ตอนที่ 17 Part 2
"ไปให้พ้นเลย ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน"
"ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ดีกันนะ"
"ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลย"
"ฮึ ใช่ซิ ฉันมันไม่ใช่คุณเจนอะไรของนายนี่ ไปซิ ต่อไปนี้ก็ไปตามเขามาดูแลนายแล้วกัน"
"ดีซะอีก ต่อไปนี้ฉันก็จะได้ไม่ต้องเป็นเบ้มาคอยรับใช้นาย"
"กลับบ้านไปได้แล้ว ไม่ต้องมาทำหน้ามึนเลย ฉันจะนอนแล้ว ง่วง"
"อะไรกันเนี่ย ใส่เอาฉอดๆๆ ไม่ฟังกันบ้างเลย"
"ขอโทษครับ"
"อย่าโกรธฉันเลยนะ ฉันแค่อยากเห็นเวลาเธอโกรธน่ะ เวลาเธอโกรธแล้วน่ารักเป็นบ้าเลย"
"หน้าตอนโกรธเนี่ยนะน่ารัก บ้าหรือเปล่า"
"ใช่แล้ว เธอรู้มั้ยว่าหน้าเธอตอนโกรธน่ะ มันน่ารักขนาดไหน"
คนบ้าพูดอะไรก็ไม่รู้ เขินหมดเลย พอโดนเขาเอ่ยชมซึ่งๆ หน้าก็ทำเอาณมนเขินจนปั้นหน้าไม่ถูกเลย
คนบ้า ผีเข้าผีออก นึกจะแกล้งก็แกล้ง นึกจะชมก็ชมซึ่งๆ หน้า
"ฉันไปนอนดีกว่า ขืนคุยกับนายต่อไปฉันคงจะเพี้ยนไปกับนายแน่ กลับบ้านไปได้แล้ว ตาเพี้ยน"
"เมื่อวานสารวัตรมาว่ายังไงบ้างล่ะลูก"
"สารวัตรมาหรือคะคุณพี่"
"ค่ะ สารวัตรบอกว่ายังจับตัวคนร้ายไม่ได้เลยค่ะ"
"แต่ว่านายวัสเขาจะเข้าไปให้รายละเอียดเกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายที่โรงพักวันนี้ค่ะ"
"ระหว่างนี้ลูกก็หมั่นไปดูแลพี่เขาหน่อยนะ พี่เขามีบุญคุณกับพ่อและแม่มากนะ"
"เข้าใจไหมลูก ถ้าพ่อวัสเขาหายเป็นปกติเมื่อไหร่ พ่อก็คงจะหาฤกษ์แต่งงานระหว่างหนูกับตาวัสให้เร็วที่สุด"
"เรื่องนั้นคุณพี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ น้องจัดการไปดูฤกษ์กับหลวงพ่อท่านเรียบร้อยแล้วค่ะ ว่าจะบอกคุณพี่กับลูกอยู่พอดี"
"เอ่อ...คือคุณพ่อคุณแม่ค่ะ แต่มน..."
"ไม่ต้องแต่แล้วจ๊ะลูก ฤกษ์นี้แหละดีแล้วลูก"
"ฤกษ์ดีซะด้วย วันที่ 9 เดือน 9 จ๊ะ"
"อืม ตกลงตามนี้แล้วกันนะ"
"นะลูกนะ ฤกษ์นี้แแหละดีแล้ว แต่งช้าแต่งเร็วก็ต้องแต่งกันอยู่ดี พ่อไม่อยากยืดเวลาออกไปอีกแล้วนะลูก"
"พี่ฝากคุณหญิงจัดการทีนะ ช่วงนี้พี่อาจจะยุ่งๆที่บริษัทฯ"
"ค่ะคุณพี่"
"เอ่อ...คุณพ่อคะ มนว่ามันเร็วไปนะคะ ไม่เห็นต้องรีบร้อนขนาดนี้เลยนี่คะ"
"ไม่เร็วหรอกลูก อีกอย่างแม่กับคุณอากมลาก็บอกกับญาติของเราแล้วก็ของพ่อวัสเรื่องจะมีงานแต่งไปแล้วด้วย ยังไงก็เลื่อนไม่ได้"
"แถมแม่ก็ให้ทางร้านเขาส่งแบบการ์ดแต่งงานมาให้แม่ดูแล้วด้วยและของชำร่วยแม่กับคุณอากมลาก็เลือกแบบไว้เรียบร้อยแล้ว"
"ถ้าขืนเลื่อนงานแต่งออกไปนะ แม่อายเขาตายเลย"
"ก็เอาตามที่คุณหญิงเห็นสมควรก็แล้วกันนะ"
"ช่วงนี้พี่อาจจะยุ่งๆ ว่าจะจัดการอะไรให้มันเรียบร้อยสักที จะได้หมดห่วง"
"ส่วนลูกมน ทำตามที่แม่เค้าบอกนะลูก พ่อกับแม่หวังดีกับลูก หากพ่อกับแม่เป็นอะไรไป ลูกจะได้มีพ่อวัสคอยดูแล และพ่อกับแม่ก็จะได้หมดห่วงสักที"
