จะเปิดบริษัท ขอความรู้หน่อยครับ

ออกตัวก่อนว่า ไม่เคยทำธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคล เคยแต่ขายของที่ตลาด
คำถามครับ
1. การจะเป็น บริษัทจำกัด SME แค่ตัวธุรกิจเข้าข่ายและสอดคล้องกับข้อกำหนดก็เป็นโดยอัตโนมัติ
หรือเข้าข่ายแล้วก็ต้องไปสมัครหรือลงทะเบียนด้วย (เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ของ SME )
2. การจ้างงานพนักงานแบบ เป็นครั้งคราว เช่น สัปดาห์ละ 1 วัน แต่จ้างทุกสัปดาห์ไปตลอด
และพนักงานคนนั้นมีงานประจำที่บริษัทอื่น เราต้องจัดการเรื่องประกันสังคมหรือเรื่องอย่างอื่นอีกไหม นอกจากค่าจ้าง
3. สามี-ภรรยา ที่จดทะเบียนสมรส สามารถเป็นผู้ถือหุ้นทั้งสองคน (2ใน3)
เพราะต้องการหาชื่อคนอื่นเพิ่มอีก 1 คนได้หรือไม่
4. ถ้าเราเป็นผู้ถือหุ้น และมีตำแหน่งเป็น MD เราสามารถตั้งค่าตอบแทนให้ตัวเอง เช่น เงินเดือน คอมมิชชั่น ฯลฯ
แล้วหักเป็นรายจ่ายของบริษัทได้หรือไม่
5. การมีทุนจดทะเบียน 1 ลบ. ให้เรานำเงินเข้าบัญชีของบริษัทให้ครบก่อน จากนั้น เบิกมาใช้จ่าย
โดยมีบิลหรือใบกำกับภาษีต่างๆ ให้ยอด Balance กับ 1  ลบ. ใช่ไหมครับ
6. กรณีมีสินทรัพย์อยู่ก่อนเปิดบริษัท เช่น อุปกรณ์ เคื่องมือ หรือ รถยนต์ เพื่อใช้ส่งสินค้า เราสามารถตีราคา
แล้วนำเข้าเป็นส่วนหนึ่งของทุนจดทะเบียนได้ไหมครับ ถ้าได้ มีหลักการประเมินราคาสินทรัพย์อย่างไร
แล้วเราจะระบุหรือกำหนดได้อย่างไรว่าเราจะนำสินทรัพย์นั้นเข้าเป็นทุนจดทะเบียน

อื่นๆ แนะนำเพิ่มเติมได้ครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
1. การจะเป็น บริษัทจำกัด SME แค่ตัวธุรกิจเข้าข่ายและสอดคล้องกับข้อกำหนดก็เป็นโดยอัตโนมัติ
หรือเข้าข่ายแล้วก็ต้องไปสมัครหรือลงทะเบียนด้วย (เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ของ SME )

<> การเป็น SMEs ในความหมายของกรมสรรพากร จะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนี้ :-
      1. กำไรสุทธิ 300,000 บาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี
      2. กำไรสุทธิ 300,001 - 1,000,000 บาท เสียภาษี 15%
      3. กำไรสุทธิ 1,000,001 ขึ้นไป  เสียภาษี 20%

<> ต้องเข้าเงื่อนไข 2 ข้อ คือ 1. มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว ณ วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ไม่เกิน 5 ล้านบาท
      2. มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท

<> เมื่อเข้าเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อ ก็จะได้รับสิทธิดังกล่าวอัตโนมัติ ....ไม่ต้องไปสมัครหรือลงทะเบียนใดๆ

2. การจ้างงานพนักงานแบบ เป็นครั้งคราว เช่น สัปดาห์ละ 1 วัน แต่จ้างทุกสัปดาห์ไปตลอด
และพนักงานคนนั้นมีงานประจำที่บริษัทอื่น เราต้องจัดการเรื่องประกันสังคมหรือเรื่องอย่างอื่นอีกไหม นอกจากค่าจ้าง

<> กรณีที่ต้องทำประกันสังคมให้ ใช้เฉพาะพนักงานที่เป็นพนักงานประจำ มีสัญญาจ้างแรงงานเท่านั้น
      อีกประเด็นหนึ่งพนักงานคนดังกล่าว หากมีงานประจำอยู่แล้วบริษัทเขา คงส่งประกันสังคมแล้ว (ไม่สามารถส่งซ้ำ)
      ( เงินค่าจ้างดังกล่าว ถือเป็นเงินได้ 40(2) รับจ้างทำงานให้ .... การคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย คำนวณเหมือนพนักงานทั่วไป)

3. สามี-ภรรยา ที่จดทะเบียนสมรส สามารถเป็นผู้ถือหุ้นทั้งสองคน (2ใน3) เพราะต้องการหาชื่อคนอื่นเพิ่มอีก 1 คนได้หรือไม่

<> ได้ครับ ไม่มีข้อห้าม (ส่วนใหญ่ทำแบบนี้อยู่แล้ว)

4. ถ้าเราเป็นผู้ถือหุ้น และมีตำแหน่งเป็น MD เราสามารถตั้งค่าตอบแทนให้ตัวเอง เช่น เงินเดือน คอมมิชชั่น ฯลฯ
แล้วหักเป็นรายจ่ายของบริษัทได้หรือไม่

<> เงินเดือน สามารถทำได้.... แต่ต้องไม่เกินสมควร  .... ส่วนค่าคอมมิชชั่น ยังไม่ confirm....
     [ อ้างถึง : รายจ่ายต้องห้าม ตามมาตรา 65 ตรี(8) เงินเดือนของผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนเฉพาะส่วนที่จ่ายเกินสมควร ]

5. การมีทุนจดทะเบียน 1 ลบ. ให้เรานำเงินเข้าบัญชีของบริษัทให้ครบก่อน จากนั้น เบิกมาใช้จ่าย
โดยมีบิลหรือใบกำกับภาษีต่างๆ ให้ยอด Balance กับ 1  ลบ. ใช่ไหมครับ

<> ถูกต้องครับ.... อนึ่งมีทุนจดทะเบียน 1 ลบ. สามารถชำระเพียง 25% (250,000 บาท) ก่อนก็ได้

6. กรณีมีสินทรัพย์อยู่ก่อนเปิดบริษัท เช่น อุปกรณ์ เคื่องมือ หรือ รถยนต์ เพื่อใช้ส่งสินค้า เราสามารถตีราคา
แล้วนำเข้าเป็นส่วนหนึ่งของทุนจดทะเบียนได้ไหมครับ ถ้าได้ มีหลักการประเมินราคาสินทรัพย์อย่างไร
แล้วเราจะระบุหรือกำหนดได้อย่างไรว่าเราจะนำสินทรัพย์นั้นเข้าเป็นทุนจดทะเบียน

<> ควรจะทำเป็นการซื้อ-ขาย  (เพื่อตัดปัญหาความยุ่งยาก)  ส่วนราคา ให้ใช้การตีตามราคาตลาด....
     ( เช่น หาราคาของมือสองตามเว็ป แล้วนำมาแนบประกอบการบันทึกบัญชี )

<> กรณีรถยนต์ ถ้าไม่ทำการซื้อ-ขาย ...อาจจะใช้การเช่าจากกรรมการ(เจ้าของ) ก็ได้.... ซึ่งสามารถนำค่าเช่ามาเป็นค่าใช้จ่ายได้
      ( แต่เจ้าของ ก็ต้องนำค่าเช่าไปรวมเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่