สวัสดีครับสมาชิกห้องบลูแพลนเน็ตทุกคน

เมื่อปีที่แล้ว (2559) มีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศนามิเบีย แหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคย ขอแชร์เลยนะครับ

+++ ตอนที่ 1 +++
ประเทศนามิเบียตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ติดกับประเทศแอฟริกาใต้ ก่อนเคยเป็นอาณานิคมของประเทศเยอรมันและต่อมาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอาฟริกาใต้ เพิ่งได้รับเอกราชและแยกตัวออกมาเป็นอิสระเมื่อปี คศ. 1990 นี่เอง ประเทศนี้ขึ้นชื่อว่าดินแดนแห่งทุ่งหญ้าซาวานา ทะเลทรายสีทองระดับมรดกโลก มีเทือกเขาใหญ่หลากหลายรูปแบบสุดลูกหูลูกตา มีสัตว์ป่าให้เห็นทั่วไป และด้วยประชากรเพียง 2.3 ล้าน แต่มีเนื้อที่ถึง 1.6 เท่าของประเทศไทย แต่การท่องเที่ยวยังไม่เป็นแบบ mass tourism ทำให้การท่องเที่ยวค่อนข้างใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ ในแง่เศรษฐกิจ มีอุตสาหกรรมเหมืองเพชร แร่โลหะ การท่องเที่ยว ส่วนจีดีพีต่อประชากร (GDP per capita) นั้นมีค่าน้อยกว่าประเทศไทยเล็กน้อยคือเกือบๆ 6000 ดอลลาร์ ภาษาที่ใช้เป็นทางการคือภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาอื่นๆที่ใช้คือภาษาอาฟริกัน (Afrikanns) และภาษาเยอรมัน คนส่วนใหญ่ที่นี่นับถือศาสนาคริสต์ มีทั้งคนขาว คนผิวดำและชนเผ่าต่างๆ ชนเผ่าที่รู้จักกันคือ เผ่าฮิมบ้า (ผู้หญิงจะเปลือยส่วนบน) เผ่านามา และเผ่าซาน เป็นต้น

การเดินทาง:
ออกจากจากสนามบินสุวรรณภูมิ แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ มาถึงสนามบินแห่งชาติ Hosea Kutato ประเทศนามิเบียโดยใช้เวลาบินทั้งหมดประมาณ 19 ชั่วโมง ช่วงที่บินจากเมืองโดฮามานามิเบียเครื่องโล่งมากกกกกกก เราเลยใช้โอกาสนี้จองทั้งแถว นอนยาวไป...
สนามบินมีขนาดเล็กๆ ไม่มีงวงช้าง เดินลงจากเครื่องบินแล้วเดินเข้าตัวสนามบินชั้นเดียวได้เลย
ลงจากเครื่องก็อากาศสบายๆ ไม่หนาวอะไร พอดีเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพุ่มไม้ทะเลทราย -*-


หลังจากรับกระเป๋าเสร็จสรรพ เราก็เริ่มแลกเงินกันโดยอัตราแรกอยู่ที่ US $1 = NT $13.5 จากนั้นก็ซื้อซิมอินเตอร์เน็ต ได้มา 15 GB แต่ราคาตั้ง 990 NT แพงมากกกกกกกกก!!!!!!! T-T
บริเวณภายในสนามบิน


เราเช่ารถขับเอง โดยเลือกที่จะเช่ารถ 4x4 เพราะถนนบางช่วงยังไม่ได้ลาดยาง หลังรับรถเราก็ขับไปที่โรงแรมที่แรกกันเลย ที่นามิเบียจะขับรถฝั่งเดียวกับที่เมืองไทย ถนนขับง่ายแต่บางช่วงจะเป็นทางขรุขระซึ่งจะขับเร็วไม่ได้ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราใช้เวลาขับไปโรงแรมทั้งหมดประมาณ 5 ชั่วโมง โดยมีระยะทางทั้งหมดประมาณ 400 กิโลเมตร !!คำเตือน!! : ให้ระวังสัตว์ป่าข้ามถนนและตัดหน้ารถ โดยเฉพาะฝูงลิงบาบูนกับหมูป่า


ขับผ่านเมือง Windhoek (วินด์ฮุก) เราจะยังไม่ได้แวะที่นี่ตอนนี้ แต่จะแวะมาพักตอนวันกลับจร้า

Moon Mountain Lodge เป็นรีสอร์ทที่สร้างบนเชิงเขา ในเขตทะเลทราย

อีกวิวหนึ่งของ Moon Mountain Lodge


มุมจากอีกด้าน สังเกตว่าเมฆที่นี่สวยมาก...

การจองที่นี่เป็นแบบ Half board คือมีอาหารเช้า และอาหารเย็น (full course)

ตื่นเช้ามาเห็นวิวเป็นเทือกเขาและทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา ทางรีสอร์ทมีโปรแกรมพาไปเที่ยว Sand dune (อันโด่งดังไปทั่วโลกแต่คนไทยกลับไม่ค่อยรู้จัก) เนื่องจากเมื่อวานนี้ขับรถกันมาเหนื่อยมากแล้ว(เพื่อนขับ555555) เลยตัดสินใจจองทัวร์นี้ ซึ่งจะออกจากรีสอร์ทเวลาตี 5 ครึ่ง ไกด์ที่มาดูแลชื่อ J.M. Lotho
ในระหว่างพบ Oryx, Sandborg, Hyena, ม้าลาย เป็นระยะๆ

บรรยากาศยามเช้า ระหว่างทางไป Sossuvlei

ตัว Oryx (ออริกซ์) เป็นสกุลของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในตระกูลของ Antelope และ Gazelle

ขับเข้าไปบริเวณ Sossusvlei ซึ่งอยู่ในNaukluft National Park ที่นี่เต็มไปด้วยเทือกเขา sand dune เป็นแนวยาว และพื้นที่ทะเลทราย

พอไว้แค่นี้ก่อนละกันนะครับ .....
รอติดตามตอนต่อไป จะพาไปดู Sossuvlei  เทือกเขาทรายสีทอง มรดกโลกของประเทศนามิเบีย ...