"ค่ะ คุณพ่อ"
"ถ้าอย่างนั้นแม่ลูกก็คุยกันไปก่อนนะ พ่อขอตัวไปทำงานก่อนล่ะ"
"งั้นถ้าทานข้าวเสร็จ เราไปดูแบบการ์ดกับตัวอย่างของชำร่วยกันนะลูก"
"ค่ะคุณแม่" หญิงสาวตอบตกลงในที่สุด เพราะคงไปดึงดันทัดทานอะไรไม่ได้อีก ได้แต่ก้มหน้ายอมรับในคำตัดสินของคนทั้งสอง แต่ในใจก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
"ทางร้านเขาออกแบบการ์ดแต่งงานสวยเก๋จังเลยนะลูก"
"คุณแม่ นี่เราเชิญแขกเกือบพันคนเลยนะคะ ทำไมรายชื่อแขกถึงได้มากมายขนาดนี้ล่ะคะ"
"ไม่ใช่แขกของบ้านเราเท่านั้นหรอกจ๊ะ เป็นแขกของทางบ้านพ่อวัสเขาครึ่งหนึ่งจ๊ะ"
"แหม งานแต่งของลูกสาวคนเดียวของตระกูลไตรวิชญ์สกุลกับลูกชายทายาทพันล้านอย่างตระกูลโฆษิตโภคินันท์ทั้งทีน้อยกว่านี้ได้ยังไงจ๊ะ นี่แม่กับคุณกมลาก็เชิญเฉพาะแขกที่สนิทสนมกันเท่านั้นนะจ๊ะ"
"ค่ะ คุณแม่จัดการกันเสร็จสรรพ มนคงไม่ต้องทำอะไรแล้วมั้งคะ"
"แหม ลูกก็พูดเกินไป"
"แหม ก็คุณแม่กับคุณอาจัดการซะหมดทุกอย่าง จนมนอดสงสัยไม่ได้ว่างานแต่งใครกันแน่"
"แล้วนี่มนต้องทำอะไรบ้างคะ"
"ไม่ต้องทำอะไรหรอกจ๊ะ แค่เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดก็พอแล้วจ๊ะ
"ค่ะคุณแม่"
"ว่าแต่ว่า วันนี้หนูจะเข้าไปดูพ่อวัสเขาหรือเปล่า แม่ฝากหนูดูแลพ่อวัสแทนแม่กับพ่อด้วยนะ ตอนนี้คุณอากมลกับคุณอากมลาท่านบินไปดูธุระกิจแถบดูไบโน้นแน่ะ ตาวัสก็เลยไม่มีใครดูแล คงต้องฝากหนูด้วยนะจ๊ะ เพราะอีกหน่อยพ่อวัสเขาก็จะต้องมาเป็นสามีของลูกในอนาคต คนเราจะรู้ว่าใครรักใครห่วงเราก็ตอนป่วยไข้นี่แหละจ๊ะ"
"ค่ะ"
"ไหวไหมเนี่ย ความจริงนายน่าจะนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกสักหน่อยนะ ไม่รู้ว่าจะรีบออกมาทำไม" ณมนกล่าวด้วยความเป็นห่วง
"เอ๊ย..นี่ฉันต้องทายาให้นายอีกแล้วหรอ" คนบ้าเอ๊ย มาถอดเสื้อโชว์หุ่นล่ำๆ ทำไมเนี่ย รู้ไหมฉันจะบ้าตายเพราะนายอยู่แล้วนะ ไม่ๆๆๆ ณมนเธอต้องไม่ตื่นเต้น เธอต้องทำตัวให้เป็นปกตินะ เดี๋ยวนายนั่นจะคิดว่าเธอหวั่นไหวไปกับเขาน่ะ เธอต้องตั้งสติดีๆ' ณมนบอกกับตัวเองในใจ
"ทำไม...เบื่อที่จะมาคอยดูและฉันแล้วใช่ไหม แล้วนี่ใจคอเธอจะให้ฉันนอนอยู่แต่ที่โรงพยาบาลอย่างเดียวเลยหรือไง ไม่ล่ะฉันนอนพักมามากพอแล้ว อีกอย่างตอนนี้ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ทำไมหรือ เป็นห่วงฉันหรือ" เขาพูดพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาจนใกล้กับใบหน้าของณมน
"ก็... ก็ถ้านายเป็นอะไรไป ฉันก็..ก็ ก็คงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต เพราะว่านายอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยคุณพ่อกับคุณแม่ของฉัน ในฐานะที่ฉันเป็นลูก ฉันก็ต้องทำอะไรเพื่อตอบแทนบุญคุณนายไง ไม่อย่างนั้นจ้างให้ฉันก็ไม่มาหรอก" ณมนแกล้งเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนัก
