กิน "ขี้มูก" ดีต่อสุขภาพ
9 May 2017
นักวิทยาศาสตร์หลายสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สถาบัน MIT ยืนยันว่า "ขี้มูก" คือขุมทรัพย์แบคทีเรียชั้นดี ที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียตัวร้ายฝ่ายตรงข้ามที่เกาะติดตามฟัน ป้องกันการติดเชื้อในทางเดินหายใจ แผลในกระเพาะ หรือแม้แต่เชื้อ HIV
ศาสตราจารย์ Scott Napper จากมหาวิทยาลัย Saskatchewan อธิบายว่าพฤติกรรมนี้ว่า ธรรมชาติของมนุษย์ในการเลือกบริโภคสิ่งที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่คุณมีความรู้สึกอยากกินน้ำมูก ก็ควรจะปล่อยไปตามหัวใจ เชื่อในสัญชาตญาณของคุณ
Friedrich Bischinger ผู้เชี่ยวชาญด้านปอด กล่าวว่า คนที่แคะขี้มูกมากินเล่นบ่อย ๆ มีแนวโน้มสุขภาพดี มีความสุข และมีความเข้าอกเข้าใจร่างกายตัวเองได้เป็นอย่างดี การกินขี้มูก โดยเฉพาะขี้มูกแห้ง จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เพราะจมูกเป็นหนึ่งในตัวคัดกรองแบคทีเรียที่แวะเวียนเข้าสู่ร่างกาย พอจับหย่อนเข้าปากไปรวมกับที่ลำไส้ นั่นแหละ ยาขนานดีเลย
ไม่แน่นะ ต่อไปอาจจะได้เห็นเยลลี่รสขี้มูกวางขาย แต่ที่แน่ ๆ ขณะนี้ นักวิจัยกำลังทดลองยาสีฟันและหมากฝรั่งที่มีสารสกัดจากน้ำมูก
ขอบคุณข้อมูลจาก telegraph.co.uk
http://www.thansettakij.com/content/148018
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แนะกินขี้มูก ดีต่อสุขภาพ สู้ได้แม้กระทั่งเชื้อ เอดส์
9 May 2017
นักวิทยาศาสตร์หลายสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สถาบัน MIT ยืนยันว่า "ขี้มูก" คือขุมทรัพย์แบคทีเรียชั้นดี ที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียตัวร้ายฝ่ายตรงข้ามที่เกาะติดตามฟัน ป้องกันการติดเชื้อในทางเดินหายใจ แผลในกระเพาะ หรือแม้แต่เชื้อ HIV
ศาสตราจารย์ Scott Napper จากมหาวิทยาลัย Saskatchewan อธิบายว่าพฤติกรรมนี้ว่า ธรรมชาติของมนุษย์ในการเลือกบริโภคสิ่งที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่คุณมีความรู้สึกอยากกินน้ำมูก ก็ควรจะปล่อยไปตามหัวใจ เชื่อในสัญชาตญาณของคุณ
Friedrich Bischinger ผู้เชี่ยวชาญด้านปอด กล่าวว่า คนที่แคะขี้มูกมากินเล่นบ่อย ๆ มีแนวโน้มสุขภาพดี มีความสุข และมีความเข้าอกเข้าใจร่างกายตัวเองได้เป็นอย่างดี การกินขี้มูก โดยเฉพาะขี้มูกแห้ง จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เพราะจมูกเป็นหนึ่งในตัวคัดกรองแบคทีเรียที่แวะเวียนเข้าสู่ร่างกาย พอจับหย่อนเข้าปากไปรวมกับที่ลำไส้ นั่นแหละ ยาขนานดีเลย
ไม่แน่นะ ต่อไปอาจจะได้เห็นเยลลี่รสขี้มูกวางขาย แต่ที่แน่ ๆ ขณะนี้ นักวิจัยกำลังทดลองยาสีฟันและหมากฝรั่งที่มีสารสกัดจากน้ำมูก
ขอบคุณข้อมูลจาก telegraph.co.uk
http://www.thansettakij.com/content/148018