อันฟง รักสุดแผ่นดิน (มังกร) แผ่นฟ้า (สยาม นครแห่งความหลัง)

กระทู้คำถาม
ตอนที่ 2 คนช่างฝัน กับ สาวน้อยในฝัน




"กัสเอ๋ย กัสอยู่หรือเปล่า ออกมาหาพี่หน่อย" เสียงเรียกอันคุ้นเคยดังแว่วมาแต่ไกล ประตูไม้สีเทาถูกเปิดโดย...เจ้าของร่างบางที่เป็นหญิงวัยกลางคน หน้าตาค่อนไปทางหมวย เชื้อชาติลูกครึ่งไทยจีน ท่าทางใจดี มีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้าเสมอ

"อ้าวววว พี่หลิน หายไปไหนมาหลายวัน" กัสถามอย่างดีใจ

"อ๋อ! พี่ไปสนามบินมา"

"สนามบิน ไปทำไมเหรอ" เขาถามสีหน้าฉงน ใบหน้าขาวขมวดคิ้วอย่างสงสัย

"ก็พี่ไปต้อนรับดาราจีนมา นี่ๆ พ่อกัส เค้าว่าสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์มาเชียวแน่ะ" หลินซื่อทำท่าทางตื่นเต้นดีใจ เธอนึกไปถึงเหตุการณ์ที่ได้เจอกับ "อันฟง" ดาราจีนชื่อดัง ที่สนามบินนานาชาติเมื่อคืนก่อน ยังอิ่มเอมใจสุดๆ ส่วนกัสได้แต่ยิ้มๆ เบ้ปากไปตามประสา แต่เขาเองรู้สึกอึ้งๆ ที่รอบตัวตอนนี้ ใครๆ ก็พากันพูดถึงแต่ดาราจีนคนนี้

"ฮ่าๆ ตามสบายเลยพี่ กัสไม่ค่อยสนใจเรื่องดารา ก็เลยงั้นๆ ขนาดดาราไทยยังไม่ค่อยรู้จักเลย แล้วนี่ดาราจีน...ไกลไปมั้ย"  กัสหัวเราะชอบอกชอบใจ เพื่อนรุ่นพี่ ศิษย์เก่าโรงเรียนมัธยมคนนี้ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี หรือเรียนจบแล้ว เธอก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิมคือบ้าดารา!

"กัส พี่มีของมาฝากเธอด้วย" หลินซื่อรีบหยิบซองกระดาษสีชมพูที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของตัวเองส่งให้กัส แต่....

"เอาวางไว้ตรงไหนก่อนเลยพี่ เดี๋ยวกัสว่างแล้วจะแกะนะ ขอบใจมาก สำหรับน้ำใจ"



*********************************************



บริเวณสวนหาดจันทร์เสี้ยว เพื่อนๆ ของกัส กำลังนั่งตั้งวงสังสรรค์จิบเหล้าไวน์และขนม ล้อมกลุ่ม พูดคุยกันอย่างสนุก

"คนอย่างไอ้กัส มันจะทนเป็นเบี้ยล่างผู้หญิงได้แค่ไหนกันวะ แกว่าไหมไอ้ป๋อง"  เจ้ามีน เพื่อนสนิทของกัสคนหนึ่งเอ่ยขึ้น แล้วเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ คนอื่น ก็ดังตามเป็นพรวน

"นั่นน่ะสิ รักอิสระปานนั้น มันคงจะเหมือนหมาเฝ้าบ้านสินะ คอยทำตามใจยัยมายด์ต้อยๆ ข้าเห็นแล้วตลกว่ะ" ป๋องแป๋งเพื่อนอีกคนช่วยออกความเห็น

"ใช่ๆ เห็นด้วยนะ เป็นข้าหน่อยไม่ได้ อยู่ไกลแฟนขนาดนี้ หน้าตาดีก็ขนาดนั้น จะแอบเอาอีหนูไปกกในรีสอร์ทให้รู้แล้วรู้รอดไปสิวะ" อ้อมใจช่วยเสริม เล่นเอาเพื่อนๆ คนอื่น ฮากันครืน