"ดี งั้นก็ช่วยดูแลผู้มีพระคุณคนนี้ให้ดีๆ หน่อยนะ" เขาพูดพลางส่งสายตาแบบมีเลศนัยแอบแฝงมายังณมน
"นี่...ทาแผลให้ฉันหน่อยซิ ฉันทาไม่ถนัดน่ะ"
"เอ๊ย...บ้า ไม่เอา นายก็ทาเองซิ ฉันไม่ทาให้หรอก"
"น่านะ ทาให้ฉันหน่อย ฉันทาเองไม่ได้ เธอก็เห็น นะทาให้หน่อยนะ ก็ไหนเธอบอกว่าจะตอบแทนผู้มีพระคุณคนนี้อย่างดียังไงล่ะ แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้"
"แหม...ได้ทีทวงบุญคุณเลยนะ"
"ก็มีพยาบาลสวยขนาดนี้ มันก็ต้องอ้อนกันบ้างซิ ถ้าเธอมาดูแลฉันอย่างนี้ทุกวัน ฉันอาจจะหายเร็วขึ้นก็ได้"
"อย่าเว่อร์ไปหน่อยเลย" ณมนเอ่ยอย่างขัดเขิน
"มาซิ ทาให้ก็ได้ พูดมากจริงๆเลยนายเนี่ย"
ติดตามอ่าน "อุบัติรัก สลัดลาย" (นิยายมโน) ในตอนที่ 17 Part 3
"อุบัติรัก สลัดลาย" (นิยายมโน) ตอนที่ 17 Part 2 นำแสดงโดย พี่ตุ้ย - ขวัญ
"ไปให้พ้นเลย ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน"
"ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ดีกันนะ"
"ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลย"
"ฮึ ใช่ซิ ฉันมันไม่ใช่คุณเจนอะไรของนายนี่ ไปซิ ต่อไปนี้ก็ไปตามเขามาดูแลนายแล้วกัน"
"ดีซะอีก ต่อไปนี้ฉันก็จะได้ไม่ต้องเป็นเบ้มาคอยรับใช้นาย"
"กลับบ้านไปได้แล้ว ไม่ต้องมาทำหน้ามึนเลย ฉันจะนอนแล้ว ง่วง"
"อะไรกันเนี่ย ใส่เอาฉอดๆๆ ไม่ฟังกันบ้างเลย"
"ขอโทษครับ"
"อย่าโกรธฉันเลยนะ ฉันแค่อยากเห็นเวลาเธอโกรธน่ะ เวลาเธอโกรธแล้วน่ารักเป็นบ้าเลย"
"หน้าตอนโกรธเนี่ยนะน่ารัก บ้าหรือเปล่า"
"ใช่แล้ว เธอรู้มั้ยว่าหน้าเธอตอนโกรธน่ะ มันน่ารักขนาดไหน"
คนบ้าพูดอะไรก็ไม่รู้ เขินหมดเลย พอโดนเขาเอ่ยชมซึ่งๆ หน้าก็ทำเอาณมนเขินจนปั้นหน้าไม่ถูกเลย
คนบ้า ผีเข้าผีออก นึกจะแกล้งก็แกล้ง นึกจะชมก็ชมซึ่งๆ หน้า
"ฉันไปนอนดีกว่า ขืนคุยกับนายต่อไปฉันคงจะเพี้ยนไปกับนายแน่ กลับบ้านไปได้แล้ว ตาเพี้ยน"
"เมื่อวานสารวัตรมาว่ายังไงบ้างล่ะลูก"
"สารวัตรมาหรือคะคุณพี่"
"ค่ะ สารวัตรบอกว่ายังจับตัวคนร้ายไม่ได้เลยค่ะ"
"แต่ว่านายวัสเขาจะเข้าไปให้รายละเอียดเกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายที่โรงพักวันนี้ค่ะ"
"ระหว่างนี้ลูกก็หมั่นไปดูแลพี่เขาหน่อยนะ พี่เขามีบุญคุณกับพ่อและแม่มากนะ"
"เข้าใจไหมลูก ถ้าพ่อวัสเขาหายเป็นปกติเมื่อไหร่ พ่อก็คงจะหาฤกษ์แต่งงานระหว่างหนูกับตาวัสให้เร็วที่สุด"
"เรื่องนั้นคุณพี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ น้องจัดการไปดูฤกษ์กับหลวงพ่อท่านเรียบร้อยแล้วค่ะ ว่าจะบอกคุณพี่กับลูกอยู่พอดี"
"เอ่อ...คือคุณพ่อคุณแม่ค่ะ แต่มน..."
