คงจะจำเรื่องของ Haruko Obokata นักวิจัยสาว ชื่อดังของญี่ปุ่น ที่ปลอมแปลงผลการทดลอง และตีพิมพ์ผลงานลง Nature กันได้ใช่มั้ยครับ
วันนี้ Yoshiki Sasai หนึ่งใน co-author ของ Haruka Obokata ได้ผูกคอตาย ที่บ้านพักของ ศูนย์วิจัย RIKEN ที่เมือง โกเบ
Yoshiki Sasai เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแห่งนี้ และเป็นนักวิจัย ชั้นนำของประเทศอีกด้วย
มีผลงาน วิจัยมากมาย คว้ารางวัลระดับชาติมาเยอะ
ในจดหมายลาตาย ยังได้เขียนถึง Haruko Obokata ว่า Be sure to reproduce STAP cells,
เพื่อนร่วมงานเล่าว่า โดยก่อนหน้านี้ หลังจากเกิดเรื่อง Obokata แดงออกมา
Yoshiki Sasai ได้มีอาการ เหนื่อย ทั้งกาย และใจ คล้ายคนหมดอาลัยตายอยาก
http://www.japantimes.co.jp/news/2014/08/05/national/embattled-stap-study-co-author-dies-after-apparent-suicide-bid/#.U-DbrKPzmYJ
http://online.wsj.com/articles/japanese-stem-cell-scientist-yoshiki-sasai-is-dead-1407206857
ประวัติ ส่วนตัว
Yoshiki Sasai
เกิดปี 1962 จบ PhD จากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกียวโต ในปี 1993
ทำงานที่ ม เกียวโต จนได้เป็น professor ในปี 1998
ก่อนจะย้ายไปทำงานที่ RIKEN ในปี 2003
นักวิจัยสเตมเซลล์ชาวญี่ปุ่น ผูกคอตาย เนื่องจากปัญหา ด้านการปลอมแปลงงาน
วันนี้ Yoshiki Sasai หนึ่งใน co-author ของ Haruka Obokata ได้ผูกคอตาย ที่บ้านพักของ ศูนย์วิจัย RIKEN ที่เมือง โกเบ
Yoshiki Sasai เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยแห่งนี้ และเป็นนักวิจัย ชั้นนำของประเทศอีกด้วย
มีผลงาน วิจัยมากมาย คว้ารางวัลระดับชาติมาเยอะ
ในจดหมายลาตาย ยังได้เขียนถึง Haruko Obokata ว่า Be sure to reproduce STAP cells,
เพื่อนร่วมงานเล่าว่า โดยก่อนหน้านี้ หลังจากเกิดเรื่อง Obokata แดงออกมา
Yoshiki Sasai ได้มีอาการ เหนื่อย ทั้งกาย และใจ คล้ายคนหมดอาลัยตายอยาก
http://www.japantimes.co.jp/news/2014/08/05/national/embattled-stap-study-co-author-dies-after-apparent-suicide-bid/#.U-DbrKPzmYJ
http://online.wsj.com/articles/japanese-stem-cell-scientist-yoshiki-sasai-is-dead-1407206857
ประวัติ ส่วนตัว
Yoshiki Sasai
เกิดปี 1962 จบ PhD จากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกียวโต ในปี 1993
ทำงานที่ ม เกียวโต จนได้เป็น professor ในปี 1998
ก่อนจะย้ายไปทำงานที่ RIKEN ในปี 2003