"เฮ้ย! แบบนั้นคงไม่เหลือนะ ยัยมายด์น่ะดุขนาดนั้น ไอ้กัสคงกลายเป็นศพลอยทะเล มาประจานให้พวกเราดูแน่ๆ ฮ่าๆ" เสียงหัวเราะดังเฮฮา ไล่หลังตามมาอีก เจ้าตัว คนถูกกล่าวถึง ที่อยู่กระท่อมไม้ไผ่หลังนอกชานถัดไป ดูเหมือนจะได้ยิน แต่ก็ไม่ได้ใคร่จะสนใจ ยังคงนั่งเอกขเนกรับลม อ่านหนังสือนิยายฝรั่งต่อไปอย่างสบายอารมณ์

"ไอ้พวกนี้ นี่มันเป็นอะไร ตกพลบกรึ่มๆ เป็นไม่ได้ ชอบตั้งวงกินเหล้า นินทาเพื่อน เฮ้ออออ..."

กัสถอนใจ ส่ายหน้าปลงๆ รู้สึกขำๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร เพื่อนสนิทกลุ่มนี้ เวลาอยู่รวมกัน ชอบใส่ใจเม้าท์ฮาแต่เรื่องของเขา จนเขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดาวประจำกลุ่ม

"เฮ้ย! ข้าไม่ใช่ดารานะโว้ย ระวังปากบ้างพวกแก เดี๋ยวก็เขวี้ยงด้วยมะพร้าว!" กัสเดินตรงมายันนงกลุ่มเพื่อนๆ ทำท่าทางทีเล่นทีจริง แกล้งดุแกล้งโกรธ เขาหัวเราะก้องในลำคออย่างชอบใจ ตามประสาชาวเลผู้อารมณ์ดี ที่มีชีวิตอยู่ติดกับธรรมชาติและความสวยงามของทะเลและหาดทราย เกลียวคลื่น

"ทำไมวันนี้พวกเอ็งดวดเหล้ากันแต่ชิงพลบวะ ปกติต้องย่ำราตรีไม่ใช่เหรอ" กัสพูดพลาง ย่อตัวนั่งลงบนเทินมะพร้าวใกล้ๆกันกับกลุ่มเพื่อนๆของเขา  คว้าไวน์ขาวมาจิบลงคออย่างสบายอารมณ์ อีกมือหนึ่งถือปลาทะเลปิ้งอบเกลือ ส่งกลิ่นหอมฉุย โดยมีเพื่อนๆ คอยเติมน้ำจิ้มให้

"เฮ้ย! มันต้องอย่างนี้สิวะ มีชีวิตอยู่ติดทะเล มีไวน์นุ่มๆเข้าคอกินคู่กับปลาสดใหม่ แถมด้วยสายลมเย็นๆ คลอเคล้าคลื่น ชีวิตนี้ช่างสุขซะจริง บายจังฮู้....." กัสเปรยอย่างอารมณ์ดีเสียงดัง สายตาทอดจับไปที่เวิ้งน้ำสุดขอบฟ้าทะเลจรดเมฆคราม มองเห็นเกาะหนูเกาะแมว และเรือประมงอยู่ไกลลิบ เขาโบกมือเรียกอย่างคุ้นเคย ไม่นานเรือก็จอดเทียบฝั่ง

"ไง พ่อหนุ่มน้อย วันนี้จะอุดหนุนลุงสักกี่แหกันล่ะ กุ้งกับหมึกๆ สดๆ ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลยนะ" ลุงชรานักประมง ผู้ค้าอาหารทะเลสดเจ้าประจำที่เขาคุ้นเคยดี พูดภาษาใต้ชัดแจ๋ว เขวี้ยงสมอเรือปักไว้ที่หลักอย่างชำนาญ

"แหมๆ ซื้อบ่อยๆ มีแถมทุกที ลุงใจดีจัง แถมขยัน ทำงานไม่เคยหยุด" กัสชม

"ทำไงได้ล่ะ ไอ้หนู ลุงไม่มีลูกมีหลานเลี้ยงนิ ถ้าไม่ทำตุนไว้ตอนนี้ ยิ่งแก่ตัวไปกว่านี้จะเอาไรกิน"