"ไม่ต้องแต่แล้วจ๊ะลูก ฤกษ์นี้แหละดีแล้วลูก"
"ฤกษ์ดีซะด้วย วันที่ 9 เดือน 9 จ๊ะ"
"อืม ตกลงตามนี้แล้วกันนะ"
"นะลูกนะ ฤกษ์นี้แแหละดีแล้ว แต่งช้าแต่งเร็วก็ต้องแต่งกันอยู่ดี พ่อไม่อยากยืดเวลาออกไปอีกแล้วนะลูก"
"พี่ฝากคุณหญิงจัดการทีนะ ช่วงนี้พี่อาจจะยุ่งๆที่บริษัทฯ"
"ค่ะคุณพี่"
"เอ่อ...คุณพ่อคะ มนว่ามันเร็วไปนะคะ ไม่เห็นต้องรีบร้อนขนาดนี้เลยนี่คะ"
"ไม่เร็วหรอกลูก อีกอย่างแม่กับคุณอากมลาก็บอกกับญาติของเราแล้วก็ของพ่อวัสเรื่องจะมีงานแต่งไปแล้วด้วย ยังไงก็เลื่อนไม่ได้"
"แถมแม่ก็ให้ทางร้านเขาส่งแบบการ์ดแต่งงานมาให้แม่ดูแล้วด้วยและของชำร่วยแม่กับคุณอากมลาก็เลือกแบบไว้เรียบร้อยแล้ว"
"ถ้าขืนเลื่อนงานแต่งออกไปนะ แม่อายเขาตายเลย"
"ก็เอาตามที่คุณหญิงเห็นสมควรก็แล้วกันนะ"
"ช่วงนี้พี่อาจจะยุ่งๆ ว่าจะจัดการอะไรให้มันเรียบร้อยสักที จะได้หมดห่วง"
"ส่วนลูกมน ทำตามที่แม่เค้าบอกนะลูก พ่อกับแม่หวังดีกับลูก หากพ่อกับแม่เป็นอะไรไป ลูกจะได้มีพ่อวัสคอยดูแล และพ่อกับแม่ก็จะได้หมดห่วงสักที"
"ค่ะ คุณพ่อ"
"ถ้าอย่างนั้นแม่ลูกก็คุยกันไปก่อนนะ พ่อขอตัวไปทำงานก่อนล่ะ"
"งั้นถ้าทานข้าวเสร็จ เราไปดูแบบการ์ดกับตัวอย่างของชำร่วยกันนะลูก"
"ค่ะคุณแม่" หญิงสาวตอบตกลงในที่สุด เพราะคงไปดึงดันทัดทานอะไรไม่ได้อีก ได้แต่ก้มหน้ายอมรับในคำตัดสินของคนทั้งสอง แต่ในใจก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
"ทางร้านเขาออกแบบการ์ดแต่งงานสวยเก๋จังเลยนะลูก"
"คุณแม่ นี่เราเชิญแขกเกือบพันคนเลยนะคะ ทำไมรายชื่อแขกถึงได้มากมายขนาดนี้ล่ะคะ"
"ไม่ใช่แขกของบ้านเราเท่านั้นหรอกจ๊ะ เป็นแขกของทางบ้านพ่อวัสเขาครึ่งหนึ่งจ๊ะ"
"แหม งานแต่งของลูกสาวคนเดียวของตระกูลไตรวิชญ์สกุลกับลูกชายทายาทพันล้านอย่างตระกูลโฆษิตโภคินันท์ทั้งทีน้อยกว่านี้ได้ยังไงจ๊ะ นี่แม่กับคุณกมลาก็เชิญเฉพาะแขกที่สนิทสนมกันเท่านั้นนะจ๊ะ"
"ค่ะ คุณแม่จัดการกันเสร็จสรรพ มนคงไม่ต้องทำอะไรแล้วมั้งคะ"
"แหม ลูกก็พูดเกินไป"
"แหม ก็คุณแม่กับคุณอาจัดการซะหมดทุกอย่าง จนมนอดสงสัยไม่ได้ว่างานแต่งใครกันแน่"
"แล้วนี่มนต้องทำอะไรบ้างคะ"
"ไม่ต้องทำอะไรหรอกจ๊ะ แค่เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดก็พอแล้วจ๊ะ
"ค่ะคุณแม่"
