**Clarks Desert Boots**
ท่ามกลางสงครามกลางเมืองสเปนในทศวรรษที่ 1930s มีชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถพยาบาลของฝ่ายสาธารณรัฐ เขาคือนาธาน คลากส์ หลานชายผู้สืบทอดบริษัทรองเท้าคลากส์ การที่เค้ามาเป็นพนักงานขับรถพยาบาลท่ามกลางห่ากระสุนนั้นนาธานมาด้วยความสมัครใจเองล้วน ๆ นาธานอยู่ที่สเปนนานถึง 2 ปี
ภายหลังนาธานได้กลับไปยังอังกฤษโดยถูกบรรจุให้เป็นนายทหารในหน่วยพลาธิการ ไม่นานนักเค้าก็ถูกส่งไปยังพม่าและแอฟริกาเหนือ ที่ที่เป็นสมรภูมิแห่งศักดิ์ศรีระหว่างรอมเมลจากแอฟริกาคอร์ปกับมอนต์โกเมอรี่แห่งกองทัพบกอังกฤษ เมื่อนาธานมาถึงทะเลทรายในครั้งแรก เขาได้สังเกตุว่าชาวพื้นเมืองนั้นจะใช้รองเท้าหนังกลับแบบซูเอ็ด (Suede) แล้วเย็บด้วยด้ายแบบง่าย ๆ เขาถึงกับปิ๊งไอเดียของรองเท้าที่เหมาะกับทะเลทราย "ถ้าอยากเดินบนทะเลทราย รองเท้าต้องไม่แข็งปั๊กเหมือนกับบู๊ทที่อังกฤษใช้ในตอนนี้" นาธานรีบร่างแบบรองเท้าของเขาแล้วส่งกลับไปยังโรงงานคลากส์ในอังกฤษทันทีแต่ก็ไม่ได้รับเสียงตอบรับจากบริษัท โครงการรองเท้าบู๊ททะเลทรายถูกดองเค็มไว้
หลังสงครามจบ คลากส์จึงส่งแบบร่างไปให้บรรณาธิการนิตยาสารแฟชัน Esquire การโฆษณาดีทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง รองเท้าของนาธานขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าและได้ขึ้นชื่อในทำเนียบ "50 รองเท้าที่เปลี่ยนโลก" ของพิพิธภัณฑ์แฟชันและยังเป็นสินค้าขายดีของแบรนด์ Clarks จนถึงปัจจุบัน
ปล.หากมีตรงไหนผิดพลาดสามารถบอกได้ทันทีเลยนะครับ จะได้ช่วยแก้ไขกัน ถ้าชอบกดถูกใจใช่กดแนะนำเลยครับ อิอิ
เกร็ดสงครามโลก
ท่ามกลางสงครามกลางเมืองสเปนในทศวรรษที่ 1930s มีชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถพยาบาลของฝ่ายสาธารณรัฐ เขาคือนาธาน คลากส์ หลานชายผู้สืบทอดบริษัทรองเท้าคลากส์ การที่เค้ามาเป็นพนักงานขับรถพยาบาลท่ามกลางห่ากระสุนนั้นนาธานมาด้วยความสมัครใจเองล้วน ๆ นาธานอยู่ที่สเปนนานถึง 2 ปี
ภายหลังนาธานได้กลับไปยังอังกฤษโดยถูกบรรจุให้เป็นนายทหารในหน่วยพลาธิการ ไม่นานนักเค้าก็ถูกส่งไปยังพม่าและแอฟริกาเหนือ ที่ที่เป็นสมรภูมิแห่งศักดิ์ศรีระหว่างรอมเมลจากแอฟริกาคอร์ปกับมอนต์โกเมอรี่แห่งกองทัพบกอังกฤษ เมื่อนาธานมาถึงทะเลทรายในครั้งแรก เขาได้สังเกตุว่าชาวพื้นเมืองนั้นจะใช้รองเท้าหนังกลับแบบซูเอ็ด (Suede) แล้วเย็บด้วยด้ายแบบง่าย ๆ เขาถึงกับปิ๊งไอเดียของรองเท้าที่เหมาะกับทะเลทราย "ถ้าอยากเดินบนทะเลทราย รองเท้าต้องไม่แข็งปั๊กเหมือนกับบู๊ทที่อังกฤษใช้ในตอนนี้" นาธานรีบร่างแบบรองเท้าของเขาแล้วส่งกลับไปยังโรงงานคลากส์ในอังกฤษทันทีแต่ก็ไม่ได้รับเสียงตอบรับจากบริษัท โครงการรองเท้าบู๊ททะเลทรายถูกดองเค็มไว้
หลังสงครามจบ คลากส์จึงส่งแบบร่างไปให้บรรณาธิการนิตยาสารแฟชัน Esquire การโฆษณาดีทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง รองเท้าของนาธานขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าและได้ขึ้นชื่อในทำเนียบ "50 รองเท้าที่เปลี่ยนโลก" ของพิพิธภัณฑ์แฟชันและยังเป็นสินค้าขายดีของแบรนด์ Clarks จนถึงปัจจุบัน
ปล.หากมีตรงไหนผิดพลาดสามารถบอกได้ทันทีเลยนะครับ จะได้ช่วยแก้ไขกัน ถ้าชอบกดถูกใจใช่กดแนะนำเลยครับ อิอิ