"โธ่! ลุงชมเก๊าะ กัสบอกให้มาช่วยขายมะพร้าวกับกัสก็ไม่เอา สบายกว่าเป็นไหนๆ ไม่ต้องออกเรือให้เจอพายุ หัวรุ่งมาเดี๋ยวก็มีเรือพ่อค้าในเมืองมาจอดรับไปขายละ"

"ตามสบายเลยพ่อหนุ่ม ลุงไม่ถนัดลองแลมะป๊าว" ลุงชมยิ้มให้เขาอย่างใจดี มือกร้านๆ ของแกพยายามเลือกเฟ้นกุ้งและหมึกที่ดี ตัวใหญ่ และเนื้อแน่นที่สุดในเรือให้กับเจ้ากัสและพรรคพวก

"เอ้า! พวกมาเบิ่งกับแกล้มเร้ว เดี๋ยวแหนี้ข้าเลี้ยงเอง เอาไปเลย คนละตัวสองตัว"

"ขอบใจมากนะ เด็กๆ ทั้งหลาย อุดหนุนกันทุกวัน ลุงก็แถมให้ทุกวัน" ลุงชมกล่าวอย่างปลื้มใจ ก่อนจะขอตัว ตีหัวเรือกลับเข้าฝั่ง ตามประสาของแก

"ไอ้กัส มันอารมณ์ดีว่ะวันนี้ พวกเราเลยได้กินของดี เพราะแฟนมันกำลังเหาะมาจากกรุงเทพ ฮ่าๆ" ป๋องแป๋งเอ่ยปากแซว หยิบหมึกไปย่างในเตาแล้วส่งให้กัสกินอย่างเอร็ดอร่อย

"กูรู้แล้ว ได้ยินมาแต่ไกล พวกนินทากูแต่พลบ จะตบให้ฟันหัก เขินนะโว้ย" กัสหน้าแดงระเรื่อ แต่พวกเพื่อนๆ ยังไม่หยุด ขันและแซวต่อไปอีก

"เห๊อะ! อะไรมันจะหลงขนาดนั้นวะ ถามจริงเหอะ ไปใส่มนต์เสน่ห์ไรวะอ่ะไอ้กัส กูล่ะบาดใจแทนไอ้อ๊อดจริงๆ น่าสงสาร" ปลีพูดบ้าง

"จะไปสงสารมันทำไมวะไอ้ปลี คนขี้อิจฉาออก เขาคงไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับคนอย่างไอ้กัสและพวกเราหรอก อีเดียดออกปานนั้น" มีนเอ่ยขึ้น

"ใช่ๆ เห็นด้วยกับไอ้มีน ข้าเนี่ยเกลียดขี้หน้ามันเข้าไส้ ไอ้คนอ้อล้อ" อ้อมช่วยเสริม กัสถอนหายใจหนักอก แล้วจึงเอ่ยความนัยบ้าง

"จริงๆ ข้าเองก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับมันหรอก เรียนด้วยกันแท้ๆ ยังจะมาทำก็องแก็งใส่ข้าอีก บอกตรงๆ โครตเจ็บใจ" กัสส่ายหน้าอย่างเซ็งๆ

"มันน่ะขี้ฮกที่หนึ่ง บอกว่าไอ้กัสไปแย่งผู้สาวมัน คนอย่างไอ้กัสเนี่ยนะจะแย่ง พวกข้ารู้ดีว่ะ ว่าเอ็งนิสัยเป็นไง ไม่ต้องห่วงไอ้กัส" มีนตบไหล่เพื่อนรักอย่างปลอบใจ

"จริงๆ เรื่องนี้มันควรจะจบไปตั้งนานแล้ว ผู้กองมายด์เขาก็ประกาศต่อหน้าทุกๆคนแล้วนี่ ว่าคนที่เขาเลือกคือไอ้กัส ไม่ใช่มัน...ไอ้อ๊อด มายด์เขาไม่มีทางรักคนอย่างมันหรอก" มีนบอก

"ถ้าไอ้อ๊อดมันย้อนกลับมารังแกอีกเมื่อไหร่นะ บอกพวกข้านะไอ้กัส เดี๋ยวจัดการให้เอง" สีหน้าเจ้ามีนดูเอาจริงเอาจัง

