasai นักวิจัย Riken ปลิดชีพตนเอง
การเหยียดเพศ และเหยียดสถาบันการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ ในประเทศญี่ปุ่น http://ppantip.com/topic/31771933
ที่พูดถึงกรณีการกระทำผิดจริยธรรมการวิจัยของ ฮารุโกะ โอโบกาตะ (Haruko Obokata) และผู้เขียนร่วม ที่ตีพิมพ์เผยแพร่การค้นพบสิ่งที่เรียกว่า STAP Cells ในวารสารวิทยาศาสตร์ชื่อดัง Nature
จนเกิดข้อถกเถียง โจมตีมากมาย นำไปสู่การตรวจสอบ และทาง Riken อกกมาแถลงในวันที่ 1 เมษายน 2557
ว่า ดร. ฮารุโกะ โอโบกาตะ มี "การประพฤติผิดจริยธรรมการวิจัย" จริง โดยมีการกระทำผิดหลักๆ 2 ข้อ คือ
1. การปั้นข้อมูลเท็จ (data fabrication)
2. การดัดแปลงตกแต่งรูปภาพของผลการทดลอง (image manipulation)
ดร. โยชิกิ ซาซาอิ (Yoshiki Sasai) รองผู้อำนวยการศูนย์ Center for Developmental Biology ของสถาบันวิจัย Riken ในเมืองโกเบ
ซึ่งเป็น Adviser และเป็นผู้เขียนร่วมกับ ดร. ฮารุโกะ โอโบกาตะ ได้รับการตำหนิจาก Riken และวงการวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นในเรื่องความรับผิดชอบ
ซึ่งความผิดพลาดครั้งนี้ได้ทำลายความน่าเชื่อถือของวงการวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นไปมากพอสมควร
ล่าสุด โยชิกิ ซาซาอิ ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอตัวเองกับราวบันไดในตึกที่ทำงานในเมืองโกเบ
ในตอนเช้าวันที่ 5 สิงหาคม 2557
ป.ล. ปัจจุบัน ดร. ฮารุโกะ โอโบกาตะ ได้รับโอกาสจาก Riken ให้ทำการทดลองเพื่อสร้าง STAP Cells ขึ้นมาอีกครั้ง
ในห้องทดลองที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด และตรวจสอบอย่างแน่นหนา เพื่อยืนยันว่า STAP Cells เป็นจริง หรือแค่เรื่องลวงโลก
แต่ ดร. โยชิกิ ซาซาอิ ก็มาฆ่าตัวตายเสียก่อน
.......................................................................
ความเห็นส่วนตัว จากที่ผมติดตามข่าวนี้มา
ทราบว่าหลังการตรวจสอบพบการกระทำผิดจริยธรรมวิจัย คนที่เกี่ยวข้องก็ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจไปหลายคน
ซึ่งทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้นเมื่อมีการอนุญาตให้ทดลองเพื่อพิสูจน์อีกครั้ง ว่า STAP Cells เป็นจริงหรือเท็จ
แต่เมื่อ 2-3 วันก่อนก็มีการโจมตี Riken ขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง
โดยสังคมวิชาการญี่ปุ่นได้จัดแคมเปญวิพากษ์และโจมตี Riken
The Molecular Biology Society of Japan (MBSJ) โจมตีอย่างรุนแรง
ถึงขนาดบอกว่าความผิดพลาดของ Riken สามารถนำไปสู่ “denial of science”
และทำให้นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นขาดความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่แค่เฉพาะคนที่ทำงานกับ Riken
จนในที่สุด ดร. โยชิกิ ซาซาอิ ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายในวันนี้ ซึ่งน่าเสียดายเพราะก่อนเกิดเรื่อง STAP cells
เขาคือหนึ่งในนักวิจัยความหวังของญี่ปุ่น