"ว่าแต่ว่า วันนี้หนูจะเข้าไปดูพ่อวัสเขาหรือเปล่า แม่ฝากหนูดูแลพ่อวัสแทนแม่กับพ่อด้วยนะ ตอนนี้คุณอากมลกับคุณอากมลาท่านบินไปดูธุระกิจแถบดูไบโน้นแน่ะ ตาวัสก็เลยไม่มีใครดูแล คงต้องฝากหนูด้วยนะจ๊ะ เพราะอีกหน่อยพ่อวัสเขาก็จะต้องมาเป็นสามีของลูกในอนาคต คนเราจะรู้ว่าใครรักใครห่วงเราก็ตอนป่วยไข้นี่แหละจ๊ะ"
"ค่ะ"
"ไหวไหมเนี่ย ความจริงนายน่าจะนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกสักหน่อยนะ ไม่รู้ว่าจะรีบออกมาทำไม" ณมนกล่าวด้วยความเป็นห่วง
"เอ๊ย..นี่ฉันต้องทายาให้นายอีกแล้วหรอ" คนบ้าเอ๊ย มาถอดเสื้อโชว์หุ่นล่ำๆ ทำไมเนี่ย รู้ไหมฉันจะบ้าตายเพราะนายอยู่แล้วนะ ไม่ๆๆๆ ณมนเธอต้องไม่ตื่นเต้น เธอต้องทำตัวให้เป็นปกตินะ เดี๋ยวนายนั่นจะคิดว่าเธอหวั่นไหวไปกับเขาน่ะ เธอต้องตั้งสติดีๆ' ณมนบอกกับตัวเองในใจ
"ทำไม...เบื่อที่จะมาคอยดูและฉันแล้วใช่ไหม แล้วนี่ใจคอเธอจะให้ฉันนอนอยู่แต่ที่โรงพยาบาลอย่างเดียวเลยหรือไง ไม่ล่ะฉันนอนพักมามากพอแล้ว อีกอย่างตอนนี้ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ทำไมหรือ เป็นห่วงฉันหรือ" เขาพูดพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาจนใกล้กับใบหน้าของณมน
"ก็... ก็ถ้านายเป็นอะไรไป ฉันก็..ก็ ก็คงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต เพราะว่านายอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยคุณพ่อกับคุณแม่ของฉัน ในฐานะที่ฉันเป็นลูก ฉันก็ต้องทำอะไรเพื่อตอบแทนบุญคุณนายไง ไม่อย่างนั้นจ้างให้ฉันก็ไม่มาหรอก" ณมนแกล้งเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนัก
"ดี งั้นก็ช่วยดูแลผู้มีพระคุณคนนี้ให้ดีๆ หน่อยนะ" เขาพูดพลางส่งสายตาแบบมีเลศนัยแอบแฝงมายังณมน
"นี่...ทาแผลให้ฉันหน่อยซิ ฉันทาไม่ถนัดน่ะ"
"เอ๊ย...บ้า ไม่เอา นายก็ทาเองซิ ฉันไม่ทาให้หรอก"
"น่านะ ทาให้ฉันหน่อย ฉันทาเองไม่ได้ เธอก็เห็น นะทาให้หน่อยนะ ก็ไหนเธอบอกว่าจะตอบแทนผู้มีพระคุณคนนี้อย่างดียังไงล่ะ แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้"
"แหม...ได้ทีทวงบุญคุณเลยนะ"
"ก็มีพยาบาลสวยขนาดนี้ มันก็ต้องอ้อนกันบ้างซิ ถ้าเธอมาดูแลฉันอย่างนี้ทุกวัน ฉันอาจจะหายเร็วขึ้นก็ได้"
"อย่าเว่อร์ไปหน่อยเลย" ณมนเอ่ยอย่างขัดเขิน
"มาซิ ทาให้ก็ได้ พูดมากจริงๆเลยนายเนี่ย"
ติดตามอ่าน "อุบัติรัก สลัดลาย" (นิยายมโน) ในตอนที่ 17 Part 3