"เฮ้ย! ช่างมันเต๊อะ แล้วไปแล้ว เอ่อ! นี่พวกเอ็งยังไม่บอกข้าเลย ทำไมวันนี้ดวดไวน์แต่พลบวะ พวกเอ็งจะรีบไปไหนกันวะ จะนัดกันไปเที่ยวไหน ไม่บอกข้าเลยนะ" กัสพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย เพื่อให้ตัวเองรู้สึกสบายใจ

"ฮ่าๆ พวกข้ามีนัดกับนางฟ้าว่ะ วันนี้นะ นางฟ้าจะลงมาโปรดพวกเราให้หายเหงาหายเศร้าโว้ย" ป๋องแป๋งพูดอย่างมีนัย เล่นเอาคนซื่อๆ อย่างเจ้ากัส งงเป็นไก่ตาแตก ส่วนเพื่อนๆ ที่ีเหลือก็พากันหัวเราะเฮฮา ชอบอกชอบใจ

"อะไรของวะไอ้ป๋อง ข้าไม่เข้าใจ นางฟ้าอะไร นางฟ้าก็ต้องอยู่บนสรรค์สิวะ จะลงมาเที่ยวเมืองมนุษย์ได้ไงวะ เพี้ยนป่าว กินไวน์เยอะนะ"

"เฮ้ย! ไอ้กัส นี่เชยเป็นบ้าเลยว่ะ ทีหลังหัดอ่านข่าว gossipดารา บ้างนะ เวลาเขาคุยกัน จะได้ตามเขาทัน ไม่ตกยุค" ป๋องใช้นิ้วชี้จิ้มที่หน้าผากเจ้ากัส อย่างล้อๆ ปนเอ็นดู

"ก็วันเนี้ย...หนังของน้องนางฟ้าเขาจะเข้าโรงฉายที่หาดใหญ่ไง พวกเราสิก็ต้องรีบกิน รีบทำอะไรให้เสร็จไวไว แล้วก็รีบบึ่งรถไปจองที่นั่ง โหย...นี่นะไอ้กัส กูสิแอบไปดอดดูแต่หัววันละ คนเงี้ยเต็มโรงเลยว่ะ บางคนไปจองแต่เช้า ก็ไม่ได้ตั๋วด้วยนะ แต่พวกข้าอ่ะโชคดี เพราะดันจองซื้อบัตรหนังเอาไว้ก่อนใคร ตั้งแต่ตอนที่ "อันฟง" เขามาโปรโมทที่ไทยเมื่อวันก่อนนั้นแหละ ก็เลยสบายไปว่ะ ไม่ต้องรอคิวแย่งกับใคร"

"อันฟง...นางฟ้า อ๋อ! ข้านึกออกแล้ว ดาราจีน ยัยหน้าจืดคนนั้นนั่นเอง ที่พี่หลินเล่าให้เราฟัง" กัสตบเข่า เพิ่งถึงบางอ้อ

"ชิบฉาย! ไอ้กัส อย่ามาเรียกนางฟ้าของพวกกูว่ายัยหน้าจืดน่ะ เดี๋ยวปั๊ดซะหรอก เขาออกจะสวยหวานเลิศเลอขนาดนั้นอ่ะ" ป๋องทำท่าเคลิ้มฝัน "วันนี้ดูหนังจบ ข้าก็จะกลับมานั่งนอนเพ้อ...ฝันหวานอยู่กับนางฟ้าอันฟงของข้าอยู่บนเตียงอันอบอุ่น โอ้....นางฟ้าแสนสวย" ป๋องพูดเสร็จก็กระดกแก้วไวน์ลงคอย้อมใจ

"เออๆ ยอม  พวกเอ็งเยอะกว่า แต่ข้าตัวคนเดียว เถียงไม่ขึ้น แต่เอาจริงๆ นะ เห็นรูปแค่แว่บๆ ข้าก็ว่างั้นๆ แหละว่ะ ดาราจีนคนอื่นสวยกว่านี้เพียบ" กัสโบกมือ พยายามทำเป็นไม่ใส่ใจ

"ไป๊ๆๆ พวกเรารีบกินให้เสร็จซะ จะได้รีบไปจองที่นั่งกัน เดี๋ยวคนเยอะแล้วจะหาที่จอดรถไม่ได้" มีนเอ่ยเร่งรัดเพื่อนๆ

"นี่....พวกอยากดูขนาดนั้นเลยเหรอ ก็แค่หนังจีน ดาราจีน เช่าแผ่นมาดูก็ได้ง่ายๆ"

"เฮ้ย! มันไม่เหมือนกัน อรรถรสคนละชั้น สำหรับนางเอกคนอื่นน่ะ ก็อาจจะพอทำอย่างนั้นได้บ้าง แต่สำหรับน้องอันฟงคนงามของฉันน่ะนะ มันต้องในโรงเท่านั้นโว้ยยยย ถึงจะได้เห็นหน้าสวยๆผิวขาวๆ เนียนๆ ใสๆ แบบเต็มๆ ตาเต็มจอ ฮ่าๆ" ป๋องหัวเราะเป็นสุข

"เป็นเอามากนะ พวกเนี่ย บ้าดารา ก็คงแค่ได้กอดได้ดม ได้หอมรูปถ่ายเท่านั้นแหละวะ หลงรูปจูบกระดาษไปวันๆ" กัสบ่นลอยๆ

"ช่างเหอะไอ้กัส เอ็งไม่ดูก็ไม่ต้องไป แต่พวกข้าจะไปเฝ้าชื่นชมนางฟ้าในจอ ขอสักวัน"

"ไอ้กัสมันมัวแต่กกยัยมายด์อยู่อย่างนั้น จะไปรู้โลกภายนอกอะไรวะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาถึง...ก็กกกันทั้งคืน ฮ่าๆ" เจ้ามีนล้อแกมหัวเราะ


"โอ้...ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบแล่นอยู่ในทะเล หาดทรายงามเห็นปู ดูสิดูหมู่ปลา กุ้งหอยนานา อยู่ในท้องทะเล..."

ปล่อยเพื่อนๆ กลับกันไปแล้ว ส่วนกัสยังเดินทอดน่องร้องเพลงประจำตัว สูดกลิ่นน้ำเค็ม อย่างสบายใจไปเรื่อยๆ ตามแนวชายหาด ถัดจากแหลมสนอ่อนทอดยาวไปจรดแหลมสมิหลาที่อยู่ท้ายหาดทางด้านใต้ เป็นชายหาดสวยงามน่าเดิน ลมทะเลพัดกรรโชกแรง ต้นสนเอนลู่ไปตามลม รู้สึกเหงาและหนาวจับใจ แต่พรุ่งนี้คงไม่เหงา เพราะที่รักของเขาจะกลับมาเฝ้าหาดนี้ด้วยกัน นั่งชมวิวและช่วยเขาละเลงสีวาดภาพ

"อันฟง นางฟ้าเหรอ...นางฟ้าบนโลกนี้ยังมีอยู่จริงเหรอ เธอก็แค่นักแสดงคนหนึ่งจะเป็นนางฟ้าไปได้ยังไง นางฟ้าของฉันมีอยู่คนเดียวเท่านั้นคือ ร้อยตำรวจเอกหญิง มายด์ กษิณา มณีจรัส"

กัสบ่นเพ้อๆ รำพัน สายตาทอดจับอยู่ที่ตะวันรอนตรงขอบฟ้าที่กำลังสาดลำแสงสีส้มอร่ามสุดท้ายของสายัญห์นี้ ให้สำหรับหาดสมิหลา กลุ่มเมฆค่อยๆ เคลื่อนตัวกลืนเข้ากับแสงอาทิตย์ เมื่อมารวมเข้ากับสีครามเข้มของผืนน้ำทะเลแล้ว เจือออกมาเป็นภาพที่สวยงามเหลือเชื่อ


ติดตามอ่านตอนย้อนหลังได้ทีนี่ค่ะ ขอบคุณค่ะ
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1167045
ถ้าชอบก็เสนอแนะได้นะคะ บางคำอาจเป็นสำนวนใต้ เพราะสร้างฉากจากเมืองสงขลา ถ้าไม่เข้าใจก็ถามได้ค่ะ
อมยิ้ม36อมยิ้ม01
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่